‘ใส่ใจให้มากที่สุดในทุกๆ รายละเอียด’
เคล็ดลับสู่ความสำเร็จ ‘เมย์-รัชนก อินทนนท์’
ก้าวขึ้นเป็นนักแบดมินตันหญิงเดี่ยวมือ1 ของโลก หลังได้แชมป์ที่ 3 ติดต่อกัน และเป็นแชมป์ที่ 4 ในปี 2016 เมย์-รัชนก อินทนนท์ ทำให้คนไทยมีความสุขอย่างยิ่ง เป้าหมายถัดจากนี้คือการเป็นมือวางในโอลิมปิก 2016
Mars มีบทสัมภาษณ์นักแบดมินตันหญิงเดี่ยวมือ1 ของโลก มาฝาก
ในฐานะตัวแทนคนไทยต้องขอบคุณเมย์ที่ช่วยสร้างความสุขให้กับคนไทย
ต้องขอบพระคุณมากๆ เช่นกันค่ะ ที่ช่วยส่งแรงใจเชียร์หนู
จากนี้คงมีงานเดินสาย ปรากฏตัวมากขึ้น?
มีเดินทางไปขอบคุณสปอนเซอร์ต่างๆ ต้องขอบคุณสปอนเซอร์ทุกท่านที่ดูแลหนูอย่างดี เข้าใจในวิถีนักกีฬา แต่ละท่านไม่เคยรบกวนเวลาฝึกซ้อมของหนูเลย แต่อย่างรายการเกมโชว์ต่างๆ ก็ต้องปฏิเสธไป เพราะต้องฝึกซ้อมต่อเนื่อง จะไปทุ่มให้กับตรงนั้นก็ไม่ได้ เพราะนั่นไม่ใช่อาชีพหลักของเรา
ซ้อมหนักคือเคล็ดลับของความสำเร็จใช่ไหม?
ประมาณหนึ่งค่ะ คือก็ซ้อมปกติ ไม่ได้หักโหมอะไรมาก แต่จะเน้นมากกว่าเดิมหน่อย และก็พยายามรักษาสภาพร่างกายของตัวเองให้ดีที่สุด
คาดหวังไว้แค่ไหนกับแชมป์โอลิมปิก?
ทุกคนบอกว่ามีโอกาสที่จะคว้าแชมป์ หรือไม่ก็เหรียญใดเหรียญหนึ่ง เพราะถ้าวัดจากตอนนี้ทั้งผลการแข่งขัน คู่แข่ง และฝีมือเราเอง หนูถือว่ามีโอกาสที่จะถึงจุดนั้นได้ แต่บางทีก็อยู่ที่เรื่องใจของหนูเอง คือมันเป็นรายการใหญ่ ถ้าใจเราถึงจริงๆ ก็มีโอกาส และทุกคนส่วนใหญ่จะคาดหวังกับรายการนี้สูง ถ้าตีดีก็ดีเลย แต่หากหลุดฟอร์มก็ออกทะเลไปเลย
คนคาดหวังกับเราไว้เยอะ กดดันมากไหม?
หนูคิดว่าเรื่องนี้อยู่ที่ว่าเราจะบริหารความคิดและสภาพจิตใจเราได้ดีแค่ไหน เพราะว่านักกีฬาก็หวังที่จะชนะ อยากให้ผลงานออกมาดีที่สุด
ว่ากันว่าเรื่องของรายได้ แบดมินตันเป็นกีฬาที่ไม่ได้มีรายได้มากมายอะไร เมื่อเปรียบเทียบกับกีฬาข้ามเน็ตเหมือนกันอย่างเทนนิส ?
จริงค่ะ แต่ตอนนี้ถือว่าดีขึ้นกว่าแต่ก่อนมากๆ รุ่นพี่ที่ตอนนี้เป็นโค้ชให้หนูก็เคยเล่าให้ฟังว่าสมัยก่อนได้น้อยมากๆ รุ่นเมย์โชคดีเงินรางวัลสูงขึ้น
ตอนเด็กๆ หนูไม่ได้คิดจะยึดเป็นอาชีพเลย ตอนนั้นไม่ได้คาดหวังว่าเราจะต้องเป็นนักแบดฯ ทีมชาติ เพราะแค่ตีเล่นๆ ไม่ได้จริงจังอะไรมาก คือแม่ปุก (กมลา ทองกร ผู้อำนวยการโรงเรียนแบดมินตันบ้านทองหยอด) แค่ไม่อยากให้หนูไปซนหรือไปเล่นในโรงงานทำขนม เลยทำให้หนูได้มาตี ตอนแรกไม่ได้พร้อมอะไร เพราะหนูไม่ค่อยมีเงินซื้อหาอุปกรณ์ ก็ได้แม่ปุกนี่แหละค่ะดูแล
นอกจากนี้ หนูโชคดีที่ผู้ใหญ่ที่เป็นสปอนเซอร์ต่างๆ เขาเข้าใจหนูทั้งเรื่องฐานะตั้งแต่เริ่มต้น เขาเข้าใจว่าเมย์เป็นเด็กที่สู้เพื่อครอบครัวมากๆ ผู้ใหญ่เลยอัดฉีดให้ค่อนข้างเยอะ และแม่ปุก พี่มุก (คณิศรา เงินศรีสุข ผจก. ทีมบ้านทองหยอด) พี่เป้ (ภัททพล เงินศรีสุข) ที่เป็นโค้ช ก็บอกว่าเมย์โชคดีที่สปอนเซอร์รักเรา และดูแลเป็นอย่างดี
มีอะไรแนะนำน้องๆ ที่เห็นเราเป็นไอดอล และกำลังเดินเข้าสู่วิถีของนักแบดฯ มืออาชีพ ควรเริ่มต้นอย่างไร?
กีฬาประเภทนี้ดูเหมือนเป็นอะไรที่ง่าย แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่เลยนะคะ อย่างตอนแรกๆ ที่หนูเริ่มหัด พี่เขาก็โยนลูกมาให้หนูก็ตีไป เขาตีกลับมาแล้วลูกมาเร็วก็โดนหัวไปหลายครั้งเลย (หัวเราะ )ต้องพยายามใส่ใจให้มากที่สุดในทุกๆ รายละเอียด โดยเฉพาะในระดับพื้นฐานซึ่งเป็นเรื่องสำคัญมาก อย่างที่นี่เขาจะสอนเริ่มตั้งแต่การตั้งท่า ตีอย่างไรให้ถูกวิธี คือท่าและการตีจะสวยมากๆ คนจะบอกเสมอว่าเด็กทีมนี้ตั้งท่าสวยตีสวยซึ่งทั้งหมดมาจากการฝึกทั้งสิ้น
นอกจากนี้จะมีฝึกการวิ่งเข้าหน้า การวิ่งถอยหลัง โค้ชจะพยายามเน้นในจุดตรงนั้นเพื่อให้เด็กซึมซับและเคยชิน ทำได้อย่างเป็นธรรมชาติ และถ้าเด็กดีขึ้นก็จะให้ไปตีเกมเพื่อดูการวิ่งเข้าหน้าถอยหลัง เด็กคนไหนยังไม่ดีตรงไหนก็จะให้มาพัฒนาตรงนั้น แล้วหากดีขึ้นก็ขยับขึ้นไปอีกรุ่นหนึ่ง ไปตีเกมกับคนที่ฝีมือสูสีกันได้ ทำให้เด็กได้คิด สนุก และใส่ใจกับตรงนั้นมากขึ้น
ส่วนการเดินทางสู่วิถีมืออาชีพต้องอยู่ที่ใจของเราเอง ใจของนักกีฬา ระเบียบวินัยถือเป็นเรื่องสำคัญ บางทีต้องฝืนใจก็มี อย่างตอนเด็กๆ ใจหนูก็อยากไปเที่ยวเล่นกับเพื่อน แต่มันก็ไม่ได้ เพราะเราต้องมีหน้าที่เรียน เรียนเสร็จต้องรีบกลับมาซ้อม เพื่อนชวนไปเที่ยวเล่นกินข้าวกันหลังเลิกเรียนเราก็ไปไม่ได้ ไม่ใช่แค่ไม่กล้าไปนะคะ เรียกว่าไม่กล้าแม้แต่จะขอเลยมากกว่า ก็ได้แต่ขอโทษเพื่อนไปว่าไม่ได้จริงๆ ถ้ากินที่โรงเรียนพอได้ แต่หากต้องออกไปนอกสถานที่นี่พูดเลยว่าไม่กล้า บอกเพื่อนไปตรงๆ
เพื่อนมัธยมต้นคือเพื่อนที่ทำให้หนูได้เข้าใจคำว่าเพื่อนในโรงเรียนที่สุด มีเวลาอยู่กับเพื่อนค่อนข้างมาก เพราะยังไม่ได้ตีเป็นอาชีพนัก แต่ช่วง ม.ปลาย หนูเริ่มเข้าสู่ระบบอาชีพแล้ว ทำให้ไม่ค่อยได้ไปโรงเรียน ไม่ค่อยได้สุงสิงกับเพื่อน
เท่ากับว่าเมย์ก็สูญเสียชีวิตวัยรุ่นไป?
ก็ประมาณหนึ่งนะคะ คือมีบ้างที่เรารู้สึกขี้เกียจ ผู้ใหญ่ก็จะคอยสอนคอยบอก แต่ละท่านบอกว่าเข้าใจนะว่าเรารู้สึกอย่างไร ช่วยให้หนูไม่คิดอะไรมาก อีกอย่างการเล่นกีฬากลายเป็นเหมือนชีวิตประจำวันของหนูไปแล้ว พยายามทำให้ควบคู่ไปด้วยกันทั้งเรื่องเรียนและกีฬา
นอกจากนี้มีรุ่นพี่ๆ มาแนะนำว่า ช่วงชีวิตของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ถ้าเป็นคนอื่นเวลานี้เขาเที่ยวเล่นใช้ชีวิตแบบวัยรุ่น แต่อีกหน่อยเขาก็ต้องทำงาน อาจไม่ได้มาสนุกแบบนี้อีก แต่เมย์ทำงานตั้งแต่เด็ก โตขึ้นเมย์ก็จะใช้ชีวิตได้สบายกว่าคนอื่น หนูเลยคิดว่าเราควรทำตอนนี้ให้ดีที่สุด ชีวิตนักกีฬามันจะสั้นกว่าคนทำงานปกติทั่วไป แต่ถามว่ารายได้เยอะไหม แน่นอนเยอะกว่ามาก ทั้งนี้ก็อยู่ที่เราว่าจะรักษาสภาพร่างกายและพัฒนาฝีมือได้ดีแค่ไหน
ในเมื่ออาชีพนักกีฬาสั้น เมย์วางแผนอนาคตหลังแขวนแร็กเก็ตไว้อย่างไร?
คงเป็นโค้ชแบดฯ ค่ะ เพราะเป็นอะไรที่เราถนัดอยู่แล้ว แต่ทั้งนี้ต้องคุยกับผู้ใหญ่อีกที เพราะมีคุยๆ ไว้ว่าอาจจะเข้ารับราชการตำรวจ ซึ่งก็ยังไม่แน่นอนค่ะ พยายามหาอะไรที่ดีที่สุดสำหรับเราหลังจากเลิกเล่น
จากเด็กที่ตีแบดฯ เล่นไปวันๆ ตอนนี้เป็นน้องเมย์ขวัญใจของคนทั้งประเทศแล้ว รู้สึกอย่างไร?
หนูอาจจะเกิดมาไม่ได้มีฐานะที่เพียบพร้อมอะไร ดีตรงที่ว่าเราได้รับโอกาสที่ดีกว่าเด็กคนอื่นๆ เลยทำให้เราได้มาถึงจุดนี้ ด้วยการมีผู้ใหญ่ที่รักเราและคอยช่วยเหลือตลอด ถามว่าจะมีเด็กสักคนหนึ่งที่จะได้รับการดูแลเอาใจใส่ขนาดนี้อีกไหม หนูว่ายากค่ะ หนูไม่รู้นะคะว่าผู้ใหญ่คนอื่นๆ เขาจะคิดกับเด็กที่พยายามเอามาปั้นอย่างไร แต่แม่ปุกท่านถือว่าเป็นคนที่ใจดีมากๆ และช่วยเหลือหนูแบบไม่ได้หวังผลอะไรเลย หนูเลยคิดว่าหนูโชคดีมากๆ ที่ได้มาถึงในจุดนี้โดยมีท่านดูแล รวมไปถึงพ่อแม่ที่ดูแลหนูมาอย่างดี เพราะตอนนั้นแค่ลำพังท่านทำงานก็เหนื่อยมากๆ แล้ว ยังต้องมาดูแลหนูอีก พอหนูเริ่มแข่งได้รางวัลก็เลยเก็บสะสมเงินรางวัลต่างๆ ไว้ใช้จ่ายเองเพื่อลดภาระของพ่อแม่
อีกอย่างหนึ่งตอนเด็กๆ คู่หูของหนูก็เป็นคนที่มีฐานะ หากมีการเดินทางไปแข่งขันต่างจังหวัดไกลๆ เขาก็สงสารเรา ออกค่าเครื่องบินให้เดินทางไปพร้อมกันเลย แม่ยังบอกหนูว่าโชคดีมากๆ ได้นั่งเครื่องด้วย แล้วแม่ก็ถามว่าเห็นอะไรไหมข้างบน หนูก็บอกตามประสาเด็กๆ ว่า เหมือนเห็นนางฟ้าเลย คือเราเป็นเด็กก็คิดว่านางฟ้ามีจริงอะไรแบบนั้น (หัวเราะ)
มีเคล็ดลับการบริหารจัดการชีวิตและเวลาอย่างไรบ้าง?
ชีวิตส่วนตัวก็ต้องดูแลตัวเองมากขึ้น ต้องทำอะไรที่เหมาะสม ไม่ให้ดูเป็นทางลบกับการเป็นนักกีฬาของเรา การที่เราทำอะไรที่ไม่ดี ก็จะเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีแก่เยาวชนรุ่นต่อไป เพราะเขาเห็นเราเป็นเสมือนต้นแบบคนหนึ่ง แม่ปุกก็บอกว่า ดีตรงที่มีคนให้ความสนใจเราเยอะ แต่ในอีกด้านหนึ่งมีคนรักก็ต้องมีคนเกลียด ฉะนั้นเราควรวางตัวให้ดี ไม่ออกนอกลู่นอกทาง อย่าทำตัวหยิ่ง ทำตัวให้เป็นปกติเหมือนก่อนที่เราจะเริ่มมีชื่อเสียงขึ้นมา
มีอะไรฝากถึงคนไทยที่ติดตามเชียร์เมย์มาตลอด?
ต่อจากนี้ไปทุกรายการถือว่าสำคัญมากๆ สำหรับหนู จะพยายามรักษาฟอร์มการเล่นของตัวเองให้ดีที่สุด และพัฒนาให้ดีขึ้นเพื่อจะได้พีคที่สุดในช่วงโอลิมปิก 2016 และหวังว่าจะทำให้คนไทยมีความสุขยิ่งๆ ขึ้นไปค่ะ
เรื่อง : อิทธิพล เนียมสวัสดิ์
ภาพ : พาณุวัฒน์ เงินพจน์