Marsmag.net

เปิดซิงความเซ็กซี่ 'ครั้งแรก' ของ 'ฐิสา-วริฏฐิสา ลิ้มธรรมมหิศร'


ผมนี่!… หัวใจเต้นตูมตามทันทีที่ถึงกองถ่ายแฟชั่นเซตปก mars ที่คุณกำลังถืออยู่ (นี่แหละ) ไม่ให้เป็นอย่างนั้นได้ไง เพราะนี่คือ ครั้งแรก (ในชีวิต) ที่น้อง ฐิสา-วริฏฐิสา ลิ้มธรรมมหิศร นางเอกนัยน์ตาหวาน ขวัญใจหนุ่มๆ ยอมยกระดับดีกรีความร้อนแรงรับปีแพะด้วยแฟชั่นสุดเซ็กซี่ ที่ขนาดเจ้าตัวยังยอบรับว่า “เขินมากกับแฟชั่นชุดนี้”
ความงดงามนั้นปล่อยให้เป็นหน้าที่ของภาพถ่าย ส่วนความนัยหัวใจ ต้องมาฟังจากปากคำของเธอกันดูนะครับ

เมื่อกี้เห็นเขินน่าดูเวลาโพสท่าโน้นท่านี้ เป็นยังไงบ้างกับแฟชั่นเซ็กซี่ครั้งแรกในชีวิต
จริงๆ ก็ตื่นเต้น แล้วแอบกังวลนิดนึง (หัวเราะ) เพราะเราไม่เคยถ่ายเซ็กซี่ถึงขนาดนี้ เลยอาจจะมีเขินบ้างเกร็งบ้าง แต่ก็พยายามเต็มที่นะ (ยิ้มตาหวาน)

เห็นภาพในหนังในละครเป็นสาวหวาน เอาเข้าจริงนิสัยใจคอเป็นยังไงบ้าง
จริงๆ ไม่ได้เป็นคนที่หวานมากขนาดนั้น อาจจะมีมุมที่ซนๆ บ้าง แก่นๆ เปรี้ยวๆ บ้าง แต่อาจจะไม่ได้ชัดเจนว่าเป็นสาวแก่น สาวเปรี้ยว คนเราอาจจะมีหลายอารมณ์อะเนอะ บางมุมก็อยากแก่นบ้าง อยากเปรี้ยวบ้าง

อยู่ในวงการมาพักหนึ่งแล้ว มีเทคนิคพัฒนาการแสดงยังไง เพราะเห็นส่วนใหญ่ก็รับบทหวานซะเยอะ
อย่างละครเรื่องลูกผู้ชายไม้ตะพด (ปี 2555) ก็ไม่หวานนะ เป็นผู้หญิงแก่นๆ คือบทอาจจะไม่ชัดเจนว่าแก่นมาก แต่เราก็ค่อยๆ พัฒนาตัวเอง เหมือนเก็บประสบการณ์ไปด้วย เพราะยังไงละครแต่ละเรื่องก็ไม่เหมือนกันอยู่แล้ว เราต้องเรียนรู้ตัวละครแต่ละตัวให้ชัดเจนที่สุด โอเค อาจจะมีเล่นไม่ได้ เล่นแข็งบ้าง แต่ว่าพอเราโตขึ้นเข้าใจอะไรมากขึ้น เราตีความบทได้ตรงขึ้น ค่อยๆ เรียนรู้กันไป

ไปอ่านเจอในพันทิป มีคนตั้งกระทู้ว่า ฐิสาเล่นแข็งมากช่วงที่ผ่านมา อยากจะบอกอะไรกับแฟนๆ ที่คอมเมนต์เราในมุมนี้
รับฟังทุกความคิดเห็นนะ ข้อติข้อชม หนูว่าพวกนี้เป็นสิ่งที่ทำให้เราต้องเรียนรู้ขึ้นไปเรื่อยๆ แหละ คืองานแต่ละงานทำให้เราเรียนรู้อะไรใหม่ๆ อยู่แล้ว อยากจะบอกว่าเราไม่ได้ย่ำอยู่กับที่นะ พยายามที่จะก้าวไปข้างหน้าไปเรื่อยๆ

อย่างล่าสุดเรื่อง ‘ตะพดโลกันตร์’ เห็นว่าลงทุนไปเรียนมวยไทยกันเลยทีเดียว
คือในกองถ่ายจะมีครูสอนอยู่แล้ว แต่ด้วยความที่ส่วนตัวไม่ค่อยชอบออกกำลังกายด้วย มันเลยจะดูไม่แข็งแรง เลยไปลงเรียนมวยไทย เพราะวันหนึ่งเราไม่ได้ถ่ายแค่ซีนเดียว ซีนหนึ่งกว่าที่เราจะถ่ายได้มันซ้อมสิบยี่สิบรอบ คือละครมันอาจจะมีมุมกล้องที่ไม่ได้เหมือนคนชกมวยจริงๆ แต่ว่าถ้าเรารู้ท่าก่อนก็จะดี

หลายปีที่เข้าวงการมา จากน้องใหม่กลายมาเป็นนางเอกหลายต่อหลายเรื่อง เราเห็นสิ่งดีๆ อะไรบ้างในวงการบันเทิงบ้านเรา
วงการนี้ไม่ได้กว้างนะ อยู่กันแบบครอบครัว หนูว่ามันเป็นประสบการณ์ที่คนข้างนอกไม่ได้มาสัมผัสได้ง่ายๆ สิ่งดีๆ ที่เราค้นพบคือมันเหมือนเป็นอีกครอบครัวในชีวิตเรา คือไม่ว่าจะวงการไหน มันไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบหรอก ตอนแรกเราคิดว่าเป็นสิ่งที่น่าสนใจอย่างหนึ่ง น่าลอง แต่พอได้อยู่นานๆ เราเริ่มซึมซับ รู้สึกว่าเรารักงานนี้นะ อย่างบางคนเข้ามาด้วยใจไม่รักจริง โอเค คนที่เข้ามาวงการบันเทิงก็เพราะเรื่องเงินใช่ไหมที่อยากได้ แต่มันต้องแลกอะไรหลายอย่างเหมือนกัน อย่างเรื่องชีวิตส่วนตัว เรื่องเวลาในการดำรงชีวิตประจำวัน ถ้าคนที่ทำงานบริษัทเลิกงานเป็นเวลาใช่ไหม แต่เราเลิกไม่เหมือนเขา บางวันก็ดึก บางทีก็อดนอน เราต้องสละสิ่งเหล่านี้เพื่อจะมาอยู่ตรงนี้

แล้วเป้าหมายสูงสุดล่ะ
ไม่ได้คิดว่าจะสูงสุดยังไง แต่คิดว่าจะอยู่ยังไงไปเรื่อยๆ เราต้องไม่หยุดนิ่ง ศึกษาไปเรื่อยๆ พัฒนาไปเรื่อยๆ ที่สำคัญคือความรับผิดชอบกับงานที่เราทำ แล้วถ้าจะอยู่นานๆ คงต้องไม่ทิ้งความเป็นตัวเอง คือให้มันเป็นเนื้อเดียวกับชีวิตของเรา

คุยเรื่องความรักกันบ้าง ตอนนี้ยังมีกันและกันอยู่ไหม (กัน เดอะสตาร์)
(หัวเราะตาหวาน) ใช่ ยังเป็นเพื่อนกันอยู่

เป็นเพื่อนมานานละ เมื่อไหร่เป็นแฟนสักที
(ทำหน้าจริงจัง) หนูไม่ได้คิดว่าจะต้องกี่ปีๆ นะ โอเค คนเรามีกำลังใจให้กัน ห่วงใยกันแบบนี้ ถ้าคนที่ใช่มันก็ใช่แหละ ต้องบอกว่าทุกวันนี้ ไม่ได้ปากแข็งหรือไม่อยากพูดนะ แต่เราไม่ค่อยมีเวลาได้ดูแลกันเลย พอถึงเวลาต่างคนก็ต่างทำงาน พอว่างก็มาเจอกัน แต่ไม่ได้ดูแลกันอะไรถึงขนาดนั้น ก็เลยคิดว่าไม่ได้อยากเรียกอะไร

จริงๆ มีสเป๊กในดวงใจไหม
ไม่มีนะคะ รูปร่างหน้าตาก็ไม่มีเลย ขึ้นอยู่กับการพูดคุยเข้าใจกัน คือเรามาทำงานตรงนี้เราเห็นผู้คนหลากหลาย บางทีไม่รู้ว่าเขาจะเข้ามาอะไรยังไงหรือเปล่า

เหมือนจะบอกว่ากลัวผู้ชายที่เข้ามาจีบ
ก็กลัวนะ ความจริงก็กลัวแหละ บางทีเราไม่รู้ว่าเขาจริงใจกับเราหรือเปล่า ไม่ใช่ว่าปิด แต่ค่อยๆ เปิดแล้วกัน หมายถึงต้องใช้เวลานะเรื่องแบบนี้

แล้วผู้ชายแบบไหนจะพิชิตใจฐิสาได้
อยู่ด้วยแล้วมีความสุข

ที่ว่ามีความสุขนี่ อยู่ด้วยแล้วเหมือนอยู่กับคุณพ่ออย่างนั้นไหม
อืม… เหมือนเราอยู่กับเขาแล้วเราเป็นตัวเอง เพราะคนเดี๋ยวนี้เวลาเจอแฟนจะคิดว่าแฟนต้องสวยตลอด แต่ในชีวิตประจำวันหนูไม่ได้เป็นคนแบบนั้น เป็นคนที่สบายมาก เรียบง่ายมาก ชิลล์เลย

ถ้าให้นิยามความรักเป็นภาพสักภาพ ภาพนั้นคือภาพอะไร
ภาพอะไรเหรอ? ท้องฟ้าแล้วกันเนอะ มีทั้งกลางวันกลางคืน (หัวเราะร่าเริง) มีพายุบ้าง อากาศสดใสบ้าง ความรักมันเป็นเรื่องปกตินะ มีสุขก็ต้องมีทุกข์บ้าง

แล้วถ้าเป็นเพลงล่ะ เปรียบได้กับเพลงอะไร
ฤดูที่แตกต่าง ของพี่บอย โกสิยพงษ์ เลยค่ะ

คำถามสุดท้ายแล้ว อยากฝากอะไรถึงแฟนๆ mars บ้าง
ก่อนอื่นก็ต้องฝากนิตยสาร mars ฉบับมกราคมด้วย เพราะเป็นครั้งแรกที่ถ่ายแฟชั่นเซ็กซี่ขนาดนี้ แล้วอยากฝากละครเรื่องตะพดโลกันตร์ด้วยนะคะ และฝากติดตามผลงานต่อๆ ไปของฐิสาด้วยค่ะ



เรื่อง : PAN
ภาพแฟชั่น : Luckana Virunanon
ภาพเบื้องหลัง : พาณุวัฒน์ เงินพจน์