Marsmag.net

ตรัง IN LOVE


“ตรัง” 
IN LOVE
เรื่อง/ภาพ ก้าวยาว
Neopan_oofside@hotmail.com

     หนุ่มสาวนักเดินทางหลายคู่เลือก “อันดามัน” เป็นปลายทาง ของทะเลสีหวานที่อยากมาพักใจสักครั้งหนึ่งในชีวิต และเมืองชายหาดติดทะเลอันดามันในบ้านเราก็มีมากมายให้เลือก ทั้ง ภูเก็ต พังงา กระบี่ฯลฯ ในทุกฤดูกาลฟ้าเปิดจะคลาคล่ำไปด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก แต่น่าแปลกที่ขอบตะวันออกของทะเลอันดามัน อย่าง “เมืองตรัง” กลับถูกหลงลืม

   แต่บางครั้งการถูกลืมเสียบ้าง กลับกลายเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่ง เพราะการถูกหลงลืมนั้นยิ่งทำให้ความงามมีค่ามากขึ้น เป็นความงามที่ยังบริสุทธิ์ไร้ซึ่งบาดแผลจากกระแสความนิยม ที่มักจะมาพร้อมกับความมักง่าย ด้วยเหตุนี้เองคอลัมน์ Destination จึงอยากมาสัมผัสเมืองตรังดูสักครั้ง โดยร่วมทางกับสายการบินแอร์เอเชีย ที่เล็งเห็นถึงความงามของเมืองตรัง จึงเปิดไฟท์บินตรงพาคนเมืองจากกทม.มายลโฉมเมืองตรัง ต้อนรับวาเลนไทน์

    ตรังไม่ได้มีดีแค่หมูย่าง กับบ้านนายกเก่าหรอกครับ เพราะตรังรอบล้อมไปด้วยเสน่ห์เฉพาะตัวทั้งภูเขาและท้องทะเล เป็นบรรยากาศแห่งมนต์ขลัง ชีวิตผู้คนผูกติดกับการกินอาหาร ตั้งแต่เช้าตรู่คนเมืองตรังจะตื่นมานั่งจิบชา กินกาแฟ กับจาโก้ย(ปาท่องโก๋) และที่พลาดไม่ได้ก็ต้องติ่มซ่ำยามเช้า จากประสบการณ์เดินทางของผมนับว่าเมืองตรังเป็นอีกหนึ่งเคหสถานที่พรั่งพร้อมไปด้วยอาหารตั้งแต่เช้าจรดเย็น เพราะคนตรังจะนิยมกินอาหารนอกบ้านกันมากๆ
    เช้าจิบชา ดื่มกาแฟ บ่ายกินขนมจีนข้าวแกง ตกเย็นก็ออกไปกินข้าวต้ม จิบชาอีกรอบก่อนเข้านอน เมืองนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับนักชิมและคนที่ชอบพาแฟนออกตระเวนกินอาหารรสชาติแปลกใหม่ รับรองว่าไม่ผิดหวังถ้ามาเมืองนี้ เพราะผมเองก็ไปน้ำหนักขึ้นมาเป็นกิโลๆก็เพราะเมืองนี้ละครับ ฮาาาา…

  ประจวบเหมาะกับวันเวลาที่ผมเดินทางไปเป็น วันอาทิตย์ซึ่งจะมีถนนคนเดินเล็กๆ บริเวณหลังสถานีรถไฟเมืองตรัง จึงสบโอกาสเดินดูชิวีตหนุ่มสาวเมืองตรังสักหน่อย หลังเดินไปวนมาดูข้าวของ อยู่พักใหญ่ไม่ได้อะไรติดมือนอกจากกาแฟแก้วใหญ่ กับการค้นพบคำตอบว่าทำไมเมืองนี้ร้านมากๆ จากการพูดคุยกับเจ้าของร้านกาแฟคนหนึ่งเลยรู้ว่า ผู้คนที่นีเฉลี่ยแล้ว จะบริโภคกาแฟคนละ 3 แก้ว ต่อวันเลย แล้วคืนนี้เราจะนอนหลับกันไหมเอ่ย… ราตรีนี้จบลงด้วยการนั่งรถตุ๊กตุ๊กหัวกบชมเมืองตรังยามค่ำคืน

     ในทริปสั้นๆเพียงสามวันสองคืน การใช้จ่ายลมหายใจในเมืองก่อนจึงน่าจะเก็บเก็บบรรยากาศได้ดีที่สุด ก่อนเราจะออกไปรับลมทะเลและติดเกาะกลางทะเลอันดามันสักคืนก่อนกลับมาเป็นคนเมืองดังเดิม เช้าวันนี้ท้องฟ้าแจ่มใส เป็นใจให้ท้องทะเลโชว์เรือนร่างสีครามได้อย่างชัดเจน จนอดใจไม่ไหวที่จะคว้ากล้องขึ้นมาเก็บภาพตั้งแต่ที่ท่าเรือปากเมง ก่อนกัปตันคู่ใจจะพาลูกเรือไปตามหาฟ้าครามบนเกาะกระดาน เพียงครึ่งชั่วโมงจากชายฝั่ง เราก็ถึงยัง “เกาะกระดาน” เกาะที่ดูชื่อแล้วหญิงสาวคงไม่ชอบเท่าไรถ้ามีใครเรียกแบบนี้

เพียงแว๊บแรก!!...ที่เห็น “เกาะกระดาน” ก็ทำเอาผมแทบจะทะยานลงไปกอดน้ำทะสีเขียวอมฟ้า มันน่าลงไปแช่เล่นให้สาแก่ใจนัก บนเกาะนี้มีที่พักแสนโรเเมนติกมากมายให้เลือกพัก แต่น่าเสียดายที่ปลายทางการพักของเราไม่ได้อยู่ที่นี่ จึงได้แค่เล่นน้ำเก็บภาพกันพอหอมปากหอมคอ ก่อนจะออกไปยัง “เกาะมุก” เกาะที่หาดทรายขาวงดงามดั่งมุกยามต้องแสงไฟ ความพิเศษของเกาะนี้ อยู่ที่ผืนทรายที่ยื่นเป็นแหลมออกมากลางทะเล แซมด้วยต้นมะพร้าวสูง กับเก้าอี้อาบแดดที่บรรจุฝรั่งผิวขาวแต่อยากมีผิวสีแทน


   ถ้ามาเยี่ยมเกาะมุก หนึ่งในไฮไลต์อันซีนที่ไม่สมควรพลาด คือ การลอดถ้ำมรกรต สุดยอดอันซีนของดีเมืองตรัง ทุกอย่างพร้อมการลอยคอเกาะแถวเรียงเดี่ยวลอดฝ่าความมืด 800 เมตรก็เริ่มขึ้นท่ามกลาง ความตื่นเต้นที่มีความงามรออยู่เบื้องหน้า เพียงช่วงแรกของการลอยคอเข้าไปแสงแดดจากด้านนอกลอดผ่านปากถ้ำกระทบน้ำ เป็นประกายสีเขียวแวววับจับตา เป็นความงามระหว่างทางที่ไม่อยากจากไปจริงๆ หลังผ่านความมืดมาก็ถึงยังด้านในถ้ำกับหาดทราย น้ำทะเล ที่ถูกห้อมล้อมด้วยหินผาตระหง่าน

   ไหนๆก็ตัวเปียกกันแล้ว กัปตันจึงหันหัวเรือต่อไปยัง “เกาะม้า” กับการดำน้ำตื้นดูปะการัง ฟองน้ำทะเล ปลาต่างๆ ที่ชุกชุมในเกาะม้า ถ้าคุณมีทักษะเสียหน่อยแค่ดำน้ำลงไปนิดเดียวก็จะได้พบกับปลาการ์ตูน ร่างกายเริ่มอ่อนล้าก็ถึงเวลาขึ้นฝั่ง ซึ่งทริปนี้เราจะนับดาวกลางทะเล กันใน “เกาะไห”

    เกาะที่วันนี้ดูจะพรั่งพร้อมไปด้วยที่พักรีสอร์ตมากมาย ให้เลือกพักกันตามแต่ใจชอบ บนหาดทรายขาวทอดตัวยาวยามเย็นเต็มไปด้วยนักนิยมชมแดด ที่แห่ข้ามน้ำข้ามทะเลมาอาบแดดบ้านเรา บิกินี้ตัวน้อยดูจะปริวว่อนเกลื่อนชายหาด จนเพื่อนร่วมทางแทบใจจะขาดกับภาพตรงหน้า ก่อนภาพราตรีกลางทะเลสีดำจะเคลื่อนเข้ามา เราจึงถือโอกาสทำความรู้จักกับความโรเเมนติกบนเกาะไหด้วยเสียงดนตรีแผ่วเบาเคล้าเสียงคลื่น ก่อนฟ้าจะสางและกลับสู่วิถีคนเมืองดังเดิม

Tip by Destination

เวลาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการเที่ยวทะเลตรังคือ ช่วงเดือนธ.ค.-มี.ค.
ปัจจุบันมีสายการบินให้บริการบินตรงจากกทม.-ตรัง 2 สาย คือ
สายการบินแอร์เอเชีย และสายการบินนกแอร์
ท่าเรือสำหรับเดินทางไปเที่ยวเกาะต่างๆประกอบด้วย
ท่าเรือปากเมง ท่าเรือเจ้าไหม ท่าเรือควนตุ้งกู
ติดต่อเช้าเรือได้ที่บริเวณท่าเรือทุกหาด
สปีดโบ๊ด ราคาประมาณ 12000 บาท/วัน พร้อมอาหารเครื่องดื่มบนเรือ
เรือธรรมดาประมาณ 2500 / วัน
สนใจติดต่อสอบถามได้ที่
ททท.สำนักงานตรัง
โทร 0-7521-5867,0-7521-1058,0-7521,1085
หรือติดต่อโดยตรงที่ พี่ติ๊ก (ททท.ใจดี เมืองตรัง โทร 081-7620906)