ควันหลง…วงการขาอ่อนเมืองไทย กับเรื่องราวเล็กๆ ที่คุณอาจไม่เคยรู้ แต่รู้แล้วอาจจะต้อง…เงิบ…
เป็นเรื่องเป็นราวเป็นข่าวใหญ่โตมหโหฬาร และพูดคุยถกเถียงพร้อมกันแชร์กันไม่เลิกจนถึงตอนนี้ เกี่ยวกับการประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ปีล่าสุด แต่ไม่ว่าจะอย่างไร นี่ไม่ใช่พื้นที่สำหรับการมานั่งถกแย้งกันในประเด็นนั้น หากแต่เป็นเรื่องราวจากคนวงในที่คลุกคลีตีโมงอยู่กับแวดวงนางงามมาหลายๆ ปี
ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์อย่าง T-pageant.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่เกาะติดวงการประกวดนางงามทั้งไทยและสากลแบบเกาะติดชิดขอบเวที บอกกับเราว่า แต่ละปีจะมีเรื่องราวนู่นนี่ให้เราได้เห็นอยู่บ่อยๆ บนเวทีประกวดนางงาม ซึ่งบางทีก็ไม่รู้ว่าจะขำหรืออะไรอย่างไรกับมันดี แน่นอนว่า เขาย้ำว่า เรื่องราวที่เขาจะเล่าต่อไปนี้ ไม่ได้มีเจตนาที่จะให้ร้ายอะไรใคร แต่เป็นการ “ตั้งข้อสังเกต” ด้วยอารมณ์ขันเท่านั้น
1.การมีทอมมาประกวดMiss Thailand World
ฮ้ะ? อะไรนะ ทอมมาประกวดนางงาม? นี่ถ้าไม่ใช่ว่าพูดอำกันเล่น ก็คงเป็นมุกโจ๊กในวงเมาท์ตามร้านข้า;แกง แต่ทางผู้ก่อตั้งเว็บ T-pageant.com ยืนยันว่ามันเคยมีมาแล้ว อย่างปีที่แล้ว (พ.ศ.2556) เป็นที่ฮือฮามาก เขาตั้งข้อสังเกตว่า ทอมไม่ใช่ผู้หญิงที่อยากจะเป็นผู้ชายเหรอ แต่ทำไมประกวดความสวยซึ่งเป็นคุณสมบัติผู้หญิง แต่ถ้ามองเป็นสีสันก็ฮาดี
2.โพสต์ภาพ(ถ้อยคำ)ไม่เหมาะสม
มีผู้ประกวดคนหนึ่งถูกถอนออกไปจากรายการประกวด เพราะโพสต์ภาพไม่เหมาะสม ซึ่งสมมุติว่าน้องเขาโพสต์เป็นคำพูด อาจจะไม่โดนถอดถอนออกก็ได้ เพราะก็อย่างที่หลายคนรู้ ผู้ชนะเลิศปีนี้ก็โพสต์ถ้อยคำที่เป็นBad Word เยอะมาก ทางผู้ก่อตั้งเว็บ T-pageant.com บอกเราด้วยเสียงกลั้วหัวเราะ
3.เมื่อนางงามไทยจะไปนางงามโลก
ตั้งแต่รอบคัดตัว และพรีเซนเทชั่นโชว์ จัดที่โรงเรียนเรวดี ห้องที่จัดงานเหมือนห้องประชุมของโรงเรียน และตอนที่ให้นางงามเดินลงมาจากเวที ก็ให้คนที่เป็นสาวหล่อ เป็นคนจูงนางงามลงมา คือเป็นทอมๆ หน่อย ทำให้รู้สึกว่า เจ้าของเวทีประกวดค่อนข้างมีความคอนเซอร์เวทีฟ (อนุรักษ์นิยม) หรือนิยมของเก่า แต่ว่าต้องทำหน้าที่ในการคักกรองสาวไทยส่งไปประกวดในเวทีนางงามจักรวาลซึ่งมันทันสมัยมาก
4.บิกินี่
ปีนี้เป็นปีแรกที่ทางผู้จัดให้นางงามใส่บิกินี่เดินโชว์บนเวทีแล้วไม่ต้องมีอะไรมาพันคลุมด้านล่าง (กุงเกงในตัวจิ๋วนั่นแหละ) ปิดโรงเรียนอนุบาลหมีน้อยเอาไว้ ทั้งที่จะว่าไป ตอนที่ใส่บิกินี่ว่ายน้ำ ก็ไม่จำเป็นต้องมีผ้าคลุมไว้อยู่แล้ว
5.ชุดว่ายน้ำ
บางปี ชุดว่ายน้ำแทบจะเหมือนกับชุดจากยุคนางสาวสยาม บางคนก็ใส่ชุดว่ายน้ำแบบที่เป็นกระโปรงยาว มองแล้วเหมือนชุดราตรีมากกว่าจะเป็นชุดว่ายน้ำ ก็เป็นเรื่องที่ฮาในสายตาเรา
6.คอร์สสอนว่ายน้ำ
มีการให้เก็บตัวที่โรงเรียนเรวดีเหมือนเข้าค่าย และสอนว่ายน้ำด้วย ด้วยเหตุผลว่า คนใส่ชุดว่ายน้ำได้ก็ต้องว่ายน้ำเป็น มันก็เป็นตรรกะที่ดูฮาดี เราแค่สงสัย การว่ายน้ำเป็นมันก็อีกเรื่องหนึ่ง ส่วนการใช่ชุดว่ายน้ำสวย มันก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง หรือเปล่า
7.เครื่องวัดส่วนสูง
เครื่องวัดส่วนสูงของแต่ละเวทีจะไม่ค่อยตรงกัน นางงามคนเดียวกันมาประกวดมิสไทยแลนด์เวิลด์จะสูงเท่านั้น แต่พอไปประกวดมิสยูนิเวอร์สไทยแลนด์จะสูงไม่เท่าเดิม อย่างเช่น น้องเอไปประกวดมิสไทยแลนเวิลด์จะสูง 175 ซม. แต่พอไปประกวดมิสยูนิเวอร์สไทยแลนด์จะเหลือ 167 ซม. เราฟังมาว่า อย่างเครื่องวัดส่วนสูงของเวทีมิสยูนิเวิร์สซึ่งจัดที่โรงเรียนเรวดีก็เหมือนกัน เขาก็ใช้เครื่องวัดส่วนสูงอันที่วัดเด็กมาเป็น 20 ปี
8.นางงามเดินสาย เปลียนชื่อ-นามสกุล
บางคนอาจจะเคยเดินสายมาเยอะ หรือบางคนไปประกวดในทำนองสาวเซ็กซี่มาก่อน แล้วเกิดความกลัวว่า พอมาประกวดเวทีใหญ่แล้วทางกรรมการจะสกรีนประวัติเจอ เขาก็จะใช้วิธีการเปลี่ยนชื่อเปลี่ยนนามสกุลเพื่อลงประกวด เปลี่ยนที่เขตอย่างเป็นทางการเลย
9.รองเท้าตู้ปลา กับสเตปหอยทาก
เป็นรองเท้าส้นสูงแบบใสๆ จนมองเห็นเท้า เขาเลยเรียกว่ารองเท้าตู้ปลา แต่สูงมาก 8-9 นิ้วได้ และเป็นที่นิยมสำหรับนางงามเดินสาย และพวกที่เดินสายตามต่างจังหวัด เวลาประกวดจะเดินช้ามาก จนเขาเรียกกันว่าเป็นการเดินแบบสเตปหอยทาก ดูไปจะหลับเลย ไม่แน่ใจว่าเกี่ยวกับรองเท้าตู้ปลาด้วยหรือเปล่า