ก่อนจะส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่จะมาถึง Taste ขอพาทุกท่านย่างกรายออกจากเมืองกรุงอันศิวิไล เพื่อหวนกลับคืนสู่ธรรมชาติกันอีกครั้ง บนแดนดินถิ่นอีสาน จิม ทอมป์สัน ฟาร์ม ณ อำเภอปักธงชัย จ.นครราชสีมา ที่เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมกันแล้วตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม – 8 มกราคม 2555 นี้ การเดินทางครั้งนี้ไม่ได้ลำบากยากเย็นสักเท่าไหร่ แต่กว่าเราจะเดินทางถึงที่พักก็เกือบค่ำซะแล้ว เลยไม่ได้ชมความงามธรรมชาติที่โอบล้อมถนนสองข้างท้าง เราใช้เวลาเดินทางไปทั้งหมดประมาณ 4 ชั่วโมงเพื่อเดินทางเข้าสู่ฟาร์มที่มีพื้นที่กว่า 600 ไร่บนเชิงเขาพญาปราบ ตำบลตะขบ แหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีของชาวอีสานดั้งเดิม
ศิลปะที่ถูกแต่งแต้มด้วยสีสันแห่งธรรมชาติถูกสร้างสรรค์ขึ้นบนไร่จิม ทอมป์สัน ฟาร์ม มนเสน่ห์ของท้องทุ่ง ต้นไม้ ดอกไม้ และพืชผักนานาพันธุ์สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับนักท่องเที่ยวอย่างเราๆที่มาเข้าชม ไม่พลาดที่จะชักภาพประทับใจติดมือกลับบ้านไปด้วยอย่างแน่นอน ในฟาร์มจะมีจุดเที่ยวชมที่โดดเด่นให้เข้าชมถึง 4 จุดใหญ่ๆด้วยกัน
ในการเยี่ยมชมพื้นที่ในฟาร์มกว่า 600 ไร่ หากเดินชมได้ครบในหนึ่งวันคงไม่ใช่คนธรรมดาแน่ ครั้งนี้เราเลยมีพาหนะพิเศษที่จะอำนวยความสะดวกให้แก่เรา คือ รถรางสุดน่ารัก ที่พาเราเข้าสู่จุดชมวิวจุดที่ 1ทุ่งปอเทืองเหลืองอร่าม บานอยู่เต็มทุ่งเหมือนเดินอยู่ในแดนสนธยา แสงแดดอ่อนๆที่กระทบกับดอกปอเทืองที่กำลังแย้มบานสะพรั่งราวกับเป็นการต้อนรับผู้มาเยือน เราแวะชื่นชมความงามกับทุ่งปอเทืองอยู่นาน จนในที่สุดเราก็ต้องขึ้นรถรางลาทุ่งปอเทืองและเยี่ยมชมจุดชมวิวจุดถัดไป
จุดที่สอง อยู่ไม่ห่างจากทุ่งปอเทืองมากนัก นั่งรถรางประมาณ 5 – 10 นาทีก็ถึงจุดชมวิว แต่ขอบอกว่าสร้างความประทับใจและความเพลิดเพลินให้กับเราได้มากจริงๆ ที่แห่งนี้คือ ทุ่งทานตะวัน ลานฟักทอง และทุ่งคอสมอส ถึงจุดนี้พอลงจากรถแล้วไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหนก่อนดี เพราะมองไปทางไหนก็สวยไปหมด ดอกทานตะวันและดอกคอสมอสหลากสีสันกำลังเบ่งบานรับลมหนาวชวนให้หลงใหลเหมือนโดนมนต์สะกด จนเราเพลิดเพลินอยู่กับการถ่ายภาพไว้เป็นที่ระลึกอยู่หลายภาพ
ถัดมาคือ ลานฟักทอง หรือภูเขาฟักทองยักษ์ บริเวณนี้คลาคล่ำไปด้วยฟักทองนับหมื่นผลหลากหลายสายพันธุ์ ที่ถูกนำมาจัดวางได้อย่างงดงาม มีทั้งขนาดเล็กขนาดใหญ่ให้เลือกหยิบจับมาเป็นพร็อพเพิ่มความเก๋ไก๋ การตกแต่งภายในลานยังสอดแทรกวิถีชีวิตประจำวันของชาวอีสานให้เห็นด้วยการใช้เครื่องจักรสานยักษ์มาเป็นสื่อเพื่อแสดงออกถึง “ถิ่นอีสาน” ของแท้ดั้งเดิม อาทิ เช่น กระติ๊บข้าว ข่อง ซุ่ม และแง่บ ทุกอย่างถูกจัดวางไว้อย่างมีศิลปะที่ผสมผสานกันไว้ได้อย่างลงตัว ทำให้จุดชมวิวที่สองนี้ได้ใจเราไปเต็มๆ ถ้าคะแนนเต็มสิบ เราขอให้ไปเลย 9.99 อะเมซิ่งไทยแลนด์ขนาดนี้ไม่มาไม่ได้แล้วจริงๆ
หลังจากเที่ยวชมทุ่งดอกไม้อยู่นาน เราขอเปลี่ยนบรรยากาศจากทุ่งไม้ดอกสีสันสวยงาม มาสู่ท้องนาที่เต็มไปด้วยรวงข้าวสีเหลืองอร่ามพร้อมจะเก็บเกี่ยวในอีกไม่นานกันบ้าง กลิ่นฟางข้าว และดินโคลนลอยมาแตะจมูกเบาเบา เดินไปอีกนิดก็เจอะกับครอบครัวน้องควายบุญหลายยืนทำหน้าตาน่ารักแสนรู้ ราวกับว่าพร้อมต้อนรับแขกที่มาเยือน “หมู่บ้านอีสาน”
สิมกลางน้ำ (โบสถ์ในภาคอีสาน) ความงามแห่งสถาปัตยกรรมอีสานที่จิม ทอมป์สัน ได้สร้างขึ้นในปีนี้
ภายในหมู่บ้านมีการสาธิตขั้นตอนการทอผ้าไหมตั้งแต่เป็นตัวดักแด้จนกลายเป็นผ้าไหมผืนงาม เราสามารถเข้าไปมีส่วนร่วมในการทอได้ทุกขั้นตอน ทำให้เพลินจนลืมเวลาพักกลางวัน ที่นี่จะมีซุ้มอาหารอีสานมากมายหลายร้านคอยบริการเราอยู่ ราคาไม่แพง บรรยากาศเป็นกันเอง และพลาดไม่ได้กับเมนู “ต้มไก่ยอดหม่น” ขอบอกว่าแซ่บอีหลีเด้อ !!! โต๊ะกินข้าวและม้านั่ง ถูกสร้างขึ้นมาจากฟางข้าวหุ้มด้วยผ้าขาวม้าสีสันสวยงาม จานชามแบบโบราณ ทำให้มื้อกลางวันของวันนี้เป็นอีสานแต้ๆ เพิ่มพลังกันแล้วก็เดินย่อยอาหารไปเยี่ยมชม สิมกลางน้ำ(โบสถ์ในภาคอีสาน) ซึ่งเป็นไฮไลท์ในปีนี้
พลาดไม่ได้กับจุดสุดท้าย ที่เมื่อกลับบ้านไปทุกคนต่างต้องถามหา “สวนไม้ดอกและตลาดจิม ทอมป์สัน” เป็นแหล่งรวมรวมผลผลิต มีทั้งฝ้าไหมไทย ผักปลอดสารพิษ ชาใบหม่อน และฟักทองนานาพันธุ์ ที่คุณสามารถเลือกซื้อไปเป็นของฝาก ก่อนขึ้นรถรางกลับขอแชะภาพวิวต้นสนสวยๆที่ปลูกตลอดแนวทางเดิน เหมือนกับฉากในซีรี่ย์เกาหลียังไงอย่างนั้นเป็นภาพประทับใจก่อนกลับ ….^^
จิม ทอมป์สัน ฟาร์ม ความภาคภูมิใจของคนอีสาน ที่รวบรวมวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมแบบอีสาน ไว้อย่างมากมายในที่เดียวกัน สัมผัสได้ถึงสำนึกรักแผ่นดินเกิดของคนอีสานที่เราต้องร่วมสืบทอดและเผยแพร่ต่อไป
โดย : มาลินี, ชันณิษา
ภาพ : ชันณิษา