ชุ่มฉ่ำไปตามๆ กันช่วงนี้กับสายฝนเดือนสิบทิ้งทวนก่อนเข้าหน้าหนาว Taste เราอาศัยบรรยากาศโรแมนติกชวนคุณไปกินข้าว กินปลา ในกระท่อมปลาทูยุคซิกตี้ ลานบันเทิงแบบไทยสมัยเจ้าคุณพ่อ ที่คุณช่อฟ้าสร้างสรรค์ให้แขกผู้มาเยือนได้สัมผัสไออุ่นเหมือนนั่งกินข้าวในบ้านเรือนไทยภายใต้คอนเซ็ปต์ modern contemporary
สวนอาหารสไตล์ไทยไม่ย้อมแมว “ปลาทูแช็ค” เจ้าของร้านเขาบอกว่าเป็นร้านย้อนยุคต้นแบบแรกๆ ก่อนที่เราจะได้เห็นกันอย่างที่เพลินวาน หัวหิน หรือแถวอัมพวา ที่นี่เขาใช้ไม้เก่าจริงๆ (ที่ไม่ใช่เอาไม้อัดมาให้เก่า) เข้าลิ่มแบบไม่ใช้ตะปู โชว์ลายเนื้อไม้เก่า เพื่อให้สมกับเป็นเรือนไทยดั้งเดิม ที่นี่เขาแบ่งให้ลูกค้าได้อิ่มเอมกับ 4 โซน 4 บรรยากาศตามใจ ได้แก่ Outdoor ชมนกชมไม้ ชิมลม อมแสงดาว ใกล้ชิดธรรมชาติ ถัดเข้ามาเป็นเธียเตอร์โซน ด้วยแนวคิดโรงหนังไทยเก่าย้อนยุค ประดับด้วยฉากและโปสเตอร์หนังไทยให้ได้ถ่ายรูปเล่น หรือให้คุณพ่อคุณแม่ (หรือกระทั่งคุณปู่คุณย่า) ได้รำลึกความหลังครั้งยังหนุ่มสาว ถัดมาเป็นซุ้มไม้เล็กๆ สำหรับคู่รักหรือเพื่อนฝูงที่ต้องการความเป็นส่วนตัว หรือใครที่มากับลูกหลานเค้ายังมีห้องแอร์ให้นั่งทานข้าวแบบเย็นกายเย็นใจ เปิดเพลงคลอเบาๆ ยุค 60s ถึง 70s ช่วยเพิ่มอรรถรสในการรับประทานมากขึ้นด้วย
ขึ้นชื่อว่า “ปลาทูแช็ค” ก็แน่นอนว่าทีเด็ดของร้านต้องเป็นเมนูปลาทู (แช็คแปลว่ากระท่อม) ถูก แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมด เพราะหลังจากอ่านรายการอาหารก็พบว่ามีเมนูที่หลากหลายและหลายเมนูก็ประยุกต์วัตถุดิบให้ได้ลิ้มรสชาติใหม่ๆ ให้ลองด้วย คุณช่อฟ้า เจ้าของร้านเล่าให้ฟังว่า ปลาทู มีโอเมก้าและคูณค่าทางอาหารสูง อีกอย่างคือยังไม่มีการเลี้ยงอย่างเป็นล่ำเป็นสันจนถึงขนาดทำฟาร์ม จึงแน่ใจได้เลยว่าไม่มีการตัดแต่งพันธุกรรม (GMO) เราจึงลิ้มรสชาติของปลาทูได้อย่างสบายใจ แถมปลาทูที่นี่สั่งตรงจากแม่กลอง ตัวใหญ่ๆ เต็มคำ รสชาติดี พ่อครัวเค้าเอาปลาทูมาทำอาหารไทยๆ ที่หาทานได้ยากอย่างเช่น ปลาทูต้มมะดัน เหมือนจะเป็นต้มยำปลาทู แต่รสชาติไม่ธรรมดาเพราะมะดันที่นำมาแทนมะนาวและเครื่องปรุงรสอื่นๆ ทำให้มีรสชาติเฉพาะตัวของมะดัน เปรี้ยวหอม กลมกล่อม และถือเป็นเจ้าเดียวในกรุงเทพฯ ที่มีเมนูนี้
ตามมาด้วย น้ำพริกมะดันทานคู่กับผักสด รสชาติไม่จัดมาก ถือเป็นเมนูสุขภาพ และเป็นอาหารจานหลักของครัวไทยที่รับรองว่าคุณพ่อคุณแม่ต้องชอบแน่ๆ ยิ่งเรื่องผักๆ พ่อครัวนำเสนอ ยำดอกขจรกุ้งสด ผักพื้นบ้าน อร่อยอย่าบอกใคร รสชาติออกมันๆ เคี้ยวกรุบๆ เค้าว่ากินแล้วเป็นยา แต่เราว่าอร่อยไม่เหมือนยาเอาเสียเลย แล้วยังได้วิตามินสูง สมค่าเมนูครัวไทย จานต่อมาเป็นไทยประยุกต์ที่แปลกตามากกับ ปลาทูไข่กุ้ง เค้าว่าเป็นการผสมผสาน เจแปนสไตล์ ปลาทูทอดราสซอสมายองเนสปรุงรส ให้เคี้ยวเป็นคำอย่างเคลิบเคลิ้ม ของคาวจานสุดท้ายของวันนี้คือ ปูนิ่มผัดพริก ปูนิ่มเคี้ยวได้ทั้งตัว ปรุงรสออกเค็มๆ เผ็ดติดปลายลิ้นด้วยพริกหวาน ตบท้ายด้วยของหวาน กล้วยอลาสกา ปรับสมดุลหยินหยาง กล้วยเชื่อมร้อนๆ แบบไทย โปะไอศกรีมวานิลาเย็นๆ ราสเมเปิลซอสหอมๆ จบสวยด้วย แคนตาลูปปั่นเม็ดแมงลัก เคี้ยวพลางรับรสกลมกล่อมของรสผลไม้ เป็นอันว่า มื้อนี้อร่อยจนบรรยายไม่ถูกกันเลยทีเดียว
แต่เดี๋ยวก่อน!
สำหรับใครที่อ่านเจอใน Taste เราไม่เหมือนใครอยู่แล้วด้วยโปรโมชันพิเศษสุดๆ ลดทันที 10% เมื่อชำระด้วยเงินสด เพียงบอกกับทางร้านว่าเปิดเจอจาก section Taste ผู้จัดการออนไลน์ ตั้งแต่วันนี้จนถึงสิ้นเดือนตุลาคมนี้เท่านั้น ร้านนี้รับรองว่าราคาไม่แพงอย่างที่คิด และเข้าไปอร่อยกันได้เลยทั้งครอบครัว
โทร.จองโต๊ะได้ที่ PlatuShack by ช่อฟ้า 089-770-3343 หรือเข้าไปเยี่ยมชมกันก่อนใน www.facebook.com/platushack ร้าน “ปลาทูแช็ค” ตั้งอยู่ที่ 45/109 ถ.นาคนิวาส ซอยลาดพร้าว 71 ถ้ามาจากถนนลาดพร้าว เข้ามาในซอย ตรงมาตามทางประมาณ 5 กิโลเมตร เจอสามแยก ให้เลี้ยวซ้าย และเจอสามแยกต่อไปร้านอยู่ตรงหัวมุมพอดี หาไม่ยากหรอก เพราะป้ายออกจะใหญ่ ไปเถอะครับ ไม่อยากให้พลาดของอร่อย แล้วคุณจะได้ลิ้มรสอาหารไทยอย่างที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน
