ไขกุญแจแหย่ความคิด “เอิร์ก-องอาจ เลเดอเรอร์” เจ้าของเอ็มวีเพลงที่กำลังตกเป็น “จำเลย” ของสังคม (อีกแล้ว) อย่าง “สักดอก…นะ” พร้อมฟังเบื้องหลังแนวคิดเอ็มวีสุดสยิวที่แทบทุกคนลงมติเป็นเอกฉันท์กันไปแล้วว่าเป็นเอ็มวีที่เอ็กซ์ที่สุดแห่งปี หรือหากจะมีเห็นต่างออกไปบ้าง ก็คงว่า เป็นเอ็มวีที่ “อนาจารที่สุด” แห่งปี ได้เช่นกัน!!
บอกกล่าวแบบสั้นๆ ว่า บุรุษผู้นี้ก็คือ ผู้กำกับ ผู้ขับร้อง และผู้สร้างสรรค์เนื้อนมไข่ ใส่หม้อผลงานเอ็มวีเพลงสุดวาบหวิว อันขึ้นชื่อลือชาที่กล่าวไปข้างต้น ชนิดที่เบียดแซงท่าเกาคันๆ และกางเกงนุ่งสั้นเสมอหูชิดซ้ายไปได้เลย
“ใครจะว่าเอิร์กไม่ได้ เพราะเอิร์กไม่ได้ทำอนาจาร” คำตอบของคำถามแรกที่เจ้าตัวเปล่งออกมาด้วยวาจาที่เปี่ยมความมั่นใจและรอยยิ้ม หลังจากที่เขาโดนกระหน่ำจากเสียงวิพากษ์วิจารณ์หนาหู
อะไรที่ทำให้เขาเป็น? อะไรที่ทำให้เขาอยู่ ? และอะไรที่คือเขา…คือนับเบอร์วันภาพประกอบเพลงสยิว เราจะพาคุณไปแหวกกลีบความคิดเจ้าของเอ็มวีอล่างอะร้า
ทำแม่นางทั้งห้าให้ว่าง และสาวเมาส์คลิกลากยาวๆ ไปพร้อมกัน…
“โป๊” ไหมพี่ “โป๊” ไหม?
อาจไม่ใช่เรื่องใหม่ใหญ่โตอะไร กับการใช้ความ “เซ็กซี่” ของผู้หญิง มาเป็นจุดขาย แต่ว่าก็ว่าเรื่องราวคาวโลกีย์ มักจะได้รับความสนใจจากผู้คนในสังคมอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน และนั้นเองเป็นสิ่งที่ทำให้เกิด “กระแส” อย่างที่เราเห็นได้ไม่เว้นกระทั่งแวดวงดนตรีลูกทุ่ง ที่ขึ้นชื่อว่าเป็น “เอกลักษณ์” ของ “ไทย”
“จริงๆ เพลงแรกที่โป๊ เนื่องจากว่าไม่ได้ตั้งใจให้โป๊ตั้งแต่แรก ไม่ใช่ว่าต้องทำเอ็มวีให้โป๊ที่สุด ถึงจะดัง คนต้องดูเป็นล้านแน่ เราต้องทำอย่างนั้น ไม่ใช่ แต่แรงบันดาลใจเกิดจากการขายครีม” เจ้าพ่อเอ็มวีสยิวเริ่มต้นเล่า พร้อมกล่าวถึงที่มาว่า แรกเริ่มเดิมที่เพลงและเอ็มวี “เป๊ะ” ไม่ได้ถูกทำขึ้นเพื่อมีจุดประสงค์ทางด้านศิลปิน เพียงแต่ทำเพื่อขายครีมของตนเองเท่านั้น แต่ด้วยความสามารถที่เคยเป็นนักร้องลุกทุ่งนาม 'สยามคันทรี่' มาก่อน จึงนำทั้งความฝันและธุรกิจมาผสมรวมกัน
“เพลงเป๊ะถูกแต่งมาเพื่อครีม จริงๆ เป็นเพลงกึ่งโฆษณา ณ ตอนแรกเลย คือเราไทอิน(Tie in)ครีมให้เห็นนิดหนึ่ง แค่ 5 วินาที ช่วงมิวกี้เทนม เท่านั้นเลย
“ส่วนภาพที่ออกมาทำไมต้องเซ็กซี่ ทำไมต้องเป็นผู้หญิงใส่ชุดชั้นใน ก็เพราะว่าเนื่องจากเราขายครีม ขายวิตามิน เราก็ต้องโชว์ความสวยของผู้หญิง มันก็คือเรื่องของ 'เรือนร่าง' 'ผิวพรรณ' นั้นคือที่มาของการเกิดเอ็มวีเซ็กซี่”
แล้วเพลง “สักดอก…นะ” ถูกทำขึ้นเพื่อเหตุประสงค์กลใด เราถาม
“เราต้องการตอบโจทย์ของคนทั้งประเทศ ที่เรียกร้องมาในคอมเม้นท์เพลง 'เป๊ะ' ทั้งหมด เป็นพันๆ คอมเม้นท์ในยูทูบ เอามาตีโจทย์เพลง 'สักดอก…นะ' เพราะเขาถามว่า ความเป็นไทยอยู่ไหน ไม่เห็นมีเลย ความเป็นลูกทุ่งอยู่ไหน ไม่เห็นมีเลย ความอนุรักษ์ก็ไม่มี เราก็เลยจัดเต็มมาในเพลงนี้”
ใครหลายคนคงจะได้ลิ้มชิมรสเอ็มวี 'สักดอก…นะ' เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เรียกได้ว่าประชดตามคำขอ ในเรื่องของความเป็น “ไทย” ความเป็น “ลูกทุ่ง” ที่ถูกนำมาผสมผสานเข้ากับความ “เซ็กซี่” ตามแบบฉบับ”เลเดอเรอร์” ได้อร่างฉางจริงๆ
“คนไทยจะชอบบอกว่าอันนี้ไม่เหมาะสม เพราะว่ามันค่อนข้างจะเซ็กซี่แล้วเป็นเพลงลูกทุ่งด้วย แต่จริงๆ แล้วคนไทยลืมไปว่าพื้นเพความเป็นลูกทุ่ง หมายถึงรากเหง้าสมัยก่อนเซ็กซี่มาก แม้กระทั่งการแต่งกายในสมัยโบราณ คือนุ่งเกาะอก นุ่งตะเบงมาน”
“เอิร์กทำออกมาเพื่อเอาใจคนทั้งประเทศ ไม่ใช่เอาใจตัวเอง” ลูกทุ่งหนุ่มยีนยัน ก่อนบอกว่า “คือคนจะมาด่าไม่ได้แล้ว เพราะทุกคนเรียกร้องเอง”
อนาจาร – ศิลปะ?
ขึ้นอยู่กับทัศนวิสัย
อาจเรียกได้ว่าเป็น “อุบัติการณ์” ของเอ็มวีเซ็กซี่ที่โด่งดังที่สุด ฉาวโฉ่วและเร้าอารมณ์ที่สุดก็เป็นได้ เมื่อหลังจาก “เป๊ะ” ได้ถูกปล่อยออกมาในวันพุธ ที่13 กุมภาพันธ์ 2556 เพียงแค่คืนเดียว ยอดคลิกชมจากทั่วสารทิศกว่าครึ่งแสน ครึ่งล้าน และหลักล้าน ก็วิ่งไล่ตามกันมาติดๆ ในระยะเวลาไม่นานนัก นี้ยังไม่นับเอ็มวี “สักดอก…นะ” ที่กำลังเริ่มเขย่าความหวิว เรียกน้ำ ครั้งสองครั้ง เท่านั้น
แน่นอนว่า ถ้าไล่เรียงตั้งแต่ เป๊ะ จนถึง สักดอก…นะ สิ่งที่ถูกถามถึงจากสังคม คงไม่พ้นความถูก-ผิด ในทิศทาง “ศิลปะ” บนขวากนาม “อนาจาร” ซึ่งก่ำกึ่งชนิดเส้นยาแดงผ่าแปด และความเหมาะสมบนบาทวิถีไทย
“เอิร์กไม่ได้มองว่ามันเสื่อมเลย จริงๆ แล้วถ้าสมมุติว่าเอ็มวีเรามีการร่วมเพศ หรือมีผู้ชายกับผู้หญิงประกบกัน ก็ว่าไปอย่าง อย่างนั้นเอิร์กยอมรับว่าอนาจาร แต่เอ็มวีเรามันไม่ดูอนาจารมันเป็นเป็นศิลปะมากกว่า
“คำว่าศิลปะสำหรับเอิร์ก ในที่นี้คือ ถ้ามองในทางเรื่องของรูปร่างเพศหญิง ผู้หญิงที่สวย เพอร์เฟคต์ ทุกสัดส่วน ก็จะไม่มีคำว่าอนาจาร แต่ภาพที่ออกมาดูอนาจารก็คือผู้หญิงที่ไม่ 'เป๊ะ' คือออกมาแล้วมันอนาจารในความรู้สึกเรา
“คือเราไม่ให้เห็นในสิ่งที่คนไทยรับไม่ได้ อย่างชุดชั้นใน กางใน คนไทยรับได้ ถ้าบอกว่ารับไม่ได้มันไม่ใช่แล้ว ในเมื่อขนาดประกวดนางสาวไทยนางงามระดับประเทศ เขายังเดินใส่ชั้นในบนเวทีเลย นับประสาอะไรกับเราที่อยู่ในเอ็มวี ไม่ได้มาโชว์ของจริงด้วยซ้ำ”
แต่กระนั้นลูกทุ่งหนุ่มยอมรับว่า หากจะดังได้ในวงการนี้ ต้องฉาวโฉวเท่านั้น เพียงแต่ว่าต้องอยู่ในขอบเขตที่พอเหมาะพอดี
“ทุกอย่างมันผ่านการคิดมาเป็นอย่างดีแล้ว ไม่ใช่ว่าไม่ทันคิดหรือว่าทำอะไรฉาบฉวย แต่เราได้คิดมาเป็นอย่างดีแล้ว ว่ามันเหมาะสม
“อย่างเช่นฉาก ที่กินกล้วย ฉากที่ราดนม ถ้าเอิกร์พูดตอนนี้ก็เหมือนแถนะ ถ้าจะแก้ตัวตอนนี้ แต่จริงๆ เราคิดมาว่า ผู้หญิงสวยอย่างไรบ้างในการกิน ที่ไม่ใช่เรื่องของการกินวิตามีน หรือการทาครีมอย่างเดียว มันต้องกินอะไรที่มีประโยชน์ช่วยด้วย
“เราก็เลยคิดว่า อะไรที่กินแล้วได้ครบคุณสมบัติ ซึ่งมันก็คือ 'กินกล้วย' กล้วยทำให้ผิวใส ระบบขับถ่ายดี ผิวพรรณก็เปล่งปลั่ง แล้วก็ 'นม' การกินนมก็ทำให้ผิวสวย แต่ทำไมต้องราดนม ทำไมต้องกินกล้วยท่านั้น อันนี้คือเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ซึ่งเอิร์กตั้งใจ เนื่องจากว่าถ้าเรานำเสนอในรูปแบบธรรมดา ใครจะดู คือเราต้องยอมรับเลยว่าทำออกมาอย่างนั้นจริงๆ เพราะ เมืองไทยยิ่งฉาวยิ่งดัง เราก็เลย 2แง่ 2ง่ามนิดหนึ่งแล้วกัน”
เจ้าของเอ็มวีกล่าวเสริมอีกว่า “มันคือความบันเทิงมากกว่า คนที่ด่า เขามองลึกเกินไป แสดงว่าใจจริงจิตใจคุณคิดอะไรมากกว่าเรา เพราะเราทำเราไม่ได้คิดตรงนั้น เราคิดว่ามันสวยงาม แต่คุณกลับมองอย่างนั้น คุณคิดลึกไปหรือเปล่า”
ท่ามกลางเสียงก่นด่าจากสังคมเบื้องหน้า ขณะเดียวกันก็มีผู้นิยมชมชอบสวนทางโดยสิ้นเชิงในโลกไซเบอร์ จากยอด'ไลค์' (Like) ที่แซงลิ่วยอด 'อันไลค์' (Unlike) ชนิดไม่เห็นฝุ่นให้ตาม และสิ่งนี้เองที่ทำให้เขาเลือกที่จะเดินหน้าต่อไป
“มันทำให้รู้ว่าจริงๆ หมายถึงคนไทย ไม่ใช่ทุกคน แต่คือคนที่เขาว่าไม่ดี อารมณ์เป็นแบบ 'ปากว่าตาขยิบ' มากกว่า คือ ด่าๆ ว่าๆ แต่จริงๆ นั้นชอบ ไม่อย่างนั้นยอด 'ไลค์' มันจะเยอะขนาดนั้นได้อย่างไรครับ”
“แล้วอีกอย่างจะวัดได้อย่างไรว่าคนเกลียด ในเมื่อยอดดาวน์โหลด เอ็มวีเป๊ะ ได้เงินเป็นหลักล้าน แถมยอดวิวในยูทูบก็เป็นล้านๆ วิว ไม่อย่างนั้นเพลง สักดอก…นะ คงไม่มีทางเกิดขึ้นมาได้แน่ๆ” นักร้องหนุ่มกล่าว พร้อมเสริมอีกว่า สิ่งที่ทำให้รู้ว่า เอ็มวี 'เป๊ะ' ไม่โดน “แบน” หลังจากที่ปล่อยออกสู่สายตาสาธารณะชนเพียงข้ามคืนแล้วเกิด “คลิก” เข้ารับชมไม่ได้ คือการที่ค่ายเพลงลูกทุ่งติดต่อขอเอ็มวีไปออกอากาศ
“เอ็มวีเป๊ะ เอิร์กปล่อยขำๆ เพราะเอิร์กไม่มีช่องทางอยู่แล้ว และก็คิดว่าช่องลูกทุ่งเขาคงจะไม่เปิดหากเราส่งไป แต่พอปล่อยทางยูทูบภายในเวลาแค่4ชั่วโมง ยอดวิวเป็นแสน ซึ่งมีแค่ช่องยูทูบเท่านั้นเอง แล้ววันต่อมาช่องลูกทุ่งก็โทรมาขอ ซึ่งมันทำให้รู้ว่าเป๊ะไม่ได้โดนแบน แต่ที่เอ็มวีในยูทูบโดนบล็อกให้ดูไม่ได้เพราะว่าเนื่องจากคนรายงานเข้าไปเยอะ ซึ่งยูทูบคนรายงานแค่ 30คนก็โดนบล็อกแล้ว”
น้ำพริก “เก่า” ในถ้วยใบ “ใหม่”
อาจถือเป็นเรื่องปกติ ของคนเจเนอเรชั่น “หลังยุคสมัยใหม่” ที่ย่อมต้องต่อยตีกับความคิด ความเชื่อ “เดิม” และหากหลีกเลี่ยงก็มักจะโดนเหมารวมว่า “ไม่ถูก-ไม่ควร” ดังที่ปรากฏเสียงพูดถึงจุดเด่นจุดด้อยของคนในรุ่นแต่ละรุ่น ถึงความแตกต่างทางรูปแบบชีวิตที่ไม่เหมือนกัน อันนำมาซึ่งการตัดสิน “ถูก-ผิด” ของยุคสมัย
“คือต้องการถามว่าคนไทยคิดว่า อะไรที่ถูกที่ผิด อะไรที่เรียกว่าถูก อะไรที่เรียกว่าผิด มันไม่มีนะครับ ทุกคนกำหนดขึ้นมาเองทั้งนั้น ตั้งแต่แรก ขอถามหน่อยว่าถ้าสมมติ คนไม่กำหนดการโชว์เรือนร่าง เป็นสิ่งที่โป๊ หรือไม่เหมาะสม ตั้งแต่แรก ก็คือจะไม่มีเหตุการณ์เหล่านี้ หรือพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ คือมันอยู่ที่คนแรกเริ่มกำหนดมาอย่างไรมากกว่า มนุษย์จริงๆ ก็คือสิ่งมีชีวิตบนโลกเท่านั้นเอง
“เอิร์กอยากให้มองอย่างนั้นมากกว่า อยากให้มองว่าต่างคนต่างหน้าที่ ถ้าคุณจะอนุรักษ์ไว้ เอาง่ายๆ เหมือนคนที่สร้างบ้านทรงไทยหรือคนที่อยากอยู่บ้านทรงไทยในต่างจังหวัด คุณก็อยู่ไป คนที่สร้างบ้านคอนโดตึกระฟ้า คุณก็อยู่ไป ก็แล้วแต่มุมมองของแต่ละคน สุดท้ายคุณอยากอยู่กับที่หรือคุณอยากจะอนุรักษ์ก็อยู่ไป แต่เราจะก้าวหน้า เราก็นำล้ำไป มันก็แค่นั้น”
นักร้องหนุ่ม แนะนำว่า “ถ้าสมมุติว่ามันเข้ากันไม่ได้มันก็ต้องแบ่ง คุณก็เลือกรับสื่อได้ ถ้าคุณไม่ชอบเรา คุณก็ไม่ต้องเปิดรับ ไม่ต้องเพิ่มยอดวิวให้เรา”
“ที่บอกว่าผิด มันผิดตรงไหน ขนาดนักร้องที่มายืนเกาไปร้องเพลงไป เขายังก้าวมาเป็นศิลปินได้ แล้วอันนั้นไม่อนาจารเหรอ อันนั้นคือโชว์ต่อหน้าสาธารณชนเลย แต่เราไม่ได้ทำอะไรเลย เราถ่ายทำในบ้าน เราโชว์เรือนร่าง แล้วเราไม่ได้ทำอะไรในท่าที่มันอนาจารเลยด้วยซ้ำ ทำไมเราจะเกิดไม่ได้ ทำไมเราจะอยู่ตรงนั้นไม่ได้”
“ไม่กลัวเลย จริงๆ อยากโดนแบน เพราะยิ่งโดนแบนคนยิ่งอยากดู” นักร้องหนุ่มยิ้มยืนยันคำตอบที่เราถามว่า “กลัวที่ทำมาทั้งหมดศูนย์เปล่า เพราะโดนแบนหรือไม่”
จะว่าไป กระแสเพลงลูกทุ่งเซ็กซี่ก็มีมานานระดับหนึ่ง แรกๆ ก็เป็นข่าวฉาว พอสักระยะก็กลายเป็นเทรนด์ที่สังคมต่างยอมรับได้ และนำมาปฏิบัติกันล้นลามในบ้างอิริยาบถด้วยซ้ำ
“เอิร์กกล้าพูดว่า ค่ายเพลงใหญ่ๆ ค่ายเพลงที่มีครูเพลงระดับปรมาจารย์ต่างๆ ที่คอยแต่งเพลง ควบคุมเพลง ถึงกล้าปล่อยเพลงที่ผิดมาตรฐานออกมา ผิดหลักภาษาไทยบ้าง ทั้งนุ่งสั้นบ้าง ออกมา แล้วทำไมคุณถึงไม่ผิด”
“ทำไมคุณไม่แบนตัวเอง ทำไมคุณไม่ว่ากันเอง ทำไมคุณถึงจะมาแบนค่ายที่พึ่งเกิดใหม่ ถ้าเราไม่เป็นกระแสขึ้นมา คุณก็จะไม่ว่าใช่ไหม” ลูกทุ่งหนุ่มย้อนเป็นคำถามทิ้งท้าย
เรื่อง : รัชพล ธนศุทธิสกุล
เอิร์กจัดหนัก 'สักดอก…นะ' เอ็มวีที่จะเอ็กซ์ที่สุดแห่งปี!!
