Marsmag.net

โมเดลสาวซีซีแรงสูง : แอนนี่-ปริศนา

ในแวดวงของคนที่ชอบความเร็วสองล้อของมอเตอร์ไซค์ที่เรียกว่า “บิ๊กไบค์” แน่นอนว่าต้องรู้จักเธอ เพราะเธอกำลังโด่งดังที่สุด ณ โมงยามนี้ “แอนนี่-ปริศนา ปัญญาศิรินุกูล” ด้วยความสวยเซ็กซี่ดีกรีนางแบบระดับเธอ เมื่อร่วมเรียงเคียงทางคู่กับเจ้ายักษ์เบิ้มบิ๊กไบค์ ทำให้เธอกลายเป็นขวัญใจน้อยใหญ่หนุ่มๆ ทั้งทางรักและทางรถ

เราเชื่อว่าทุกการกระทำย่อมมีความคิดเป็นแรงผลัก แล้วเธอมีหลักอย่างไรในการเป็นสาวซิ่ง ผู้หญิงกับความเร็วเป็นของคู่กันหรือไม่ และก่อนจะเฟี้ยวเปรี้ยวเท่เป็นสาวเก่งอย่างนี้ได้เพราะอะไร

ช่วงสายๆ ของวันสบายๆ เราจึงพาตัวเองเข้าสู่โลกของ The Fast and the Furious ของแอนนี่สาวซิ่งบิ๊กไบค์ผู้นี้

คำเตือน : กรุณาสวมหมวกกันน็อกให้พร้อม เพราะคุณอาจจะโดนร็อกนัก-รักน็อกได้เช่นเดียวกับเรา…

สวย เซ็กซี่ บนวิถีซูเปอร์ไฮเวย์

“มันสวนทางกันเนอะ ผู้หญิงกับบิ๊กไบค์ แต่แอนคิดว่ามันลงตัวนะ ผู้หญิงสวยเซ็กซี่ขี่บิ๊กไบค์ เพราะบิ๊กไบค์มันเป็นอะไรที่เฉี่ยว เปรี้ยว เท่ มันคู่กับผู้หญิงอยู่แล้ว” นางแบบสาวสิงห์นักบิดจากแดนล้านนา -เชียงใหม่- บอกกล่าวเล่าถึงถนนชีวิตที่ดูเหมือนจะสวนเลนกันอย่างสิ้นเชิง แต่มันกลับลงตัวสำหรับเธอ

แต่กว่าจะ “ลงตัว” จนเธอสามารถแล่นฉิวอย่างที่บอก ขึ้นชื่อว่าถนน แน่นอนว่ามันไม่ได้มีแค่ทางตรงตลอดสาย เพราะทางโค้งคดเคี้ยว ขรุขระและลาดชัน คือสิ่งที่เธอต้องตะลุยวิ่งฝ่าเพียงลำพังนับสิบปี

“ชีวิตมันไม่ได้ราบเรียบโรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอ เราก็ล้มลุกคลุกคลานมา ผิดบ้างถูกบ้าง เราต้องรู้ตัวเอง เราต้องรู้ว่าเราอยู่จุดไหน เราต้องรู้ว่าเราเป็นใคร เราต้องรู้ว่าเราทำอะไรอยู่ ควรจะหยุดหรือควรจะกลับ คือเราเท่านั้นที่จะรู้และประคับประคองตัวของเรา” เธอเผย ก่อนเล่าเสริมว่า นับตั้งแต่คุณพ่อของเธอเสียตอนอายุ 2 ขวบ คุณแม่จึงเปรียบเสมือนเป็นทั้งพ่อและแม่ในเวลาเดียวกัน ดังนั้น นิสัยจิตใจของเธอแม้จะเป็นเหมือนผู้หญิงทั่วไป คือรักสวยรักงาม ชอบแฟชั่น ชอบแต่งตัว แต่ก็แอบซ่อนความแข็งแกร่งแบบผู้ชายไว้ข้างในด้วย

“คุณแม่เลี้ยงแอนมาคนเดียว ดังนั้น ลักษณะการสอนของท่านก็จะสอนเราเหมือนเด็กผู้หญิงด้วย และก็เหมือนเด็กผู้ชายด้วย เพราะเราเป็นผู้หญิงทั้งคู่ ต้องคอยดูแลกัน ท่านก็เลยสอนให้เราดูแลตัวเองได้ สอนให้เราแข็งแกร่ง ให้เราซ่อมไฟเป็น ซ่อมก๊อกน้ำเป็น ทำงานเป็น ซึ่งก่อนหน้าที่คุณแม่จะเสีย ท่านไม่ค่อยสบาย แอนก็ต้องเรียนไปด้วยทำงานไปด้วย จำได้ว่าตอนนั้นช่วง ม.3 ก็ไปเรียนชกมวย เพื่อชกหาเงินมาให้แม่ คือเริ่มหาเงิน เพราะคุณแม่จะสอนเสมอว่าให้คิด ให้ทำ โดยไม่ต้องรอให้บอก”

และจะด้วยโชคชะตาความบังเอิญ หรือเพราะแววความสวยที่ซ่อนอยู่ในเรือนกายกำลังสะพรั่ง เธอเองก็ยอมรับว่าตอบไม่ได้ถนัดคำนัก แต่นั่นก็คงมีมากพอที่ทำให้แมวมองเล็งเห็นจนชักชวนไปสู่ถนนแห่งความสวยความงาม…“ตอนนั้นต่อยมวย มันทำให้เรารูปร่างดี เรากำลังจะเป็นสาวด้วย ก็เริ่มดูแลผิวพรรณหน้าตา บังเอิญมีคนเห็นแววชวนไปทำงานพริตตี้กับถ่ายแบบ

“เหมือนเป็นการเปลี่ยนแปลงชีวิต มันทำให้เราโตขึ้น” เธอว่าพร้อมกับยิ้ม ส่งความฝันแรกที่ประสบความสำเร็จ แม้จะเหนื่อยบ้าง ท้อบ้าง หรือกระทั่งแอบร้องไห้ ในบางเวลาที่เจอมรสุมรุมเร้าในชีวิตตัวคนเดียว แต่สิ่งหนึ่งที่เธอบอกว่าเป็นดั่งเข็มทิศนำทางคือคำสอนของแม่ และคำคมชีวิตที่เขียนไว้เตือนใจตัวเองว่า “ไม่ต้องบินให้สูงอย่างใครเขา จงบินเอาเท่าที่เราจะบินไหว ท่าที่บินไม่จำเป็นต้องเหมือนใคร แต่บินไปให้ถึงฝันเท่านั้นพอ”

ฉะนั้น หลังจากการก่อร่างสร้างตัวอยู่พักใหญ่ “ความฝัน” ที่สองก็ถูกสอยให้ร่วงหล่นลงมา…“จริงๆ ชอบตั้งแต่เด็กแล้วค่ะ แต่เหมือนยังไม่มีกำลังซื้อมาขี่ ก็เพิ่งจะเริ่มซื้อมาขี่เมื่อ 3 ปีก่อน” เธอยิ้มพลางชี้ไปที่เจ้าสองล้อคันเขื่องที่เรียกว่า “บิ๊กไบค์”

“แรกๆ ไม่มั่นใจตัวเองนะ แต่อาศัยว่าอยากขี่ แล้วก็เหมือนมีคนมาสบประมาทด้วยว่าขี่ไม่ได้หรอก มันใหญ่ มันหนัก เราตัวเล็กนิดเดียว เราก็อยากลบคำสบประมาท อยากพิสูจน์ว่าเราขี่ได้นะ

“วันที่ซื้อมา รู้สึกว่ามันใหญ่มาก ซื้อมาทั้งที่ยังขี่ไม่ได้เลย ต้องให้เพื่อนขี่กลับมาจอดทิ้งไว้ให้ (หัวเราะ) คือไม่ใช่เราไม่มีพื้นฐาน พื้นฐานเรามี เราขับมอเตอร์ไซค์มีคลาสได้ก็จริง แต่มันไม่มั่นใจในตัวเองเลย เพราะมันใหญ่มาก ตอนนั้นยังนึกในใจอยู่เลยว่า 'แล้วจะซื้อมาทำไมเนี่ย' (หัวเราะ) สุดท้ายวันหนึ่งก็เลยลุกขึ้นมาขี่”

การอยู่หลังอานบังคับสารถีสองล้อยักษ์คันแรก สีสันแห่งชีวิตที่เรียกว่าประสบการณ์ก็พลันปรากฏ “เขียวทั้งตัวเต็มไปหมด สองสามวันแรก ล้มแปะๆ ขนาดถอยยังล้มเลย” เธอพลางเอามือลูบตัว ขณะที่สีหน้าครุ่นคำนึง “มันเหมือนเราหลุดไปอีกโลกหนึ่ง ซึ่งเป็นโลกของเรา มีแต่เราคนเดียว เราสามารถไปไหน หรือทำอะไรก็ได้” เธอว่า

“ถ้าถามว่าโดยรวมทั้งหมดทั้งมวล ผู้หญิงกับบิ๊กไบค์มารวมกันได้อย่างไร แอนว่ามันขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน ผู้หญิงคนอื่นก็ทำได้ถ้าเขาชอบ เขาพยายาม มันก็เกิดขึ้นได้ ขนาดเวลาขี่ออกทริป ยังมีเครื่องสำอางอยู่ใต้รถ ขนตานี่งอนเชียว (หัวเราะ) คือเรื่องแบบนี้สำหรับแอนมันต้องไปด้วยกัน มันเป็นความสุขของเรา เราชอบ อย่างถ่ายแบบเราก็ชอบ ขี่รถเราก็ชอบ เพราะไม่ว่าอะไรก็ตามถ้าทำด้วยความรัก ความชอบ และความตั้งใจ มันจะทำออกมาได้ดีทุกอย่าง”

หญิงแกร่ง กล้า เกินพิกัด 1000 cc

ทั้งสวยทั้งเก่งแถมเซ็กซี่ครบคุณสมบัติสาวสมัยใหม่ในยุคปัจจุบัน และคงไม่ผิดนักหากจะบอกว่าเธอคือหนึ่งหญิงแกร่งที่ลบภาพผ้าผับไว้อย่างสิ้นเชิง แต่นั่นไม่ได้หมายความว่ารอยยับที่ปรากฏขึ้นจะทำให้ผ้าผืนนี้หม่นหมอง ตรงกันข้าม “ยิ่งคราบเยอะ” ยิ่งเยอะด้วยประสบการณ์

“คนชอบมองว่าเราเปรี้ยว เราแรง เรามีอาชีพถ่ายแบบ เป็นพริตตี้ มีเสี่ยเลี้ยงหรือเปล่า มีเสี่ยดูแลหรือเปล่า เราถึงมีชีวิตอย่างนี้ได้ บอกเลยว่าไม่มี แอนทำงานเองได้ แอนใช้แรงแลกกับเงินมาตลอด เริ่มทำตั้งแต่อายุสิบกว่าขวบ จนตอนนี้จะ 30 แล้ว คิดดู และทุกวันนี้ก็ไม่ได้ทำงานถ่ายแบบอย่างเดียว แอนทำธุรกิจส่วนตัวด้วย ทั้งร้านไอศกรีมผลไม้ที่กำลังขึ้นห้าง ร้านคอสเมติก คาร์มาร์ท แล้วก็กำลังนำเข้าน้ำดื่ม บริษัท อีเวนต์ เราเป็นนางแบบเองด้วย แล้วก็ป้อนงานให้น้องๆ ด้วย งานพริตตี้ งานถ่ายแบบ เรื่องนี้แอนอยากจะบอกมากเลย แต่ไม่มีใครมาถาม”

“ผู้หญิงก็มีความสามารถไม่แพ้ผู้ชายเหมือนกัน” เธอบอกพลางชูนิ้วหัวแม่มือขึ้นมายืนยัน

“แอนมองว่า ณ ปัจจุบัน เราไม่ควรต้องมานั่งแยกหญิงชาย ว่าผู้หญิงต้องมีหน้าที่นี้ ผู้ชายควรจะเป็นเรื่องนี้ แอนว่าผู้หญิงกับผู้ชายสามารถแชร์กันได้ อย่างเช่น ผู้ชายสามารถช่วยภรรยาทำงานบ้านได้ และคุณควรที่จะต้องทำ และควรที่จะทำเป็นด้วย ส่วนผู้หญิงควรจะทำหน้าที่นิดๆ หน่อยๆ ของผู้ชายได้ มันควรต้องเป็นอย่างนี้ ผู้หญิงเดี๋ยวนี้ไม่จำเป็นต้องมานั่งรอหรืออ่อนแออย่างเดียว ผู้หญิงทุกคนสามารถทำได้ ผู้หญิงมีความอดทน มีการตัดสินใจที่แน่วแน่กว่าผู้ชายเสียด้วยซ้ำไป อย่างเรื่องขับรถที่ผู้ชายชอบกล่าวหาผู้หญิงว่าขับรถไม่ดี มันไม่จริงเสมอไป ผู้ชายบางคนก็ไม่ได้ขับรถดีไปเสียหมด”

ท่ามกลางโลกที่หลากหลายทั้งดีร้ายหลายแง่มุม การประคับประคองนาวาแห่งชีวิตให้แล่นตรงลู่ย่อมไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ของผู้หญิงหนึ่งคนที่สองข้างทางรายล้อมไปด้วยเสือสิงห์

“เราควรที่จะจัดการที่ตัวของเรา อย่างเช่นคนนี้ไม่ดี เราไม่จำเป็นต้องเลิกคบเขา แต่เราต้องมาจัดการที่ตัวเราว่า เราควรจะให้เขามากแค่ไหน สำหรับคนนี้ เราควรปฏิบัติกับเขาอย่างไร รับมือกับคนคนนี้อย่างไรมากกว่า

“คือแอนคิดของแอนเองว่า เราควรต้องมีหลายๆ มุม และทำได้หลายๆ อย่าง หลายๆ แบบ เพราะโลกนี้มันมีหลายมุม หลายแบบ หลายเหตุการณ์ ที่เราจะต้องเผชิญ เพราะฉะนั้น เราก็ต้องเหมือนกลมกลืนไปกับโลกใบนี้ เมื่อใดที่เราควรจะต้องเข้มแข็ง เราก็ต้องเข้มแข็ง เมื่อใดที่เราควรต้องอ่อนโยน เราก็ต้องเป็นผู้หญิงอ่อนโยนได้”

ความรัก บิ๊กไบค์ และสองเรา

เนื่องจากไม่ใช่มอเตอร์ไซค์ที่สามารถใช้ได้คล่องแคล่วในชีวิตประจำวัน การออกไปขับขี่ที่เรียกว่า “ทริป” เป็นกลุ่มแก๊งคาราวานจึงเป็นภาพคุ้นชินที่เรามักจะพบเจอมากกว่าเดี่ยวๆ คันเดียว หรือเป็นคู่ เรานึกสงสัยในใจว่าสิงห์สาวนักบิดผู้นี้ “จะมีแฟนหรือคู่ร่วมทางแล้วหรือยัง?”

“มีแล้วค่ะ เขาขี่บิ๊กไบค์เหมือนกัน” สิงห์นักบิดสาวแซมยิ้มเล็กน้อย ขณะที่เราแอบสังเกตเห็นว่าใบหน้าขาวๆ ของเธอเริ่มมีสีแดงระเรื่อปนอยู่ เธอก็กล่าวเสริมว่า “เริ่มต้นจากขี่บิ๊กไบค์ไปทริปหนึ่งที่จังหวัดพะเยา แล้วบังเอิญกลุ่มเพื่อนที่ขับขี่ไปวันนั้นรู้จักกันกับเขา ก็นัดออกมาจอยกัน”

“เขารู้จักว่าเราเป็นใคร เขาแอบติดตามเราอยู่ในเฟซบุ๊ก แต่เขาเขินเขาไม่กล้าจีบ หลังจากแยกจบทริปนั้น เขาก็ทักมาทางเฟซบุ๊กบอกว่า เขาคือคนนี้นะ แล้วเราจำได้ว่าก่อนหน้านั้นมีคนหนึ่งที่จะชอบมากดไลค์แทบทุกคอมเมนต์เรา ติ๊งๆ ทุกวันตลอดเลย อ่อเป็นเขานี่เอง พอเรารู้ เราก็แอบเขินเหมือนกัน นึกในใจคนนี้ก็น่ารักนะ”

จากความชอบที่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ไลฟ์สไตล์ที่คล้ายกัน “คู่ร่วมคิด มิตรร่วมทาง” จึงเกิดขึ้นท่ามกลางกลิ่นน้ำมันเครื่อง และเสียงท่อมอเตอร์ไซค์

“รถมันเป็นเหมือนบัดดี้เราใช่ไหม เหมือนเป็นเพื่อนร่วมทางของเรา เขาก็เหมือนเพื่อนร่วมทาง คล้ายๆ บอดี้การ์ด คล้ายๆ คนดูแล คือเวลาเราไปกับเพื่อนจะไม่ได้ฟีลนี้นะ คือเพื่อนจะไม่ได้เหมือนแฟน แฟนคือดูแลทุกอย่าง มาถอยรถให้ เช็กลมยางให้ เช็กหมวกว่าใส่ดีไหม มาใส่หมวกให้ มันเป็นความสุข ความสุขที่ได้ไปกับคนที่เรารัก แล้วเราไปด้วยกัน มันใช่อ่ะ มันใช่” พวงแก้มของเธอยังคงฝาดแดงขณะเล่า ดูเธอช่างเปี่ยมไปด้วยความสุข

“คือมีคนที่เขาเข้าใจเราทั้งเรื่องชีวิต เรื่องงาน แล้วก็รูปแบบการขี่มอเตอร์ไซค์ ชีวิตที่ขาดหายไป เขาก็เป็นผู้ที่เข้ามาเติมเต็มค่ะ”

“ถ้าถามว่าตอนนี้ประสบความสำเร็จหรือยัง แอนถือว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง แต่ยังไม่ถึงที่สุด แอนก็เป็นผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง ยอมรับเลยว่าเริ่มต้นจากไม่มีอะไร กำลังใจเดียวที่มีคือคุณแม่ คือคำสอนของท่าน ที่บอกให้เราต้องเป็นคนเข้มแข็ง แข็งแกร่ง แม้ว่าจะเป็นผู้หญิงแต่ต้องไม่อ่อนแอ

“เพราะว่าผู้หญิงไม่ได้ด้อยไปกว่าผู้ชายสักเท่าไหร่ ถ้าตั้งใจจริงก็ทำได้ ก็ต้องให้โลกรู้ว่าผู้หญิงก็เก่งได้”















เรื่อง : รัชพล ธนศุทธิสกุล
ภาพ : ประเวศ พึ่งแสวงผล, เฟซบุ๊ก https://www.facebook.com/anniie.panyasirinukul