Marsmag.net

5 จอมตลก แห่งโลกการ์ตูน

มาเช็กอายุกันหน่อย กับการ์ตูนในวัยฝันหวานอีกครั้งของวัย 25-30 อัพ รอบนี้เรามาคุยกันถึงเรื่องของการ์ตูนแนวคอเมดี้มังกะญี่ปุ่นที่ครองใจวัยหนุ่ม-สาว (เหลือน้อย) คนไทยที่ติดอยู่ในใจของเรา ที่ว่ามาข้างล่างนั้นเป็นแค่หนึ่งในร้อย ที่เหลือก็รอพวกคุณมาโหวตกัน ตามมาชมกันเลยครับ

รันม่า 1/2 ไอ้หนุ่มกังฟู

รันม่าชายหนุ่มโชคร้ายที่ตกบ่อน้ำต้องคำสาป ขณะฝึกวิชาที่เมืองจีนส่งผลให้ร่างกายของเขาเกิดอาการผิดปกติ เมื่อถูกน้ำเย็นเขาจะกลายร่างเป็นผู้หญิง แต่เมื่อถูกน้ำร้อน เขาถึงจะกลายร่างกลับมาเป็นผู้ชายเหมือนเดิม แต่เห็นแบบนี้ รันม่ามีคู่หมั้นกับเขาแล้วนะ!คู่หมั้นของรันม่า ก็คือ เท็นโด้ อากาเนะ ลูกสาวของสำนักฝึกวิชาเท็นโด้ ซึ่งการหมั้นหมายครั้งนี้เกิดจากการคลุมถุงชนของพ่อทั้งสองฝ่ายนั่นเอง

ทีแรกนั้น รันม่ายังไม่สนใจอากาเนะและมักทะเลาะกันบ่อยๆ แต่เมื่ออากาเนะถูกคุณหมอโตฟุหักอก รันม่าได้เข้าไปปลอบ อากาเนะจึงยิ้มให้ รันม่าก็เกิดปิ๊งอากาเนะมาทันที รันม่าเป็นคนที่มีเสน่ห์ต่อเพศตรงข้าม ไม่ว่าจะเป็นชัมปู อุเคียว โดคาจิ อากาเนะ หรือแม้แต่ร่างหญิงก็มีเสน่ห์ดึงดูด ทาเทวากิ คุโน่ ปู่ผีฮัปโปซาย เมื่อเวลาผ่านไป ทั้งสองก็ได้เกิดมีใจให้กันมากขึ้น แต่ก็ต้องพบอุปสรรคมากมาย ที่ตัวละคนอื่นก่อเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็น จัมปูสาวผู้ตามล่ารันม่ามาจากเมืองจีน เรียวกะจอมหลงทางผู้หลงรักอากาเนะ ฮัปโปซายผู้เป็นอาจารย์ของพวกพ่อๆ อุเคียวคู่หมั้นอีกคนของรันม่าที่เก็นม่าหนีมา ถุงน่องทาโร่บุรุษผู้ทำทุกอย่างได้เพื่อให้ได้สิ่งที่ตนต้องการ

เรื่องวุ่นวายประมาณรักหลายเส้าจึงเกิดขึ้น พร้อมกับเรื่องราวประเภทโหด มัน ฮา เหลือรับประทาน เรื่องนี้รับรองได้ว่าอยู่ในใจของหลายๆ คน โดยเฉพาะชายหนุ่ม เนื่องจากมีหลายฉากของรันม่าที่โชว์หวิวขณะทรานสฟอร์มเป็นร่างหญิง



กินทามะ

ว่าด้วยเรื่องหลุดโลกในประเทศญี่ปุ่น ยุคเอโดะ ที่มีมนุษย์ต่างดาวที่เรียกกันว่า ชาวสวรรค์ ได้มาตั้งรกรากบนโลก ชาวสวรรค์ได้ออกคำสั่งริบยศถาบรรดาศักดิ์และยึดดาบของซามูไรไป ทำให้ยุครุ่งเรืองของซามูไรจบสิ้นลง ชาวสวรรค์ได้มีอำนาจเหนือเอโดะมากยิ่งขึ้น แต่ยังมีคนหนึ่งที่ยังยึดมั่นในจิตวิญญาณของซามูไร เขาชื่อ ซากาตะ กินโทกิ เคยเป็นนักรบซามูไรต่อต้านชาวสวรรค์เปิดร้านรับจ้างสารพัด มีผู้ช่วยคือ ชิมูระ ชินปาจิ หนุ่มแว่นที่ทำงานเพื่อเรียนรู้จิตวิญญาณของซามูไร และคางุระ เด็กหญิงชาวสวรรค์เผ่ายาโตะ ทั้งสามทำงานรับจ้างเพื่อหาเงินมาจ่ายค่าเช่าบ้านและเลี้ยงชีวิตในยุคมืดของซามูไร

นอกจากนี้ยังมีกลุ่มตำรวจพิเศษติดอาวุธชินเซ็นงุมิสุดเพี้ยน ทั้งสองฝ่ายจะทะเลาะกันอยู่เสมอ แต่ก็จะช่วยเหลือกันในบางครั้ง แถมตัวละครแปลกๆ อีกมากมายทั้ง คาซึระ โคทาโร่ นักรบขับไล่ต่างแดนซึ่งเป็นเพื่อนของกินโทกิและเป็นอาชญากรมีประกาศจับ ซารุโทบิ อายาเมะ นินจาสาวสายตาสั้นที่หลงรักกินโทกิ เป็นต้น การ์ตูนเรื่องนี้ได้ถูกดัดแปลงออกมาในหลายเวอร์ชันเหมือนมังกะเรื่องอื่นๆ

ในญี่ปุ่น กินทามะได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง โดยดูจากยอดขายหนังสือ ส่วนในไทย ระยะแรก กระแสตอบรับเป็นไปในทางลบ แต่ด้วยการพัฒนาเนื้อหา และการแปลเป็นภาษาไทยที่ได้อรรถรสมากยิ่งขึ้น จึงทำให้กินทามะกลับมามีความนิยมอย่างท่วมท้น โดยผลการโหวตปรากฏว่า การ์ตูนกินทามะได้อันดับที่สองรองจาก K-on! และซากาตะ กินโทกิ ได้รับการโหวตให้เป็นตัวละครชายยอดนิยมแห่งปี 2010



คุโรมาตี้ โรงเรียนคนบวม

เส้นแบ่งระหว่างความบ้าและความฮาของคุโรมาตี้ โรงเรียนคนบวม คงเป็นเส้นที่บางมากๆ จนแทบจะมองไม่เห็น ผู้เขียน (เอย์จิ โนนากะ) ถึงกับบอกว่า คุโรมาตี้ เหมาะสำหรับผู้อ่านทั่วไปที่คิดว่าตนเองจะไม่ใช้ความคิดในช่วงนั้นๆ แต่เรียกว่าอย่าคิดอะไรเลยจะดีกว่ามาก เพราะมันมีแต่เรื่องประหลาดที่อาจมองดูปัญญาอ่อนในบางครั้ง

คุโรมาตี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับนักเรียนในโรงเรียนคุโรมาตี้ ซึ่งเป็นโรงเรียนเด็กเลวอันดับหนึ่งของญี่ปุ่นที่รวบรวมเหล่านักเลงเอาไว้มากมายหลายประเภท ตัวละครหลักของเรื่องเป็นนักเรียนธรรมดาที่สอบเข้าโรงเรียนคุโรมาตี้พร้อมกับเพื่อนสมัยมัธยมต้น (แต่เพื่อนสอบไม่ผ่าน) เป็นคนเรียบง่าย แต่มีเป้าหมายที่จะสร้างโรงเรียนสีขาวและสั่งสอนเหล่าเด็กเลวให้หมดไปด้วย หลายครั้งมักจะพูดเปิดตอนด้วยคำว่า “กราบเท้าคุณแม่ที่เคารพ” แล้วยังมีตัวละครประหลาดๆ อย่าง กอริลล่าที่อยู่ชั้นปี 2 เป็นลิงที่ดูยังไงก็ไม่มีใครเข้าใจว่าทำไมถึงเป็นนักเรียนของโรงเรียนนี้ได้ บางครั้งก็เข้าใจภาษามนุษย์จนเหมือนกับว่าเป็นคนจริงๆ นอกจากนี้กอริลล่ายังพกโทรศัพท์มือถือและแขวนนาฬิกาข้อมือ รวมถึงยังอาจจะเป็นเว็บมาสเตอร์ของกระดานสนทนาบนอินเทอร์เน็ตอีกด้วย

นอกจากนี้ยังมี เมก้าซาวะ ชินอิจิ นักเรียนที่ดูเหมือนหุ่นยนต์ (แต่คิดว่าเป็นหุ่นยนต์จริงๆ มากกว่า) ตัวละครที่หน้าตาคล้ายคลึงกับ เฟรดดี้ เมอคิวรี่ ของวงดนตรี ควีน เฟรดดี้ไม่เคยพูด แต่ร้องเพลงเพราะ แถมขี่ม้ามาโรงเรียนประจำ (ม้าหน้าเหมือนม้าในหมัดเทพเจ้าดาวเหนือ) อยู่ๆ ก็มีมนุษย์ต่างดาวมาโรงเรียนนี้อีกต่างหาก และไม่น่าเชื่อว่าจะมีใครสามารถเอาไปทำหนังจอเงินได้ ซึ่งก็หลุดพอกันนั่นแหละ



GTO คุณครูพันธุ์หายาก

โอนิซึกะ เอคิจิ เป็นนักเลงที่โด่งดังในโชนัน แต่กลับตั้งความหวังไว้ว่าจะเป็นอาจารย์อันดับหนึ่งของญี่ปุ่น จึงได้เดินทางมาโตเกียวกับเพื่อนตายที่ชื่อ ดันมะ ริวจิ โดยดันมะมาเปิดร้านซ่อมมอเตอร์ไซค์ที่โตเกียว ส่วนโอนิซึกะได้ไปฝึกสอนที่โรงเรียน??? และโดนนักเรียนในห้องที่เขามาเป็นอาจารย์ประจำชั้นแกล้ง เขาจึงต้องสั่งสอนนักเรียนเหล่านั้นด้วยนิสัยนักเลงเก่า จนทำให้พวกเขากลับมาเป็นเด็กดีและเคารพโอนิซึกะมาก

ต่อมาโอนิซึกะไปสมัครเป็นอาจารย์ในโรงเรียนมัธยมเซรินซึ่งเป็นโรงเรียนเอกชนชื่อดัง และไปทำร้ายร่างกายรองอาจารย์์ใหญ่เข้าในวันสัมภาษณ์งาน จนเขาคิดว่าคงจะไม่ได้เป็นอาจารย์แล้ว แต่ผู้อำนวยการซากุไร กลับเรียกตัวเขามาสอนที่โรงเรียน เพราะหวังจะให้โอนิซึกะขจัดปัญหาในโรงเรียนให้ โอนิซึกะจึงได้เป็นอาจารย์ประจำชั้น ม.3 ห้อง 4 ซึ่งเป็นห้องที่มีปัญหามากที่สุดของโรงเรียน โอนิซึกะมีหน้าที่จะต้องทำให้เหล่านักเรียนที่มืดมนเหล่านี้เดินออกมาสู่ทางสว่างให้ได้ ปริศนาที่เกิดขึ้นกับเหล่าอดีตห้องเรียน ม.3 ห้อง 4 มันคืออะไรกันแน่ นี่คือสิ่งท้าทายที่รอคอยโอนิซึกะอยู่ในวันเปิดภาคเรียน !!

การ์ตูนเรื่องนี้สะท้อนถึงสภาวะสังคมได้เป็นอย่างดี ทั้งสภาพสังคมที่แต่ละคนต่างหันหลังให้แก่กัน ความสกปรกของสังคมญี่ปุ่นโดยเฉพาะหลังฉากของเหล่าผู้ใหญ่ทั้งหลาย และความไม่เอาใจใส่ของผู้ปกครอง หรือคุณครูนั่นเอง ดูไป ดูมา มันก็เหมือนกับปัญหาเรื่องการศึกษาของไทยนั่นแหละ ที่หลายคนจะผลักไปเป็นปัญหาของครูหรือโรงเรียนมากกว่า



ก๊อง ไอ้แสบดึกดำบรรพ์

ไม่น่าเชื่อว่าแค่ภาพ ก็ทำให้เราฮากระจายได้ ก๊อง ไอ้แสบดึกดำบรรพ์ โดยมาซาชิ ทานากะ เป็นการ์ตูนที่มีแต่ภาพไม่มีตัวหนังสือบรรยาย ซึ่งเป็นความตั้งใจของผู้แต่ง เป็นเรื่องราวของไดโนเสาร์ในโลกล้านปี ผจญภัยในดินแดนต่างๆ ตั้งแต่ป่าแอฟริกาถึงขั้วโลก อย่างไร้เสียงพูดและตัวหนังสือใดๆ เล่าเรื่องราวของไดโนเสาร์สีส้มกับชีวิตของมันในยุคสมัยที่ดูเหมือนว่าจะไม่มีเพื่อนพ้องเผ่าพันธุ์เดียวกัน หรือกระทั่งไดโนเสาร์ตัวอื่นๆ หลงเหลืออยู่เลย โดยเรื่องราวของ Gon แต่ละตอนจะว่าด้วยความสัมพันธ์อันวุ่นวายของมันกับธรรมชาติ และสัตว์โลกตัวอื่นๆ

ในแบบการ์ตูนต้นฉบับนั้น Gon ประกอบไปด้วย ฉบับรวมเล่มจำนวน 7 เล่ม ต่อมายังถูกดัดแปลงเป็นเกม และกลายเป็นหนึ่งในตัวละครของเกมต่อสู้สุดดัง Tekken นอกจากนั้น เมื่อปี 2009 Sprite Animation Studios ยังประกาศนำ Gon มาดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ แต่จนถึงปัจจุบัน ก็ยังไม่มีความคืบหน้าของโครงการดังกล่าวเลย แต่กลับปรากฏฉบับแอนิเมชันสำหรับฉายทางโทรทัศน์ออกมาแทน โดย Gon ฉบับทีวีเป็นผลงานร่วมกันสร้างของ Kodansha และ Daewon Media จากเกาหลีใต้ เริ่มต้นออกอากาศในประเทศญี่ปุ่นไปแล้ว