สุดยอด Sexy Song ที่ต้องฟัง!!

Blowin’ in the songs
โดย : ประมวล ดาระดาษ
p_daradas@hotmail.com

สุดยอดเพลงเซ็กซี่ อมตะนั้น ขึ้นอยู่กับการยิน ทัศนะและรสนิยม โลกแห่งเสียงเพลงอาจมีเพลงมากมายหลายเพลง ที่ทำให้ผู้ฟังเกิดอารมณ์โรแมนติกหวามไหวในอารมณ์แบบรื้นสุข เพลงเซ็กซี่ในที่นี้ ผู้เขียนยึดเอาเนื้อหาและท่วงทำนองและวิธีการร้อง ที่ให้อารมณ์อย่างว่า เปี่ยมคุณค่าทางศิลปะ นวลเนียนอยู่ในระดับที่สุภาพและมีรสนิยม เพลงสมัยใหม่ สไตล์ฮิปฮอป หรือป็อป แดนซ์ มักมีเนื้อหาออกไปทางโจ่งครึ่มทางเพศ หรือโป๊เปลือยจนเกินงาม ในที่นี้จะไม่กล่าวถึง

ยุค 80s-สิ้นสหัสวรรษ เพลงเซ็กซี่แนวโรแมนซ์พอหาฟังได้โขอยู่ เรามาดูและรื้อฟื้นความหลังกันนะครับ

“Leather and Lace”(Stevie Nicks with Don Henley, 1981)
สตีวี่ นิค อดีตนักร้องนำ ฟลีท วูดแม็ค มาฟีเจอริ่งกับดอน เฮนเลย์ หนึ่งในพญาอินทรี ดิ อีเกิลส์ เป็นเพลงที่เซ็กซี่ โรแมนติก ออดอ้อน พลอดรักรำพันความในใจต่อกันด้วยสิเน่หา จากอัลบัม “เบลลา ดอนนา” ปี 1981

Leather-หนัง นั่นน่าจะนัยถึงฝ่ายชายที่มีความเป็นอาชาไนยกล้าแกร่ง ส่วน Lace นั่น แปลว่าลูกไม้ อันผ้าลูกไม้ หญิงใดประดับและแต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่มีลูกไม้เป็นส่วนประกอบ จะแลดูสูงศักดิ์ น่าทะนุถนอม ที่สำคัญมันเซ็กซี่มาก ถ้าอยู่ในชุดแบบ ต้องเลิกเปลือกบนไปพบและจัดการกับมัน

กับวรรคหนึ่งในเพลง “You in the moonlight, with your sleepy eyes, could you ever love a girl like me?” ถ้าเป็นสาวแสนสวยผู้มีรูปร่างสง่า และน้ำเสียงสะกดจิตปานมนต์ให้หลงเสียงนาง บุรุษใดเล่าจักกล้าปฏิเสธ

“Your Body is a Wonderland” (John Mayer, 2002)
เขาล่ะ จอห์น เมเยอร์ ซุป'ตาร์ คันทรี ร็อก ร่วมสมัยขวัญใจใครต่อใครในยุคนี้ ทั้งคันทรีสตาร์สาวด้วยกัน ถึงนางแบบและสาวไฮโซ…ก็มาแบบดอนฮวนแบดบอย ที่ผู้หญิงยุคนี้ชอบคบหาแหละครับ

แปลกผู้ชายดีๆ ยุคนี้หาแฟนยากส์ ต้องออกนิสัยห่ามๆ แอ๊บ (นอร์มอล) หน่อยๆ หญิงก็คงจะนึกและสมจินตนาการกระมัง ว่าชายประเภทนี้ “ถึง” (ในเรื่องอะไรก็เถอะ) ก็ช่วยไม่ได้หรอกครับ ที่จะให้สตรีในยุคนี้สรรหาแบบนั้น เรียบร้อยมาก มักถูกเหมาว่าเป็นแต๋ว เป็นเกย์ สาวเจ้ากลัวคบแล้วจะช้ำใจภายหลัง

จอห์น เมเยอร์ นับว่ามีคุณสมบัติครบทุกประการ รูปหล่อ นิสัยอย่างว่า ชอบนินทาหญิง แลมากรัก จับหมอให้อยู่ละกัน มาฟังทัศนคติของเขา (เขียนเนื้อเอง) ท่วงทำนองเชิงเซ็กซี่ อีโรติกขนาดไหน พูดมากไม่ได้ ริษยาหมอ (ครับ)

“Time After Time” (Cyndi Lauper, 1984)
เป็นเพลงช้าแต่ดูเหมือนจะมีพลังขับมหาศาลที่ดูเหมือนจะสื่อสารด้านที่สงบงาม และสำนึกด้านนั้นออกมา กับบางวรรคในบทเพลง ที่ซินดี ลอว์เปอร์ ร้องด้วยน้ำเสียงสุดเซ็กซี่และวาบหวามทำให้จินตนาการไปถึงบทรักหวานซึ้ง ที่เคยมีสาวรุ่นใหญ่ปานปะสายทอง “ปะสายทองดุจต้องพายุว่าว พอออกอ่าวก็ล่มจมไปเลย” เมื่อยินเสียงแล้ว จินตนาการไปได้ขนาดนั้น…สำเนียงดนตรี คือขนบรัญจวนแห่งยุค 80s

Johnny and June (Heidi Newfield, 2009)
เพลงนี้มีเรื่องรักเป็นแบ็กกราวนด์ กับการร้องที่ทรงพลัง เพลงให้ความรู้สึกแห่งความรักและหัวใจที่หญิงชายมีต่อกัน ก็ตำนานแห่ง “วอล์ก เดอะ ไลน์” อันอมตะและเลื่องลือของสุดยอดศิลปิน จอห์นนี่ แคช และจูน คาร์เตอร์ ดูและฟังวิดีโอในยูทูบแล้ว อัตลักษณ์ ลักษณะร่วมสาวสมัยของเธอไฮดี้ นิวฟิลด์ ก็เซ็กซี่กลบเพลงไปแล้ว
“ ”
“Crash Into Me” (Dave Matthews Band, 1997)
แทร็กนี้ ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงแกรมมี่ สาขา Best Rock Performance ในปี 1998 แม้รูปลักษณ์ของเดฟ แม็ธธิว จะเหมือน “ไอ้หนูข้างบ้าน” ที่ใครๆ ก็สามารถจับต้องได้อยู่ เหมือนจะไม่ยาก ลักษณะออกจะบ้านๆ ดูเป็นกันเองดี ทำนองนั้น

แต่วงการร็อกก็มักจะมีของสด ใหม่มาให้ชมกันเสมอ (แม้จะนานมาแล้ว ก็เกิด/ดับกันไปละนะ) หมอนี่ได้ชื่อว่า ผุดมาดัง ที่ฝรั่งว่า “come hither” เป็นขวัญใจแม่ยกสาวๆ และบรรดาก๊วนสีม่วงน้ำลายสอ หมอเซ็กซี่ทั้งรูปลักษณ์และบทเพลงเชียวแหละ

“Come to My Window” (Melissa Etheridge, 1993)
โดยอารมณ์แสนเป็นธรรมชาติและบริสุทธิ์ทำให้เพลงนี้เป็นที่ชื่นชอบ จัดเป็นเพลงเซ็กซี่ที่คอเพลงยอมรับตลอดกาล คว้ารางวัลแกรมมี่ ในอัลบั้ม Yes I Am (1993) มิวสิกวิดีโอออกมาในโทน เหงาเปลี่ยว และเรียกหาใครสักคนในอารมณ์หม่นดำ คนร้อง Melissa Etheridge คงไม่มีชายใดปฏิเสธเสน่ห์ทางเพศที่เธอมี “ ”

“Black Velvet” (Alannah Myles, 1989)
แม้ในมิวสิกเธอผู้ร้องจะไม่ได้อยู่ในชุดกำมะหยี่สีดำที่ชวนให้อยากสัมผัส และรู้ซึ้งถึงความร้อนแรง ทว่า Alannah Myles ก็ร้องและให้อารมณ์ความรู้สึกถึงลาวาอันเข้มข้น มีกระไทฝรั่งนายหนึ่ง เขาให้ความหมายที่เขาคิดไปเองเกี่ยวกับเพลงนี้ได้ทะเล้นมาก อ่าน (แบบเอา ฮา) นะครับ

“Black velvet and that little boy's smile” This describes the first moment the boy (virgin) sees a hairy pussy (black velvet) which feels like velvet to the touch. WHen the woman revelas the hairy pussy (black velvet) the boy smiles..then drops to his knees!Thats my interpretation.”

และสุดท้าย…จะเป็นใครไม่ได้ที่มาปิดท้ายความเซ็กซี่ ทั้งบทเพลง และอัตลักษณ์ตัวตน คือเจ้าป้าตัวแม่…ที่ยังไม่มีใครมาแย่งซีนเธอได้ “Crazy for You” (Madonna, 1985)

แม้วันนี้เธอจะร่วงโรย แต่ร่องรอยความเซ็กซี่ตัวแม่นั้น ยังคงพลังแลฉายออร่าสม่ำเสมอ เธอคือหนึ่งเดียวในโลกป็อปคัลเจอร์ที่ต้องจารึก แม้จะเนิ่นนานแบบสหัสวรรษใหม่ว่า โบ.(ราณ)ตกยุค แต่มาดูในยุคนั้น 1985 นี่คือตำนานคู่มากับไมเคิล แจ็กสัน โดยแท้

มาดอนน่ายังคงโลดแล่นอยู่ในป็อป คัลเจอร์ ตลอดกาล

user's Blog!

49/1 ชั้น 4 อาคารบ้านเจ้าพระยา ถนนพระอาทิตย์ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200

49/1 4th floor, Phra-A-Thit Road, Chanasongkhram,Phanakorn Bangkok 10200

Tel. 02 629 2211 #2256 #2226

Email : mars.magazine@gmail.com

FOLLOW US ON

SUBSCRIBE