Marsmag.net

จากตลกซุป’ตาร์ สู่วงดนตรีฮาแตก ของ 'แจ๊ส&เดอะแก๊ง'


ว่ากันว่าความสำเร็จของ ‘แจ๊ส ชวนชื่น’ ส่วนหนึ่งมาจากนิสัยส่วนตัวที่ชอบ ‘จัดเต็ม’ จ้างร้อย เจ้าตัวเล่นพัน จ้างพัน ปาเข้าไปหลายหมื่น เรียกว่าใครจ้างไปเป็นได้คุ้ม ทั้งงานแสดง งานตลก งานพิธีกร แจ๊สจัดเกินร้อยในทุกๆ ด้าน จนเขาไต่เต้าเป็นซุป’ตาร์ตลกเงินล้านภายในระยะเวลาไม่กี่ปี
ล่าสุดซุป’ตาร์ตลกขวัญใจเด็กแนวหันมารวมกลุ่มกับพี่น้องผองเพื่อนนักดนตรี ออกตระเวนอาละวาดปล่อยความสนุกกระจัดกระจายไปทั่วทุกภาคของประเทศไทย ภายใต้ชื่อวง ‘แจ๊ส สปุ๊กนิค ปาปิยอง กุ๊กกุ๊ก’ วงดนตรีที่เล่นสดได้ทั้งมันสะเด็ด และตลกโปกฮาไปพร้อมๆ กัน ซึ่งแน่นอนว่าแจ๊สและผองเพื่อนไม่พลาดที่จะจัดเต็มตั้งแต่จับไมค์จนลงจากเวที
mars คราวนี้ขออาสาพาทุกท่านมาถอดสลักปักเบ้าหน้าวงน้องใหม่ เค้นหาความเป็นมาเป็นไปของ ‘แจ๊ส สปุ๊กนิค ปาปิยอง กุ๊กกุ๊ก’ และอนาคตบนเส้นทางดนตรีของพวกเขาที่จะออกไปแตะขอบฟ้า…ได้หรือไม่?

แจ๊ส สปุ๊กนิค ปาปิยอง กุ๊กกุ๊ก มีความเป็นมายังไง
แจ๊ส: แจ๊ส สปุ๊กนิค ปาปิยอง กุ๊กกุ๊ก เดิมทีมันน่าจะเป็นความฝันผมก่อนเล่นตลกแล้ว จริงๆ ผมเป็นคนชอบร้องเพลงมากๆ ร้องตั้งแต่เด็ก ตอนที่เล่นคาเฟ่ บางคาเฟ่จะเป็นผับอยู่ข้างล่าง สมัยก่อนพอเซ็ตของเสร็จก็จะลงไปดูเขาร้องเพลง นักร้องผมทองแสกกลาง ใส่รองเท้าธงชาติอเมริกา ปากแดงๆ เจ๋งดีว่ะ ถ้าให้เลือกได้ระหว่างนักร้องกับตลก ขอไปทางนักร้องดีกว่า หลังจากนั้นก็นานมากจนลืมไปแล้วว่าชอบร้องเพลง ผมไปนั่งชิลล์ๆ ร้านหนึ่ง ร้านนี้เขาชอบเรียกใครที่เป็นศิลปินขึ้นไปร้องเพลง ก็เลยได้เจอกับวงน้องๆ มันชื่อ ‘สปุ๊กนิค ปาปิยอง กุ๊กกุ๊ก’ ก็แซวมันว่าวงเหี้ยไรทำไมชื่อยาวขนาดนี้ พอขึ้นไปแจมกับน้องบ่อยๆ เห็นมันเล่นกันสนุกดี ก็เริ่มมาคุยกับเพื่อนกับแฟนแล้วว่าอยากทำวง
ผองเพื่อน: จริงๆ พี่แจ๊สเคยเอาเบอร์ผมไป บอกว่า เฮ้ย! งานแต่งเดี๋ยวพี่โทรหา งานแต่งวันที่ 24 สิงหาคม (2556) เราก็กะว่ามีไปเล่นแน่นอนเลย วันที่ 22 ยังไม่โทรมา พอวันที่ 24 ไม่มีแม้แต่เสียงข้อความ เขาเอาวงอื่นเล่นแทน (หัวเราะ)
แจ๊ส: พอเริ่มทำวงก็มาคิดว่ามันจะมีงานเข้าหรือเปล่า จริงๆ หลายร้านชอบจ้างผมไปร้องเพลงบ่อยๆ แต่เราไม่อยากไปเพราะยังไม่มีแบนด์ของตัวเอง ไปแล้วมันก็ไม่มันหรอก เลยโทรหาพวกน้องๆ จากนั้นก็ไปงานแรก เป็นร้านเล็กๆ ไปซ้อมกันก่อน นักดนตรีแต่ละวงเขาจะต้องมีเช็กซาวด์ แต่เช็กซาวด์จริงๆ นักดนตรีต้องไปช่วงเย็นๆ ไปก่อนที่แขกจะเข้าร้าน แต่ด้วยความที่เราไม่รู้ แต่น้องมันอาจจะรู้ แต่มันไม่อยากอะไรกับเรา ไปเซ็ตกันตอนที่แขกเข้าแล้ว แต่ตุ๊ง ตุง ตุ่ง ตุ่ง อยู่ประมาณเกือบชั่วโมง เพราะยังไม่เข้าขากัน แต่ท้ายสุดงานก็ผ่านไปได้ด้วยดี จากนั้นมาพาวงไปเล่นที่หัวหิน ใส่กันเต็มที่ คนฟังสนุกมากๆ มีคลิปมีอะไรออกไป งานเข้ามาเรื่อยๆ ผมพูดได้เลยว่าศิลปินบางวงงานยังไม่เท่าวงผมเลย พูดได้เต็มปาก ทีนี้มาคิดเรื่องชื่อ ใช้ชื่อกูนำหน้านี่แหละ แจ๊ส สปุ๊กนิค ปาปิยอง กุ๊กกุ๊ก เราใช้คำนี้เพื่อว่าวันหนึ่งมันสุดๆ แล้ว ก็จะได้แยกกันไปทำมาหากินได้ด้วย

ทำไมชื่อต้องยาวขนาดนั้น
ผองเพื่อน: สปุ๊กนิค ปาปิยอง กุ๊กกุ๊ก มันเป็นวงที่เหมือนตั้งตอนประกวดดนตรีตอนมัธยม วงชื่อยาวดีว่ะ คนต้องหันมามองกันแน่ คือตั้งกันขำๆ ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไร
แจ๊ส: ด้วยความที่เราอยากให้น้องมีตัวตนด้วย เรามีตัวตนด้วย ทุกคนมีตัวตนรวมกันอยู่ในนี้จนมาเป็นชื่อวงนี้ แต่สุดท้ายมันได้รับความสนใจจริงๆ นะ ทุกครั้งที่พูดชื่อวงยาวๆ ซึ่งไม่มีแน่นอน แล้วมันก็เจ๋ง พูดไปแล้วคนมันฮาด้วย อยากจะจำ เขาก็เลยจำได้บ้าง

แนะนำสมาชิกในวงหน่อย
แจ๊ส: น้องบูม ทำหลายอย่างมาก รับงานให้ผมด้วย ขับรถให้ผมด้วย เต้นด้วย, ส่วนคุณต่อเป็นเพื่อนที่สนิทกันมาก สมัยก่อนอยู่ชวนชื่นด้วยกัน เขาเป็นฝ่ายศิลป์ที่อยู่ในคณะ เป็นรุ่นเดียวกัน พอเมียทิ้งก็มาอยู่ด้วยกันเลย เมียทิ้งไปอยู่กับทอม (หัวเราะ) แล้วเขามาร้องห่มร้องไห้ นอนที่บ้านผม คนนี้ถือว่าเป็นฟันเฟืองสำคัญที่สุดของวง คือเขาเป็นทุกอย่าง เขาต้องเซ็ตไฟ ผมเอาวัฒนธรรมของชวนชื่นมาอยู่ในวงผมหมดเลย ทุกคนต้องมีความสามารถหลากหลาย เสื้อผ้าโน่นนี่นั่น พูดง่ายๆ คือต่อเขาเป็นหัวหน้างาน, ส่วนคุณฟูนี่จะมีก็ได้ไม่มีก็ได้ (หัวเราะ) จริงๆ คุณฟูดูเรื่องคอสตูม, น้องเบสต์เป็นมือเบส, เต้ง แซ็กโซโฟน, โบ กีตาร์, เอ็กซ์ กลอง, แฟรงค์หมอฟัน คีย์บอร์ด, ส่วนคนนี้ (พ่อดม) อาวุโสสุด ซึ่งเป็นอีกคนที่มีก็ได้ไม่มีก็ได้ (หัวเราะ) พาพ่อไปด้วยมันก็สนุกดี เขาเป็นคนอายุมากที่ไปกับเราได้ ไม่งอแงอะไรอยู่แล้ว เราอยู่กับเขาได้นาน แต่เขาจะอยู่กับเราได้นานไหม?

เรื่อง : PAN

ภาพ : พานุวัฒน์ เงินพจน์


พ่อดมดีใจไหมได้มาอยู่วงนี้
พ่อดม: ดีใจมาก เพราะงานมันน้อยลง อายุเราก็มากขึ้น งานหนังงานละครเมื่อก่อนเยอะ เดี๋ยวนี้ชักห่างๆ แต่สิ่งที่ห่างเราก็มาฝากทางนี้ เราไปได้ทุกวัน เป็นประจำทุกวัน พ่อตื่นมาแล้วต้องแต่งตัวครบชุด กินข้าวกินปลาเสร็จจะไปไหนก็สบายเลย ไปไหนไม่ได้ก็อยู่ตามห้าง
แจ๊ส: ถ้าเหงาๆ ก็ไป…
พ่อดม: ไปดูว่าเด็กมันสบายดีไหม ถ้าไม่มีตังค์เราก็จะไปให้มัน ไม่ได้ให้ตังค์อย่างเดียว เอาด้วย (หัวเราะ)
แจ๊ส: คือเขามีความสุขนะ เขาเหงาเรารู้ บางทีเช้ามาส่งสติกเกอร์ไลน์คนแรกเลยในไลน์กลุ่ม รูปดอกไม้ สวัสดียามเช้า เลยให้มาอยู่ด้วยกันดีกว่า สนุกดี

แล้วคนอื่นๆ ล่ะ
ผองเพื่อน: ดีครับ ตอนแรกไม่เคยร่วมงานกับเขาก็คิดว่าเขาจะเกร็งๆ เป็นตลก เก๊กหรือเปล่าวะ แต่พอได้ร่วมงานกันแล้วก็เป็นเหมือนพี่น้องกันจริง เหมือนครอบครัว ตอนแรกพี่แจ๊สเขาจะรั้นๆ หน่อย แต่พูดกันด้วยเหตุผลเขาก็ฟัง เราพยายามพูดให้เขาเข้าใจ อบอุ่นดีครับ ทำงานง่าย มีอะไรปรึกษาได้ตลอด สำหรับพี่แจ๊สเรื่องที่ควรปรับปรุงคงเป็นเรื่องกลิ่นปากครับ (หัวเราะ)
แจ๊ส: ผมจะเถียงกับน้องบ่อย แต่เหมือนเป็นการคุยกัน แลกเปลี่ยนความเห็นกัน อย่างบูมพอมาอยู่กับวงก็เหมือนได้เจอเพื่อน จริงๆ บูมก็ไม่สมควรมาเต้นอะไรแล้ว ควรจะเป็นผู้จัดการอย่างเดียว แต่ด้วยความที่มันเต้นแล้วสนุก คือบอกตรงๆ ว่าวงเรานี่ไม่ใช่คนที่ตลกอะไร นี่ก็ไม่ใช่เต้นเก่ง แต่พอมาอยู่ด้วยกัน ช่วยสร้างผลงานกันไป
พ่อดม: ผมภูมิใจที่ได้เด็กพวกนี้มา ทุกคนมีมารยาท อยู่กันได้เหมือนพี่น้อง ผมรักเขาเหมือนลูกนะ สำหรับวงนี้ผมคงอยู่นาน อยู่จนกว่าผมจะไป
แจ๊ส: ไปเมื่อไหร่?
พ่อดม: ถามแม่มึงดูสิ (ฮาทั้งวง)
แจ๊ส: พ่อพูดกับผมเสมอเลยนะว่าโชคดีมากที่ได้น้องๆ พวกนี้มา เป็นเด็กที่ตั้งใจทำงานเยอะมาก ผมเข้าใจฟีลนักดนตรีนะ อาจจะมีติสต์ๆ บ้าง แต่วงเราเก่งไม่กลัว กลัวนิสัย คนไม่เก่งมันหัดกันได้ ฝึกกันได้ แต่นิสัยถ้าไม่ดีมันกลับให้มาดียาก

วัฒนธรรมวงเป็นยังไง
แจ๊ส: ผมบอกได้เลยว่าผมเอาวัฒนธรรมของวงชวนชื่นมาใช้เลย แต่เราเป็นอีกลุคหนึ่ง วัฒนธรรมเราคือพี่น้อง มีอะไรบอกกัน มีอะไรไม่ชอบบอกกัน
ผองเพื่อน: ตังค์เดือนที่แล้วยังไม่ออกเลยพี่ (หัวเราะ)
แจ๊ส: คือผมไม่อยากมีปัญหาอะไร มีอะไรต้องพูด แม้กระทั่งเรื่องเงิน เราเคยเจอหลายๆ ที่ พอไม่พอใจอะไรปุ๊บ ไปคุยกันเอง แต่บางอย่าง อะไรที่ทนได้ก็ทน เพิ่งเริ่ม มันอาจจะลำบากนิดหนึ่ง และต่อไปเราต้องลำบากกว่านี้อีกเยอะ (หัวเราะ) จะทำอะไรก็ได้แต่งานต้องเต็มที่นะ น้องทุกคนอาจจะชิลล์ แต่ผม ต่อ และพ่อดมอยู่กับพี่จิ้ม (จิ้ม ชวนชื่น) มา จะรู้ระบบว่าชิลล์คือชิลล์ แต่พอถึงงานต้องรับผิดชอบ ต้องแต่งตัวให้เร็ว ตรงเวลา เลิกงานค่อยเต็มที่ แต่เลิกงานส่วนใหญ่ตอนนี้เราจะมานั่งคุยกัน เอาความเห็นมารวมกัน

ความพิเศษของ แจ๊ส สปุ๊กนิค ปาปิยอง กุ๊กกุ๊ก อยู่ตรงไหน
แจ๊ส: ความพิเศษของเราน่าจะเป็นวงที่เอนเตอร์เทนคน คือโชว์ไม่ได้อลังการซะทีเดียว แต่เล่นด้วยความกวนตีน มุกที่เอามาเล่นเราพยายามลองผิดลองถูกไป ผมก็ไม่รู้นะว่าเสน่ห์ของผมคืออะไร แต่คนดูสนุกไปกับเราแน่นอน

เล่นมาหลายเวที เคยเจอเหตุการณ์อะไรระทึกๆ บ้าง
ผองเพื่อน: ตอนแรกตกลงกันว่าวงเราจะเลือกไปเล่นในผับ เราเล่นตลก คงไม่มีเรื่องตีกัน วันนั้นที่ภูเก็ต พี่แจ๊สลงเวทีไปแล้ว เราก็ขึ้นเพลงเร็วเลย สักพักข้างหน้าเวทีวงแตก คนตีกัน เพลงก็เพลงรักนะ แต่ตีกัน แต่เรายังไม่หยุดเล่น พวกตีก็ยิ่งมันเหมือนตีกันประกอบเพลง

แล้วที่เป็นข่าวดังทั่วประเทศ ที่แจ๊สขึ้นไปเต้นยั่วกับโคโยตี้ล่ะ
แจ๊ส: คือที่ร้านเขาบอกให้เราขึ้นมา โคโยตี้ก็ขึ้นมาเต้น เราก็เล่นไป แต่มันฮาจริงๆ ตอนนั้น มันเป็นเลานจ์ผู้ชาย พอมันฮาดอกแรก ก็ขยี้ๆๆ จนจบมุก เราไม่ได้รู้สึกอะไร ตั้งใจที่จะเล่นแบบนั้น พอคลิปออกมา ทีแรกไม่ตกใจนะ ฮาไป บ่ายๆ มันชักไม่ฮาแล้ว แฟรนไชส์มันเริ่มมากขึ้นๆ เชื่อว่าทุกไอแพ็ด ไอโฟน ต้องมีคลิปนี้ติดเอาไว้ มีอยู่วันหนึ่งเมียส่งไลน์กลุ่มมา ขนาดเรื่องซาไปนานแล้วนะ ‘ดูผลงานของพวกมึง รู้นะว่าเล่น เพื่อจะหาเงินเข้าบ้าน แต่เล่นอย่างนี้มันเยอะไป’ หลังจากข้อความนั้นมา ไลน์กลุ่มหายไปประมาณ 3 วัน (หัวเราะ) จนมีน้องคนหนึ่งที่มันไม่รู้ถาม เอ๊ะ! ทำไมวันนี้ไลน์เงียบ (หัวเราะ) แต่มันก็ไม่มีอะไร ขอโทษกันก็จบ เพราะเราเล่นไปเราไม่ได้คิดอะไรหรอก
พ่อดม: ศิลปินอย่าดูหมิ่นศิลปะ กองขยะดูให้ดีก็มีศิลป์ ถ้าคุณมองพวกผมเป็นเศษดิน ยี่สิบปีจะไม่มีศิลปินให้คุณดู (ตบมือฮือฮากันทั้งวง)

ว่ากันว่าแจ๊ส สปุ๊กนิค ปาปิยอง กุ๊กกุ๊ก เป็นวงดนตรีทะลึ่งตึงตัง เอาเข้าจริงเป็นอย่างนั้นหรือเปล่า
แจ๊ส: เราเล่นได้หลายแบบ คือมันไม่ถึงกับทะลึ่ง อาจจะเล่นมุกสองแง่สองง่ามบ้าง ผมอยากให้ทุกคนรู้ว่าผมมี 2 มิติในชีวิต วงการบันเทิงผมก็เล่น ผมก็เซฟ ผับนี่ผมก็เล่นเป็นตัวของผมเอง เพราะเล่นแล้วคนหัวเราะ เราอยากให้ทุกคนสนุก ไม่ได้คิดอะไรเลย ใครที่รู้สึกว่า เฮ้ย! มึงไม่สมควร ผมอยากให้คิดอีกแง่หนึ่งว่าผมไม่ได้ทำเพื่อตัวผมเอง ตลกทุกคนมีเป้าหมายเดียวกัน เล่นให้ขำให้สนุก เราอาจเล่นทะลึ่งนิดหน่อย แต่ไม่ถึงกับหยาบขนาดนั้น

แล้วงานที่ประทับใจ
แจ๊ส: ที่หัวหิน เป็นครั้งแรกที่เราได้เล่นกันเป็นวง อะไรที่เป็นครั้งแรกดีเสมอ แต่ครั้งหลังๆ เราต้องเหนื่อยหน่อยนะ เหมือนได้แชมป์ ก็ต้องรักษาแชมป์ อย่าให้มันตก มีเครียดบ้าง มีสนุกบ้าง แต่งานที่เราจะได้ไปแล้วเรารู้สึกตื่นเต้นที่สุดคืองาน Big Mountain ผับของน้าเน็ก (ผับอโคจร) น้าเน็กโทรมาหาผม ผมดีใจมาก ทุกคนดีใจหมด

วางคุณภาพของวงไว้ยังไง
แจ๊ส: พยายามจะสร้างอะไรให้เยอะขึ้น ถึงแม้บุคลากรเราจะน้อย ผมพยายามทำชุดไฟตอนเปิดวง ซึ่งก็ประสบความสำเร็จ ทุกคนก็ให้การยอมรับ แต่ก็กลัวความคิดตัวเองว่าจะคิดได้อย่างนี้หรือเปล่า สอง สาม สี่ ห้า นี่ยากเสมอทุกงาน แต่ว่าก็ไม่หวั่นหรอกตราบใดที่มีน้องๆ ทุกคนอยู่ พยายามบอกมาตลอดว่าอยากให้น้องเป็นมืออาชีพ ไม่จำเป็นต้องเล่นดนตรีเก่งก็ได้ แต่เซนส์มึงต้องมืออาชีพ ผิดคือผิด ช่างมัน เล่นออกมาให้ดัง อย่าเล่นกำกวม แล้วมองทุกอย่างให้เป็นมืออาชีพ เอนเตอร์เทนคนให้เก่ง
ผองเพื่อน: จริงๆ มันต้องดีกว่านี้ มันยังไม่ดีในภาคของดนตรี มันยังไม่เคลียร์เท่าไหร่ ต้องเก็บเกี่ยวประสบการณ์ไปเรื่อยๆ เล่นให้มันชิน คือพวกผมก็ไม่ได้เป็นวงที่เก่งกาจอะไรมากมาย เข้ากับพี่แจ๊สได้ ทำงานร่วมกันแล้วค่อยๆ ไปด้วยกัน พวกผมก็จะพยายามปรับขึ้นไปอีก

มีแนวโน้มจะทำเพลงของตัวเองบ้างไหม
แจ๊ส: มีครับ แต่ว่ายังไม่ได้ไปอัดเสียง เพลงนี้ต้องยกเครดิตให้พี่บ๊อบบี้ วงสามบาทห้าสิบ เขาแต่งเพลงให้ผม เพลงมันจะมีกลิ่นแตรวงหน่อยๆ แต่บอกไว้ก่อนเลยว่าวงเราไม่มีสไตล์ อนาคตอาจจะทำเพลงหล่อๆ หรือฮิปฮอปจ๋ามาเลย คืออยากให้เป็นวาไรตี้ แล้วคือหนึ่ง-เราไม่มีค่าย สอง-ไม่เอา รับงานเอง ทำงานเอง ไม่มีฝากค่าย ไม่โดนหักด้วย (หัวเราะ) เราจะมีอิสระมากขึ้น ไม่ได้หวังนะว่าจะดัง ทำไปคนชอบคือชอบ ไหนๆ เราก็อยู่ด้วยกันแล้ว สร้างผลงานเอง ดีไม่ดีให้รู้
มีนักดนตรีคนไหนเป็นไอดอล? อย่างพี่ตูน บอดี้สแลม นี่อยู่ในใจผมอยู่แล้ว แต่คนอื่นเราก็ดูๆ ทุกคนเป็นครูของเราหมด พลังของเขา การเล่นของเขา ทุกคนเป็นครูให้เราหมด แม้กระทั่งวงที่อยู่ตามผับปกติก็เป็นครูเรา เราก็เอามาปรับใช้เหมือนกัน เรียกว่าครูพักลักจำไป เขาเป็นไอดอลเราหมดทุกคน ทุกวง

เขาบอกว่านักดนตรีเจ้าชู้ จริงไหม
แจ๊ส: ไม่ครับ (ตอบเร็ว)
ผองเพื่อน: เล่นเสร็จก็ไปนั่งดูโปเยโปโลเย ดูเสร็จก็คุยงาน ส่วนใหญ่หัวหน้าวงผมจะไปไหนไม่ได้ด้วยมากกว่า
พ่อดม: หัวหน้ากลัวเมีย
แจ๊ส: ถ้าไม่มีอะไร แจน (ภรรยา) เขาก็จะไปด้วยนะ แจนเขาเหมือนเป็นเจ้าแม่คนหนึ่งในวง เขาจะเป็นอีกคนที่คอยมากำกับดูแล เป็นคนลุยให้หลายๆ งาน ไปเจอเจ้าภาพหรือผู้ใหญ่แจนเขาก็จะประกบ แล้วผู้ใหญ่ก็จะชอบนิสัยแจน เหมาะเป็นผู้จัดการวงมากๆ คอยเก็บรายละเอียด

เป้าหมายคิดว่าวงนี้จะอยู่ถึงกี่ปี
แจ๊ส: ผมก็ทำไปเรื่อยๆ จนกว่าคนจะไม่จ้าง คือคนเขาก็มีสิทธิ์จะชอบเราหรือไม่ชอบเรา ทุกอย่างมันมีเวลาของตัวเอง มันจะมีช่วงดาวน์ ช่วงพีกกันทุกคน ไม่มีใครพีกตลอด มันยาก เป็นไปไม่ได้หรอก หนึ่ง-อย่าลืมว่าเราประคองกันเอง สอง-เราไม่ใช่คนเก่งกาจอะไร แต่เราคือทีมที่สร้างสรรค์ผลงาน เราไม่ใช่คนเก่ง ได้มาขนาดนี้ก็ดีและเร็วมาก แต่ก็กลัวว่าจะดังเร็วจะไปเร็ว
พ่อดม: ทุกอย่างทำให้จริงและทำให้ดีที่สุด ขึ้นต้นไม้ถึงยอด อย่าร่วงลงมา ค่อยๆ ไต่ลง ไม่ใช่พรวดลงมา เราทำได้แค่นี้ คนก็จะมองเองว่าเราได้แค่นี้จริงๆ เขาก็จะสงสารมึงว่าพยายามทำเว้ย
แจ๊ส: พ่อก็จะเป็นอีกคนที่คอยตักเตือนว่า ช่างมันเหอะ มึงใจเย็นๆ เดี๋ยวค่อยเอาใหม่ เพราะบางทีเราก็หงุดหงิดไม่ได้อย่างใจ ผมมีหน้าที่แค่มาร้องเพลง แสดงอย่างเดียว แล้วพรุ่งนี้ก็ค่อยเคลียร์ของไป ผมก็ต้องคอยโทร คอยถาม คอยบอกน้องโน่นนี่ บอกเขาให้เป็นวิชาติดตัวมันไป เพราะเราก็ถูกปลูกฝังมาจากที่อื่น ตอนอยู่ชวนชื่นก็ถูกปลูกฝัง มีอะไรก็บอกทุกคน
พ่อดม: สังเกตไหมว่าชวนชื่นแรกๆ คนก็ไม่รับนะ ตลกอะไรวะแบกระนาด แบกอุปกรณ์เยอะมากเลย มึงบ้าหรือเปล่า แต่เวลาพิสูจน์แล้ว สุดท้ายตอนนี้ที่ไหนก็เล่นแบบชวนชื่นหมด
แจ๊ส: ซึ่งวงเราก็คล้ายๆ กับชวนชื่น เพราะผมได้รับวัฒนธรรมจากชวนชื่นมาเต็มๆ

อย่างนี้เรียกได้ไหมว่าเป็นมิติใหม่ของวงการดนตรี
แจ๊ส: ไม่แน่ใจ แต่มันมีของ มีไอเดียออกมาให้เห็น มีสนุก มีฮา
ผองเพื่อน: ก็ได้นะพี่ เพราะมันไม่ซ้ำใคร มันผสมผสานกันกับตลก
แจ๊ส: แต่เห็นตลก สนุกสนานกันขนาดนี้ ก็มีเรื่องเครียดนะ งานแรกก็ลืมเบสเลย (หัวเราะ) นักดนตรีเหี้ยไรลืมเครื่องดนตรี กูเพิ่งเคยเจอ แล้วตอนมาก็มาแบบง่อยๆ ถุงก๊อบแก๊บอันหนึ่ง สะพายเบส ไปขึ้นเครื่องนะ รองเท้าแตะ คือมันมักง่าย

สุดท้ายฝากอะไรถึงแฟนๆ แจ๊ส สปุ๊กนิค ปาปิยอง กุ๊กกุ๊ก
ผองเพื่อน: ฝากวงแจ๊ส สปุ๊กนิค ปาปิยอง กุ๊กกุ๊ก ไว้ด้วยครับ เป็นวงที่จะสร้างความสุขให้กับทุกท่าน ตอนนี้เพลงใหม่ก็ทำกันใกล้เสร็จแล้ว เราจะทำงานให้ดีที่สุดและสร้างรอยยิ้มให้กับทุกคนครับ
แจ๊ส: ผมขอฝากพ่อผมด้วยแล้วกันครับ สมาชิกใหม่ครับ
พ่อดม: ผมขอฝากลูกคนสุดท้อง น้องคนสุดท้ายด้วยนะครับ มีอะไรก็ตักเตือน เรื่องที่ผ่านๆ มาก็ขอโทษแทนลูกด้วยนะครับ สิ่งที่ทำไปโดยไม่คิดไม่ฝัน
แจ๊ส: ผมขอฝากจิตวิญญาณของพวกเรา ขอฝากความฝันของพวกเราไว้กับท่านด้วย สิ่งที่ผมทำบอกตรงๆ ว่าเป็นสิ่งที่ผมมีความสุขมากๆ ดีบ้างหรือไม่ดีบ้าง ก็ขอฝากวงนี้กับทุกๆ ท่านด้วยครับ

รายชื่อสมาชิกในวง
1. ผดุง ทรงแสง (แจ๊ส ชวนชื่น) ร้องนำ
2. อุดม ทรงแสง (พ่อดม ชวนชื่น) นักแสดง
3. วรวิทย์ ไกรวิทูร (ต่อ) นักเต้น
4. วริทธิ์นันท์ พงษ์พานิช (ฟูอโลน) นักเต้น
5. ศิวณัฐ กลัดภิรมย์ (บูม) นักเต้น/ผู้รับงาน
6. ไกรศรี ศิริเจริญ (เต้ง) แซ็กโซโฟน
7. กันตินันท์ กิตติโสภณพงษ์ (แฟรงค์หมอฟัน) คีย์บอร์ด
8. วาทยกร อาทิตย์ (โบ) กีตาร์
9. เมธาวี แก้วปฐมวัน (เอ็กซ์) กลอง
10. วรกร ไกรสรไขศรี (เบสท์) กีตาร์เบส








เรื่อง : PAN
ภาพ : พานุวัฒน์ เงินพจน์