ในโลกของของเล่นและของสะสมนั้น ชื่อของ Hot Toys นับเป็นหนึ่งในยุทธจักร ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก ด้วยการผลิตสินค้าคาแร็คเตอร์จากภาพยนตร์ มาเป็นแอ็คชั่นฟิกเกอร์ขนาด 1/6 ที่มีความสูง 30 ซ.ม. หรือ 12 นิ้ว ที่มีการใช้วัสดุในการตัดเย็บชุด และการปั้นใบหน้ารวมถึงสัดส่วนต่างๆอย่างสมจริง ชนิดที่เรียกได้ว่าหากนำไปถ่ายรูปจัดแสงดีๆแล้ว เราอาจจะแยกไม่ออกเลยทีเดียวว่า รูปที่เราเห็นนั้นมาจากภาพในหนังหรือแท้จริงแล้วเป็นของเล่น
Hot Toys มีจุดเริ่มต้นมาจากคุณ Howard Chan ที่เริ่มต้นทำธุรกิจนำเข้าและส่งออกสินค้าฟิกเกอร์ จนได้มาเปิดร้านของเล่นชื่อดังในฮ่องกงอย่าง Toy Hunters ซึ่งจากการเปิดร้านนี้เองก็ทำให้เขาเริ่มมีความคิดที่อยากจะผลิตสินค้าของตัวเองขึ้นมา เพราะสินค้าฟิกเกอร์ในสมัยนั้นยังเป็นของที่ทำออกมาให้เด็กเล่น ที่ราคาต้องตั้งให้ไม่แพงนัก
ดังนั้นคุณภาพที่ได้ก็ตามราคา เขาจึงอยากที่จะทำของเล่นที่ทำให้ตัวเองพึงพอใจได้ ก็เลยเริ่มลองที่ของเล่นแนวทหารก่อน โดยเริ่มทำเป็นพวก Accessories ชิ้นเล็กๆก่อน ยังไม่ได้ทำเป็นฟิกเกอร์เต็มตัว จากนั้นก็ค่อยๆขยาย Project จนใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ และเริ่มตั้งบริษัท Hot Toysในปี 2000
การที่ทาง Hot Toys เลือกทำฟิกเกอร์ออกมาในขนาด 1/6 ก็เพราะเป็นขนาดพอดีสำหรับการสะสม ทั่วโลกจะเรียกสัดส่วนนี้ว่า Gold Scale เพราะหลังจากทำฟิกเกอร์ทหาร ก็ทำให้ทีมีความชำนาญในการปั้นมาก ทำกันจนเป็นช่างฝีมือที่สามารถทำงานที่มีความซับซ้อนได้ ทั้งเครื่องประดับ เสื้อผ้า รวมถึงรายละเอียดต่างๆที่ใส่เข้าไปในตัวบอดี้ โดยจุดเปลี่ยนที่สำคัญอยู่ในปี 2001 ที่มีการออกซีรีส์ Movie Masterpiece ตัวแรกออกมาเป็น T-800จากภาพยนตร์ The Terminator ทำให้นักสะสมเริ่มรู้จัก Hot Toys กันมากขึ้นด้วยคุณภาพงานที่เหนือกว่าเจ้าอื่นๆในตอนนั้น
แต่ส่วนหัวของ T-800 ก็ยังเป็นใบหน้าแบบเสียหายจนเห็นโครงกระดูกเหล็กข้างใน ไม่ได้เป็นหน้าของ อาโนลด์ ชวาซเสเนกเกอร์ ผู้รับบท ก่อนจะตามมาด้วย Rambo ที่คราวนี้มีการซื้อลิขสิทธิ์ใบหน้าของ ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน เพื่อที่จะได้ทำฟิกเกอร์ให้ออกมาได้เหมือนตัวจริงมากที่สุด และนี่ก็เป็นการพลิกโฉมหน้าวงการไปเลยทีเดียวเพราะที่ผ่านมา ไม่มีบริษัทของเล่นไหนที่ทำหน้าฟิกเกอร์ออกมาได้เหมือนคนแสดงขนาดนี้ และนั่นก็กลายเป็นตัวสร้างชื่อให้ Hot Toys ขึ้นมามีตัวตนในวงการฟิกเกอร์นี้
สิ่งที่ทำให้ Hot Toys ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในวงการฟิกเกอร์จริงๆนั้นอยู่ในปี 2008 ด้วยฟิกเกอร์ชุด The Dark Knight และ Ironman ที่ทำให้คนทั่วไปที่ชื่นชอบภาพยนตร์สองเรื่องนี้ ต้องหันมาเริ่มเก็บสะสมของจาก Hot Toys เพราะในตอนนั้นสินค้าของ Hot Toys ยังมีราคาที่ไม่สูงมากนัก การยอมจ่ายเพิ่มอีกสักเท่าตัว แต่ได้ของเล่นที่สวยสมจริงกว่า มีขนาดเต็มไม้เต็มมือกว่า และมีลูกเล่นในแบบที่ฟิกเกอร์ขนาดเล็กกว่าให้ไม่ได้ เป็นสิ่งที่ทำให้นักสะสมทั่วโลกแทบจะบ้าคลั่งกับสินค้าชุดนี้ และชุดต่อไปที่จะออกตามมา จนก่อเกิดเป็นกระแสเก็งกำไร Hot Toys กันในตอนนั้นขึ้นมาเลยทีเดียว
ผ่านไปกว่า 20 ปี บริษัทเล็กๆจากฮ่องกง กลายมาเป็นบริษัทฟิกเกอร์ยักษ์ใหญ่ ที่ออกสินค้าจากภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ทั้งค่าย Marvel และ DC รวมถึงภาพยนตร์ชื่อดังต่างๆ ที่ตอนนี้มียอดจำหน่ายที่สูงกว่าบริษัทของเล่นต้นตำรับอย่าง อเมริกา และญี่ปุ่นเสียอีก ด้วยการพัฒนา และ ควบคุมคุณภาพของตัวสินค้าให้โดนใจคนเก็บสะสม ซึ่งอาจเรียกได้ว่าตอนนี้ ฟิกเกอร์ของ Hot Toys กลายเป็นสินค้าในระดับ Premium ที่ต้องจ่ายค่าพรีออเดอร์เพื่อจองกันข้ามปี ในราคาที่สูงขึ้นเรื่อยๆ แต่เมื่อเทียบกับคุณภาพที่ได้มานั้น ก็ยังเป็นสิ่งที่ทำให้นักสะสมยอมจ่ายเพื่อจะได้ครอบครองสิ่งที่ตัวเองรัก อย่างไม่ปริปากบ่น
Text :Step Hen
ขอบคุณรูปภาพและข้อมูลจาก
Hottoys / powerupmag / figureking magazine/ https://www.sideshow.com