Marsmag.net

ครบเครื่องเรื่องไวน์ ที่ผู้ชายต้องรู้


“Good wine is a good familiar creature if it be well used”
ไวน์เป็นเพื่อนที่ใกล้ชิดมนุษย์ที่สุดถ้ารู้จักดื่ม สิ่งที่เชกสเปียร์ว่าไว้ก็อาจจะจริง เพราะไวน์อยู่คู่กับโลกมาหลายปีตามคติความเชื่อหรือทัศนคติของสังคมร่วมสมัย จากพ็อกเกตบุ๊ก Why, Wine? จากคอลัมนิสต์และกูรูชื่อดังที่รักไวน์เป็นชีวิตจิตใจ ดร.กุลเดช สินธวณรงค์ เล่าให้ฟังว่า ไวน์เป็นผลิตผลจากการหมักองุ่นที่ส่วนใหญ่ปลูกอยู่ในเอเชียกลาง เป็นมรดกทางวัฒนธรรมจากการล่าอาณานิคมของชาวโรมัน และไวน์ก็เดินทางมาถึงยุโรปในที่สุด

ในสังคมของไวน์ก็มีการแบ่งชนชั้น เรียกว่า Vinification ซึ่งขึ้นอยู่กับเทคนิคการผลิตไวน์ โดยทั่วไปแล้วไวน์แบ่งประเภทกันดังนี้

Table Wine คือไวน์ที่ได้จากการหมักแบบธรรมชาติ อาจมีการเติมส่วนผสมเพิ่มเติมเพื่อควบคุมปริมาณน้ำตาลและยีสต์ ไวน์กลุ่นนี้ได้แก่ ไวน์แดง ไวน์ขาว ที่ดื่มคู่กับอาหารทั่วไป มีปริมาณแอลกอฮอลล์ประมาณ 8-15%

Fortified Wine คือไวน์ที่ได้จากการเติมแอลกอฮอล์เข้าไปในกระบวนการหมัก ไวน์พวกนี้ได้แก่ ไวน์หวาน ปริมาณแอลกอฮอล์จะสูงกว่าปกติ มักดื่มเพื่อเรียกน้ำย่อยหรือดื่มหลังอาหาร

Sparkling Wine หรือไวน์ฟอง ที่รู้จักกันดีคือ แชมเปญนั่นเอง แชมเปญขวดแรกถูกหมักขึ้นโดยบาทหลวงพิแย เพอรินญอง ชื่อนี้ต่อมากลายเป็นแบรนด์แชมเปญที่โด่งดัง นอกจากแชมเปญของฝรั่งเศสแล้ว ไวน์มีฟองดีๆ จากอิตาลีหรือสเปนก็มีให้เลือกมากมาย เรียกว่า โปรเชคโค่ ก็ราคาไม่แพง

อาหารคู่กับไวน์ ไวน์คู่กับอาหาร ฉันใด ฉันนั้น

ไวน์จึงเหมือนอาหารที่ต้องมีการลำดับเริ่มต้นไปจนจบ จึงจะดื่มกินแล้ว “อร่อย”

เริ่มต้นด้วยเครื่องดื่มเรียกน้ำย่อย หรือแบบที่กระตุ้นต่อมน้ำลายให้อยากอาหาร ระหว่างคุยรอเพื่อนหรือรอเวลาอาหาร แนวนี้ต้องเป็นพวกไวน์ฟอง (Sparkling Wine) หรือแชมเปญ

ต่อมาด้วยไวน์ขาวหรือไวน์แดง ไม่ว่ายี่ห้อไหน ขวดไหน ประเทศไหน ถูกแพงแค่ไหนก็ตาม แต่ต้องเป็น “เนื้อเบาๆ” จบเร็ว ไม่มีรสพุ่งปรี๊ดไปกดรสชาติอาหารและต้องไม่มีรสหรือกลิ่นติดเพดานปากไปรบกวนอาหารจานถัดมา

พออาหารจานเมนคอร์สมา คราวนี้ของจริงก็เริ่มขึ้น ร้านอาหารจะดังหรือจะดับเรื่องการแนะนำไวน์หรือการจับคู่ไวน์กับอาหารก็คราวนี้ ไวน์ช่วงนี้ต้องมีเนื้อหนักขึ้น อาจหนักที่ “รสชาติ” หรือหนักที่ “ความรู้สึก” เพื่อให้มื้อนั้นเติมเต็ม ไวน์ช่วงนี้ควรมีอาฟเตอร์เทสต์นาน มีกลิ่นกรุ่นและรสติดอยู่ในปาก

ก่อนจบ ต้องดื่มไวน์ประเภทตบท้ายช่วยย่อย อย่างไวน์หวาน โซแตร์น หรือ พอร์ต รูบี้ ก็ได้ ส่วน พอร์ต ทอว์นี ที่เข้มจัด เขาไว้ดื่มเล่นกับซิการ์หลังอาหารมากกว่า

ไวน์ยังเป็นเรื่องของการเสริมบรรยากาศ อย่างฉลองได้ตำแหน่งใหม่ ตั้งใจจะดื่มไวน์ เมดอค ดีๆ อย่างปี 2000 แต่อากาศร้อนแบบบ้านเรา แม้จะอยู่ในห้องแอร์ก็ไม่คิดอยากจะฉลองแล้ว

เทียบกับตอนดื่ม โซวิญอง บลอง เย็นเจี๊ยบ ถึงจะดัดจริตตากแดดอยู่ริมสระน้ำแบบฝรั่ง ก็ยังดื่มได้เท่าไหร่เท่ากัน ไม่มีเมา ไม่มีมึน มีแต่สดชื่นซาบซ่า

กลับมาบ้านอยู่คนเดียวเหงาๆ เศร้าๆ เบื่อกับข้าว สั่งพิซซ่ามา แค่เปิด เคียนติ ดอค ก็เหมือนกำลังเดินเล่นอยู่แถวทัสคานีแล้ว

ดินเนอร์กับสาว ก็ต้องแสดงให้เธอเห็นว่ามีกึ๋น ไม่ใช่แค่สั่งอาหารแพงๆ ไวน์แพงๆ แต่ต้องรู้จักจับคู่ เมนูซี่โครงแกะเข้ากับกลิ่นหญ้าสดของ พิโน นัวร์ หรือเมนูปลาคอดย่าง เข้ากับรสหวานเปรี้ยวแห้งๆ ของ เชอแนง บลอง เลือกถูกคู่จะได้ลงตัว

จะดื่มไวน์ให้อร่อยจริงๆ ต้องเอาใจออกจาก “ไวน์” แล้วมองไป “รอบๆ” ขวดว่าเราชอบอะไร ขวดไหน สไตล์ไหน รสชาติฝาดหรือหวาน เนื้อไวน์หนักหรือเบา กลิ่นผลไม้หรือกลิ่นช็อกโกแลต แอลกอฮอล์มากหรือน้อย รอบๆ ตัวเราว่าดื่มในโอกาสใด สังสรรค์หรือดื่มเล่น รอบๆ โต๊ะว่าอาหารแบบไหน

ที่สำคัญ ดื่มให้อร่อยไม่ได้อยู่ที่ “ไวน์” เสมอไป แต่สำคัญอยู่ที่ “ใคร” ดื่มด้วย