สวย เปรี้ยว ซ่า ส่วนผสมที่แตกต่างแต่ลงตัวของ “ยาพิษ” ชนิดใหม่ The Poinson วงดนตรีอินดี้ร็อกหญิงล้วน แห่งค่าย Iconic records ประกอบด้วย 3 สาวร็อกเกอร์ เมทัล-เมทัล สุขขาว แป๋ม-ศศิกานต์ ลี้ตระกูล และเพจพลอย-พบพร เอื้อกิจธโรปกรณ์ ที่ลุกขึ้นมาเล่นแร่แปรธาตุตัวโน้ต Rock, Dubstep, Funk และ Electro ผสานลงบนเนื้อเพลงตามประสาเรื่องผู้หญิงถึงผู้หญิง ให้วงการบ้านเรากระเพื่อมเพราะแรงขยับส้นเท้ากันมาได้สักระยะหนึ่งแล้ว กับเพลง “Girl friends” ล่าสุดสาวๆ กำลังปล่อยซิงเกิล “1951” ตอกย้ำเส้นทางดนตรีเท่ๆ แนวๆ จังหวะมันๆ ของตนเองให้มิตรรักแฟนเพลงได้ยลได้ชมกัน
แม้ว่าวันนี้ สมาชิกทั้งสามจะมาไม่ครบ แต่สองสาว “แป๋ม” และ “เมทัล” ก็อยู่กับเราแล้ว เอาเป็นว่า แค่สองสาวก็ทำให้ใจเราตกหลุมรักได้แล้วล่ะ คุณคิดเหมือนเราไหม?
ชื่อวง “The poison” หมายถึง “ยาพิษ” คำนี้มีที่มาที่ไปอย่างไร ?
เมทัล : ยาพิษมันคือสิ่งต้องห้ามแต่ว่ามันก็เป็นสิ่งที่น่าดึงดูด คล้ายๆ กับว่าพวกเรามีความซ่าๆ อยู่ แล้วก็ไม่ได้แบบเรียบร้อยมาก
มันเป็นสิ่งที่สวยงาม มันจะน่าค้นหา อะไรประมาณนั้นค่ะ
เหมือนเพลงยาพิษ วง BodySlam ไหม ?
เมทัล : ไม่ๆ ค่ะ
แป๋ม : ไม่เหมือน กำลังคิดอยู่เหมือนกันว่ายาพิษของพี่เขาหมายความว่าอะไร (หัวเราะ)
สาวร็อก สวยๆ เท่ๆ อย่างเรามองคำว่า “ความรักเหมือนยาพิษ” อย่างไร ?
แป๋ม : ความรักกับยาพิษ มันก็เป็นไปได้ เพราะยาพิษเป็นสิ่งยั่วยวนเรา สีสันมันสวยงามมาก แต่ก็มีพิษมีความเจ็บปวดอยู่ข้างใน ขณะเดียวกันถ้าเกิดเรารู้จักใช้ยาพิษอย่างถูกวิธี รู้ว่ามันมีเซรุ่มคุ้มกันเรานะ มันก็น่าจะทำให้เราแข็งแรงขึ้น หมายถึงว่า บางคนเวลาเจอความรักแล้วคิดได้ว่าหากผิดหวังเราก็ไม่ควรเสียใจกับความรักมากเกินไป ความรักมันก็จะดีกับคนนั้น ถ้ามัวแต่หลงมัวเมาหรือคิดอะไรด้านเดียวมันก็อาจจะเป็นพิษที่มาทำร้ายตัวของเราเอง
แล้วเซรุ่มอะไรที่คิดว่าต้านอนุภาพของพิษรักได้ ?
แป๋ม : มันก็คือความรัก
เมทัล : เหมือนหนามยอกเอาหนามบ่ง โดนความรักเข้าไปก็ต้องเอาความรักไปเยียวยา สุดท้ายมันก็อยู่ที่ตัวเราเอง
พกยาพิษติดตัวตลอดเวลาเลยหรือเปล่า ?
แป๋ม : มันอยู่ในกระแสเลือดค่ะ 555
สำหรับคนที่ยังไม่รู้จัก The poison อยากจะแนะนำอะไรกับเขา ?
เมทัล : ซิงเกิลแรกค่ะ เพลง Girl friends คือตอนนี้เรามี 2 ซิงเกิลแล้วค่ะ เพลงบอกถึงความเป็นเพื่อนกันของเรา เหมือนแบบผู้หญิงเราควรใช้เวลาอยู่กับเพื่อนผู้หญิงด้วยกันมากกว่า อย่าเพิ่งรีบไปมีแฟน
แป๋ม : เพลงนี้จะบ่งบอกความเป็นตัวตนของเรา เช่น อย่าไปเก็บตัวอ่านหนังสืออย่างเดียว อะไรอย่างนี้ อยากให้ออกมามันๆ กัน มาสนุกกัน มาอยู่กับเพื่อนๆ
กำลังจะบอกว่า รักไม่ยุ่งมุ่งแต่เรียน อย่างนั้นหรือ?
แป๋ม : เรียนก็อาจจะพักไว้ก่อนบ้าง แต่อยากให้ออกไปเที่ยว อยู่กับเพื่อนๆ อะไรอย่างนี้มากกว่าค่ะ
ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อน คือสิ่งที่ต้องการสื่อใช่ไหม ?
แป๋ม : ใช่ค่ะ ความเป็นเพื่อน การผูกพัน การใช้ชีวิต ออกไปหาอะไรใหม่ๆ ทำ
เมทัล : จริงๆ เน้นความสนุกเลยล่ะ ไม่ต้องไปสนใจอะไร แต่ก็ไม่ได้เดือดร้อนใคร คือเหมือนกับเพลง เราหาคำตอบได้ว่า ปกติเพลงมันจะเขียนขึ้นมาเพื่อให้ผู้หญิงให้ผู้ชายบ้าง ผู้ชายให้ผู้หญิงบ้าง หรืออย่างเพลงผู้ชายให้ผู้ชายอย่างเพื่อนกันจนวันตาย แต่มันยังไม่มีเพลงผู้หญิงให้ผู้หญิงมากเท่าไหร่ เหมือนเพลงนี้เขียนให้เพื่อนผู้หญิง
ถ้าเปลี่ยนจากเพื่อนหญิง มาเป็นความรักแบบหญิงกับหญิง จะเป็นอย่างไร ?
เมทัล : ก็ได้นะคะ
แป๋ม : คือจริงๆ ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้หญิงก็ได้ เป็นเพื่อนสาวก็ได้ คือไม่ว่าจะเป็นใครก็ได้หมด เหมือนเป็นมิตรภาพ
แสดงว่าผู้ชายไม่มีเอี่ยวกับเรื่องนี้เลย?
แป๋ม : มีค่ะ 555
เมทัล : มีท่อนหนึ่งร้องว่า Hey girl, look at that boy หมายความว่า ดูผู้ชายคนนั้นซิเขาน่ารักมากเลย แล้วเขาก็ส่งสายตามาให้ฉันด้วย แล้วแป๋มก็แบบว่าเตือนสติ เฮ้ย นี่เราออกมาเที่ยวกันนะโว้ย อย่าไปสนใจเรื่องอื่นซิ
ผู้ชายเป็นสิ่งต้องห้ามอย่างนั้นหรือ ?
แป๋ม : มันก็ไม่ขนาดนั้น
เมทัล : แค่เราอยากให้เห็น Relationship ของพวกเรามากว่า ไม่ได้หมายความว่าอันอื่นมันไม่ดี
นึกว่าไม่ชอบชายหนุ่มซะแล้ว ถ้าอย่างนั้นสเปกหนุ่มๆ เป็นแบบไหน ?
แป๋ม : หนูขอแค่เป็นคนดี หนูชอบผู้ชายอายุเยอะกว่าแต่ไม่ได้แก่ขนาดอายุ 60 (หัวเราะ) หมายถึงแบบที่เขาดูเป็นผู้ใหญ่ คือหนูเป็นคนชอบลุยๆ ขี่รถ แอดเวนเจอร์ ที่ที่มันมีกิจกรรมลุยๆ คือหนูชอบขี่รถ หนูก็อยากมีแฟนแบบที่เขาสามารถเข้าใจเราในสิ่งที่เราเป็น หนูอาจไม่ใช่ผู้หญิงที่ชอบเดินชอปปิ้งในห้างได้ตลอดเวลา หนูชอบออกขี่รถไปเที่ยวโน่นนั่นนี่บ้างแนวธรรมชาติ สรุปคือขอคนที่เข้าใจความเป็นอินดี้ฮาร์ดคอร์ คือไม่ต้องมาพิถีพิถันมาก 555
เมทัล : คือคุยแล้วไม่ต้องปรับจูนมาก คลิกกันง่ายๆ เหมือนเราเป็นตัวเอง ส่วนเขาเป็นตัวเขา คล้ายจิ๊กซอว์ที่ต่อกันพอดี ที่เป็นรูปเป็นร่างแบบนั้นอยู่แล้ว หนูคิดว่าคนเราต่อให้รักกันมากเท่าไหร่ ถ้าต้องมาปรับเข้าหากัน สุดท้ายยังไงคนเรามันไม่สามารถเปลี่ยนนิสัยลึกๆ ของตัวเองได้ แล้วมันหายาก ถ้าเจอคนแบบนั้นจะโอ้โหดีมาก คือไม่ชอบเปลี่ยนใครให้เป็นอย่างนั้น อย่างเขาชอบแข่งรถ แต่หนูไม่ชอบ หนูก็จะไม่เปลี่ยนเขา ก็เหมือนกับแป๋ม คือชอบคนที่เป็นคนดี ถ้าเจอกันไม่ต้องปรับมากแล้วรู้สึกดีไปเรื่อยๆ มันก็น่าจะดี
สุภาพบุรุษแนวตระกูลจุฑาเทพก็หมดสิทธิ์ซินะ ?
แป๋ม : 555 สุภาพ มีบ้างก็ดีนะ
เมทัล : คือไม่ใช่ว่ามาฮาร์ดคอร์อย่างเดียว แต่คือขอให้เข้าใจว่าเราชอบแบบนี้ เขารับได้ เขาไปกับเราได้ เพราะพ่อหนูก็เลี้ยงแบบฮาร์ดคอร์ ไม่ค่อยโอ๋ แบบลูกคุณหนู เขาก็ดูแลดี แต่ไม่ได้มาประเคนทุกสิ่งอย่างให้ เขาจะให้เราใช้ชีวิตแบบให้ดูแลตัวเองได้
สาวส่วนใหญ่มักพ่ายหนุ่มขี้เอาใจ แล้ว 2 สาวอินดี้ฮาร์ดคอร์ชอบหนุ่มอย่างนี้หรือเปล่า?
เมทัล : ชอบ แต่แบบต้องพอดีๆ ไม่มากไปน้อยไป เราเรียนรู้ใจกัน ประมาณว่าคือผู้หญิงแบบเราสามารถดูแลตัวเองได้อยู่แล้วระดับหนึ่ง เราไม่ได้ต้องการให้เขาคอยไปรับไปส่งทุกที่ เพียงแต่ว่าอยากให้เขาดูแลความรู้สึก รู้ว่าเราอ่อนแอช่วงไหนเวลาไหน
แป๋ม : ไม่ต้องพูดอะไรมากเหมือนเข้าใจความรู้สึกลึกๆ กัน ใส่ใจความรู้สึก
ซิงเกิลแรกพูดถึงความสนุกกับชีวิตเพื่อนฝูง แล้วเพลงชิ้นต่อไปพูดเกี่ยวกับเรื่องอะไร ?
แป๋ม : เหมือนย้อนกับไปยุค50s อย่างที่บอกวงเราเป็นผู้หญิงที่ชอบแนวแฟชั่นแล้วก็เท่ๆ ด้วย เพราะเรื่องแฟชั่นกับดนตรีมันมาคู่ตลอด เพลงนี้ก็เลยเป็นไอเดียขึ้นมาว่าอยากทำอะไรแบบมันๆ เหมือนเดิม แต่จะให้ทำแบบร็อกๆ อีกจะน่าเบื่อไหม ก็ลองย้อนยุคกลับไป ในช่วงยุคนั้นก็จะมี มาริลิน มอนโร เจมส์ ดีน พวกคนต้นแบบที่เดี๋ยวนี้เขานิยมเอาเป็นไอดอล แล้วเพลงนี้พูดถึง อินสปายเรชัน ด้วย ไม่ว่าใครจะเป็นยังไง ไม่ว่าใครจะแต่งตัวอย่างไร ก็อยากให้เป็นตัวของตัวเอง ขอให้ตัวเองมีความสุขกับสิ่งที่ทำ
มีกระโปงเปิดแบบ มาริลิน มอนโร ไหม ?
แป๋ม : มี หนูทำเอง เอาพัดลมเป่า 555 เอ็มวีทำ แบบสนุกมาก ต้องดู มันดูแปลกใหม่ดี
เห็นว่าทั้งสามคนจะมีไอดอลเป็นคนเดียวกัน คือวง queen วงดนตรีชื่อดังแห่งเกาะอังกฤษ ?
เมทัล : หนูชอบ แป๋มก็ชอบ สายพ่อแม่เราแบบเลี้ยงมาด้วยการเล่นดนตรี แล้วเราก็ชอบร็อกคลาสสิก เช่นลูกโซโล่กีตาร์ ของเพลงร็อกก็พัฒนามาจากคลาสสิก สมมติว่าเราเป็นนักดนตรีเราฟังจริงๆ วงร็อกเก่าๆ การโซโล่ของเขาจะเป็นคลาสสิกทั้งนั้นเลย เดี๋ยวนี้มันก็พัฒนาขึ้นไปอีก เป็นสเกล เป็นอะไรที่แบบพัฒนาไป แต่ว่าต้นกำเนิดของร็อกจริงๆ มันก็มาจากคลาสสิก
แป๋ม : คือมันชัดเจนในเพลง หนูเคยลองแกะเพลงวงควีนเล่น โอ้โห ปวดหัวเลย ทุกเม็ด ทุกรายละเอียด มันไม่ได้แบบทำลวกๆ กว่าจะได้มาแต่ละห้องแต่ละโน้ต
แล้วอะไรที่ทำให้เราชื่นชอบ 4 หนุ่มวง queen เป็นพิเศษ ?
เมทัล : ก็เพราะเป็นร็อกคลาสสิกเนี่ยล่ะ หนูชอบสไตล์เพลง ฟังเพลงหนึ่งเหมือนฟัง 10 เพลงสมัยนี้ รายละเอียดมันเยอะมาก คือคนสมัยนี้ทำเพลงให้คนฟังอย่างเดียว แต่ว่าคนสมัยก่อนเขาทำเพลงที่เป็นตัวตนที่ทำให้คนฟังได้ด้วย เหมือนคนสมัยนี้ความเป็นตัวตนลดน้อยลงไป เพราะว่าอิงกับการตลาด โดยลืมว่าตัวตนเราคืออะไร มัวแต่คิดว่าเพลงนี้จะโดนมั้ยๆ แต่ไม่ได้คิดว่าตัวเองชอบแบบไหน คือควีนทำได้แบบเป็นตัวเองมากๆ แล้วก็ทำให้คนชอบได้อีกด้วย อัจฉริยะ
แป๋ม : บางทีคิดถึงว่าคนอื่นจะชอบมั้ย หรืออะไร ทุกวันนี้คนก็ยอมรับว่า ในความเก่งในความเป็นตัวตัวของควีน เหมือนแบบอะไรที่มันอยู่ในอินเนอร์มันก็จะอยู่ได้นาน มันก็จะดำเนินของมันไป ที่สังเกต เคที่ เพอร์รี่ เลดี้กาก้า ไอดอลเขาก็เป็นควีนเหมือนกัน ถ้าสังเกตเพลงเขาก็จะมีรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ในเพลง อย่าง เลดี้ กาก้า คนนี้ก็ดนตรีหนักเหมือนกันแต่เป็นอิเล็กโทนกว่า เลดี้ กาก้า ก็ออกแนวควีนเหมือนกันนะ อัลบัมล่าสุดถ้าเราฟังโน้ตคือเขาใส่รายละเอียดเยอะ เขามีไอดอลแต่เขาก็ดึงความเป็นตัวเองออกมา
สุดท้ายถ้าเลือกได้เราอยากเป็น “คิง” หรือ “ควีน” ?
แป๋ม : 555 เลือกได้อยากเป็น ควีน หรือ คิง พี่ต้องถามในฐานะที่หนูเป็นผู้ชายแล้วล่ะ 555 แต่หนูเป็นผู้หญิงนะ ถ้าหนูเป็นผู้ชาย เราขอเป็นควีนแล้วกัน เพราะเราชอบชื่อควีน
เมทัล : ส่วนหนูเป็นทั้งคิงและควีนเลย 555 ถ้าหนูเป็นผู้ชาย ไหนๆ จะเป็นแล้วเราต้องเอาให้สุดอ่ะ เดี๋ยวนี้ดูยากด้วยว่าใครเป็นคิงใครเป็นควีน ได้ 2 แบบเลย (หัวเราะ)
เพจพลอย-พบพร เอื้อกิจธโรปกรณ์ หนึ่งในสมาชิกThe Poison ที่ไม่ได้อยู่ร่วมวงสนทนาในวันนี้
อยากให้พูดอะไรถึงเพจพลอยหน่อย ?
เมทัล : เขาเป็นผู้หญิงที่เท่มาก การใช้ชีวิตเขาคือแบบเท่แมนๆ พลอยมีไอดอลมีแรงบันดาลใจ จากแนว กรันจ์ พังก์ หรือวงเนอร์วาน่า อย่างนี้ชัดเจนอยู่แล้ว ไม่ได้เป็นหลังเข้าค่าย เขาเป็นตั้งแต่ก่อนหน้านั้นอยู่แล้ว
แป๋ม : สไตล์เขาก็จะแต่งตัวแบบนั้น เป็นเหมือนอินดี้ แต่งเพลงเอง แต่งไว้เยอะมาก คือเขาจะใช้ชีวิตอยู่ในสายดนตรีมาตลอด แล้วเขาก็เคยเล่นดนตรีที่ผับที่เป็นอินดี้ เขาก็มีชื่อเสียงด้านอินดี้ด้วยตอนนั้น ลงนิตยสารเกี่ยวกับอินดี้ คือเขาชัดเจน อินสปายเรชัน ของดนตรีเขามาตั้งแต่ตอนนั้นจนตอนนี้