คน 3 ประเภทที่ต้องดู American Horror Story : Red Tide (ซีรีส์กระตุ้นพรสวรรค์)

AHS หรือ American Horror Story กลายเป็นชื่อสามัญประจำบ้านไปแล้วละครับ สำหรับใครที่เป็นคนชอบดูซีรีส์สายสยองขวัญ ด้วยความที่ซีรีส์อเมริกันชุดนี้สร้างอย่างต่อเนื่องมาตลอด 10 ปีที่ผ่านมา (2011-2021) นับรวมถึง Season ปัจจุบันก็เป็น Season ที่ 10 เข้าไปแล้ว และก็เป็นซีรีส์ที่เกาะอยู่การเล่าเรื่อง “สยองขวัญ” ในแง่มุมต่างๆ อย่างสร้างสรรค์


           จุดเด่นของซีรีส์สยองขวัญชุดนี้ก็คือ ถึงแม้ว่า AHS จะมีการสร้างมาอย่างต่อเนื่อง 10 ปีเต็ม แต่ตัวเนื้อเรื่อง เรื่องราวของซีรีส์ในแต่ละปีกลับมีการแยกเรื่องราวออกจากกันอย่างเป็นเอกเทศ พูดง่ายๆ ก็คือทุกปีของ AHS จะเป็นการเริ่มต้นเล่าเรื่องใหม่เสมอๆ นั่นทำให้ ต่อให้คุณเป็นผู้ชมที่ไม่เคยติดตามซีรีส์ชุดนี้ ก็สามารถเริ่มต้นดูซีรีส์ตอนปีใหม่ๆ ได้อย่างไม่ต้องกังวลใจว่า “ไม่เคยดูปีก่อนหน้าเลยจะดูรู้เรื่องไหม” เรียกว่า ถ้าสนใจเรื่อง บ้านผีสิง ก็ตรงไป Season 1 Murder Hose อยากดูเรื่องโรงพยาบาลจิตเวทย์ เปิด Season 2 Asy-lum หรือสนใจเรื่องโชว์มนุษย์ประหลาด เปิดดู Season 4 Freak Showได้เลย แต่ถ้าคุณสนใจและกำลังตั้งคำถามเกี่ยวกับเรื่อง “พรสวรรค์” ละก็ American Horror Season 10 ที่ใช้ชื่อว่า Double Feature เขาตั้งคำถาม อะไรบางอย่างกับคุณได้อย่างน่าขนพองสยองเกล้า


           American Horror Story Season 10 Double Feature เป็นปีล่าสุดของซีรีส์ชุดนี้ ที่มีความพิเศษและแตกต่างจากปีก่อนหน้าพอสมควรครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ AHS ปีนี้ ไม่ได้เล่าแบบเรื่องเดียวยาวตลอดทั้ง Season แต่เป็นแบ่งออกเป็น 2 เรื่อง (ที่ดูไม่ได้มีความต่อเนื่องเชื่อมโยงกัน) นั่นก็คือเรื่อง Red Tide และ Death Valley และวันนี้เราจะมาพูดถึงAmerican Horror Storyในตอน Red Tide กัน เพราะนี่คือซีรีส์ที่อยากจะ “ท้าทาย” หลายคนที่กำลังมีคำถาม หรือตั้งข้อสงสัยกับ “พรสวรรค์” ของตัวเองให้ได้ดูครับ ว่าหลังจากดูซีรีส์ 6 ตอนนี้แล้วคุณรู้สึกอย่างไร


           Red Tide เล่าเรื่องของครอบครับการ์ดเนอร์ ที่ประกอบไปด้วย แฮรี่ คุณพ่อ,ดอริส คุณแม่ และ อัลม่า ลูกสาว (10 ขวบ) เดินทางจากนิวยอร์ค มาทริปยาว 3 เดือนที่ Provincetown ใน Massachusetts ด้วยเหตุผลว่าแฮรี่ ซึ่งเป็นนักเขียนบทซีรีส์ และบทภาพยนตร์ ต้องการเปลี่ยนบรรยากาศเพื่อหาแรงบันดาลใจ และความคิดสร้างสรรค์ใหม่ ที่เขาคิดว่ามันน่าจะทำให้เจ้าตัวสามารถแจ้งเกิดในวงการได้ และก็ไม่ใช่แค่พ่อเท่านั้นที่พยายามจะใช้โอกาส 3 เดือน กับบรรยากาศของ Provincetown ในการกระตุ้นพรสวรรค์อันหลับไหลของตัวเอง คุณแม่ดอริส ที่พยายามจะผันตัวมาเป็นนักออกแบบภายใน และอัลม่า ลูกสาวของแฮรี่ และดอริส ก็เช่นกันที่อาศัยโอกาสนี้ในการฝึกฝีมือไวโอลินของตัวเอง เพื่อจะกลายเป็นสุดยอดมือไวโอลินที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์


            ซึ่งเรื่องนี้ไม่ต้องรอนาน ซีรีส์ยังไม่พ้นตอนที่ 1 เราก็เห็นได้ชัดๆ แล้วว่าแค่บรรยากาศใหม่ มันไม่สามารถทำให้แรงบันดาลใจของแฮรี่เกิดขึ้นได้ เจ้าตัวเขียนอะไรดีๆ ออกมาไม่ได้เลยแม้แต่น้อย ตั้งแต่เริ่มต้นนั่นพยายามจะปั้นบทในฝันของตัวเอง จนกระทั่งแฮรี่ ได้เจอกับ 2 นักเขียนที่ประสบความสำเร็จระดับประเทศ ระดับโลก ที่แฝงทำงานของตัวเองอยู่ที่ Provincetown ซึ่งทั้ง 2 ก็ได้บอกเคล็ดลับในการสร้างงานให้กับแฮรี่ เคล็ดลับในการสร้างสรรค์ผลงาน ซึ่งเป็นเคล็ดลับที่จับต้องได้อย่างเป็นรูปธรรมด้วยการกินยาปริศนาชนิดหนึ่ง


            “ยาเม็ดสีดำ” ที่เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของตัวละครใน Red Tide เพราะมันได้ผลกับแฮรี่จริงๆ เขาสามารถทำงานที่ควรจะใช้เวลากว่า 3 เดือนในการทำให้มันสมบูรณ์ ด้วยการใช้เวลาทำงานเพียงข้ามคืน แถม Hollywood ยังตอบรับบทที่เขาเขียนขึ้นมา ถึงกับขนานนามว่า “แฮรี่ การ์ดเนอร์” อาจจะกลายเป็นควินติน ทารันทิโน่ คนใหม่ แต่ความสำเร็จที่เกิดขึ้นมีมูลค่าต้องแลกเปลี่ยนเสมอ


          หลังจากกินยาเข้าไปแฮรี่ ก็สมองแล่นอย่างไม่เคยเป็นมากก่อน เขาผลิตงานคุณภาพเยี่ยมได้อย่างไร้ที่ติ ราวกับว่า “ยาเม็ดสีดำ” ที่ว่ามันไปปลุกพรสวรรค์ในตัวเขาให้ตื่นขึ้นมา แต่ผลกระทบของการกินยา มันทำแฮรี่ไม่สามารถกินอาหารได้ เขาอ้วกทุกอย่างที่กินเข้าไปออกมาราวกับมันเป็นของเน่าของเสีย แต่สิ่งเดียวที่เขากลับรู้สึกกระหายอยากตลอดเวลาก็คือ เลือดสดๆ ใช่ ยามันปลุกพรสวรรค์ของแฮรี่ให้ตื่นขึ้นมา พร้อมกับเปลี่ยนเขาให้มีพฤติกรรมไม่ต่างกับผีดูดเลือด


          แต่นั่นไม่ใช่แค่ผลกระทบเดียวที่เกิดขึ้นจากการรับ “ยาเม็ดสีดำ” ที่ว่า เพราะใน Red Tideเ ขามีการเล่าอย่างชัดเจนเกี่ยวกับผลกระทับของคนที่รับยาเข้าไปว่า [[[[[SPOILLER ALERT!!!! ]]]]]]]


         ถ้าคุณมีสรสวรรค์จริง ยานั้นจะผลักดันพรสรรค์นั้นเบ่งบานและฉายแววถึงขีดสุด
          แต่ถ้าจริงๆ แล้วคุณเป็นแค่ คนธรรมดาที่เข้าใจผิดคิดว่าตัวเองมีพรสวรรค์ ยาเม็ดสีดำนี้จะเปลี่ยนให้คุณกลายเป็นผีดิบที่แทบจะไร้สมอง ไร้ตัวตัน
          เมื่อเงื่อนไขเป็นเช่นนั้นแล้ว คุณกล้ามั้ยที่จะรับ “ยาเม็ดสีดำ” ที่ว่า


           นี่คือโครงสร้าง และไอเดีย โดยรวมของ American Horror Story ในตอนที่มีชื่อว่า Red Tide กับเรื่องราวที่บอกเล่าด้วยน้ำเสียง และบรรยากาศแบบหนังสยองขวัญแท้ๆ แต่ตลอดทั้งเรื่อง ซีรีส์พยายามทั้งตั้งคำถาม ทั้งแดกดัน และทั้งจิกกัด ในประเด็นเรื่องของ “พรสวรรค์” อยู่ตลอดเวลา และนั่นทำให้ผมรู้สึกได้ทันทีที่ดูซีรีส์ทั้ง6 ตอนจบลงครับว่า ซีรีส์ชุดนี้ช่างเหมาะเหลือเกิดกับคน 3 ประเภทนี้


ประเภทที่1 คนธรรมดาที่สงสัยในพรสวรรค์ของตัวเอง

          ประเภทแรกนี้คงเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับคนหมู่มาก นั่นก็คือไม่ค่อยแน่ใจว่าสิ่งที่ตัวเองมีนั้นมีดีพอจะเรียกว่าพรสวรรค์ได้รึเปล่า เพราะบางทีมันเหมือนจะดี แต่ก็ไปได้ไม่สุด ในขณะที่บางครั้งกำลังมั่นใจ แค่นี้ก็ดีแล้ว แต่กับถูกมองว่า “แค่นี้เหรอ ธรรมดาเหลือเกิน” จากสายตาขอคนที่ประสบความสำเร็จ ซึ่งในการดูซีรีส์ AHSตอนRed Tide นี้ ไม่จะไม่ได้ให้คำตอบหรอกครับว่าไอ้ที่คุณมีอยู่มันดีพอจะเรียกว่า “พรสวรรค์” มั้ย แต่ในทางกลับกัน มันจะยิ่งทำให้คุณกลับไปทั้งทบทั้งทวนว่าไอ้ที่มีอยู่ในตัวมันดีพอจะเรียกว่าพรสวรรค์แล้วหรือยัง


         โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับบทสนทนาที่ อัลม่า ลูกสาวพูดกับแม่ว่า

         “คนธรรมดาอย่างแม่อาจจะคิดว่าแค่นี้ดีแล้ว แต่สำหรับหนูกับพ่อ พวกเรารู้สึกว่าคำว่า “ดีแล้ว” ของแม่ มันคือความล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง”


ประเภทที่2 คนเปี่ยมพรสวรรค์แต่ไร้ความมั่นใจ

         ความมั่นใจเป็นสิ่งสำคัญพอๆ กับความสามารถ สิ่งนี้ Red Tide พูดอย่างชัดเจน เราได้เห็นตัวละครที่จริง ๆ แล้วมีความสามารถ จริงๆ แล้วควรจะประสบความสำเร็จ เพียงแต่ว่าเขา (หรือเธอ) กลับสงสัยในพรสวรรค์ของตัวเอง จนไม่กล้าออกมาเงามืดเพื่อมายืนอยู่ในแสงไฟ ซึ่ง Red Tide ก็ทำให้เราเห็นเป็นรูปธรรมละครับว่า คนเก่งมีพรสวรรค์ แต่ไร้ความมั่นใจ ไม่กล้าฉายแสงนั้นมันน่าเวทนาขนาดไหน


ประเภทที่3 ไร้พรสวรรค์แต่เต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ

           ถ้าเราจะบอกว่าคนมีพรสรรค์ที่ไม่กล้าแสดงความสามารถนั้นน่าเวทนา แต่กลุ่มนี้ ไอ้พวกคนที่จริง ๆ แล้วไร้พรสรรค์แต่กลับเต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ นึกว่าสิ่งที่ตัวเองมีมันคือพรสวรรค์ แต่ความจริงมันคือความสามารถระดับหาอึ่งเท่านั้น ไอ้พวกนี้เราเห็นไม่น้อยในสังคม ซึ่งชัดเจนครับว่าในซีรีส์ เขาก็สงสารอะไรบางอย่าง บอกกับคนกลุ่มนี้ให้กลับไปทบทวนตัวเองดี ๆ ว่าจริง ๆ แล้ว ไอ้ที่คิดว่าตัวเองเก่ง มีความสามารถ หรือมีพรสวรรค์ สิ่งเหล่านั้นมันมีอยู่จริง ๆ หรือความจริงคุณแค่พยายามหลอกตัวเองว่ามีมันอยู่ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วมันไม่ได้มีอยู่จริง


            นี่ละ American Horror Story ในตอนที่ใช้ชื่อว่า Red Tide ซีรีส์ 6 ตอนที่ถ้าเราดูเพื่อความบันเทิง ไอ้กลิ่นรสแบบซีรีส์ลึกลับ ระทึกขวัญ เขาก็มีเสริฟให้พร้อมสมบูรณ์ แต่ในขณะเดียวกันสาระที่เขา อยากเรียกว่าแทรกเลย เรียกว่าใส่กันให้เห็นจะๆ อยู่ตลอดทั้ง 6 ตอน มันยิ่งทำให้ผมอยากแนะนำให้ใครหลายๆ คนดได้ดูจริงๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ไอ้พวกที่กำลังชูคอ และคิดว่าตัวเองเก่งเต็มประดา ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วไอ้ความสามารถที่ตัวเองมีมันของปลอมทั้งนั้น แหม…ไอ้พวกนี้มันน่าได้ดู Red Tide จริงๆ 

โดย จีน Viewfinder
Source : Disney+

user's Blog!

49/1 ชั้น 4 อาคารบ้านเจ้าพระยา ถนนพระอาทิตย์ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200

49/1 4th floor, Phra-A-Thit Road, Chanasongkhram,Phanakorn Bangkok 10200

Tel. 02 629 2211 #2256 #2226

Email : mars.magazine@gmail.com

FOLLOW US ON

SUBSCRIBE