การโฆษณาด้วยพรีเซ็นเตอร์คนดัง มีผลต่อการเลือกซื้อสินค้าพอสมควร เนื่องจากช่วยให้เกิดแรงจูงใจในการตัดสินใจซื้อ “นักกีฬา” ถือเป็นเครื่องมือการตลาดที่สำคัญอย่างหนึ่ง นักกีฬาหลายคนสามารถทำเงินจากโฆษณามากกว่ารายได้จากการแข่งขันด้วยซ้ำ บริษัทรองเท้ากีฬาและอุปกรณ์กีฬาหลายยี่ห้อไม่ว่าจะเป็น ไนกี้ หรืออาดิดาส ที่เป็นที่นิยมของวัยรุ่นทั่วโลก ได้ลงทุนจ้างนักกีฬาชื่อดังระดับโลกมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ ให้กับสินค้าทั้งๆ ที่ค่าตัวของคนเหล่านั้นแพงมหาศาล แต่เมื่อเปรียบเทียบกับการดึงดูดใจ สร้างความสนใจ สร้างชื่อให้กับสินค้าเหล่านั้นก็ถือว่าคุ้มสุดคุ้ม วันนี้เรามี 5 อันดับนักกีฬาชื่อดังที่มีค่าตัวสูงสุดจากการเซ็นสัญญาเป็นพรีเซ็นเตอร์ว่ามันสามารถสร้างรายได้มหาศาลให้กับพวกเค้าแค่ไหน
อันดับ5 : Tiger Woods (ไทเกอร์ วูดส์)
สปอนเซอร์ : Nike
ค่าตัว : $105 million
นักกอล์ฟชื่อดัง ในปี 1996 ไทเกอร์ วูดส์ ได้เซ็นสัญญาเป็นพรีเซ็นเตอร์โฆษณาให้กับไนกี้ ซึ่งเป็นข้อตกลงที่มีการเซ็นสัญญานานถึง 5 ปี ด้วยค่าตัวถึง 105 ล้านเหรียญสหรัฐ นี่อาจดูเหมือนมากแต่ไม่ใช่แค่พรีเซ็นเตอร์ไนกี้กอล์ฟเท่านั้น เขายังปรากฏในโฆษณาของพันธมิตรอื่นๆ อีกด้วย เครื่องหมายของไนกี้บนเสื้อผ้าที่เขาสวมใส่เห็นได้ชัดในโฆษณาของบิวอิคและอเมริกันเอ็กซ์เพรส แต่นั่นก็ยังไม่ใช่ที่สุด เพราะข้อตกลงใหม่ของไนกี้ กับพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ แมคอิลรอย ทำให้ค่าตัวในการเซ็นสัญญาของ ไทเกอร์ วูดส์ ตกมาเป็นอันดับสอง 
ถึงแม้ว่าในปี 2009 ไทเกอร์ วูดส์ จะได้โดนมรสุมข่าวคาวว่ามีความสัมพันธ์กับหญิงอื่นที่ไม่ใช่ภรรยาของเขา แต่ไนกี้ยังคงเซ็นสัญญากับไทเกอร์ วูดส์ อยู่ แต่ได้ลดค่าตัวในการเซ็นสัญญาลงมาเท่านั้นเอง
อันดับ4 : George Foreman (จอร์จ โฟร์แมน)
สปอนเซอร์ : Salton, Inc.
ค่าตัว : $137.5 million
จอร์จ โฟร์แมน อดีตนักชกเหรียญทองโอลิมปิก นอกจากจะเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในสังเวียนแล้ว หลายคนอาจจะบอกว่าเขาน่าจะเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในห้องครัวมากกว่า เพราะเขาสามารถทำเงินได้มากกว่าการเป็นเจ้าสังเวียนซะอีก 
อดีตนักชกรุ่นเฮฟวีเวตได้ตกลงเซ็นสัญญาทำธุรกิจกับ Salton, Inc. ด้วยค่าตัวที่สูงถึง 137.5 ล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับการเป็นพรีเซ็นเตอร์และหุ้นส่วนสำหรับการใช้ชื่อของเขาเป็นชื่อผลิตภัณฑ์ นอกนั้นเขายังมีรายได้จากการออกรายการทีวีอีกกว่า 1 ล้านเหรียญสหรัฐ รวมทั้งกำไรอีก 45% จากธุรกิจเครื่องปิ้งย่างที่กำลังเติบโตและได้รับความนิยมอย่างสูงในสหรัฐอเมริกา นับตั้งแต่เริ่มก่อตั้งธุรกิจในปี 1994 เครื่องย่างของเขาขายได้มากกว่า 100 ล้านเครื่องทั่วโลก
อันดับ3 : David Beckham (เดวิด เบคแฮม)
สปอนเซอร์ : Adidas
ค่าตัว : $160 million
ช่วงต้นฤดูร้อนปี 2003 ได้มีการเซ็นสัญญาที่ยิ่งใหญ่เกิดขึ้นในหน้าประวัติศาสตร์ของวงการกีฬา เดวิด เบคแฮม ตกลงเซ็นสัญญากับแบรนด์ผลิตภัณฑ์กีฬาระดับโลกอย่างอาดิดาส ด้วยค่าตัวสูงถึง 160 ล้านเหรียญสหรัฐ กองกลางซูเปอร์สตาร์ชาวอังกฤษได้ค่าตัวล่วงหน้าเป็นจำนวนเกือบครึ่ง และยังได้รับส่วนแบ่งผลกำไรจากผลิตภัณฑ์ของอาดิดาส 
เดวิด เบคแฮม นั้นจัดเป็นพรีเซ็นเตอร์เจ้าประจำของอาดิดาสมายาวนาน สังเกตได้จากรองเท้าสตั๊ดคู่เก่งของเบคแฮมที่มีดีไซน์สวยเท่ในสนามทุกครั้ง ก็เป็นอภินันทนาการมาจากสปอนเซอร์ใหญ่อย่างอาดิดาสนั่นเอง
อันดับ2 : Derrick Rose (เดอร์ริก โรส)
สปอนเซอร์ : Adidas
ค่าตัว : $200 million
ชาวเมืองชิคาโกกำลังตั้งตารอคอยจอร์แดน คนใหม่ของพวกเขาอยู่ ผ่านมา 13 ปีแล้วสำหรับยุครุ่งเรืองสุดๆ ของชิคาโก้บูลส์ บัดนี้ได้เวลากลับมาผงาดง้ำค้ำโลกอีกครั้ง กับตำแหน่งอันดับ 1 ของฝั่งตะวันออก โดยการนำทัพของฮีโร่ชาวชิคาโกโดยแท้จริงอย่าง เดอร์ริก โรส เป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์เอ็นบีเอ
และอาดิดาส ผลิตภัณฑ์กีฬายักษ์ใหญ่ของโลก ก็เลือกที่จะไว้วางใจ เดอร์ริก โรส การ์ด ซูเปอร์สตาร์ ชิคาโกบูลส์ แห่งศึกบาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA) ให้เป็นพรีเซ็นเตอร์ต่อไป โดยมีค่าตัวสูงถึง 200 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 6 พันล้านบาท เป็นพรีเซ็นเตอร์กันยาวๆ 13 ปี เรียกว่าใช้บริการไปจนกว่าจะรีไทร์จาก NBA
อันดับ1 : Rory McIlroy (รอรีย์ แมคอิลรอย)
Sponsor: Nike
Estimated Value: $250 million
แมคอิลรอยมีผลงานที่โดดเด่นในปีที่แล้ว และก้าวขึ้นสู่การเป็นมือหนึ่งของโลกด้วยชัยชนะระดับโลกถึง 5 รายการ นำทีมยุโรปคว้าชัยในศึกไรเดอร์คัพ และได้รับชัยชนะในรายการพีจีเอทัวร์ และยูโรเปี้ยน พีจีเอทัวร์ อย่างต่อเนื่อง เขาได้รับชัยชนะในพีจีเอทัวร์ฤดูกาล 2555 มากที่สุดในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา 
ไนกี้จึงได้ทุ่มเงินถึง 250 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 7500 ล้านบาท ในการเซ็นสัญญาข้อตกลงให้ แมคอิลรอย มาเป็นพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ให้กับ ไนกี้กอล์ฟ โดยมีระยะเวลา 10 ปี โดยแมคอิลรอยจะเป็นตัวแทนสินค้าและผลิตภัณฑ์ของไนกี้ ครอบคลุมทั้งไม้กอล์ฟ ลูกกอล์ฟ รองเท้า ถุงมือ เสื้อผ้า เครื่องแต่งกายหมวก และอุปกรณ์อื่นๆ ของไนกี้