สำหรับคนโซเชียล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าเกาะติดสเตตัสบนแฟนเพจของ “ลุงกำนัน” จะพบเห็นรูปภาพหนึ่งซึ่งถูกแอดมินนำมาแชร์ในหน้ากระดานไทม์ไลน์ ภาพดังกล่าวคือภาพของชายในชุดสีขาวคนหนึ่งซึ่งนั่งเอนเหยียดขา บนผิวผ้าทั้งเสื้อและกางเกงเปื้อนเปรอะด้วยคราบสีแดง ซึ่งจากคำบรรยายต่อมา ทำให้เรารู้ว่า สีแดงที่เห็นนั้น คือเลือดคน!
“โทษทีนะพี่ที่ช่วยพี่ไม่ได้ เลือดพี่ที่อยู่บนกายผม บนชุดผม ผมถือว่าเป็นเกียรติที่ได้เป็นคนสุดท้ายที่รับรู้ถึงเสียงลมหายใจ เสียงเต้นหัวใจของผู้ที่รักในชาติ ศาสนา องค์พ่อหลวง หลับให้สบายครับ”…
คงไม่ต้องบรรยายอะไรมากสำหรับคนที่ติดตามการชุมนุมของกลุ่ม กปปส. ที่ย่อมคุ้นเคยกับชื่อของ “เต๊ะ-ศตวรรษ เศรษฐกร” กันเป็นอย่างดี เพราะนี่คือหนึ่งในดาราที่ร่วมยืนหยัดต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับมวลมหาประชาชนในการชุมนุมขับไล่รัฐบาลขี้ฉ้อมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่แรกเริ่ม และเมื่อวันที่ 18 ก.พ.ที่ผ่านมา เขาก็เติมตัวเองลงไปในพื้นที่ในฐานะพยาบาลอาสาทำหน้าที่ดูแลกลุ่มผู้ชุมนุมซึ่งกำลังถูกรุมล้อมด้วยกำลังตำรวจที่มาปฏิบัติการขอคืนพื้นที่
“เต๊ะ-ศตวรรษ เศรษฐกร” หรือชื่อจีนว่า “ถัง เฉินหยู” เป็นทั้งนักแสดงและนักร้องที่มีชื่อเสียงดังไกลไปถึงไต้หวัน รวมถึงมีโอกาสได้ร่วมร้องเพลงเปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2008 ณ กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ปัจจุบันอายุ 31 ปี และเพิ่งเข้าสู่ประตูวิวาห์ไปเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 กับแฟนสาวลูกครึ่งญี่ปุ่น และถึงจะใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ที่ไต้หวัน แต่ก็ไม่ลืมแผ่นดินไทย ยังคงติดตามข่าวสารความเป็นไปของบ้านเมืองอยู่เสมอ
เต๊ะ-ศตวรรษ เริ่มประกาศตัวทางการเมืองด้วยการเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเมื่อหลายปีก่อน ด้วยเหตุผลคือทนไม่ได้กับการเห็นในหลวงถูกจาบจ้วง แล้วไม่มีใครทำอะไร จึงออกมารวมพลังเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง และตนยินดีตายเพื่อในหลวง
“ปัญหาการหมิ่นในหลวงมันเหมือนฟางเส้นสุดท้าย ถ้าเราไม่ออกมาตั้งแต่ตอนนี้จะสายเกินไป ผมคิดว่าคนไทยหลายคนคิดเหมือนผม แต่เขาอาจจะไม่รับรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะเกิดการปิดกั้นข่าวสารหรือปิดกั้นทางสื่อยังมีอยู่เยอะมาก”
นอกเหนือไปจากนี้ นักแสดงหนุ่มยังแสดงความคิดเห็นผ่านสเตตัสในเฟซบุ๊ก ต่างกรรมต่างวาระ สะท้อนความนึกคิดต่อสถานการณ์แต่ละห้วงขณะของบ้านเมือง เราลองไปอ่านสักอันสองอัน
“แฟนผมถามว่า คนไล่ขนาดนี้ทำไมยังไม่ออก เพราะที่ญี่ปุ่น มีข้อครหา บางคนก็ออกเลย ไม่ต้องซักฟอก ผมเลยพาไปตรงหน้าต่างและชี้ออกไปข้างนอก เห็นดวงไฟหลายๆ สีนั้นมั้ย ทั้งจากตึก สะพาน และรถบนท้องถนน ไฟเหล่านั้นคือพลังของประชาชนกลุ่มต่างๆ ที่ต่อต้านรัฐบาล และผมก็เอามือไปปิดตาแล้วถามอีกว่าตอนนี้มองเห็นมั้ย แฟนก็บอกว่าจะไปเห็นได้ไง ผมเลยบอกว่า มือก็คือความโลภและความไม่รู้จักพอ หากปล่อยให้มันบังตาก็จะมองไม่เห็นอะไรทั้งนั้น”
หรือ...“จะแก้กรรมทำคุณไสยไปพม่า อวิชชาความดีมิเคยเห็น แม้เกิดใหม่ใจหยาบทุกเช้าเย็น คงเฉกเช่นบัวคว่ำหัวอยู่ใต้ตม”
และ…“แน่จริง มึงก็เนรเทศคนต่างชาติที่มาฟังมาทำความเข้าใจกับสถานการณ์ รวมถึงร่วมเป่านกหวีด มาทานอาหารกับผู้ชุมนุมด้วย แล้วอย่าลืมสั่งห้ามเข้าประเทศ ไอ้ทนายต่างชาติที่ชอบมาเสือกเรื่องของประเทศกู พ่อหลวงของกู อย่าสองมาตรฐาน ไอ้รากผักชี”
“เต๊ะ-ศตวรรษ” กลายเป็นประเด็นร้อนที่เกิดการแชร์อย่างแพร่หลายเต็มไทม์ไลน์บนเฟซบุ๊กอีกครั้ง หลังจากปฏิบัติการสลายการชุมนุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อวันที่ 18 ก.พ.ที่ผ่านมา และนับแต่นั้นได้มีการโพสต์คลิปที่ เต๊ะ-ศตวรรษ ช่วยยื้อชีวิตของนายสุพจน์ บุญรุ่ง หนึ่งในมวลชนซึ่งถูกยิงจากเหตุปะทะที่บริเวณสะพานผ่านฟ้า ก่อนที่ผู้บาดเจ็บจะเสียชีวิตในเวลาต่อมาเพราะทนพิษบาดแผลไม่ไหว
ถ้อยคำจากใจของนักแสดงหนุ่มผู้ได้สัมผัสกับลมหายใจเฮือกสุดท้ายของผู้เสียชีวิต ถูกถ่ายเทลงสู่สเตตัสบนเฟซบุ๊ก และมันก็บุกเข้าไปสร้างแรงสั่นสะเทือนในใจของผู้คน จนเกิดการแชร์ต่อๆ กันไป แม้กระทั่งในเพจของ “ลุงกำนัน” ที่ปัจจุบัน สเตตัสนั้นถูกกดไลค์ไปแล้วแสนกว่าคลิก
