“ศาสนาพุทธไม่ได้สอนว่าเราทำบุญเท่าไหร่ แล้วได้ไปสวรรค์ชั้นไหน” เสียงจาก Fuck Ghost สมาคมต่อต้านสิ่งงมงาย

ว่าโดยย่นย่อ หากคุณยังไม่รู้จัก ‘Fuck Ghost’

เพจนี้ก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่ปี 2012 โดยนิยามตนเองเป็น ‘สมาคมต่อต้านสิ่งงมงาย’ มีเป้าหมายลบล้างความงมงายทุกประเภทในลักษณะ ‘ไม่เชื่อ! ต้องพิสูจน์’ ถือเป็นขั้วตรงข้ามอย่างสิ้นเชิงกับประโยคอมตะคู่สังคมไทยที่ว่า ‘ไม่เชื่อ! อย่าลบหลู่’ โดยมีแอดมิน 3 คนที่ใช้นามแฝงว่า B, W และ J ซึ่งวันนี้เราได้คุยกับตัวแทนของพวกเขา คือแอดมิน B

“มันเริ่มต้นตั้งแต่ตอนที่ทั่วโลกอกสั่นขวัญแขวนกับคำทำนายวันสิ้นโลกในปี 2012 เรามานั่งคิดแล้วว่า เฮ้ย! ความเชื่อแบบนี้ที่อ้างๆ กันว่ามันไม่เดือดร้อนใคร ความจริงมันสร้างความเดือดร้อนให้คนนะ สร้างความกลัวอย่างไม่มีเหตุผล ซึ่งเมืองไทยเองมีเรื่องแบบนี้อยู่มาก ฝังอยู่ในสังคมไทยมานาน หลายคนสูญเสียเงินทอง เสียครอบครัวกับไปความเชื่องมงายพวกนี้ เราเลยคุยกับเพื่อนคอเดียวกันว่า เฮ้ย! มันถึงเวลาแล้วว่ะ ที่เราจะออกมาบอกมาแฉเรื่องพวกนี้ให้สังคมตาสว่างกัน”

ความแรงของเพจ ‘Fuck Ghost’ เกิดขึ้นจากการที่กล้าเล่นกับความเชื่อของคนในสิ่งลี้ลับต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นผีสางนางไม้ กุมารทอง คนทรงเจ้า หมอดู หมอผี หรือแม้แต่อลัชชีในศาสนาพุทธ จนหลายรายการดังต่างเชิญตัวไปดีเบตเพื่อเปิดมุมมองอีกด้านของความเชื่อให้สังคมได้คิด ได้ตั้งสติกับสิ่งที่เชื่อ ซึ่งทำให้เกิดทั้งกระแสต่อต้านและสนับสนุนในคราวเดียวกัน

เห็นช่วงหลังโพสต์เกี่ยวกับเรื่องวัดพระธรรมกายเยอะ เราเห็นอะไรจากตรงนั้น?

ต้องย้อนกลับไปก่อนว่าศาสนาพุทธสอนอะไร ศาสนาพุทธไม่ได้สอนว่าเราทำบุญเท่าไหร่แล้วได้ไปสวรรค์ชั้นไหนๆ ศาสนาพุทธสอนเรื่องเหตุและผล สติในการใช้ชีวิต สอนเรื่องการลดละเลิกกิเลสเพื่อจะได้พ้นทุกข์ ได้ปล่อยวางจากเรื่องงมงาย เรื่องไสยศาสตร์ ไม่มีเลยนะที่สอนเรื่องไสยศาสตร์หรือถอดจิตไปสวรรค์หรือนรก บางคนอ้างว่าเรื่องพวกนี้อยู่ในพระไตรปิฎก ถามว่าพระไตรปิฎกคือหนังสือที่คนเราแต่งมาใช่ไหม แล้วแต่งกี่คน มีการสังคายนากี่รอบ สมัยนั้นพระพุทธเจ้าสั่งสอนเหล่าสาวกด้วยการพูดการเทศนา เมื่อเหล่าสาวกหรือผู้ที่เลื่อมใสได้ฟังก็มีการบอกเล่าต่อๆ กันมาจนกลายมาเป็นบันทึก แน่นอนว่าผ่านมาสองพันกว่าปี สิ่งที่บอกเล่า สิ่งที่บันทึกต่อๆ กันมานั้นมีการเสริมแต่งเข้าไปในบางยุคบางช่วง เอานรกมาหลอกคนให้กลัวการทำชั่วทำบาป เอาสวรรค์มาหลอกล่อให้คนอยากทำดี มีเรื่องอภินิหารต่างๆ นานาเพื่อให้คนอยากอ่านอยากเข้ามาศึกษาในแก่นหลักธรรมคำสอน ถ้าเป็นหนังก็เหมือนมีสเปเชี่ยลเอฟเฟ็กต์ตื่นตาตื่นใจให้คนอยากดู แต่ท้ายสุดเราต้องมาดูว่าแก่นคืออะไร พระพุทธเจ้าสอนอะไรไว้

มาที่เรื่องธรรมกาย เขาสอนคนของเขาให้บริจาคเยอะๆ เพื่อจะได้ไปสวรรค์ในแต่ละเฟส บริจาคมากก็ขึ้นไปในเฟสที่สูงมากขึ้น ถามว่าเรื่องนี้มันมีจริงไหมสวรรค์ที่เขาว่า เขาอ้างว่าไปแล้วใช่ไหม เห็นมาหมดทุกๆ เฟส ถามกลับว่าสิ่งที่เขาบอกนั่นอวดอุตริมนุสธรรมหรือไม่ อวดอ้างคุณวิเศษเหนือมนุษย์ ตรงนี้ผิดกฎสงฆ์ร้ายแรงนะ อันนี้ต้องมาคิดว่าธัมมชโยขาดจากความเป็นพระแล้วหรือเปล่า? ส่วนบางคนบอกว่าไม่เห็นเดือดร้อนอะไรเลย ใครจะเชื่อก็เรื่องของเขา ซึ่งถ้าครอบครัวหนึ่งเชื่ออย่างงมงายเลยว่าต้องหาเงินมาบริจาคเยอะๆ เพื่อตายแล้วจะได้เป็นเทวดา แต่กลับไม่ดูแลคนที่บ้าน ลูกหลานพ่อแม่ไม่สนใจ หาเงินด้วยวิธีการอะไร ฉ้อฉลยังไงก็ได้เพื่อมาทำบุญ อันนี้กลายเป็นปัญหาสังคมไหม? หรือถ้าจะให้ชัดภาครัฐมีการตรวจสอบแล้วว่าเงินบริจาคของนายศุภชัย (ศุภชัย ศรีศุภอักษร) นั้นยักยอกมาจากประชาชน มาบริจาคให้กับธัมมชโย ซึ่งเข้าข่ายการฟอกเงิน ตรงนี้เดือดร้อนกันไปหลายคนอย่างชัดเจน นี่คือการใช้ความเชื่อของคนไปแสวงหาผลประโยชน์ ซึ่ง ‘Fuck Ghost’ เองต่อต้านเรื่องพวกนี้มาตลอด

ติดตามจากข่าวแล้ว เราได้เห็นสาวกของธรรมกายนั้นมากมายเหลือเกิน มีทุกชนชั้น ทำไมเขาถึงสร้างความศรัทธาให้เกิดกับคนในวงกว้างได้ขนาดนี้?

มองลักษณะการบริหารงานของวัดธรรมกายแล้วเราจะพบว่าเหมือนการเล่นเกมออนไลน์ เขาจะมีเลเวลให้เราไต่ขึ้นไป มีไอเท็มให้เราเก็บในแต่ละชั้น เมื่อเข้าสู่ชั้นบนๆ คุณจะมีที่นั่งที่ชัดเจน เครื่องแบบที่ชัดเจน มีการนำเสนอภาพของเราในสื่อต่างๆ ของเขา เรียกว่าค่อยๆ มีตัวตนขึ้นมาเป็นระดับชั้น ซึ่งมันทำให้คนอยากขึ้นไปอยู่ในจุดจุดนั้น ทีนี้เราต้องมาตั้งสติดูกันว่ามันสวนทางกับที่พระพุทธเจ้าสอนหรือไม่? เป็นวิธีการของการลดละเลิกกิเลสหรือเปล่า?

อย่างตอนนี้มีพระสงฆ์ออกมาเฮๆ ให้บรรจุพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ บรรจุแล้วทำให้อะไรเกิดขึ้น? เรื่องของกฎหมาย หรืออะไรมันจะถูกยกเว้น อย่างมหาเถรสมาคมมีอำนาจในการปกครองดูแลคณะสงฆ์ แต่ว่าไม่ทำไม่จัดการพระที่มีคดีความ อย่างกรณีของธัมมชโยคือพระไม่อยู่ในกฎหมาย ใช้มวลชน ใช้ศาสนามากดดันทางกฎหมาย มันเป็นความเสื่อม แล้วถ้าพระสงฆ์มีอำนาจมากกว่านี้มันจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าเขามีมวลชน เขามีรายได้ที่ไม่สามารถตรวจสอบได้ พระสามารถที่จะปลุกระดมมวลชนได้มันก็จะเป็นปัญหา บางคนใช้เรื่องของศาสนามาแสวงหาผลประโยชน์โดยที่องค์กรภาครัฐไม่สามารถตรวจสอบได้มันก็คือปัญหา ซึ่งเราก็ต้องมาดูว่าเดินมาถูกทางหรือเปล่า

แต่ก็ใช่ว่าความเชื่อแบบไทยๆ มันจะหายไปง่ายๆ แค่เราต่อต้านหรือลบล้างเจ้าลัทธิ แต่ท้ายสุดความเชื่อมันก็ยังคงอยู่?
 

จริงๆ คำว่าพุทธ ในคำแปลคือผู้ตื่น คือผู้ตื่นจากความงมงายเลยก็ว่าได้ คิดเอาแล้วกันว่าธรรมะคือกฎของธรรมชาติ ถ้าเหนือจากธรรมชาติมันก็ไม่ใช่ธรรมะแล้ว แต่ถ้าเราอยู่ในหลักเหตุผลนั่นคืออยู่ในขอบเขตของความเป็นจริง ถ้าเราอยู่ในขอบเขตนั้นก็จะมีสติ จะฟังอะไรก็อยู่ในกรอบของเหตุผล ถ้าอยู่ในกรอบเหตุผลได้ ทิ้งความเชื่อให้เหลือน้อยลง ประเทศมันก็เจริญ เราควรศึกษาพุทธอย่างแท้จริง ถ้าอยากจะลงลึกเรื่องศาสนาต้องศึกษาเองและอยู่ในหลักของเหตุผล อย่าไปฟังแต่พระ เพราะพระบางรูปก็จะสอนแต่เรื่องเหนือธรรมชาติ เราเป็นคนยุคใหม่ควรใช้เทคโนโลยีในการศึกษาเรื่องของเหตุและผลมากกว่าที่จะไปหาตุ๊กตาลูกเทพ ไปซื้อวัตถุมงคล ไปเสพเรื่องงมงายมันก็ไม่มีประโยชน์ เราเป็นคนยุคปัจจุบันเราควรมีสติได้แล้ว อยู่ห่างๆ จากความเชื่อที่มันไร้เหตุผล

แม้เราไม่เชื่อ แต่คนรอบข้างเชื่อ มันก็ส่งผลต่อเราได้นะ?

ใช่ อย่างครอบครัวเราเชื่อก็จะพาเราไปเปลี่ยนชื่อ เราจะออกไปเที่ยวต่างจังหวัดพ่อแม่ไปดูดวงมาว่าอย่าออก เราก็ไม่ได้ออกไปเที่ยว ไปดูหมอมาหมอบอกว่าแฟนคนนี้คบไม่ได้เป็นกาลกิณี อันนี้แหละที่มันเป็นปัญหา เรื่องงมงายมันเกิดขึ้นจริงในสังคมไทย ไม่ว่าจะเรื่องร่างทรง พิธีกรรมทางไสยศาสตร์มันเกาะกินสังคมมานาน เราอยู่กับความกลัวพวกนั้น จริงๆ เพจ ‘Fuck Ghost’ ก็คือการสอนให้หลุดพ้นจากความกลัว ซึ่งเป็นข้างหนึ่งของทุกข์ ศาสนาพุทธสอนเรื่องดับทุกข์ ซึ่ง ‘Fuck Ghost’ เองก็สอนเรื่องแบบนี้ ใช้ชีวิตให้อยู่ในหลักเหตุผล มีสติ เข้าใจก่อนว่าสิ่งที่เรากลัวมันถูกต้องหรือเปล่า คือทุกอย่างมันต้องศึกษา ผมไม่ได้กลัว ผมก็ศึกษามาแล้วว่าความกลัวมันคืออะไร มันมาจากจินตนาการ แต่ถ้าเรารู้ความจริงแล้วความกลัวก็จะลดลง
เรื่อง : 7.00 น.
ภาพ : พาณุวัฒน์ เงินพจน์

No Comments Yet

Comments are closed

user's Blog!

49/1 ชั้น 4 อาคารบ้านเจ้าพระยา ถนนพระอาทิตย์ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200

49/1 4th floor, Phra-A-Thit Road, Chanasongkhram,Phanakorn Bangkok 10200

Tel. 02 629 2211 #2256 #2226

Email : mars.magazine@gmail.com

FOLLOW US ON

SUBSCRIBE