หากการเดินตามรอยเท้าพ่อหลวงของเรา คือการดำเนินชีวิตตามแนวทางที่พระองค์ได้ทรงพระราชทานไว้ในหลายวาระหลายโอกาสนั้น ไม่ว่าคนผู้นั้นจะเป็นใครหาก ‘เข้าใจ เข้าถึงและพัฒนา’ (ตนเอง) ได้ตามอย่างที่พ่อสอนไว้ย่อมก่อให้เกิดประโยชน์และความสุขทั้งต่อชีวิตตนเองและผู้อื่นได้เสมอกัน
เมื่อเราคิดถึงพลังแห่งคำพ่อสอนที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในชีวิตของคนคนหนึ่งนั้น เรานึกถึงชายหนุ่มที่มีนามว่าเชษฐ์สไมล์บัฟฟาโลชาวร็อกใจบุญที่ทุกวันนี้นอกจากจะเล่นดนตรีและทำนาทำไร่เพื่อเลี้ยงชีพแล้ว เชษฐ์ในอีกมุมยังเป็นนักบุญที่พร้อมจะแบ่งปันและช่วยเหลือสังคมตลอดเวลาทั้งกับวัด กับโรงเรียน โรงพยาบาล สัตว์เร่รอน และล่าสุดกับการเปิดโรงทานให้กับผู้ยากไร้ในบ้านเกิดได้กินฟรีตลอดชีพ
มิติชีวิตที่ ณ ตอนนี้เบ่งบานไปด้วยการทำงานเพื่อสังคมของเขานั้น ส่วนหนึ่งเกิดจากการหาทางออกให้วิกฤตในชีวิตที่ผ่านมาด้วย ‘คำพ่อสอน’
เขา ‘เข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา’ (ตนเอง) ตามคำพ่อสอนได้อย่างไร? วิกฤตคือโอกาสที่จะค้นพบพื้นที่แห่งความสุขอย่างแท้จริงใช่หรือไม่? และทำไมทุกคนสามารถเดินตามแนวพ่อสอนได้เหมือน ๆ กัน?
ลองอ่านบทสัมภาษณ์เชษฐ์สไมล์บัฟฟาโล…ชายผู้เดินตามรอยเท้าพ่อ
ในช่วงชีวิตที่วิกฤตถาโถมเรามองเห็นอะไร?
ตอนอยู่ในโรงพยาบาล(เฝ้าไข้แม่) เราได้เห็นเกิด แก่ เจ็บ ตายทุกวัน แรกๆ หดหู่ หลังๆ มาเริ่มชิน เริ่มเห็นว่าชีวิตเราที่ผ่านมามันจอมปลอมทั้งนั้น ไม่มีธรรมะควบคู่เลย เราได้เห็นความจริงว่าเกิดจริง แก่จริง เจ็บจริง ตายจริง ดังนั้นสิ่งของที่เราได้มา ถามว่าเวลาตายเอาไปได้ไหม ทุกวันนี้ปลูกต้นไม้เยอะแยะตายก็เอาไปไม่ได้สักต้น เราได้รู้ว่าการเกิด แก่ เจ็บ ตายเป็นธรรมดา คิดว่าไม่ต้องแสวงหาแล้ว ทำยังไงก็ได้ให้มาอยู่ใกล้แม่
ย้อนกลับไปนิดหนึ่งว่าทำไมคุณเชษฐ์ถึงมาทำเรื่องเกษตร เพราะเอาเข้าจริงจะไปเปิดร้านขายอะไรก็ได้ มันง่ายกว่า
จะเล่าให้ฟัง บางท่านก็เปิดร้านกาแฟ ตอนนี้ร้านกาแฟจะเยอะกว่าคนกินแล้ว แต่การเกษตรหารู้ไม่ว่าคนที่คิดได้ก่อนเป็นเศรษฐี การเกษตรเนี่ยหลายๆ คนแถวบ้านผมส่งลูกเรียนจบหมอ อย่างบ้านหลังถัดไปจากหลังผมนี่ก็ส่งลูกเป็นอัยการ เขาเก็บผัก ปลูกข้าว เก็บกล้วยอะไรต่างๆ ขาย คือพวกการเกษตรเนี่ยอย่างหน้าแล้งพริกกิโลละ 350 ซื้อ 10 บาทมันนิดเดียว แต่เราปลูกกินเองเรามีของเราหมด ผักบุ้งเราเก็บมาผัด เรากินของดีไม่มีสารพิษ ปลูกข้าวก็ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ซึ่งคนอื่นกินก็สุขภาพดีไปด้วย แล้วเราทำอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อคนรอบข้างด้วยนะ อย่างบางคนมาไกลเราขายถูกไปเลย ไม่ต้องมาเอารวยกับตรงนี้ เพราะเรารู้แล้วว่ารวยแค่ไหนก็เอาไปไม่ได้
จริงๆ แล้วตอนนี้ผมรวยกว่าตอนโน้นอีกนะ แต่ว่าเอาไปทำบุญทำทานหมด เก็บไว้เฉพาะที่ตัวเองพอใช้ รถพอใช้ โทรศัพท์ก็เอาที่เล่นไลน์เล่นเฟซได้ จบ อย่างเราทำการเกษตรเน้นในเรื่องปลอดสารพิษ แมลงกินบ้างคนกินบ้าง มันคือเกษตรแบบสมัยใหม่ แล้วเกษตรสมัยใหม่มันแพงกว่าสมัยเก่า อย่างผมปลูกผักปลอดสารเอาไปขายคนก็มาแย่งรับกันเลย อย่างข้าวไรซ์เบอร์รี่ผมนี่คนมาซื้อข้าวกันรถติดเลยนะ โรงสีชุมชนสีจนสายพานขาดคนก็ยังไม่กลับ คือคนสมัยนี้เสาะแสวงหาของกินที่ไปรักษาร่างกายตัวเอง เพราะทุกวันนี้เราฆ่าตัวเอง อย่างมะเร็งเราเป็นอันดับหนึ่งของโลก เรากินอะไรที่เป็นสารพิษหมดเลย เราเลยคิดใหม่ทำใหม่ ไม่เหมือนคนสมัยก่อน
ตอนแรกที่ผมทำนี่บ้าๆ บอๆ เพราะยังไม่ได้ศึกษาจากพระองค์ท่าน ผมเจ๊งหมดทุกอย่างเลย ทำข้าวครั้งแรกไปทำข้าวหอมนิล ทำข้าวไรซ์เบอร์รี่ไม่มีใครรู้จัก ขายไม่ได้ ไม่มีใครซื้อ พอตอนหลังๆ เริ่มดัง ผมก็มาขยายแปลงละ 8 ไร่ 10 ไร่ แรกๆ ที่ทำเราทำกับ อบต. หลังๆ เราเอาคนที่มีเครื่องไม้เครื่องมือมาร่วมกับเราแล้วก็แบ่งผลประโยชน์กัน
ฟังๆ ดูก็น่ารื่นรมย์และอยู่อย่างสุขสบาย แล้วจำเป็นไหมว่าวันนี้เราต้องผลักดันลูกหลานของตัวเองออกไปจากท้องไร่ท้องนาเพื่อแข่งขันกับคนอื่น
มันมีอย่างนี้ บางคนที่เขาคิดก่อนเขาบรรลุเลย บางครอบครัวเขาส่งลูกเรียนใกล้บ้าน ไม่ต้องเรียนจบสูงๆ เพื่อหาเงินมาซื้อมะเขือกิน ซื้อปลากิน ไปเป็นลูกจ้างเขาเพื่อหาเงินมาซื้อของกิน แต่คนที่เขาคิดได้ก่อนเขาไม่เรียนเพื่อให้ลำบาก เขาเรียนเพื่อเอาความรู้มาส่งเสริมอาชีพพ่อแม่ ไม่ใช่ว่าส่งลูกตัวเองไปแข่งไปแก่งแย่งกัน อย่างคนในกรุงเทพฯ จริงๆ ไม่ใช่คนเห็นแก่ตัวนะ แต่สภาพแวดล้อมมันทำให้แก่งแย่งกัน แค่ขึ้นรถเมล์เราก็ยังแย่งกันเลย
แต่ถ้าเราอยู่บ้านนอกมันคือสวรรค์บนดิน เราเรียนที่ไหนก็ได้ความรู้เนี่ย เดี๋ยวนี้โลกโซเชียลเราเรียนทะลุได้เลย ผลลัพธ์เท่ากัน มันไม่ต้องไปตามไล่แก้สมการเพื่อที่จะได้คำตอบ เก่งอย่างใดอย่างหนึ่งไปเลย ฝรั่งบางคนมันโง่จะตาย อ่านหนังสือไม่ได้ อย่างไมเคิลโอเว่นนี่ต้องจ้างครูมาสอนที่สโมสร เพราะวันๆ มันเตะบอลอย่างเดียว ไทเกอร์วู้ดส์พ่อก็สอนมาตั้งแต่เด็กเลยว่ามึงต้องเป็นที่หนึ่งของโลก ฝรั่งสอนอย่างนี้ ไม่ต้องไปเรียนอะไรจับฉ่าย เก่งไม่รู้กี่ด้านแต่เอาตัวไม่รอดสักอย่าง
คุณรู้สึกไหมว่าลึกๆ แล้วสังคมบ้านเราก็ถูกปลูกฝังมาให้รังเกียจวิถีชีวิตเกษตรกร
มันยังมีคนดูถูกการเป็นลูกชาวนาลูกชาวไร่ แต่บางคนกลับศรัทธาในคำนี้เพราะถือว่าเท่มาก อย่างเด็กในห้องเรียนที่เขาถามว่าพ่อแม่ทำอะไร เป็นครูครับ เป็นตำรวจครับ แต่พอบอกว่าลูกชาวนาก็โดนล้อไปเลี้ยงควาย ซึ่งตอนนี้มันกลับกันแล้ว ยุคนี้การเกษตรเลิศเลอมาก ดูมะนาวบางช่วงลูกละ 15 บาท ขนาดผมมีไม่กี่ต้นยังได้มาเป็นพัน
แต่มันก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะทำอย่างคุณได้ เพราะหลายเงื่อนไขปัจจัยในชีวิตยังต้องพึ่งพาอาศัยระบบเงินเดือน
เอาอย่างนี้ ถ้าคุณมีจุดยืนเรื่องอยากทำเกษตรคุณเก็บตังค์เลยเพื่อจะไปลงพืชไว้ ยิ่งมีที่ดินยิ่งดี แต่ไม่มีที่ก็เช่าเขาทำไม่กี่บาทหรอก แปลงนาบางที่ผมก็เช่าเขาทำนะ ได้กำไรมานี่ ให้ค่าเช่าแล้วต้องแถมเงินให้เขาอีกนะ เพราะเรากำไรเป็นแสนๆ คือที่ดินบางที่เขาปล่อยให้เช่าถูกๆ เพราะลูกหลานไม่กลับมาทำ ลูกๆ ไปทำโรงงานหนักแทบตายแต่ไม่พอกิน เรื่องแบบนี้จะโทษพ่อแม่ไม่ได้ ตัวลูกเองไม่คิดจะทำด้วย พวกนี้ไม่คิดว่าตัวเองจะรวยไง ยังอยู่ไกลความรวย
ความรวยหมายความว่าเราอยู่เป็น กินเป็น เราพอเพียง เราเพียงพอ มีแบ่งปัน นี่เขาเรียกรวย ไม่เกี่ยวกับยอดเงินนะ อย่างเมื่อก่อนผมมียอดเงินเยอะมาก แต่ผมใช้ไม่เป็น มันไม่ใช่คนรวย แต่ตอนนี้มีเงินมากกว่าสมัยก่อน แต่มีคุณค่าเยอะกว่า มีประโยชน์เยอะกว่า มันเป็นเศรษฐีมากกว่าเชษฐ์คนก่อน เราพอเพียงแล้วไง แล้วเพียงพอเมื่อไหร่เราก็รวยเมื่อนั้นแหละ ไม่ใช่ว่าต้องไปขับเบนซ์ ปัดโธ่! ไปซื้อพรุ่งนี้เราก็ซื้อได้ แต่มันจำเป็นเหรอ เอาเบนซ์มาปลูกสะระแหน่ที่บ้านเหรอ บรรทุกมะพร้าวไปขายก็ไม่ได้ ไปซื้อปุ๋ยขี้วัวขี้ไก่ใส่มาก็ไม่ได้ เราใช้อะไรให้มันเป็นประโยชน์สูงสุดสิ
แล้วทำไมบางคนมองคำว่า‘พอเพียง’ใช้กับชีวิตเขาไม่ได้
เขาใช้ไม่เป็นไงครับ คือพอเพียงนี่พอเราทำปุ๊บมันจะเพียงพอทันที แล้วเราก็ค่อยๆ ทำตามกำลัง เท่าที่เราทำได้ มันจะมีอะไรดีๆ เข้ามา พอมันเหลือเราก็เอาไปต่อยอด เก็บไว้ส่วนหนึ่ง ต่อยอดส่วนหนึ่ง แต่มันต้องใช้ระยะเวลานิดหนึ่ง พอมันได้มันจะมั่นคงมาก พอมันมั่นคงแล้วมันก็จะเหลือเงินสะสมเยอะมาก แต่ถ้าคนใช้ไม่เป็นมันจะไม่รู้เรื่อง ทำเมื่อไหร่จะรวย อย่างปลูกต้นไม้ยืนต้นไว้เราก็ไปทำพืชสวนครัวด้วยสิ รอต้นไม้ชนิดเดียวโตก็ตายพอดี สมมุติบางคนมีที่ 5 ไร่ปลูกข้าวทั้งหมด 5 ไร่ ตายสิกว่าจะได้กิน มันต้องแบ่งโซน มีบ่อส่วนหนึ่ง มีขนำหรือมีบ้านเล็กๆ แล้วก็ปลูกพืชสวนไม้ดอกไม้ผล ถ้าเอาข้าวอย่างเดียวน้ำท่วมขึ้นมาก็ตายแล้ว มันต้องวางแผนเยอะ ไม่ต้องไปรีบร้อน ทำยังไงให้มีกินก่อนอย่าให้อด เลี้ยงเป็ดเลี้ยงไก่ ปลูกเห็ดอะไรไป
วันนี้คำว่าจนของคุณคืออะไร
ความจนนี่คือกิเลส อย่างตอนนั้นผมเห็นอะไรก็อยากได้ ต้องการไปหมด นั่นคือความจนที่สุด ไม่รู้จักคำว่าพอแปลว่าอะไร อยากได้ไปหมด สุดท้ายจบด้วยคำว่าทุกข์ วิธีหาสุขให้เจอก็คือตัดกิเลสออกไป แต่อย่าไปเป็นแบบพระอรหันต์ เอาง่ายๆ เอาธรรมะเข้ามาเสริมแล้วตัดอะไรออกไปบ้าง
เรื่อง : วรชัย รัตนดวงตา
ภาพ : พาณุวัฒน์ เงินพจน์