อากาศหนาวในเดือนส่งท้ายปี เรียกความรู้สึกอ้างว้างจับใจได้ในบางเวลา ถ้ารู้สึกเหงา คุณจะทำอะไร? เที่ยว? เพื่อน? ครอบครัว? แต่ผู้หญิงคนนี้ ทราย-ณภัทร์ โกรฟส์ เธอเลือกที่จะร้องเพลง แถมร้องมาได้เป็นสิบๆ ปี จนเสียงดนตรีและความเหงาซึมเข้าไปในเส้นเลือด แม้ว่าเธอจะมีครอบครัวที่อบอุ่นมีสามีและลูกที่น่ารัก 2คน แต่การเดินทางที่ต้องย้ายที่อยู่ไปต่างประเทศอยู่บ่อยครั้ง ความเหงาก็เป็นแรงขับเคลื่อนให้นักร้องสาวร่างเล็กเสียงคุณภาพคนนี้ตัดสินใจกลับเมืองไทยอีกครั้งเพื่อสร้างสรรค์ผลงานเพลงไทยและหยิบยกความเป็นนักร้องเพลงสากลของเธอ มาถ่ายทอดผ่านบทเพลงที่สะท้อนบ่งบอกถึงความเป็นตัวเธอ
“ทำไมชอบไม่รู้ แต่จำได้ว่ารักการร้องเพลงตั้งแต่ 3 ขวบ ทางบ้านก็สนับสนุน ทำให้เราอยู่กับตรงนี้แล้วจริงจังกับมันเสมอ ถ้ารู้ว่าชอบอะไร เราก็จะอยู่กับมันได้นาน หลังจากพบรักที่เมืองไทย และแฟนเป็นชาวอังกฤษ เราก็ตัดสินใจเพื่อครอบครัว แต่เหตุผลหลักก็เพราะเรื่องงาน ที่ต้องไปร้องเพลงโชว์ โดยเฉพาะที่ฮ่องกงที่ต้องไปบ่อย เริ่มต้นจากที่เราชอบเพลงภาษาอังกฤษ เลยลองร้องเพลงประเภทแจ๊ส ก็ได้รับงานเรื่อยๆ ยาวมาเป็นสิบปี ได้รู้จักผู้คน มีคอนเน็คชั่น ได้งานต่อเนื่อง ก็เลยย้ายไปอยู่ฮ่องกง ก็กลับมาเที่ยวเมืองไทยบ้างเป็นระยะ”
แม้จะอยู่ไกลบ้านแค่ไหนเธอก็ยังคงเป็น “คนไทย” คนหนึ่งที่ยังรักและคิดถึงบ้านเกิดรวมถึงเสน่ห์ของภาษาไทยที่เธอบอกว่ามีความน่ารักเฉพาะตัว “Lonely” จึงเพลงแรกที่เธอบอกว่านี่แหละคือเพลงที่เธออยากจะร้องภายใต้คอนเซ็ปต์ขี้เหงาแต่แฝงด้วยความโรแมนติก
ย้อนเวลากลับไปที่ปี 1995 “ทราย” เคยออกอัลบัมวง “แบงแบง” กับค่ายเมก้ามิวสิคจนกระทั่งในปี 1996เธอได้เปลี่ยน แนวเพลงและแนวการร้องสู่ระดับสากลในการร้องเพลงอาชีพในโรงแรมระดับ 5ดาวทั้งในกรุงเทพฯ และต่างประเทศนับเป็นคนไทยคนแรกที่ได้ร่วมร้องเพลงกับชาวต่างชาติในโรงแรมฮ่องกงเป็นเวลากว่า 6 ปีด้วยความที่ชื่นชอบในการร้องเพลงหลังแต่งงานไปใช้ชีวิตที่ประเทศอังกฤษและเปิดร้านเสื้อผ้าบูติคเล็กๆ ในปี 2007 ได้เข้าประกวด UK IDOL จนเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ
“เพื่อนยุค่ะ ให้ไปประกวด UK Idol 2007 ที่เป็นรายการใหญ่ของอังกฤษ ก็ได้มีโอกาสเข้าไปถึงรอบรองชนะเลิศ โดยเป็นชาวเอเชียคนแรกและคนเดียวที่ผ่านเข้าถึงรอบนั้น น่าเสียดายที่ไม่มีคลิปใน Youtube เพราะตอนนั้น Youtube ยังไม่ค่อยแพร่หลายเท่าไหร่ แต่ถ้าใครลองเสิร์ชคำว่า ละครเรื่องมิติมหัศจรรย์ ก็จะเห็นทรายในละครจักรๆ วงศ์ๆ เป็นละครตอนเช้าช่อง 7 เล่นเป็นพระธิดาน้องสาวนางเอก (เบนซ์ – พรชิตา ณ สงขลา) นานแล้ว ตั้งแต่ ตัวเองอายุ 19 ตอนนี้เท่าไหร่ไม่บอกนะ นับนิ้วเอาเอง (หัวเราะ) ต่อมาเราก็ได้เป็นหนึ่งในนักร้องสมาชิกวง แบง แบง ค่ายเมกก้า มิวสิก ประมาณช่วงฝันดี ฝันเด่น ชุดแรกเลย ตอนนี้เมกก้าไม่อยู่แล้ว เป็นเหตุผลนึงที่แบง แบง หายไปด้วย ด้วยเหตุผลทางเศรษฐกิจ”
ต้องยอมรับว่าการเป็นศิลปินอิสระก็ต้องแลกด้วยอะไรหลายๆ อย่าง บางทีความมั่นคงและอบอุ่นจากบริษัทสังกัดอาจจะไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องการ ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป เธอเลือกที่จะกำหนดวิถีทางเดินของเสียงดนตรีด้วยตัวเอง
“วงการบันเทิงเปิดกว้างขึ้น เด็กยุคใหม่มีความเป็นตัวของตัวเอง เมื่อก่อน ค่อยเพลงส่วนใหญ่ก็มักจะเอาการตลาดเป็นหลักแล้วมาเปลี่ยนนักร้อง แต่เดี๋ยวนี้ทุกคนอยากเป็นอะไร ก็นำเสนอความเป็นตัวเองออกมาเลย อย่างตัวเราเองก็ทำเพลงเอง ต้องการแบบนี้ เราสามารถใช้ประสบการณ์ของตัวเองถ่ายทอด ตอนนี้ทำธุรกิจส่วนตัวเป็นโรงเรียนสอนร้องเพลง Pop Academy แล้วนี่ก็เป็นค่ายของเราเอง เราสอนภาษาอังกฤษ สอนการแสดงโดยนักแสดงจากช่อง 7 เด็กๆ ปัจจุบันนี้ก็มีไม่เยอะ ทำโรงเรียนนี้ตั้งแต่ 2 ปีที่แล้ว แต่งานหลักเราก็ยังเป็นเรื่องของการร้องเพลง ทุกคนสามารถติดตามได้โดยคลิ๊กเข้าไปได้ที่ www.naphatgroves.com และเร็วๆ นี้ก็จะมีคอนเสิร์ตการกุศลของมุลนิธิศุภนิมิตร Lonely Night Lonely Life ที่ทรายร่วมด้วย อยากชวนไปร่วมทำบุญกันด้วยนะคะ”
” Lonely ” ซิงเกิ้ลแรกของ Naphat Groves ดนตรีสบายๆชิวๆบวกกับเนื้อเพลงที่อบอุ่นด้วยน้ำเสียงที่มีพลังของสาวมั่น Naphat Groves