'ปาย' ยังไม่สาย สำหรับความรัก..


Story/photo ด.ช.ตีนเปลือย
Tein.Boyfoto@gmail.com

ผมเป็นเด็กชายผู้กระหายในการท่องโลกกว้าง
บ่อยครั้งที่ชอบปล่อยให้ “สองตีน” ออกสัมผัสโลกภายนอกรองเท้า
ผมยังเป็นเพียงเด็กชายผู้ไม่ประสีประสากับการเดินทาง
แล้วครั้งสุดท้ายที่คุณถอดรองเท้าออกแล้วออกท่องโลกคือเมื่อไหร่ ???

เรื่องราวมันมีอยู่ว่า ด.ช.ตีนเปลือย เกิดอยากขึ้นเหนือไปสัมผัสความหนาว แต่เขาเลือกเดินทางใน “ปลายฤดูฝน” เพราะไม่อยากทนแออัดกับผู้ใหญ่ตัวโตๆ รถคันใหญ่ๆ วิ่งกันขวักไขว่เต็มภูเขา
เขาจึงเริ่มออกเดินทางด้วยตั๋วเครื่องบินจองข้ามปี (ราคาประหยัด) เพื่อไปจุดหมายปลายทาง ที่ เมืองปาย แต่ก่อนหน้านั้นเขาต้องลงจากเครื่องที่สนามบินเชียงใหม่ ก่อนต่อรถสองแถวหรือตุ๊กตุ๊กไปยังขนส่งอาเขต เพื่อนั่งรถตู้ขึ้นไปยังเมืองปาย

 
หลังลงจากเครื่อง เป็นอย่างที่ ด.ช.ตีนเปลือยได้ยินมาจริงๆครับ ว่า อย่าไปหลงขึ้นรถจากสนามบินหรือจะที่ไหนก็ตามที่มาโบกมือ บอกว่า ไปไหมๆๆๆๆๆ ครับ ที่นี่ ที่นั่น …เพราะถ้าไม่อย่างงั้น เขาคงต้องควักสตางค์ในกระเป๋าจ่ายเพิ่มมากกว่าปกติเกือบเท่าตัว
สรุปแล้วมาโบกรถหน้าสนามบิน ค่ารถเหมาๆ (ที่เขาว่า เหมาแล้ว) จากสนามบินเชียงใหม่ ไป ขนส่งอาเขต ก็ 100 บาท พอดี ถือว่าถูกกว่าครั้งแรกที่ ด.ช.ตีนเปลือย ถามไว้ แล้วพี่เขาบอกว่า “150 ลดไม่ได้แล้ว ไอ้หนู สุดๆๆ พี่ไม่ได้อะไรเลย นะเนี่ย บราๆๆๆๆ”
เป็นไปตามเรื่องเล่าที่บอกต่อๆกันมาว่า ตอนนี้ ที่เชียงใหม่อะไรๆก็ดูจะแพงไปเสียทุกอย่าง ถึงอย่างไร ด.ช.ตีนเปลือย ก็คิดว่า มันก็แพงเหมือนกันทั้งประเทศล่ะครับ
จากนั้นจองรถตู้ราคา 150 บาท เพื่อขึ้นไปยังเมืองปาย กับเวลาเดินทาง 3 ชั่วโมงนิดๆ บนเส้นทางภูเขาสลับซับซ้อน ไม่น่าเป็นปัญหากับเด็กชายที่ชอบนั่งรถ แต่เพื่อความปลอดภัย ทุกที่นั่งจึงมีถุงสำรองสำหรับใส่ของเหลือที่ร่างกายอาจจะขับออกมาทางปากระหว่างทาง

 
หลังฝ่าหุบเขามาสามชั่วโมงถึงยังปลายทาง …สิ่งแรกสำหรับ ด.ช.ตีนเปลือย ที่จะต้องทำเมื่อมาถึงเมืองปายคือ การหาเช่ารถมอเตอร์ไซค์ หรือไม่ก็จักรยานสักคัน เพื่อหาที่พักและขับขี่ไปเที่ยวที่ไหนๆ ตามใจชอบ เมื่อคิดถึงทางขึ้นเขาชันๆแล้ว คงต้องมอเตอร์ไซต์ อย่างเดียวครับ เพราะแรงถีบอาจไม่พอ จนถึงขั้นร่วงข้างทางเอาง่ายๆ
เมื่อเช่ามอเตอร์ไซค์ วันละ 100 บาท น้ำมันเติมเองต่างหาก ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย …ออกหาที่นอนได้ เริ่มจากแถวๆในเมืองก็ราคาถูกดี แต่ไหงขนาดกลางวันมันยังดูครึกครื้น มองไปทางไหน ก็เจอแต่ฝรั่งหัวแดงๆพาลูกพาหลานมากันเต็มไปหมด ตัวเลือกแรกในเมืองถูกตัดไป (ถ้าคุณๆชอบความไม่สงบ ครึกครื้น เหมาะครับๆ มีแบบถูกๆราคาหลักร้อยหลายที่)

ที่ต่อมา สองฝั่งริมน้ำปาย ก็มองๆแล้วดูน่าพัก น่านอน นะครับ แต่ติดอย่างเดียวดูราคามันดูสูงเกินกระเป๋าตังค์ไปสักนิด แล้วมันยังไม่ไกลและเงียบมากพอ สำหรับ ด.ช.ที่อยากหลีกหนีความวุ่นวาย เขาจึงดั้นด้นต่อไปเรื่อยๆทางฝั่งแม่เย็น ขับขึ้นไปๆ จนแล้วจนรอด กับที่พักที่ดูจากสายตา มันมากกว่าบ้านชาวบ้านอีกนะเนี่ย!! ให้ตายสิ งง ครับ งงไม่รู้จะนอนไหน “บางครั้งเราก็ไม่ได้เป็นคนเลือก แต่เราถูกเลือกและกำหนดไว้แล้วตั้งแต่แรก” เมื่อนึกได้ดังนี้ ก็ลองหยุดพักแล้วหลับตา เมื่อลืมตาขึ้นมา สิ่งแรกที่คิดถึงนั่นล่ะ มันจะนำทางไป ภาพที่คิดถึงคือ ทุ่งนากับภูเขา จากนั้นจึงเลือกได้ว่า ต้องนอนที่นี่ล่ะ
บ้านพัก ในแบบกระท่อมปลายนา ตั้งอยู่กลางทุ่งนา ไม่ได้จะยกยอที่พักอะไรหรอก แต่ที่นี่มันดูสงบกับบรรยากาศร้อมลอบไปด้วยภูเขา ได้ยินกระทั่งเสียงลมพัดผ่านใบหน้า จะช้าอยู่ไย เมื่อถูกใจก็ต้องจองทันที

 
ตกบ่ายๆ ด.ช.ตีนเปลือยขอเอนกายพักให้หายเหนื่อยจากการเดินทางสักนิด พอพลบค่ำ ก็คว้ามอเตอร์ไซค์คู่ใจ ออกไปหาอะไรกินในเมือง และคาดว่าจะไปเดินถนนที่ชื่อคุ้นหูคนทั้งประเทศ “ถนนคนเดิน”(เหมือนจะชื่อเดียวกันทั้งประเทศกับถนนนี้) ทุกอย่างก็เป็นไปอย่างที่คิด ทั้งของขาย ของกิน ร้านกาแฟ อะไรก็ได้ที่มันแสดงออกถึงความเป็น ปาย รับรอง มันต้องขายได้ ณ ที่นี่
แต่มีสิ่งหนึ่งที่ผ่านสายตา แล้ว ด.ช.ตีนเปลือย เกิดตั้งคำถามขึ้นมาในใจ ว่า ทำไมมันมีบิกินีขายบนภูเขาเต็มไปหมดล่ะ หรือที่นี่จะแอบมีทะเลซ่อนอยู่หลังเขา???? หวังว่าวันรุ่งขึ้นเขาจะได้คำตอบในใจ

 
บรรยากาศหัวค่ำดูไม่จอแจ อาจจะเป็นเพราะด้วยฝนพรำนิดๆ ไม่ก็ฝรั่งกลัวไข้หวัดหรือไม่ก็คนไทยกลัวเปียก ยังไม่ออกมาเดิน พอฝนหยุดตกเท่านั้นเอง ….. เสียงดนตรี จากทุกร้านรวง ก็ดังแย่งแข่งกัน แม้ ณ เวลาที่ไป เป็นกลางๆฤดูฝน ไม่ใช่ไฮซีซันของการเที่ยวปาย แต่บรรยากาศที่ ด.ช.ตีนเปลือย ซึมซับ สัมผัสได้ มันคือ “ถนนข้าวสาร” ชัดๆ
มันเป็นดังสมญานาม ที่ร่ำลือมาจริงๆ กับ “ข้าวสารแห่งเมืองเหนือ” ที่นี่มีครบทุกอย่างในแบบที่นักท่องเที่ยว(บางกลุ่ม)อยากมี ทั้ง สุรา ดนตรี เสื้อผ้า ของขายทำมือ คนทำงานอาร์ต แต่มีหนึ่งอย่างที่ดูเหมือนจะไม่มี และคงไม่มีอีกแล้ว “ความสงบ”

 
เช้าวันรุ่งขึ้นกับมอเตอร์ไซค์คันเดิม เริ่มต้นตามโปรแกรมทัวร์ยอดฮิต เป๊ะๆๆ ไหว้พระธาตุแม่เย็น กับการชมเมืองปายมุมสูง คือสิ่งแรกของวัน ต่อจากนั้นก็ชมเมืองปาย ถ่ายภาพวัดบ้างไรบ้าง พยายามจะหาที่นั่งจิบกาแฟแต่ลืมไปว่าเป็นเด็กจิบกาแฟแล้วจะนอนไม่หลับ (หรือร้านมันมากเกินจนเลือกไม่ถูกกันแน่หว่า???)

 
ตามโปรแกรมต่อเลยน่าจะดีครับ ขี่มอเตอร์ไซค์ขึ้นไป “หมู่บ้านสันติชน” เพื่อชิมอาหารจีนยูนนานที่ร่ำลือว่าอร่อยหนักหนา ระหว่างทางขึ้นไปหมู่บ้านฯ ด.ช.ตีนเปลือย ขอแวะไหว้พระ ที่วัดน้ำฮู กับถ่ายรูปวัดในแบบฉบับไทลื้อสักนิดนึง


 
จากนั้นก็ควบสองล้อลัดเลาะขึ้นเขาไปเรื่อยๆ จนถึง หมู้บ้านสันติชน แน่นอนครับ มาที่นี่ ถ้าไม่ชิมอาหารจีนยูนนานคงเหมือนมาไม่ถึง จึงจัดแจงนั่งร้านที่ดีไซน์ย้อนยุค พร้อมหยิบเมนูมาสั่งอาหาร ที่ราคาไม่ธรรมดาเหมือนกัน ส่วนเรื่องรสชาติก็ตามรูปแบบจีนยูนนานดั้งเดิม อร่อยแต่กระเป๋าตังค์ ด.ช.ตีนเปลือยแฟบๆไปเหมือนกัน หลังท้องอิ่มก็เดินเล่นต่อในหมูบ้านที่ได้รับการตกแต่งเพิ่มเติ่มเตรียมพร้อมรับฤดูการท่องเที่ยวไว้อย่างอลังการโดยการจำลองกำแพงเมืองจีนย่อมๆมาไว้บนนี้ พร้อมด้วยตลาดร้านค้าแบบบ้านดิน ในสไตล์จีนโบราณ ไว้ให้นักชอปได้เลือกสรรกันตามใจชอบ

 
มาตามเส้นทางนี้แล้ว ถ้าไม่ไปยัง น้ำตกหมอแปง คงเหมือนมาไม่ถึง จึงควบรถต่อไปยังน้ำตก ผ่านเส้นทางคดเคี้ยว ชันบ้าง มีหลุมพอหลบแก้ง่วงบ้างในบางช่วง ระหว่างทางด.ช.ตีนเปลือยต้องตกใจ เมื่อพบฝรั่งหัวแดงกลุ่มใหญ่กำลังช่วยเพื่อนที่เพิ่งจะขับรถตกหลุมเลือดสาด เต็มถนน แต่โชคดีที่ไม่เป็นอะไรมาก ยังไงถ้าใครคิดจะไปเที่ยวในเส้นทางนี้ก็ระมัดระวังกันหน่อยนะครับ เกือบลืมบอกไป ในบางช่วงของทางจะมีข้าวของจากชาวบ้านแถวนั้นวางขาย ตั้งแต่น้ำมันงา น้ำผึ้ง ข้าวสาร สนใจลองแวะช่วยอุดหนุนกันได้เน้อ

 
ในที่สุดก็มาถึงยัง น้ำตกหมอแปง ถ้ารวมๆระยะทาง ก็ประมาณ 10 กิโลเมตร จากในเมือง นับว่าไม่ไกลมาก ณ เวลาที่ไปถึง ก็ประมาณบ่ายๆ น้ำตกไหลซู่ซ่า แต่ ด.ช.ตีนเปลือยไม่ได้ขึ้นต่อไปชั้นบนๆเลย แค่ไปสูดลมหายใจในป่าเขากับฟังเสียงน้ำก็มีความสุขแล้ว แต่แหงนหน้ามองไปชั้นบนของน้ำตก ก็พบคำตอบของชุดบิกินี ในตลาดทันที 5555+ นี่ฝรั่งคงคิดว่า ริมหาด กลางเขาเสียกระมังนี่ แต่ก็ต้องเข้าใจละครับ ว่ามันคงเป็นธรรมเนียมของเขาที่ต้องใส่ชุดบิกินีเล่นน้ำทุกที่ที่ไป

 
ก่อนที่จะเย็นไปกว่านี้ ด.ช.ตีนเปลือยมีนัดสุดท้าย ที่สะพานประวัติศาตร์ปาย อีกหนึ่งไฮไลต์ ถ้าไม่ไป คงเหมือนไม่ได้มา ปาย หนทางก็ไม่ไกลมากจากในเมือง ก็สัก 10 กิโลฯ ด.ช.ตีนเปลือยไปถึงในยามเย็นแสงสุดท้าย พอดิบพอดี ประจวบเหมาะกับฝนเพิ่งตกก่อนหน้าที่จะไปถึง
กลายเป็นโชคดี ได้มองเห็นรุ้งพาดผ่านสะพาน เก็บเป็นภาพประทับใจสุดท้าย ในเมืองปาย ปายในวันนี้บางคนว่ามันวุ่นวาย หรือเปลี่ยนแปลงยังไง แต่มันก็ยังเป็นปายที่มีเสน่ห์ในแบบของมัน ดังคำที่ผู้ใหญ่บางคนบอกไว้ว่า ปายจะสวย หรือไม่สวย อยู่ที่ว่าใครเลือกจะมองมุมไหน ส่วนตัว ด.ช.ตีนเปลือย มันก็จริงนะครับ ว่าความสวยงามมันมีอยู่ทุกที่ เช่นเดียวกับความเปลี่ยนแปลงที่มันเกิดขึ้นอยู่ทุกวัน แต่เราจะทำยังไงให้ความสวยงามและความเปลี่ยนแปลงมันกลายเป็นส่วนผสมที่ลงตัว ระหว่างชาวบ้านจริงๆ กับนายทุน ….
 class=

No Comments Yet

Comments are closed

user's Blog!

49/1 ชั้น 4 อาคารบ้านเจ้าพระยา ถนนพระอาทิตย์ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200

49/1 4th floor, Phra-A-Thit Road, Chanasongkhram,Phanakorn Bangkok 10200

Tel. 02 629 2211 #2256 #2226

Email : mars.magazine@gmail.com

FOLLOW US ON

SUBSCRIBE