Marsmag.net

5 นาฬิกาปีนเขายอดเยี่ยมประจำปี 2019


ไม่ใช่แค่บอกเวลา แต่นาฬิกาทุกวันนี้เป็นให้คุณได้มากกว่าในทุกๆ กิจกรรม โดยเฉพาะการปีนเขาที่กำลังนิยมในหมู่หนุ่มสาวคนไทย หากคุณมีนาฬิกาปีนเขาดีๆ สักเรือนก็เหมือนมีผู้ช่วยคนเก่งติดตามไปทุกวินาที

อะไรคือสิ่งสำคัญในการเลือกนาฬิกาเดินป่า? ตอบง่ายๆ ก็คือคุณสมบัติของมัน ซึ่งประกอบไปด้วย

บารอมิเตอร์ : เครื่องวัดความกดอากาศ ซึ่งจะทำให้คุณเห็นความกดอากาศที่กำลังเปลี่ยนแปลง หากความกดอากาศเพิ่มขึ้นอากาศจะดีขึ้น แต่ถ้าต่ำลงมาก็เตรียมรับมือกับฝน แต่ถ้าความดันอากาศลดลงอย่างรวดเร็วก็เตรียมหาที่หลบพายุฝนได้เลย

เครื่องวัดความสูง : จะทำให้คุณเห็นว่าอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลมากน้อยแค่ไหน เพื่อง่ายต่อการนำทาง และบอกตำแหน่งตัวเอง

เข็มทิศ : หลักๆ คือบอก 4 ทิศ แต่ปัจจุบันซอยทิศละเอียดมากกว่านั้น
เครื่องวัดอุณหภูมิ : อันนี้จำเป็นทีเดียวเพราะช่วยให้เรารู้ว่าต้องหาเสื้อผ้ามารักษาความอบอุ่นให้ตัวเองมากน้อยแค่ไหน

ทนทาน : แน่นอนอยู่แล้วว่าต้องสมบุกสมบัน เพราะการปีนเขาย่อมต้องมีการกระแทก เปียกน้ำ เปื้อนฝุ่นเปื้อนโคลน มีการขีดข่วน ฯลฯ

จีพีเอส : GPS เป็นทางออกที่สุดของการนำทางเพราะเที่ยงตรงแม่นยำ ช่วยให้เรารับพิกัดตำแหน่งปัจจุบันรวมทั้งข้อมูลต่างๆ ที่จำเป็น

เครื่องตรวจสอบอัตราการเต้นของหัวใจ : มีประโยชน์ในการเดินทางไกล ช่วยให้คุณกำหนดความเร็วในการเดินให้สัมพันธ์กับสภาวะร่างกายได้

ทีนี้เราลองไปดูนาฬิกาปีนเขาที่น่าสนใจประจำปีนี้ โดย นาฬิกาปีนเขา 5 เรือนที่เรานำเสนอนี้ คัดลอกมาจากบทความของนาย Blaz ผู้หลงใหลในกิจกรรมกลางแจ้ง เดินป่า และปีนเขา ซึ่งได้จัดอันดับนาฬิกาที่น่าสนใจลงเว็บไซต์ besthiking.net โดยเรียงลำดับดังนี้

อันดับ 1 : Garmin Fenix 5
Garmin Fenix 5 สมาร์ทวอทช์ที่ถูกสร้างขึ้นมาแทนที่ Garmin Fenix 3 ที่ได้รับความนิยมอย่างมากเมื่อปี 2560 ออกแบบมาเพื่อลุยกลางแจ้งอย่างสมบุกสมบันโดยเฉพาะ ตัวเรือนทำจากสแตนเลส กระจกหน้าปัดกันรอยแบบแซฟไฟร์ แสดงผลดิจิตอลด้วยความละเอียดสูง Garmin Fenix 5 ติดตั้งเข็มทิศ 3 แกน เครื่องวัดความสูง (ปรับอัตโนมัติด้วย GPS) บารอมิเตอร์ เครื่องวัดอุณหภูมิ สามารถรายละเอียดกิจกรรมผ่าน แอพ Garmin Connect (ทั้งเวอร์ชันเดสก์ท็อปหรือมือถือ iOS และ Android) แถมยังรองรับการระบุตำแหน่งจากดาวเทียมแบบ GLONASS อีกด้วย (เท่ากับว่าใช้ได้ทั้ง GPS ของอเมริกาและ GLONASS ของรัสเซีย)

อันดับ 2 : Suunto 9 Baro
คุณสมบัติของนาฬิกา Suunto 9 Baro นั้นพอๆ กับ Garmin Fenix 5 เลยทีเดียว เป็นแบบหน้าจอสัมผัส แต่เพิ่มปุ่มให้ใช้งานง่ายแม้ขณะสวมถุงมือ มีระบบ GPS วัดความสูง มีบารอมิเตอร์ เข็มทิศ เครื่องวัดอัตราการเต้นของหัวใจ เชื่อมต่อ Bluetooth โทรศัพท์ แถมยังสามารถซิงค์ข้อมูลกับแอพหรือเว็บ Suunto Movescount เพื่อวางแผนเส้นทางหรือใช้เส้นทางที่ดีที่สุดที่คนอื่นได้ทำไว้ รองรับการระบุตำแหน่งจากดาวเทียมแบบ GLONASS

อันดับที่ 3 : Suunto Ambit 3
เป็นอีกรุ่นที่เหมาะกับการปีนเขาเช่นกัน แต่ทว่ามีจอแสดงผลที่ซับซ้อนน้อยกว่า มีเครื่องวัดความสูง บารอมิเตอร์ เครื่องวัดอุณหภูมิ เข็มทิศ สามารถซิงค์กับ Movescount (สำหรับการวิเคราะห์และการวางแผน) และสามารถแสดงข้อมูล GPS แบบเรียลไทม์ (เช่นความเร็ว, ระยะทาง, การเพิ่มระดับความสูง ฯลฯ ) แต่ไม่รองรับระบบ GLONASS และราคาไม่แพง

อันดับที่ 4 : Suunto Traverse
Suunto Traverse เป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่นักปีนเขา และผู้ชื่นชอบกิจกรรมกลางแจ้ง เพราะมันเกิดมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ (ไม่เหมือน Suunto Ambit 3 ที่ออกแบบมาเพื่อกีฬา) มีเครื่องวัดความสูง บารอมิเตอร์ เครื่องวัดอุณหภูมิ เข็มทิศดิจิตอล สามารถเชื่อมต่อกับแอพหรือเว็บ Movescount ได้อย่างง่ายดาย สามารถซิงค์กับสมาร์ทโฟน (ทั้ง iOS และ Android) และรองรับการนำทางแบบ GLONASS นอกจากฟังก์ชั่นการทำงานและความทนทานที่ทำให้มันได้รับความนิยมแล้วก็คือดีไซน์ที่สวยเท่นั่นเอง

อันดับที่ 5 : Casio Pro Trek PRW-2500T-7
ตัวนี้แม้จะไม่มีระบบ GPS แต่ Casio Pro Trek – 2500T-7 เป็นนาฬิกาที่ทนทานมากซึ่งมาพร้อมกับคุณสมบัติในการเดินป่า และปีนเขาอย่างครบครัน แบตเตอรี่แบบชาร์จพลังงานแสงอาทิตย์มีอายุการใช้งานถึง 5 เดือนแม้ไม่ได้รับแสงเลยก็ตาม บอกเวลาได้แม่นยำด้วยสัญญาณวิทยุที่ปรับเทียบได้มากถึง 6 ครั้งต่อวัน เข็มทิศรองรับการป้องกันแม่เหล็ก มีกราฟแสดงแนวโน้มสภาพอากาศ (ที่เข้ารอบมาในการจัดอันดับก็เพราะว่า ในการเดินป่าหรือปีนเขาระยะไกลซึ่งใช้เวลาหลายวันนั้น นาฬิกา GPS นั้นจะทำให้แบตหมดไว ฉะนั้นนี่จึงเป็นตัวเลือกอีกทางหนึ่งสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการผจญภัยระยะนานๆ)

ที่มา : besthiking.net
ภาพเปิดจาก : pixabay.com
ภาพนาฬิกาจาก : pinterest