“หล่อลากไส้ (Tiger and Wolf)” ภาพยนตร์แนวรักวัยรุ่นแฟนตาซีผสมผสานด้วยแอนิเมชัน ซึ่งหนังแนวที่ว่านี้นับเป็นเรื่องแรกของไทยเลยก็ว่าได้ อีกทั้งยังแฝงด้วยมุมมองด้านความรักของวัยรุ่น ภาพยนตร์เรื่องนี้กำกับโดย สราวุธ อินพรหม งานนี้ทาง Taste เราเลยข้องใจว่าทำไม้!! ทำไมต้องเป็นหล่อลากไส้ เราเลยจับนักแสดงหนุ่มหล่อ “ต้น-ณัฐวัตร ดีวงกิจ” หรือต้น AF7 มานั่งคุยแบบตัวต่อตัวกันไปเลย งานนี้สาวๆ คงอยากโดนหนุ่มหล่ออย่างต้นลากไส้เข้าให้แล้วใช่ไหมล่ะ…
พูดถึงผลงานกันหน่อย ว่าหล่อลากไส้คืออะไร ?
ตัวผมเองไม่รู้ว่าทำไมถึงเป็นหล่อลากไส้ แต่ว่าทางผู้กำกับอาจจะชอบซึ่งมันเป็นไอเดียของผู้กำกับ ผมเลยไม่รู้ แต่ว่าในส่วนที่ผมได้รับมอบหมายเป็นตัวละคร ชื่อ “ไตร” เป็นพระรองในเรื่องนี้ ซึ่งตัวหลักจะมีอยู่ประมาณ 4 คน ก็จะมีผม มีกานต์ มีหลับปุ๋ยและพี่แชมป์ แต่ละคนวัยก็จะไล่เลี่ยกัน ซึ่งการทำงานในกองบรรยากาศก็จะดี สนิทกันเร็ว จะไม่ค่อยเกร็ง ซึ่งทุกคนจะสนิทกัน ตัวละครคาแรกเตอร์ของไตรจะเป็นคนที่ค่อนข้างอารมณ์ร้อน และในบทท่านผู้ชมก็จะได้เห็นเกี่ยวกับเรื่องอินเนอร์ของคาแรกเตอร์ไตรมาก ซึ่งในมุมมองของนักแสดงแล้วผมก็ชอบที่ได้รับบทอย่างนี้เพราะว่าถือว่าเป็นบทที่มีมิติ เล่นแล้วสามารถอินกับบทได้ และสามารถใส่เทคนิคอะไรได้เยอะ
รวมๆ แล้วหนังเรื่องนี้เป็นแนวไหน ?
ผมว่ามันเป็นหนังรัก มีวัยรุ่นอยู่ และจะเป็นหนังรักที่แปลกกว่าหนังรักแบบอื่น ที่มีเกี่ยวกับแฟนตาซีในฉากต่อสู้เข้ามา จะเรียกว่าเป็นเรื่องแรกของประเทศไทยเลยก็ว่าได้ที่ทำแบบนี้ มีเอาการ์ตูนภาคแอนิเมชันมาประกอบในฉากแอกชัน ซึ่งผมว่าจุดขายเหมือนอาหารจานหนึ่ง ถ้าเกิดเรามองเข้าไปก็เหมือนเป็นแค่อาหารจานหนึ่งแต่เราไม่รู้หรอกว่าเครื่องปรุงเล็กๆ น้อยๆ เป็นยังไง ซึ่งผมอยากจะบอกว่าหนังเรื่องนี้ เรื่องรายละเอียดอะไรเล็กน้อยมันเยอะและต่างจากเรื่องอื่น แนะนำให้ดู (หัวเราะ)
มีแอกชันแล้วได้เล่นบทบู๊บ้างไหม ?
อ๋อ เท่าที่รู้ว่าหนังเรื่องนี้หล่อลากไส้ ภาษาอังกฤษจะใช้ชื่อว่า “ไทเกอร์วูฟ” หลายคนก็สงสัยเพราะโปสเตอร์หน้าพระเอกก็จะมีรอยข่วนซึ่งก็มีใบ้ๆ อยู่แหละว่าก็คงมีเรื่องเกี่ยวกับเสือ มนุษย์หมาป่า เข้ามา ส่วนใหญ่แล้วผมจะเล่นฉากก่อนที่จะแปลงร่าง แต่พอฉากแปลงร่างจะกลายเป็นแอนิเมชันไป
ใช้เอฟเฟกต์อะไรในการแปลงร่างไหม ?
มีครับ ระหว่างถ่ายทำก็จะมีเอฟเฟกต์ที่มาแปะตามตัว มีฉากที่ผมเจ็บแบบปางตายเหมือนกัน ฉากนั้นชอบมาก เล่นยากมาก ก็เต็มที่ที่สุดเลยสำหรับฉากนี้ เป็นฉากที่โดนโจมตีมาแล้วแบบเจ็บเละเทะเลย ซึ่งมีให้ชมใน Trailer เหมือนกัน
คาแรกเตอร์ในหนังเรื่องนี้กับตัวจริงเหมือนกันไหม ?
ผมว่ามีส่วนคล้ายเป็นจุดเล็กๆ แต่แกนใหญ่จะไม่เหมือนกัน จุดเล็กที่คล้ายกันก็คือ ผมเป็นคนอารมณ์ร้อนและจะไม่ค่อยยอมใครเหมือนกับไตร (ตัวละครในเรื่อง) แต่ในเรื่องของความคิดแล้วผมว่า จากที่ผมได้รับบทและเข้าใจในละครแล้ว ผมว่าความคิดของไตรจะเป็นคนที่ใช้อารมณ์นำสมอง ซึ่งจะต่างจากผมตัวจริงตรงนี้ เพราะผมจะชอบคิดก่อนทำ จะไม่ค่อยทำตามใจมาก
เอาตัวเองไปใส่ในตัวละครแล้วพอดี ?
ผมว่าผมถนัดนะ เพราะว่าหนังเรื่องก่อนๆ ผมได้รับบทเป็นพระเอกแต่พอได้รับบทมาเป็นตัวโกงที่ใช้อารมณ์เยอะๆ ผมกลับชอบมากกว่านะผมบอกได้เลย รู้สึกว่ามันพลิ้วกว่า แต่จะดีกว่าหรือไม่ก็แล้วแต่สายตาคนดู
มุมมองความรักในหนังหล่อลากไส้ให้อะไรบ้าง ?
จะเป็นเรื่องของความคิดแหละครับ เพราะว่าวัยรุ่นสมัยนี้ความคิดในเรื่องของความรักอาจจะยังไม่ดีเท่าที่ควร เพราะว่าบางครั้งผู้ชายหลายๆ คนชอบตามใจผู้หญิงแต่ยังไม่รู้เลยว่าตามใจไปแล้วจะดีหรือไม่ดี เราตามใจเขาในสิ่งที่ผิดหรือไม่ผิดยังไม่รู้เลย แต่ในหนังเรื่องนี้ตัวละครพระเอกที่กานต์ได้รับเป็นกายใน หนังเรื่องนี้เขาจะเป็นคนที่เรียกว่ามีจิตวิญญาณเยอะ และจะเป็นคนดีซึ่งถ้าคนได้ดูและซึมซับในตัวละครตัวนี้เข้าไป หลายๆ คำพูด หลายๆ กิริยามันส่อไปในทางที่ดีทั้งหมด เพราะว่าความคิดของตัวละครตัวนี้เป็นตัวที่ดี ใครที่ไปดูก็จะได้เห็นมุมมองความคิดแบบนี้ อาจจะชอบก็ได้ เพราะถือว่าเป็นหนึ่งความคิดที่ดีเลยครับ
มีมุมมองความรักที่แย่ สะท้อนสังคมไหม ?
ก็มีอยู่ครับ ซึ่งจะมาจากตัวละครผมนี่แหละครับ ผมว่าค่อนข้างร้าย อารมณ์จะต่างจากพระเอก เพราะอย่างที่ผมบอกจะมีอารมณ์อยากเอาชนะมากกว่า แล้วก็หลายๆ อย่างร้ายกว่า ซึ่งทำให้เป็นคนแฟร์น้อยกว่า ในเรื่องผมจะโชว์อะไรที่ไม่แฟร์ออกมา เริ่มมีใช้กำลังบ้างอะไรบ้าง ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ไม่ดี
แล้วมุมมองความรักตัวจริงเป็นยังไง ?
สำหรับตัวผมเองจะมองความรักที่หน้าตาเป็นก้าวที่ 1 ในการเริ่มต้น ส่วนก้าวที่ 2-100 จะเป็นเรื่องของนิสัย มุมมองความรักของผมภาพแรกจะมองจากภาพลักษณ์ภายนอกอยู่แล้ว แต่มันจะไม่สามารถเดินก้าวต่อๆ ไปได้ถ้าเกิดนิสัยไม่ดีหรือว่ามันก็จะไม่สามารถมีก้าวแรกได้ถ้าเกิดหน้าตาไม่ผ่าน คือหลายๆ คนก็บอกว่าความรักไม่ได้มีนิยาม แต่สำหรับผม ผมมองว่าความรักต้องมีองค์ประกอบอื่น ไม่อย่างงั้นมันจะเป็นความรักที่ไม่สมบูรณ์แบบ หรือคนอื่นมองเข้ามาก็จะดูชุ่ยอะไรประมาณนี้ครับ
หล่อลากไส้ต่างจากหนังที่เล่นเรื่องแรกไหม ?
สำหรับผมต่างเลยครับ ต่างมากๆ เพราะเรื่องแรกเท่าที่รู้จะเป็นเรื่องเหลือแหล่ ผมได้รับบทเป็นพระเอกซึ่งแทบจะไม่ได้โวยวายอารมณ์เสียเลย และจะเป็นหนังที่เกี่ยวกับดนตรีไทย ดนตรีสกา ซึ่งต่างกับเรื่องนี้มากและความยากจะอยู่คนละจุดเหมือนกัน ถ้าเป็นหนังเรื่องเหลือแหล่ความยากจะอยู่ที่การร้องเพลงมากกว่าเพราะว่าผมก็เด็กวัยรุ่น ซึ่งไปร้องเพลงไทยเดิมเลยยากมาก แต่ถ้าเป็นเรื่องหล่อลากไส้ความยากจะอยู่ที่อินเนอร์ อยู่ที่ข้างในว่าคาแรกเตอร์เล่นร้ายต้องให้คนเชื่อว่าร้ายจริง
โดยรวมแล้วหนังเรื่องนี้ให้แง่คิดอะไร ?
แง่คิดที่ได้น่าจะเป็นเรื่องของความรัก เพราะว่ามันมีความรักหลายแบบ มีแย่งๆ กันบ้าง อาจจะเป็นรักสามเส้าซึ่งวัยรุ่นหลายๆ คนอาจจะดูแล้วเข้าใจถึงมุมมองของตัวละครจากการกระทำหลายๆ อย่าง แต่ไม่อยากบอกทั้งหมดว่าเป็นยังไงอยากให้รอลุ้นเอา แต่ก็น่าจะได้ประโยชน์ทางด้านนี้
คาดหวังกับความสำเร็จของหนังเรื่องนี้มากน้อยแค่ไหน ?
หวังอยู่แล้วครับ เรียกว่าหวังสูงแต่ไม่คาดหวังดีกว่า เพราะว่าเราทำเต็มที่แล้ว
สุดท้ายอยากให้บอกว่าหนังหล่อลากไส้เยี่ยมตรงไหน ?
จุดขายของหนังเรื่องนี้อย่างที่บอกว่าเป็นหนังเรื่องแรกเลยในประเทศไทยที่ทำเกี่ยวกับแอนิเมชัน ทำไมจะไม่น่าดูล่ะครับ (หัวเราะ) ในเมื่อมันไม่เคยมีหนังอย่างนี้ใช่มั้ยครับ ดังนั้นนี่แหละเป็นจุดขายของหนังเรื่องนี้เลย ถ้าเกิดใครอยากดูหนังแนวใหม่ๆ อยากได้แนวความคิดในด้านความรัก ผมว่าเหมาะที่จะมาดูเรื่องนี้ ซึ่งเรื่องนี้เป็นภาพยนตร์ที่คนไทยผลิต มีการ์ตูนเอามาตัดสลับช่วงกับคนจริง ซึ่งต่างประเทศเขาจะขายหนังในลักษณะเป็นการ์ตูนแล้วค่อนข้างทำกำไร ถ้าบ้านเราลองพลิกมุมใหม่เอาแอนิเมชันมาตัดสลับหาเป้าหมายใหม่ๆ น่าจะทำให้หนังดูมีสีสันมากขึ้น เพราะลายเส้นของเราก็ไม่แพ้ของเอเชียเลย ซึ่งพล็อตของหนังจะเอาเรื่องตำนานของทั่วโลกที่มีหมาป่าผสมผสานเข้ากับตำนานเสือสมิงซึ่งเป็นของไทย ส่วนเป้าหมายของคนดูจะเน้นไปที่กลุ่มวัยรุ่นหรือคนที่ชอบแอนิเมชันครับ