ไม่ว่าวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี จะพัฒนาไปสักแค่ไหน ความเชื่อในเรื่องลี้ลับ ไสยศาสตร์เวทมนตร์ก็ยังคงแทรกตัวอยู่ในสังคมตั้งแต่เราเกิดยันตาย
เป็นที่รู้กันดีว่า “ฤทธิ์” หรือ “อิทธิฤทธิ์” ไสยศาสตร์ มีหลากหลายชนิด อาทิ อยู่ยงคงกระพัน ให้ผลฟันแทงไม่เข้า แคล้วคลาด ให้ฤทธิ์รอดพ้นภยันตราย เมตตา ช่วยให้เรื่องคนอุปถัมค้ำชูเอ็นดูรักใคร่ โชคลาภ ทำให้ร่ำรวย ค้าขายดี และที่ขาดไม่ได้ คือ มหาเสน่ห์ มีไว้เพื่อเสริมสร้างเสน่ห์ต่อเพศตรงข้าม ให้รักให้หลงหัวปักหัวปำจนโงหัวไม่ขึ้น
เปิดโลกแห่งไสยศาสตร์ จริงหรือไม่ที่ใครเขาว่า ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องเอาด้วยกล ไม่ได้ด้วยมนต์ ก็ต้องสู้กันด้วยคาถา และบรรดา “ของ” ทั้งหลายที่ว่า มันเจ๋งจริงหรือเปล่า มาค้นหาคำตอบไปด้วยกัน
หมายเหตุ : ถ้าคุณหน้าหล่อพอๆ กับณเดชน์ หรือเจมส์ จิรายุ จะข้ามบทความนี้ไปก็คงไม่มีปัญหา ^^
‘ของเขมร’ หนึ่งในตองอู
“โอม..รักกูหลงกูหัวปักหัวปำ”
จะว่าไปแล้วคำกล่าวที่ว่า ไสยศาสตร์กับคนไทยเป็นของคู่กัน คงจะจริงแท้ยิ่งกว่าแช่แป้งเสียอีก อย่างที่ “ชัยภัทร ธนพัชรชัย” เจ้าของเว็บไซต์ 'มหาเวทย์ 63' เว็บไซต์แรกของเมืองไทยที่จำหน่ายไสยเวทดำอย่างเต็มรูปแบบ แง้มถึงทัศนคติความเชื่อของผู้คนในสังคมไทยปัจจุบัน
“ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า เรื่องมหาเสน่ห์มีผลกับการงาน และการเข้าสังคม คนเราจึงไม่อาจขาดเสน่ห์ได้ ผู้คนถึงได้ไขว่คว้าหามาใช้กัน ไม่ว่าจะด้วยทางใดก็ทางหนึ่ง”
กล่าวกันว่าไสยเวทมีด้วยกัน 2 สาย คือ สายขาวและสายดำ เครื่องรางจำพวกสาลิกา ขี้ผึ้ง ตะกรุด ปลัดขิก พระขุนแผน เหล่านี้ล้วนเป็นเครื่องรางของขลังที่ให้ฤทธิ์ธามหาเสน่ห์สายขาวทั่วไปที่พบเห็นผู้บูชาและสามารถหาเช่าได้ในตลาดพระเครื่อง ขณะที่เครื่องรางไสยเวทดำ น้อยคนนักที่จะรู้จักและถือครองบูชา
มหาเวทย์ 63 ที่กล่าวมาข้างต้น เป็นเว็บไซต์ที่รวบรวมเครื่องรางของขลังเขมรเป็นหลัก ของขลังมหาเสน่ห์ที่มีให้เช่าบูชา เรียกได้ว่าถ้าไม่ได้คลุกคลีอยู่ในวง “คนเล่นของ” เป็นไปไม่ได้เลยที่จะรู้จักเครื่องรางชื่อแปลกๆ อย่าง อะ-เซ็ง-เต๋ พระงั่ง พ่องั่งพิมพ์ต่างๆ ปั้นเหน่ง อิ่นคู่ประตูอาถรรพ์ แม่เป๋อเขมร แม่เป๋อเหาะ ฯลฯ
“มหาเวทย์ 63 มีพระเครื่อง ของขลัง ค่อนข้างแปลก ทั้งของพม่า เขมร ลาว ไทย เกือบทั้งหมดจะเป็นเครื่องรางของขลังหายาก และค่อนข้างแรงแทบทั้งสิ้น”
ว่ากันว่าเครื่องรางของขลัง หรือ มนต์คาถา ที่ว่าด้วยเรื่องเสน่ห์ หญิงรักชายหลง “หมอเขมร” คือหมอเวทที่ขึ้นชื่อลือชาที่สุดในประเทศแถบนี้ ความเฮี้ยน ความแรง เสมอต้นเสมอปลายตั้งแต่สมัยโบราณกาลจนกระทั่งปัจจุบัน ส่งผลให้พอเอ่ยถึง “ไสยเขมร” ไม่ว่ามนต์ด้านใด ทุกคนต่างล้วนหวาดกลัว และยกนิ้วให้เขมรเป็นที่หนึ่ง อย่างไม่ต้องสงสัย เรียกได้ว่า “ไอ้” หรือ “อี” หน้าไหนสงสัยว่าโดนของ เป็นต้องทึกทักโทษ “เขมร” ไว้ก่อนแทบทั้งสิ้น
“สายเขมรเป็นแหล่งกำเนิดไสยเวทอาคมที่แรงที่สุด โดยส่วนใหญ่ที่ผู้คนนิยมบูชา คือ พระงั่งเขมร” พระงั่ง ตามประวัติศาสตร์การสร้างถ้าอ้างอิงจากคัมภีร์ใบลาน พระงั่งถูกสร้างโดยฤาษี ผู้มีอภิญญาญาณสามารถสร้างพระงั่งให้มีชีวิตจิตใจ บันดาล โชคลาภ เงินทอง มหาเสน่ห์แก่ผู้เป็นเจ้าของ ตั้งแต่สมัยสุวรรณภูมิ จนมาถึงช่วงปลายกรุงศรีอยุธยาตอนปลายซึ่งนับเป็นยุคสุดท้ายที่สร้างโดยฤาษี ต่อมาวิชาสร้างงั่งได้ถูกประยุคต์ใช้ในรุ่นต่อมา จากอาจารย์หลากหลายแขนงจนมาถึงยุคปัจจุบัน
“ผมมีพี่และเพื่อนซึ่งมีอำนาจทางการเมืองท้องถิ่นหลายท่าน ทั้งฝั่งไทยและฝั่งเขมร ทำให้พอกว้างขวางในการประสานงานเพื่อแสวงหาของขลัง เพราะครูบาอาจารย์อยู่ในแถบบันเตียเมียนเจย ศรีโสภณ และที่อื่นอีกจำนวนหนึ่ง เป็นอาจารย์ที่ดี ไม่ใช้วิชาในด้านลบ รักษาศีลชอบเพ่งกสิณไฟตามถ้ำ ชอบสันโดษ ครูบาอาจารย์บางส่วนในฝั่งเขมรจะให้ลูกหลานรวบรวมเครื่องรางไว้ให้จากพื้นที่ต่างๆ บางอาจารย์หลังจากที่นำไปปลุกเสกเพิ่มบารมีเมื่อถึงเวลาก็จะติดต่อผ่านลูกหลานเพื่อให้ผมข้ามไปรับของ หรือไม่ก็ให้ลูกหลานนำข้ามมาให้ที่ฝั่งไทย”
ศรัทธาของท่าน เป็นของท่าน
ขลังไม่ขลัง ก็ศรัทธาของท่าน
“สุดยอดครับ ใช้ได้แค่เจ็ดวัน ได้เพื่อนที่ตึกเป็นเมียแล้วครับ ไปกินก๋วยเตี๋ยวแม่ค้าก็แอบมอง แต่ไอ้ที่เหลือเชื่อคือเมียเก่าที่ทิ้งผมไปสองเดือนก่อนกลับโทรมาขอคืนดีครับ ตอนนี้ก็เลยมีผู้หญิงถึงสองคน ไม่รู้จะทำอย่างไรดี” หนึ่งในลูกค้ามหาเวทย์ 63 บอกเล่าในกระทู้ข้อความ
หรืออีกหนึ่งประสบการณ์จากผู้เช่าไปบูชาว่า “ผมเช่าไปบูชา 2 เดือนก่อนครับที่แรกก็ดูเฉยๆ นะ แต่พอเล่นเข้าบ่อยๆ ประมาณอาทิตย์ที่4 ก็เริ่มมีอะไรแปลกๆ แล้วครับ มีสาวที่ฟรอนต์ อยู่ดีๆ ก็มาชวนผมไปกินข้าวกลางวัน ผมสังเกตหน้าเธอดูเขินๆ ด้วย แต่ส่วนตัว ผมก็ไม่ได้ชอบนะครับ เลยไม่ได้ต่อยอด ผ่านมาได้ 2 วัน ไปเที่ยวผับก็กินกันธรรมดา พอเที่ยงคืน มีผู้หญิงคนหนึ่งมาขอเลี้ยงเหล้าผม วันนั้นเลยได้โชคสองชั้น”
นั่นนับเป็นเพียงบางความรับรู้ของผู้ที่ศรัทธาเช่าบูชาเครื่องรางมหาเสน่ห์ ขณะที่เราก็คงจะพอได้ยินได้ฟังกันมาบ้างถึงอานุภาพอำนาจแห่งไสยศาสตร์มนต์มหาเสน่ห์ ที่เชื่อว่าหลายคนอาจคล้อยตาม หลายคนอาจโต้แย้ง และในอีกหลายคนเลือกจะเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง
“เครื่องรางของเรา จะส่งผลตามความคิดและการบูชาของคนผู้เป็นเจ้าของเอง โดยส่วนมากจะได้เรื่องเสน่ห์เป็นหลัก และจะส่งผลเรื่องการค้าขาย โชคลาภเงินทองทุกรูปแบบ รองลงมา เครื่องรางจะป้องกันเจ้าของจากวิญญาณร้าย คุณไสยมนต์ดำเชิงลบ และยังช่วยเตือนภัยในรูปแบบสั่นและร้อน หรือทางลางสังหรณ์”
เช่นที่เราพบเห็นในหนัง ละคร ทั่วไป ที่นำเสนอพลานุภาพไสยเวทในรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป บ้างทำให้ดูว่าได้ผล ทรงพลังอำนาจอยู่เหนือเหล่าคนทั่วไป บ้างก็ทำเป็นเรื่องตลกโปกฮาล้อเลียน แต่ชีวิตจริงๆ นอกจากประสบการณ์ส่วนตนและเรื่องเล่าปากต่อปากแล้ว ฤทธิ์ หรือ อิทธิฤทธิ์ ที่จะพิสูจน์ว่าให้ผลจริง ตามราคาค่างวดที่จ่ายไปตั้งแต่หลักพันยันหลักหมื่นแทบทั้งสิ้น
“จะได้ผลมาก ได้ผลน้อย ขึ้นอยู่กับแต่ละคนจะมีบุญและกรรมเป็นตัวชักนำ ผู้ที่ใช้เครื่องรางทุกประเภทถึงเป็นรุ่นเดียวกันก็ส่งผลไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับความศรัทธา และบุญบารมีประกอบด้วย
“คนเราเมื่อเกิดมา จะมีวัตถุของขลังบางอย่างที่สามารถเกื้อหนุนนำดวงชะตาของเราให้แรงจนฉุดไม่อยู่ ทั้งนี้ควรเลือกหาเครื่องรางของขลัง ที่ถูกกับดวงชะตาของตัวเอง ไม่ว่าจะสายพระ สายพราย ล้วนส่งผลให้แก่ผู้เป็นเจ้าของทั้งสิน”
บุญ หรือ บาป
ขึ้นอยู่กับผู้ใช้
ถึงแม้ว่าการใช้เครื่องรางของขลังเป็นการดลจิตดลใจไม่ได้ถูกระบุว่าผิดกฎหมายตามรัฐธรรมนูญไทยแต่อย่างใด แต่เครื่องรางของขลังที่มีคุณด้านมหาเสน่ห์ ตามหลักใหญ่ใจความคงจะมีไว้เพื่อสำหรับเป็นตัวดึงดูดให้เพศตรงข้ามมารัก มาหลง และเหนือสิ่งอื่นใดคือดึงดูดให้อยากมีเพศสัมพันธ์กับผู้ถือครองเครื่องรางนั้นๆ ไม่ว่าสิ่งนั้นมันจะเป็นสิ่งผิดบาปหรือไม่ก็ตาม
“จริงๆ แล้ว ในส่วนของศีลธรรมไม่น่าจะผิด เพราะเราไม่ได้เป็นการเบียดเบียนดวงวิญญาณใดๆ เพราะไม่ได้ใช้ผี แต่เป็นลักษณะของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่สิ่งที่น่ากลัวจริงๆ ก็คือคน คนที่ทำไม่ดี คิดไม่ดี แล้วนำเอาวิชามาใช้ผิดๆ”
อาจกล่าวได้ว่า ไสยเวทไม่ว่าจะด้านมหาเสน่ห์ก็ดี ด้านอื่นๆ ก็ดี ล้วนเปรียบเสมือน “เหรียญสองด้าน” เฉกเช่นที่ตัวมนต์เองที่มีทั้งมนต์ดำ มนต์ขาว ควบคู่กันไปขึ้นอยู่กับว่า “คนเล่นของ” ทั้งอาจารย์ผู้ประสิทธิ์ประสาทวิชา และตัวผู้ใช้เอง มีความปรารถนาประสงค์ด้วยเจตจำนงใด
“คนส่วนใหญ่จะมองในแง่ลบก่อนเสมอ เพราะติดภาพลักษณ์ในภาพยนตร์หลายเรื่อง ความจริงแล้ว มนต์ต่างๆ หรือแม้แต่สายเขมรเอง ตั้งแต่สมัยขอมเรืองอำนาจก็ได้ใช้มนต์สายเขมร หรือมนต์สายดำ ในทางช่วยเหลือผู้คนจำนวนมาก ทั้งรักษาบาดแผล รักษาโรคภัยคุ้มครองป้องกัน คงกระพัน หรือวิชาที่ว่าด้วยการเสกยารักษาเข้าไปในรางกายผู้ป่วยหลายคนที่อยู่ห่างใกล้ ให้ได้รับยาพร้อมกันภายในครั้งเดียว
“แต่ในสมัยหลังๆ ได้มีกลุ่มคนบางพวก นำมนต์ดำมาประยุคใช้ใหม่โดยการเปลี่ยนจากเสกยา มาเสก ตะปูแทน วิชาของเขมรจริงๆ แล้วก็มีไว้เพื่อช่วยคนเครื่องรางของขลังเขมร จึงไม่เกี่ยวอะไรกับการปล่อยของมนต์ดำ หรือทำคุณไสย จะไม่มีเรื่องของเข้าตัวใดๆ ทั้งสิ้น แต่ใช้อาคมสายเขมรที่เข็มขลัง ปลุกเครื่องรางของขลังที่มีอำนาจเหนือธรรมชาติมาช่วยผู้คนที่ตกทุกได้ยาก และยังเป็นเครื่องรางของขลังที่มีพลังดึงจิตดึงใจคนอีกด้วย”
ทุกสิ่งทุกอย่าง ย่อมให้ทั้งคุณและโทษ อยู่ที่คนใช้ด้วยใจที่มีคุณธรรมหรือไม่ ชัยภัทร ธนพัชรชัย ดูเหมือนจะเน้นย้ำเช่นนั้น
สุดยอดเครื่องรางอภิมหาเสน่ห์เพศ
1. เป๋อ
หนึ่งในสุดยอดเครื่องรางมหาเสน่ห์ กล่าวกันว่า แม่เป๋อ ให้ผลทั้งด้านเสน่ห์ และอำนาจในตัวผู้บูชาที่เป็นสตรีจะมีฤทธิ์ทำให้ผู้ชายอยู่ในการควบคุม รักเดียวใจเดียว ถ้าเป็นบุรุษจะทำให้ผู้บูชามีเสน่ห์ต่อเพศตรงข้ามเด่นกว่าใครๆ
2. พระงั่ง
พ่องั่ง มีทั้งแบบศาสตร์ไทยและเขมร ให้อิทธิฤทธิ์ทางเสน่ห์ลุ่มหลงชนิดหัวโงหัวไม่ขึ้น หญิงรัก ชายหลง ใครที่บูชาการันตีได้ว่าถ้าหัวกระไดไม่แห้ง ก็ต้องมีอันต้องเลิกบูชาเพราะเหนื่อยกับการสับรางไม่ให้ชนกัน
3. อิ่น
เครื่องรางสร้างผัวเมียสายล้านนา คนล้านนาเชื่อว่าหากบูชาอิ่นไว้ที่ตัวจะทำให้มีเสน่ห์ มีคนเมตตารักใคร่ หากมีไว้ที่บ้านทำให้คนในครอบครัวรักใคร่กลมเกลียวซึ่งกันและกัน
4. น้ำมันพราย
ในบรรดาอาถรรพ์ด้านทำเสน่ห์ด้วยไสยศาสตร์ “น้ำมันพราย” ถือว่าเป็นสุดยอดของมนต์ดำสายล่างที่เข้มขลังและน่ากลัวที่สุด น้ำมันพรายจะมีสองชนิด หนึ่งคือใช้ทำเสน่ห์ให้คนรัก คนหลง ชนิดที่สองคือใช้เพื่อทำให้เป็นบ้า เลื่อยลอย เสียสติเพราะฤทธิ์พรายเข้ากระแสเลือด
5. ขี้ผึ้ง
ใช้สำหรับสีปากก่อนเจรจาว่าความต่างๆ ก็จะได้สิ่งนั้นตามประสงค์ สรรพคุณของสีผึ้งให้ผลทางเมตตามหาเสน่ห์แก่ผู้พบเห็น หนุนดวงชะตาผู้ใช้ และเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่สมหวังในความรัก หากนำไปใช้ในทางผิดศีลธรรมว่ากันว่าอานุภาพจะเสื่อม
