ทันกับประเด็นร้อนที่เป็นทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ นิตยสาร mars ฉบับเดือนกรกฎาคม 2557 เชิญคุณพบกับ “เจนี่ อัศวเหม”!
ตลอดระยะเวลากว่าสองสัปดาห์ที่ผ่านมา หนึ่งในเรื่องราวที่ตกเป็นข่าวหน้าหนึ่งของสื่อแทบทุกฉบับ คือข่าวคราวความรักระหว่างดาราสาว “เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ” และคนรักของเธอ ที่แม้ว่าเจนี่จะไม่เคยออกมาให้สัมภาษณ์ หรือพูดถึงข่าวเตียงหัก ท่ามกลางกระแสข่าวลือกันไปต่างๆ นานา แต่เชื่อว่าบทสัมภาษณ์เบื้องหลังแฟชั่นปกมาร์สเล่มนี้ จะช่วยไขทุกความจริงให้กระจ่างได้สำหรับคุณ
…………………………………………………………………
หนึ่งปีแล้วกับชีวิตแต่งงาน เป็นอย่างไรบ้าง
จริงๆ ก็เหมือนๆ เดิมอ่ะค่ะ แค่ว่ามีใครสักคนเพิ่มเข้ามาในชีวิต เป็นคู่คิด ตอนนี้ก็ทำงานปกติ เยอะกว่าปกติด้วยซ้ำ
แล้วพี่เอ๋ดูแลเราอย่างไร
ก็มีเล็กๆ น้อยๆ แต่รายละเอียดไม่ได้เยอะมาก ก็ดูแลแบบพาเราไปกินข้าว คอยถามไถ่ว่าทำอะไรยังไงบ้าง มันเหมือนกับว่าเรามีกันและกัน มันคือชีวิตคู่ที่เขาดูแลเรา เราดูแลเขา เป็นสูตรสำเร็จอ่ะเนอะ
หลังแต่งงานได้ไปฮันนีมูนกันมาหรือยัง
ยังเลยค่ะ เพราะงานเจนี่ก็ยังไม่เสร็จนะ เรายังถ่ายหงส์ (ละครซีรีส์ชุด ‘มาเฟียเลือดมังกร’ ตอน ‘หงส์’) อยู่เลย ก่อนหน้านี้มี ‘เสน่หาสัญญาแค้น’ อยู่ด้วย มันก็เลยเต็ม 7 วัน ยังไม่มีเวลาไปฮันนีมูนเลย
ทำงาน 7 วันไม่มีเวลาพักเลย เหนื่อยๆ แบบนี้พี่เอ๋มีวิธีการอย่างไรให้เราหายเหนื่อย
แค่ส่งเมสเซจมาก็ทำให้เราหายเหนื่อยแล้ว คือเราเป็นคนหายเหนื่อยง่าย อีกอย่างเราทำงานวงการนี้มาตั้งแต่เด็ก เรามีวิธีรับมือกับความเหนื่อยได้ดี
เรื่องมีลูก มีแผนการอย่างไร
ก็ปล่อยตามธรรมชาติ เดี๋ยวดูอีกที ถ้ามาก็มา ไม่อยากไปวางแผนอะไรมาก เราทั้งคู่ไม่ได้ฟิกซ์
เวลาคู่รักอยู่ด้วยกันเนี่ยจะมีนิกเนมเรียกกัน ของคู่เจนี่เป็นอย่างไร
เราก็เรียกพี่เขาว่าสามี ส่วนพี่เอ๋ก็เรียกเราว่าเมีย (หัวเราะ) เราเรียกกันแบบนี้ปกติ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน
แล้วกิจกรรมโปรดของคู่รักล่ะ มีอะไรบ้าง
แอกทิวิตี้เราจะเป็นคนที่ชอบอะไรคล้ายๆ กัน คือชอบอะไรที่มันผจญภัย ผาดโผน ท้าทายเหมือนกัน แล้วเราก็ค่อนข้างจะเป็นผู้หญิงนิสัยแบบผู้ชาย ห้าวๆ หน่อย ก็เลยชอบกีฬาหรือกิจกรรมผู้ชายๆ มีไปเล่นเจ็ตสกีบ้าง คือเราเป็นเด็กที่ชอบออกกำลังกายอยู่แล้วไง เป็นเด็กที่ดูแลตัวเอง เพราะฉะนั้นสิ่งที่ชอบมันก็เป็นอะไรแบบห้าวๆ
พอโตมากขึ้นเจนี่ก็มีความสวยมากขึ้น ถามจริงๆ ว่าพี่เอ๋มีหึงเราบ้างไหม
ก็มีบ้างตามประสาสามีภรรยากัน แต่ในความเป็นจริงแล้วเจนี่ไม่ได้สวยขนาดนั้น (หัวเราะ)
ทำไมถึงคิดว่าตัวเองไม่สวย
ไม่รู้เหมือนกัน เราก็คิดว่าตัวเองไม่สวยนะ คนอื่นอาจจะมองว่าเราสวย คือสวยมันจะดูเบื่อไง ขอเป็นคนที่แบบดูแล้วมีอะไรดีกว่า คือไม่ชอบแบบว่าเจนี่สวย เจนี่คิดว่าเราไม่ใช่คนสวยอ่ะ
แล้วเรารับมืออย่างไรเวลาพี่เอ๋หึง
เจนี่มีลิมิตในสิ่งที่เจนี่ทำ เพราะเจนี่รู้ว่าเป้าหมายในชีวิตคืออะไร ถ้าเรารู้ว่าอะไรที่มันไม่สมควร มันไม่เหมาะ ด้วยวัยของเราเรารู้แล้วว่าจะได้แค่ไหน เพราะเราโตแล้ว เราจะรู้ว่าอะไรมันควรหรือไม่ควร
พี่เอ๋เจ้าชู้ไหม
ผู้ชายอาจจะมีบ้าง บริหารเสน่ห์อ่ะเนอะ ก็อาจจะมีบ้าง
แล้วพอเป็นสามีภรรยากัน เรามีมาตรการในการดูแลเรื่องนี้อย่างไร
เจนี่ว่าเขารู้ตัวเขาเอง เจนี่จะไม่บังคับหรอกค่ะ เพราะเขาโตแล้ว อายุเยอะแล้ว ถ้าเขาทำอะไรที่มันไม่ดีก็จะมีผลกับตัวเขาเอง เจนี่ก็ดูแลตัวเอง เพราะฉะนั้นถ้าเราทำอะไรที่ไม่ดีมันก็จะมีผลกับตัวเรา ถ้าเรารักตัวเองเราก็ต้องไม่ทำอะไรที่มันไม่ดี มันคือความซื่อสัตย์น่ะค่ะ
ชีวิตคู่เนี่ยถ้าคุณไม่ซื่อสัตย์กับตัวเองก่อน คุณก็ไม่สามารถที่จะไปซื่อสัตย์กับคู่ของคุณได้ มันคือการมีวินัยกับตัวเอง ถ้าเกิดคุณไม่สามารถมีวินัยกับตัวเองได้ คุณจะไปทำอย่างอื่นได้ยังไง อย่าว่าแต่เรื่องคู่เลย ทั้งการทำงาน ทั้งอีกหลายๆ เรื่อง ถ้าไม่มีวินัยมันก็ไม่ประสบความสำเร็จ คือแค่เรื่องชีวิตคู่คุณยังมีวินัยไม่ได้ แล้วจะทำอย่างอื่นสำเร็จได้อย่างไร เหมือนชีวิตคู่ของทุกคนแหละค่ะ ถ้าคุณไม่ซื่อสัตย์กับตัวเองก่อน ก็อย่าไปคิดว่าจะซื่อสัตย์กับคู่ตัวเองได้ อย่างเจนี่ทำงานเยอะ ก็ไม่มีเวลามานั่งเฝ้าพี่เอ๋ 24 ชั่วโมง แล้วเจนี่ก็โตแล้ว การที่จะมานั่งจุกจิกเรื่องพวกนี้มันก็ไม่ใช่วิสัยของเจนี่ด้วย เพราะเจนี่มั่นใจว่ามีดีพอ ถ้าคุณไม่รักเจนี่ ไม่ซื่อสัตย์กับเจนี่ สิ่งที่ไม่ดีจะอยู่ที่ตัวคุณเอง 
เรื่อง : PAN
ภาพ : พาณุวัฒน์ เงินพจน์
ติดตามบทสัมภาษณ์ฉบับเต็มอิ่ม และแฟชั่นสวยๆ แบบเต็มตาของเจนี่ ได้ในนิตยสาร mars ฉบับเดือนกรกฎาคมนี้
อัปเดตหลากหลายเรื่องราวข่าวสาร สาระบันเทิงได้ที่แฟนเพจ mars magazine