ถึงจะเป็นดาวร้าย แต่ก็ร้ายแบบพอแซ่บๆ ไม่ร้ายลึกจนน่าขนลุก “เนย-โชติกา วงศ์วิลาศ” ดาราสาวคิวทองของวิกสามสีอีกคนหนึ่งซึ่งโดดเด่นทั้งในด้านการแสดงและหน้าทรวดทรง ในละคร เราไม่แน่ใจว่าจะรักหรืออย่างไรกับเธอดี จนกระทั่งเธอสัญจรมาปรากฏตัวในนิตยสาร mars เราก็รู้ทันทีว่า นี่แหละ หญิงสาวในอุดมคตของเราอีกคน…
เรามักจะเห็นเนยเล่นเป็นตัวร้ายต๊องๆ ในละคร ตัวจริงเนยเป็นผู้หญิงร้ายไหมครับ?
ไม่ร้ายเลยนะ (หัวเราะ) เนยเคยถามเพื่อนสนิทที่อยู่ด้วยกันทุกวัน เพราะว่าคำถามนี้โดนถามเยอะ จากการที่เราเล่นละครเป็นตัวร้าย อาจจะมีถ่ายเซ็กซี่ๆ คนจะมองว่าเราร้ายหรือว่าเราเซ็กซี่มั๊ย เพื่อนก็จะบอกว่า เวลาที่เราอยู่ด้วยกัน ไม่เห็นว่าเราเซ็กซี่เลย จะดูเรียบร้อย ติงต๊องมากกว่าเซ็กซี่ จะไม่ค่อยได้เจอภาพที่เป็นอย่างในละคร ถึงขนาดเพื่อนที่สนิทกันต้องโทรมาหาว่า เออ…เราเล่นได้ยังไงอ่ะฉากนี้ เขาคิดว่าเราเล่นไม่ได้ เวลาที่เขาดูละครทำให้เขาเชื่อว่ามันไม่ใช่เพื่อนเขา มันเป็นอีกคนหนึ่งไปเลย แต่ถ้าบทไหนร้ายติงต๊องน่ารัก “เขาจะ เออๆ นั่นแหละตัวแกเลย” (หัวเราะ) แต่ว่าอันไหนร้ายวีนเหวี่ยงก็จะแบบ “เฮ่ย มันไม่ใช่ตัวแกอ่ะ”
ทำยังไง หนุ่มบ้านๆ อย่างเราถึงจะเป็นเพื่อนสนิทของเนย-โชติกาได้?
จริงๆ เพื่อนของเนยตอนนี้ จะมีเฉพาะเพื่อนในกองถ่าย ก็สนิทกันประมาณหนึ่ง ส่วนมากเราจะสนิทกับเพื่อนที่รู้จักกันมานาน อยู่ด้วยกันมานานแล้ว จะไม่ค่อยมีเพื่อนที่เพิ่งรู้จักกัน ก็คงแล้วแต่โชคชะตามั้งคะ ให้มาเจอกัน บางคนก็เจอกันที่งาน คุยกันถูกคอ หรือไม่ก็ถ่ายละครด้วยกัน ก็แล้วแต่ว่าโชคชะตาจะพาให้มาเจอกัน
ยากไหมที่จะจีบเนยมาเป็นแฟน?
ไม่ค่อยจะมีใครกล้าจีบนะ (หัวเราะ) ทุกคนจะคิดว่า อย่างเรา จะต้องมีผู้ชาย หรือหนุ่มๆ มาจีบเยอะแน่เลย ก็เลยไม่กล้าเข้ามา ดูว่าเราจะเป็นคนแบบประเภทเปรี้ยวๆ จริงๆ นะ เคยมีเพื่อนของเพื่อนมาจีบ แต่ฝากบอกเพื่อนมาว่า ไม่กล้าจีบอ่ะ เพราะไม่รู้ว่าจีบแล้วต้องเป็นคนที่เท่าไหร่ ในทางกลับกัน เนยเองเจอคนน้อยมาก กลายเป็นว่าเราถ่ายละคร ทำงาน กลับบ้าน เราก็มีชีวิตอยู่แค่นี้ ที่สำคัญ เนยไม่ได้เป็นคนออกไปเที่ยวไหน ถ้าเที่ยวก็ไปต่างจังหวัด สงบๆ ไปทะเล ไปนอนให้เขานวด ถ้าเที่ยวตอนกลางคืนจะน้อยมาก เพราะเป็นคนไม่ชอบเสียงดัง โรคจิตเนอะ (หัวเราะ) คือนานๆ ที ถ้าวันเกิดเพื่อนก็ไป เวลาสนุกก็สนุกจริงๆ แต่ถามว่ามีความต้องการอยากไปเที่ยวมั้ย ไม่เคยเลย ไม่เคยคิดเองว่าวันนี้จะไปไหน ต้องมีเพื่อนลากไป ถ้าไปก็จะไปร้านนั่งชิลๆ อาจจะเป็นแบบมีปาร์ตี้ เป็นร้านไวน์ นั่งกินข้าวกับเพื่อนที่เสียงไม่ดัง แต่ถ้าเป็นผับ โห…นานทีปีหน ปีนี้ยังไม่ได้ไปเลย
แล้วเป็นไปได้ไหมที่เราจะชวนเนยไปเที่ยวผับครั้งแรกของปี้นี้?
ยากนะ ถ้าชวนไปแบบนั้นจะยาก อยู่ดีๆ มาชวนไปแบบนั้น แต่ก็ไม่ใช่ไม่มีโอกาส ถ้าเป็นเพื่อนของเพื่อนชวนมาอีกที ก็อาจจะมีโอกาสเหมือนกัน
ถามจริง ตอนนี้ เนยมีแฟนหรือยัง?
ก็ยังไม่อยากเรียกใครว่าเป็นแฟนนะ แต่มีคนเข้ามาคุยบ้าง จะไม่มีเลย ก็นะ มันไม่ใช่อ่ะ (หัวเราะ) แต่ก็เป็นเพื่อนเป็นอะไรกัน ช่วงนี้ไม่ค่อยมีเวลา ทำงานเยอะจริงๆ ก็เลยไม่ค่อยได้มีเวลาให้ใคร เหมือนทุกอย่างมันต้องใช้เวลาว่า ถ้าคนที่จะเข้ามาจีบเรา แบบมาจีบเลยอ่ะ เราจะกลัว นี่บอกทริคนะ (หัวเราะ) ถ้ามาเหมือนเป็นเพื่อนเป็นอะไร เราจะไว้ใจหรือรู้สึกดีมากกว่า เนยจะกลัวประเภทเข้ามาจีบเลย นั่นโน่นนี่เยอะๆ จะไม่คุยด้วยละ จะรู้สึกกลัวว่ามาในแนวรุกมากไปรึเปล่า ส่วนใหญ่ที่คุยจะเป็นแนวเพื่อนกัน ดูแลเอาใจใส่กัน ถามวันนี้ทำงานเหนื่อยมั้ย เอาอะไรไปให้กินมั้ย แต่ถ้ามาแบบ…เห็นแล้วมันใช่เลย นางในฝันอ่ะ อะไรแนวนี้ก็ไม่ใช่นะ เพราะเนยคิดว่าสุดท้ายแล้วคนที่จะคบกันและอยู่ด้วยกันนานอ่ะ มันต้องเป็นเหมือนเพื่อนกัน แล้วก็รักกันเข้าใจกัน แล้วมันจะอยู่ได้นาน นานกว่าที่จะมาโอ๊ยรักเหลือเกิน สุดท้ายแล้วมันก็ไม่ได้เป็นตัวเอง มันหมายถึงว่า มันอาจจะอยู่ในช่วงหลงรึเปล่า
แต่ถ้าเป็นเพื่อนเราจะรู้อยู่แล้วว่าเขาเป็นแบบนี้ แล้วค่อยๆ พัฒนาดีกว่า ถ้าใครมาเว่อร์เนี่ย จบเลยนะ เพราะว่ากลัว แล้วเนยจะดูออกว่าผู้ชายแบบไหนเจ้าชู้ กะล่อน หรือจริงใจ อาจจะเป็นเพราะเราจะชอบมอง ชอบอ่านคน ว่าคนนี้รู้สึกยังไง ได้เห็นหน้า เห็นบุคลิก แววตา คุยกันไปสักพักเราจะรู้ว่าเขามาแนวไหน เนยว่าเนยพอจะดูออกบ้างนะ สมมติว่าเขาจะบอกว่าชอบตรงไหนที่เป็นเรา กับชอบแบบเว่อร์ๆ พอมองแววตาก็จะรู้ว่าเขาเขินเวลาที่พูดกับเรา จะต่างกับผู้ชายที่กล้าเหลือเกิน แต่เนยก็ไม่อยากจะเอาไปวัดนะ บางที่เขาอาจจะชอบเราจริงๆ ก็ได้ แต่สุดท้ายแล้วเนยว่ามันก็ต้องใช้เวลา แต่ไม่ชอบผู้ชายที่มาเร่งรัดคำตอบอะไรแบบนี้นะ
ผู้ชายแบบไหนที่จะได้หัวใจเนยไปครอง?
ถ้าเป็นเมื่อก่อนเลยนะ ต้องบอกว่า ชอบผู้ชายตัวสูง ตัวขาวหน่อย เพราะเนยเป็นคนผิวสีแทน แล้วก็ชอบผู้ชายจมูกโด่ง แต่เดี๋ยวนี้เนยอยากเจอคนดีๆ คนไม่เจ้าชู้ ไม่รู้มีรึเปล่า ที่คอยดูแลเอาใจใส่แบบเข้าใจรายละเอียด เข้าใจว่าเราเป็นแบบนี้ ที่สำคัญต้องเป็นคนรักครอบครัว ทั้งครอบครัวเขาและครอบครัวเรา เพราะสุดท้ายแล้ว เวลาคบกันมันก็ไม่ได้อยู่ด้วยกันแค่สองคน มันยังมีเพื่อนเรา แม่เรา มีญาติพี่น้องเรา ซึ่งคุณเข้าได้มั้ย ไม่ใช่ว่าอยากจะเจอเราอย่างเดียว ไม่อยากเจอแม่เรา อะไรแบบนี้
ชอบให้ผู้ชายเอาใจเราอย่างไรบ้างครับ?
อืม…เนยก็รู้สีกนะว่าเนยเป็นคนเอาแต่ใจตัวเองเหมือนกัน ไม่ใช่ว่าจะเป็นผู้หญิงที่แสนดีอะไร แต่มันก็มีลิมิตอยู่แหละ ถ้ารับได้ก็โอเค แต่ก็ชอบให้คนมาเอาใจนะ ถามว่าเนยชอบเอาใจคนมั้ย เนยก็ชอบนะ ก็แบบผลัดกันสิ อะไรแบบนี้ แต่เราก็มีความเอาแต่ใจเป็นธรรมชาติ
เนยเป็นคนอารมณ์รุนแรงหรือนุ่มนวล?
ยังไงล่ะ มันก็ไม่ใช่นุ่มนวลนะ อารมณ์รุนแรงนี่ก็ไม่ใช่เลย เนยว่ามันสบายๆ มากกว่าน่ะ มีอารมณ์แปรปรวนบ้าง เวลาอากาศร้อนมาก ถ้าเกิดว่าเข้าใจกัน มันก็ไม่น่าจะยาก เพราะไม่ได้เป็นคนเหวี่ยงวีน ด่าทอ นั่นไม่ใช่อยู่แล้ว แต่จะมีหงุดหงิดบ้าง ไม่ได้ดั่งใจบ้าง
แล้วระหว่างผู้ชายอารมณ์ร้อนแรงกับผู้ชายนุ่มนวลโรแมนติค เนยเลือกแบบไหน?
ผู้ชายร้อนแรง อันนี้ไม่ไหวตามไม่ทัน เนยรู้สึกว่า ถ้ามีแฟนก็อยากได้ผู้ชายที่ไม่ต้องกังวลว่า วันนี้ไม่เจอเราแล้วเขาจะไปเจอใคร อยากเจอคนที่เขาไว้ใจได้ คือเนยไม่ชอบอารมณ์ที่ต้องโทรถามว่าเขาไปไหน อยู่ที่ไหน ทำอะไร เนยอยากได้คนที่เราเชื่อใจได้ว่า เขาไปตรงนี้ ก็ไปตรงนี้จริงๆ คือแบบปล่อยได้ ไม่ใช่ว่าต้องให้ตามกัน ไม่ไหวอ่ะ ไม่มีเวลา รำคาญด้วย หงุดหงิดด้วย ถ้าโทรหาแล้วไม่รับบ่อยๆ นี่คือไม่ใช่ละ ถ้าโทรไปแล้วต้องรับนะ คือเชื่อก็เชื่อแหละ แต่ถ้าเราโทรไปต้องรับนะ ไม่ต้องมาแบบประชุมอยู่หรือทำอะไร คืออย่าทำตัวให้เป็นที่น่าสงสัยอ่ะ ต้องตามตัวได้ แต่ถามว่าเราจะจิกอะไรแบบนั้นหรือเปล่า ก็เปล่านะ แต่ขอแค่เราโทรหาแล้วเขาอยู่ตลอด แล้วเรารู้สึกว่าถ้าเราอยากคุยกับเขาแล้วได้คุย เพราะเราก็ถ่ายละครอาจจะไม่ค่อยได้คุยอยู่แล้ว แล้วถ้าเราโทรไปเขาไม่รับอีก มันก็จะไม่ได้คุยกัน เนยเลยแบบว่า ถ้าเลือกได้ เลือกคนนอกวงการดีกว่า ไม่เอาคนที่ดูยุ่งเหมือนเรา เพราะเราเองก็แทบไม่มีเวลาแล้ว
ระหว่างรักกับเซ็กซ์ อะไรสำคัญที่สุดสำหรับเนย?
อืมม…ถามว่าเรื่องเซ็กซ์สำคัญมั้ย มันก็สำคัญนะ แต่เนยว่ามันไม่ได้สำคัญมากไปกว่าความรัก เนยเคยถามคนที่เขาคบกันไปนานๆ คนที่แต่งงานกันไปแล้วอยู่ด้วยกันนานๆ เนยเคยถามเขานะว่า ทำไมเขาอยู่ด้วยกันได้นาน เขาบอกว่าเขาดูแลเอาใจใส่กัน อยู่เหมือนเพื่อนกัน ไอ้เรื่องเซ็กซ์ เนยว่ามันเป็แค่ช่วงแรก ที่มันอาจจะตื่นเต้นหรืออะไรไม่รู้นะ แต่ทำให้เกิดความรู้สึกว่า “อุ๊ย รักคนนี้” นั่นคือช่วงแรกไง แต่ว่าจริงๆ แล้ว พอนานไป เรื่องนี้มันก็ต้องรองลงไป และถึงตอนนั้น เราก็อยู่ด้วยความเข้าใจมากกว่าเรื่องอื่น
ภาพ : นิตยสาร mars