‘ชมรมคนรักงาน’ กองกำลังหนุน (ใจ) ของคนเบื่องาน


 ‘ชมรมคนรักงาน’ กองกำลังหนุน (ใจ) ของคนเบื่องาน

ดูจะเป็นขบถต่อคนค่อนโลกเลยก็ว่าได้ ที่จู่ๆ ก็มีเพจหนึ่งอุบัติขึ้นมาด้วยเจตจำนง ‘รักงาน’ ย้อนแย้งกับอารมณ์คนหมู่มากที่ต่างเบื่องานเป็นชีวิตจิตใจ เหตุใดมนุษย์หนุ่มกลุ่มหนึ่งจึงตั้งตนออกมาปฏิวัติสังคมของคนทำงาน? ทำงานหนักชีวิตดี๊ดีจริงเหรอ? ทำงานเสาร์อาทิตย์ไม่ตายใช่ไหม? เช้าวันจันทร์ช่างสดใสหรือโม้? เป็นคำถามที่คาใจเรามากถึงขนาดที่ต้องต่อสายไปหาหนึ่งในแอดมินเพจ ‘ชมรมคนรักงาน’ ที่มีนามว่า ‘รักงาน ยิ่งชีพ’ เพื่อไกล่เกลี่ยความเข้าใจว่าเขาเพี้ยนไปแล้วหรือไม่!

“คุยเร็วๆ นะครับผมมีงานที่รักรออยู่” นั่นคือประโยคแรกหลังจากทักทายกันเสร็จ

“จุดเริ่มต้นก็มาจากชีวิตจริงที่เราทำงานนี่แหละ เราทำงานด้วยเล่นเฟซบุ๊กไปด้วยก็จะเห็นว่ามีเพื่อนๆ ชอบโพสต์สเตตัสเรื่องงานประเภทเหนื่อยว่ะ! เบื่อจัง! คือทุกคนต้องมีอารมณ์ประมาณนี้ รู้สึกว่าอ่านแล้วมันก็เหนื่อยไปด้วย เหมือนกับถ้าเราอยู่กับคนท้อตลอดมันก็ห่อเหี่ยว เลยคิดกันว่าน่าจะทำเพจอะไรสักอย่างที่มันสามารถ Build Up อารมณ์ขึ้นมาได้เพื่อบ่งบอกว่าเรารักงาน ที่เรารักงานก็ด้วยเหตุผลที่ว่ามันคือชีวิตจริง เพราะหลายเปอร์เซ็นต์ในชีวิตเรามันคือการทำงาน มันหล่อเลี้ยงชีวิต คนมีรถได้ก็เพราะงาน มีบ้านได้ก็เพราะงาน แล้วเราจะบ่นเพื่ออะไร บ่นไปมันก็ไม่ได้อะไร แต่ถ้าเราเปลี่ยนมันเป็น Positive มันก็ดีขึ้น คือบ่นมันไม่ช่วยอะไร มันต้องรักสิถึงจะช่วยให้ชีวิตดีขึ้น”

พูดว่ารักงานนั้นมันง่าย แต่จะให้รักจริงๆ มันก็ยาก?

“ผมว่าเราสามารถทำงานที่เรารักได้ทุกคนแน่นอน ถ้าตั้งใจหามุมดีมันต้องได้สิ ใครจะบอกว่าเกลียดงานผมก็ไม่เชื่อนะ โดยส่วนตัวเราไม่เชื่อหรอกว่าคนเราจะอยู่กับสิ่งที่เราเกลียดได้หลายปี อันนั้นผมว่าผิดปกติ เหมือนๆ กับแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รัก คนเราชอบงานที่ทำแหละ แต่ติดบ่น บ่นมากๆ เข้ามันจะทำให้จิตใจห่อเหี่ยว อันนี้สำคัญนะ เหมือนเข็มทิศชีวิต ผมเชื่ออย่างนั้น (หัวเราะ) คือมันเหมือนสะกดจิตตัวเอง ถ้าเราเชื่อว่ามันดีมันต้องดี และทางชมรมเราก็ได้ลองพิสูจน์แล้ว ผลมันก็ดีจริงๆ

“คือมนุษย์จะรู้สึกว่าเราโชคดีที่เห็นคนที่ซวยกว่าเรา ผมว่าชมรมคนรักงานเป็นแบบนั้น ความรู้สึกร่วมแบบนี้มันเต็มไปหมด อย่างเสาร์อาทิตย์เราไม่ได้ทำงานอยู่คนเดียว เรามีเพื่อนร่วมอุดมการณ์อย่างนี้เต็มไปหมด แค่เราไม่รู้เท่านั้นเอง แต่พอเรารู้จะรู้สึกเลยว่าเราไม่ได้ยืนอย่างเดียวดายในสถานการณ์อย่างนี้

“ส่วนใครที่เจอสังคมคนขี้บ่นนี่แก้ยากครับ ห้ามไม่ได้ ปรับมุมมองของเรากับโลกดีกว่า เราฟังได้ แต่อย่าไปเอาปัญหาเขามาเป็นปัญหาเรา ถ้าเราแน่วแน่คนอื่นก็ไม่สามารถมาทำอะไรกับเราได้ มากดไลค์ชมรมคนรักงานช่วยได้นะ” (หัวเราะ)

และดูจะมุ่งมั่นกับการทำเพจไม่แพ้งานประจำ (วงการกราฟฟิก) เลยทีเดียว เพราะแอดมินผู้ก่อตั้งชมรมนี้มีด้วยกัน 6-7 คนที่สลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนมาโอบไหล่ให้กำลังใจคนทำงาน ซึ่งหนึ่งในนั้นบอกกับเราว่าตั้งแต่เปิดเพจมาปีกว่าก็เริ่มมีคนเข้ามาซบอกทาง Inbox เพื่อขอกำลังใจในการทำงานกันอย่างล้นหลาม ไม่แพ้พี่อ้อย พี่ฉอด แห่ง Club Friday เลยทีเดียว

“คนที่ Inbox เข้ามาขอกำลังใจผมมักจะตอบกลับไปว่า เราต้องทำ เราต้องสู้ เพราะชะตากรรมต่างๆ ที่เราโพสต์ลงไปเขาก็จะเห็นว่าเขาไม่ได้ยืนอยู่อย่างเดียวดาย เขาไม่ได้ซวยอยู่คนเดียว ซึ่งเขาก็จะรู้สึกดีขึ้น

“ในบางมุมคนมักจะมองว่าเป็นลูกจ้างลำบากกว่านายจ้าง แต่ผมว่าเป็นเจ้าของกิจการตัวเองโทรมกว่าอีกนะ สมาชิกชมรมเราเองคนหนึ่งเคยเปิดร้านขายของที่จตุจักร เขาว่าหนักยิ่งกว่างานออฟฟิซอีกนะ ทำงานหนักเหมือนกันแต่เพียงไม่ได้ตอกบัตร คอนโทรลไม่ได้ด้วยนะ วันหยุดนี่ไม่มีเลยดีกว่า เพราะจะเอาเงินเขาก็ต้องขยันมากกว่า ผมว่าโลกนี้มันไม่มีอะไรฟรี จะเอาเงินคนอื่นมันก็ต้องแลกมาด้วยอะไรบางอย่าง

“คนจะชอบคิดว่าเปิดร้านกาแฟดูสโลว์ไลฟ์ดูเก๋นั่นเพราะเห็นภาพสุดท้ายมันดูดี แต่หลายคนไม่ได้คิดภาพที่อยู่ข้างหลัง คือถ้าถ่ายภาพมุมกว้างมาจะเห็นขอบตาที่ดำ แบกแฟ้ม ถือปลั๊กสามตา ไม่ได้โจมตีนะ ยิ่งเปิดร้านเบเกอรี่หรือร้านกาแฟยิ่งทำให้ชีวิตเขาเหนื่อยมากขึ้น ข้างหลังภาพมันคือความเหนื่อยนะ ยิ่งขายดียิ่งไม่มีเวลาพัก

“ยิ่งในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ที่หลายคนห่อเหี่ยว ถ้าพูดให้กำลังใจกันหล่อๆ ก็ฝ่าฟัน อดทนเพื่อสู่จุดหมายกันนะครับ ลองถอยกลับมาดูนิดนึงไหมว่าเราโชคดีที่มีงานทำนะ ลองดูคนในรายการวงเวียนชีวิตสิมันยังมีคนที่แย่กว่าเรามากๆ หรือข่าวน้องคนหนึ่งที่เป็นลูกคุณหมอซึ่งคุณพ่อเสียแล้วก็ต้องใช้ชีวิตปากกัดตีนถีบกับคุณย่า คือเราดูข่าวนั้นผมไม่กล้าพูดคำว่าเหนื่อยนะ ยังมีคนแย่กว่าเราเยอะเลย เราไม่มีสิทธิ์พูดคำว่าท้อ โชคดีแค่ไหนที่อย่างน้อยมีงานทำ

“เหมือนคนขับรถที่ชอบบ่นว่ารถโคตรติดเลยวันนี้ ลองหันไปดูคนที่เขารอรถเมล์สิ เราติดขนาดนี้รถเมล์กลับบ้านของเขายังไม่รู้อยู่ตรงไหน ลองมองดูสิว่าเรามีเงินเดือนนะ มันอาจจะไม่ได้หวือหวาฟู่ฟ่าเหมือนคนอื่นเขา แต่การทำงานแล้วมีเงินก็โอเคนะ ส่วนฝันของแต่ละคนก็เป็นอีกเรื่อง อยากเปิดร้านกาแฟเราก็ต้องวางแผนว่าทำยังไงให้ถึงจุดนั้น เราบ่นผ่านเฟซบุ๊ก เฟซบุ๊กมันก็ไม่ได้ทำให้เรากู้เงินได้ ยอดไลค์มันไม่ได้ช่วยให้เราถึงฝันนะ ฝันมันต้องทำต้องหาทางไปให้ถึง”




สรุปคือตั้งใจอยากให้ทุกคนลุยงานหนักกันต่อไป?

“งานหนักมันเหนื่อยมันท้อแน่นอน แต่พอเสร็จแล้วมันเจ๋งว่ะ เรื่องซวยๆ ระหว่างการเดินทางนี่เรามาเล่ากันเพลินเลย เนี่ยแหละมันจะทำให้เราภูมิใจตัวเอง ยากขนาดนี้เรายังทำได้ รสชาติขมมันจะมาก่อนหอมหวานเหมือนน้ำจับเลี้ยงน่ะครับ (หัวเราะ) ของหวานไม่ค่อยมีประโยชน์หรอก มันต้องของขม

“ทางชมรมเราเชื่อเรื่องการทำงานหนัก เชื่อเรื่องเหงื่อ เชื่อเรื่องการฝ่าฟัน พอสำเร็จรสชาติมันจะหอมหวานมาก แต่ว่าการทำงานหนักในที่นี้ไม่ได้หมายความว่าหนักอย่างไร้สตินะ หนักแบบตั้งใจและทุ่มเทมากกว่า

“อย่างหนังสือทำอย่างไรให้รวยเร็วนี่ประหลาดมาก ผมไม่เชื่อนะ ผมโตมาจากยุคสมัยที่เราต้องทำงานแลกอะไรบางอย่าง ชีวิตไม่มีทางลัด หรือบางคนอาจจะมีก็ได้ แต่ว่าไอ้คนที่มีเนี่ยมันเป็นหนึ่งในกี่ล้านคน เหมือนกับว่าทุกคนอยากจะเป็น Warren Buffett เต็มไปหมด มีหนังสือของเขาเต็มไปหมด แต่โลกนี้มีวอร์เรน บัฟเฟตต์ คนเดียว และตอนที่เขารวยเขาก็ไม่ได้อ่านหนังสือเล่มนี้ด้วย อันนี้ผมอยากจะฝากเลยนะ หรือ Steve Jobs ก็ไม่ได้อ่านหนังสือคิดอย่างสตีฟ จ๊อบส์ นะ มีอย่างเดียวเลยคือทุ่มเท ทำจนกว่าจะล้ม (หัวเราะ) ทำจนกว่างานจะท้อ

“สำหรับลูกเพจทุกคน อย่าเล่นเฟซบุ๊กเยอะนะครับ ตั้งใจทำงานด้วย ถ้ารักในสิ่งที่ทำชีวิตจะแฮปปี้ หาข้อดีของมัน หรือถ้าหาแล้วมันไม่มีข้อดีเลยก็หางานใหม่ หาว่าเราอยากทำอะไร ดูว่าเราไปได้ไหม ทำความรู้จักตัวเอง งานที่เราทำอยู่ให้ดูว่ามันมีดีตรงไหน ผมว่าคนเราไม่สามารถอยู่กับสิ่งที่ตัวเองเกลียดได้เป็นสิบๆ ปีหรอก งานแย่เพื่อนร่วมงานอาจจะน่ารัก เพื่อนร่วมงานตัวเหม็นแต่งานสนุก หามุมดีของมันให้เจอ”

สัมภาษณ์จบแอดมินขอตัวรีบไปทำงานต่อ ผมแย้งว่านี่มันวันอาทิตย์นะ!

“ผมจะอ่านชื่อชมรมให้ฟังอีกครั้ง ‘ชมรมคนรักงาน’ เข้าใจตรงกันนะ!”
เรื่อง : PAN
ภาพ : เพจชมรมคนรักงาน

No Comments Yet

Comments are closed

user's Blog!

49/1 ชั้น 4 อาคารบ้านเจ้าพระยา ถนนพระอาทิตย์ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200

49/1 4th floor, Phra-A-Thit Road, Chanasongkhram,Phanakorn Bangkok 10200

Tel. 02 629 2211 #2256 #2226

Email : mars.magazine@gmail.com

FOLLOW US ON

SUBSCRIBE