Marsmag.net

กด Like เจ้าหญิงไอที 'ซี-ฉัตรปวีณ์'

ถ้าคุณเป็นหนุ่มไอที หญิงสาวคนนี้คงไม่รอดสายตาคุณ ใช่ไหม?
เพราะในช่วง 2-3 ปีมานี้ ชื่อของ “ซี-ฉัตรปวีณ์ ตรีชัชวาลวงศ์” โดดเด้งมากทั้งเรื่องรูปลักษณ์หน้าตาที่สวยระดับหยุดสายตาให้จ้องมองได้ ส่วนความรู้ความสามารถนั้นไม่ต้องพูดถึง เพราะเธอคือหนึ่งในผู้ที่เราใช้คำว่า “ผู้เชี่ยวชาญด้านไอที” ได้อย่างเต็มปากเต็มคำ บทบาทพิธีกรข่าวช่วงเทคโนโลยี คือคำยืนยันเป็นอย่างดีถึงศักยภาพของเธอ

มันจึงไม่แปลกที่สาวกไอทีทั้งหลายจะขนานนามให้เธอว่าเป็นดั่ง “เจ้าหญิง” แห่งโลกเทคโนโลยีที่ทั้งเก่งและสวย ที่พูดแบบนี้ไม่ได้จะมา “อวย” กันอย่างเลื่อนลอย ความเก่งความฉลาดของเธอ ฉายประกายให้เห็นไม่ใช่แค่หน้าจอทีวี แต่ในวิธีที่เธอตอบคำถามของเรา ก็ฉายเงาแห่งความเก่งและช่างคิดออกมาอย่างชัดเจน…

ผู้ชายบางคนไม่ค่อยชอบผู้หญิงที่รู้มากว่าหรือฉลาดมากกว่าตัวเอง ซีเคยพบปัญหาแบบนี้บ้างไหม?
ล่าสุด ซีก็ได้เจอเจ้าของบริษัทค่ายไอทีค่ายหนึ่งพูดเหมือนกันว่า “ผู้หญิงเก่ง ผู้ชายกลัว” แต่ซีไม่รู้สึกว่าตัวเองเก่งเลยนะคะ เรามีเรื่องที่ตัวเองโง่เยอะแยะ แน่นอนล่ะ เราอาจจะมีเรื่องที่เป็นความถนัดของเราเอง โชคดีที่สิ่งที่เป็นความถนัดของเรา มันโดดเด่นออกมากลบความไม่ฉลาดหลายอย่างในชีวิต (หัวเราะ) อย่างเรื่องเลข ซีก้ไมได้เก่งนะ คิดเลขได้ช้าด้วยซ้ำไป ยกเว้นของลดราคา คิดได้เร็วมากค่ะ (หัวเราะ)

ผู้หญิงกับเทคโนโลยี บางคนว่ามันดูไม่เข้ากัน ซีมีความคิดกับเรื่องนี้อย่างไร?
เพราะเทคโนโลยีเป็นเรื่องที่ซับซ้อนยุ่งยาก ผู้หญิงไม่ชอบความซับซ้อน เหตุผลที่ผู้หญิงซื้อกระเป๋าหลุยส์ วิตตอง หรือปราด้า มีใบหนึ่งก็ยังไม่พอ ก็เพราะว่ามันเป็นของที่เห็นแล้วเกิดความชอบได้เลย ผู้หญิงส่วนมากจะเลือกอะไรๆ จากอารมณ์ คนก็เลยเข้าใจไปว่าผู้หญิงไม่ชอบความซับซ้อน ในขณะที่ผู้ชายจะซื้ออะไรแต่ละอย่าง ต้องการคำอธิบาย ต้องการเช็กสเป๊ก จริงๆ แล้ว ผู้ชายเป็นเพศที่ชอบความยุ่งยาก ชอบคลี่คลายความยุ่งยากมากกว่า แต่ก็เป็นคนซื้อของยาก แต่นั่นไม่ใช่ว่าผู้หญิงจะฉาบฉวยนะคะ เพราะในเมื่อได้ใช้อะไรสักอย่างหนึ่ง ก็ลึกซึ้งกับมันจริงๆ

ถ้าสมมุติว่าให้ซีไปติดเกาะ ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ แต่เลือกพกพาอุปกรณ์ไฮเทคไปด้วยสักสามอย่าง จะเลือกอะไรไปบ้างครับ?
ซีก็คงเลือกโดราเอม่อนไปอย่างแรกเลยค่ะ เพราะไม่ได้บอกนี่คะว่าต้องเป็นของที่มีอยู่จริงบนโลกนี้ ซีเลือกโดราเอม่อนเพราะมันมีทุกอย่างที่ซีต้องการค่ะ (ยิ้ม) แต่อีกสองชิ้น สมมติว่ามันต้องเป็นของที่มีอยู่จริงในโลก ซีก็ต้องเลือกอุปกรณ์ที่จะพาให้ซีกลับบ้านได้ ซีคงไม่เลือกอุปกรณ์ที่มันจะทำให้ซีต้องใช้ชีวิตติดเกาะแบบนั้นไปตลอดชีวิต ก็คงเลือกอุปกรณ์ส่งสัญญาณ ไม่ว่าจะเป็นการส่งสัญญาณดาวเทียมหรือเรดาร์หรือมอสโค้ดหรืออะไรก็ตามที่มันสามารถส่งสัญญาณให้ซีสามารถกลับบ้านได้ หรือไม่อีกอย่างก็คงเลือกเรือดำน้ำอัจฉริยะน่ะค่ะ คือกดปื๊ดเดียวถึงกรุงเทพฯ ชิ้นที่สามต้องเป็นยานพาหนะกลับบ้านแน่นอน จบข่าว ยังไงก็ไม่ตายบนเกาะ จบป๊ะ? (หัวเราะ)

“ซีใช้ไอทีก็จริง แต่ก็ไม่ถึงกับขนาดว่าให้มันมาเป็นเจ้านายของซีค่ะ”

เวลาพักผ่อนของซี คือช่วงเวลาไหน แล้วต้องพึ่งพาอุปกรณ์ Gadget ด้วยไหม?
ซีจะพักช่วงเวลาหลัง 4-5 ทุ่มเป็นต้นไป ถึง 8-9 โมงเช้า ในเวลาพักผ่อน อุปกรณ์ไอทีไม่ค่อยมามีบทบาทในชีวิตซีนะคะ โอเคล่ะ หัวเตียงอาจจะมีอุปกรณ์ไอทีต่างๆ อย่างก่อนนอนก็อาจจะมีบ้างที่ตั้งเวลาเปิดเพลงเอาไว้แล้วเราหลับไปมันก็ปิดเอง คือไม่เปิดไว้ตลอดเวลา เพราะมันรบกวนคลื่นสัญญาณสมอง แต่บางที ก็มีโทรศัพท์สมาร์ทโฟนอยู่บนหัวเตียง เปิดเครื่องแต่ปิดสัญญาณมือถือไว้ เวลาดึกๆ ยุงกัด ก็จะเปิดไฟ (สมาร์ทโฟน) ขึ้นมาไล่ยุง (หัวเราะ) ก็เท่านี้แหละค่ะ คือซีใช้ไอทีก็จริง แต่ก็ไม่ถึงกับขนาดว่าให้มันมาเป็นเจ้านายของซีค่ะ ก็ใช้มันในทางที่ถูกแล้วก็ใช้มันให้ถูกเวลา ให้พอเหมาะ

มีวันไหนไหมที่เราตื่นขึ้นมาแล้วไม่ต้องพึ่งพาอุปกรณ์ไอที?
อันนี้ยากละ เพราะว่าการทำงานของซีมันเชื่อมโยงกับเทคโนโลยี อย่างน้อยก็ต้องขอเปิดคอมพ์ฯ เช็กอีเมล์ เปิดแท๊บเล็ตเช็กอีเมล์ ลบอีเมล์ เพราะไม่อย่างงั้น หายไปสองวัน อีเมล์ก็จะกองเป็นพันๆ เลย ก็จะไม่ไหวนะคะ (หัวเราะ) คือมันเยอะมากจริงๆ แต่ว่าก็คงมีวันที่ใช้น้อย อย่างวันฮอลิเดย์ วันหยุดที่ไปเที่ยว แล้วเราก็ปัดอุปกรณ์พวกนี้ให้ห่างๆ ตัว ใช้เวลาใช้ชีวิตของเรา แต่ถ้าเป็นวันทั่วๆ ไป ต่อให้เป็นเสาร์อาทิตย์ก็ยังต้องใช้นะ อย่างน้อยๆ ก็ต้องขออินสตาแกรมสักรูปล่ะ (ยิ้ม)

ตั้งแต่เรารู้จักกับอุปกรณ์พวกนี้ ดูเหมือนชีวิตเราจะสบายขึ้นทุกอย่างจริงหรือเปล่า?
ไม่จริงซะทีเดียวค่ะ เพราะบางอุปกรณ์ที่มันไม่เวิร์ก มันจะทำให้ชีวิตเรายุ่งยากและวุ่นวายมากขึ้นหลายเท่าเลยทีเดียว บางอย่างที่ทำให้ชีวิตเราสะดวกสบายมากขึ้น เช่น พัดลมเสียบปลั๊กกดปุ่มใช้ได้เลย แต่หลายอย่างมันไม่ใช่ ต้องเรียนรู้การใช้งาน เพราะฉะนั้น ไม่ใช่ทุกอย่างที่ทำให้ชีวิตเราง่ายแน่นอน

“รู้สึกโหวงๆ เวลาเห็นคนยกมือถือขึ้นมาถ่ายรูปเรา มองเราแต่ในจอ แต่ไม่ได้มองเราจริงๆ ทุกคนเอาตาจ้องหน้าจอตลอดเวลา”
คิดว่าอะไรบ้างที่ขาดหายไปในชีวิต ตั้งแต่เราเริ่มรู้จักกับไอโฟนไอแพตหรืออุปกรณ์อะไรพวกนี้?
อายคอนแท็กท์ (Eye Contact) ค่ะ ที่ขาดหายไปจากชีวิต คือคนส่วนใหญ่ อย่างเวลาซีทักทายใครหรืออะไรอย่างนั้น ซีก็จะต้องมองตาเขาด้วย เพราะเรารู้สึกว่าเรากำลังสื่อสารกับเขาอยู่ แต่สมัยนี้ ส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยจะได้มองหน้ากัน ขนาดเราเป็นพิธีกรมองไปข้างล่างเวที ยังรู้สึกโหวงๆ เวลาเห็นคนยกมือถือขึ้นมาถ่ายรูปเรา มองเราแต่ในจอ แต่ไม่ได้มองเราจริงๆ ทุกคนเอาตาจ้องหน้าจอตลอดเวลา

ถ้าวันหนึ่ง อุปกรณ์ ไฮเทคทุกอย่างบนโลกมนุษย์พร้อมใจกันหยุดงาน คิดว่าโลกใบนี้จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง?
ก็น่าจะเกิดสันติภาพนะคะ (หัวเราะ) แต่ปัญหาที่น่าจะเกิดทันที คือความเหงาค่ะ ส่วนปัญหาที่เหลือก็จะตามมาน้อยมาก แต่ปัญหาที่ยิ่งใหญ่ซึ่งเราอาจมองข้ามไปก็มีนะ เพราะว่าระบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของแบ๊งกิ้ง การทำธุรกรรมต่างๆ หรือการสื่อสาร ก็ต้องบอกว่ามันคงจะพังทลายตามไปด้วย ชีวิตคนหลายล้านชีวิตก็อาจจะอยู่ในอันตราย เพราะเทคโนโลยีในสมัยนี้มันทำให้ชีวิตของคนหลายคนอยู่รอดต่อไปได้ด้วย เราพูดถึงเทคโนโลยีทางการแพทย์ไปจนถึงเทคโนโลยีอื่นๆ ด้วยค่ะ เพราะฉะนั้น สำหรับคนทั่วไปที่ใช้เครื่องมือสื่อสารโทรศัพท์โทรเข้ารับสาย คงไม่เดือดร้อนอะไรมากมาย แต่ถ้าเป็นระดับใหญ่ๆ แล้ว ส่งผลแน่นอนค่ะ

ตั้งแต่โลกนี้มีอุปกรณ์ไอทีมา ซีว่าอะไรที่นับว่าเจ๋งที่สุดในความคิดของซี?
อินเตอร์เน็ตค่ะ มันเปลี่ยนโลกใบนี้จริงๆ มันทำให้การสื่อสารในโลกใบใหญ่ๆ แคบลงไปถนัดตา แล้วมันยังอานุภาพอีกมากมายที่เราคิดไม่ถึง หลายๆ ปัญหาก็ต่อยอดมาจากคำว่าอินเตอร์เน็ตนี่แหละค่ะ

คำถามสุดท้ายละ ผู้ชายในสเป๊กของซี ต้องเป็นเซียนไอทีด้วยหรือเปล่า?
ก็ไม่ต้องถึงกับรู้เรื่องไอที หรือเนิร์ดเรื่องไอทีเท่ากับซีก็ได้ คือไม่ถึงขนาดที่ว่า สุดสัปดาห์นี้ เราไปเดินพันทิพย์กันมั้ย คงไม่ขนาดนั้น แต่ว่าถ้าเขามีความชอบเรื่องเทคโนโลยีด้วย ก็คงจะน่ารักดี เป็นไลฟ์สไตล์ที่ใกล้เคียงกัน ดังนั้น ต้องบอกว่าไม่สำคัญมาก แต่เรื่องนิสัยว่าเข้ากันได้หรือไม่ต่างหากที่สำคัญที่สุด ตัวตนที่เขาเป็นมันสำคัญมากกว่าเทคโนโลยี เพราะว่าเรื่องความรักกับเรื่องงาน มันเป็นคนละเรื่องกัน