หลักฐานมัด! ‘แม็กซ์ เจนมานะ’ เอาอะไรไปเมื่อเดินเข้าป่า?

มิวสิกวิดีโอเพลง ‘วันหนึ่งฉันเดินเข้าป่า’ (Into the woods) ซึ่งเป็นเพลงที่สองจาก EP: Let There Be Light ของ ‘แมกซ์-ณัฐวุฒิ เจนมานะ’ ที่ยอดวิวตอนนี้กำลังพุ่งทะยานขึ้นเรื่อยๆ ใกล้จะถึง 125 ล้านวิว เป็นความน่าแปลกใจอย่างมากที่เพลงที่ไม่ค่อยได้โปรโมตกลับกลายมาเป็นเพลงฮิตติดหู และฟังได้นานกว่าหลายๆ เพลงที่กระหน่ำโปรโมตในช่วงเวลาที่ผ่านมา

ประการหนึ่งน่าจะเป็นท่วงทำนองดนตรีและไลน์กีตาร์ที่ออกมาแนวโฟล์ก ฟังสบายๆ และโยกเบาๆ ตามได้ แต่ที่ทำให้ดนตรีเด่นขึ้นมานั้นก็คือเนื้อหาของเพลง ซึ่งมีการอุปมาอุปไมยจนทำให้เราเห็นภาพความเหงาและเสียใจของชายผู้หนึ่งที่กำลังดำดิ่งลงกับความเศร้าในห้วงเวลารักของเขา และเมื่อเล่าด้วยน้ำเสียงของแม็กซ์แล้วก็เหมือนกับเราได้ฟังเพื่อนเล่านิทานปรัมปราข้างกองไฟในผืนป่าที่ไหนสักแห่ง นั่นจึงไม่น่าแปลกใจที่จะเกิดอาการ ‘ฟังวนไป’ จนยอดวิวทะลุร้อยล้าน

ที่น่าสนใจคือเพลงนี้แต่งเนื้อร้องโดยแม็กซ์ ซึ่งเขาเคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่าแต่งเพลงนี้เมื่อตอนเข้าไปเที่ยวในป่าจริงๆ ไปอยู่ท่ามกลางอ้อมกอดของธรรมชาติห่างไกลผู้คน เพื่อที่จะได้พูดคุยกับตนเองให้ชัดเจนยิ่งขึ้น แต่วิธีคิดเช่นนี้จะเกิดขึ้นอย่างเข้มแข็งและกลายเป็นผลงานเพลงไม่ได้เลย หากเขาไม่ได้นำพาบางอย่างที่สำคัญไปด้วย!

หลุดจากภาคนักดนตรี แม็กซ์คือนักเขียนและนักอ่านตัวยงที่หลายคนไม่ค่อยรู้จักเขาในด้านนี้ แม็กซ์เคยมีผลงานเขียนของตนเองเป็นหนังสือในชื่อ ‘น่าแปลกที่แปลกหน้า / Strange to Meet You’ รวม 21 ความเรียงที่เล่าเรื่องราวของคนแปลกหน้าที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ซึ่งเป็นการตั้งคำถามต่อการพบเจอผู้คนในมุมต่างๆ ตามช่วงวัยของเขา หากได้อ่านดูจะเห็นว่า แม็กซ์นั้นมีมุมมองที่น่าสนใจในการตั้งคำถามต่อชีวิตอยู่ไม่น้อย และเมื่อได้รู้จักหนังสือเล่มโปรดที่เขาอ่านจะค้นพบว่ามันมีความเชื่อมโยงกันอยู่ไม่น้อยทีเดียว

หนังสือที่กลายมาเป็นกิ่งก้านความคิดในแบบของแม็กซ์
“ผมว่าหนังสือมันเป็นโลกอีกโลกหนึ่งที่เราไม่ต้องไปหาเองคนเขียนเขาไปค้นคว้าเรื่องราวต่างๆ มาให้ เป็นโลกที่อยู่ในกระดาษและพร้อมให้คุณเปิดอ่าน หนังสือแต่ละเล่มมีหน้าที่หลายอย่าง แม้แต่เล่มเดียวกันเอง เราอ่านในช่วงเวลาที่ต่างกันก็ให้แง่คิดที่ต่างออกไป บางครั้งมันเป็นเพื่อน เป็นพี่น้อง เป็นครู เป็นไกด์ไลน์ชีวิต เป็นคนรัก เป็นโลกอีกใบให้เราเข้าไปสำรวจ”

และนี่คือบางส่วนของหนังสือจากเส้นเวลาที่ผ่านมาของเขา

จะเล่าให้คุณฟัง / ฆอร์เฆ่ บูกาย-เขียน, เพ็ญพิสาข์ ศรีวรนารถ-แปล / สำนักพิมพ์ผีเสื้อ
“เล่มนี้นักจิตวิทยาเขียน เขารักษาคนไข้ด้วยนิทาน หลายๆ เรื่องในนี้เป็นบทสนทนาที่หมอคุยกับคนไข้ บทสนทนาในแต่ละเรื่องจะมาปลดล็อกปัญหาของคนหลายๆ คน ซึ่งช่วยมาแล้วหลายล้านคน และมีเล่มต่อ ‘จะเล่าเป็นเพื่อนคุณ’ ซึ่งผมกำลังหาอ่านอยู่ มันปลดปล่อยความฟุ้งซ่านได้ คุณจะพบว่าความฟุ้งซ่านไม่ใช่เรื่องผิดและยอมรับมันได้โดยไม่ต้องไปกะเกณฑ์หรือจัดระเบียบ มีอันหนึ่งที่เขียนดีมาก เรื่องของชายคนหนึ่งเป็นโรคขี้ราดตลอดเวลา เขาไปพบจิตแพทย์ แล้วก็ค้นพบคำตอบ 3 แบบ หนึ่ง-ยังขี้ราดอยู่แต่รู้สาเหตุ สอง-ยังขี้ราดอยู่แต่ใส่กางเกงในยางแทน และแบบที่สาม-ยังขี้ราดอยู่แต่ไม่สนใจมันแล้ว มันบอกเราว่าปัญหาเป็นสิ่งที่ต้องเจออยู่ทุกวัน เราต้องอยู่กับปัจจุบันและแก้ปัญหาเฉพาะหน้าก่อนก็พอ”

เจ้าชายน้อย / อองตวน เดอแซ็งเตก ซูเปรี-เขียน, อำพรรณ โอตระกูล-แปล
“เป็นหนังสือที่เราอ่านในเวลาที่ต่างกันแล้วการตีความจะเปลี่ยนไป มันทำให้เห็นว่าทำไมเราต้องเก็บความเป็นเด็กไว้ไม่ว่าเราจะโตขึ้นแค่ไหนก็ตาม ข้างนอกแม้เราต้องมีความรับผิดชอบในการเป็นผู้ใหญ่ แต่ความเป็นเด็กมันคือสัญชาตญาณความเป็นคนจริงๆ เด็กไม่ได้คิดร้ายกับใครเกินไป เด็กไม่ได้เห็นโลกเรียบง่ายหรือวุ่นวายเกินไป เป็นความสงบ เป็นรักที่ไม่ต้องการผลตอบแทน มันคือพลังที่ทำให้คนสร้างอะไรใหม่ๆ เป็น passion ที่แท้จริงที่ไม่ได้อิงกับเงิน เพื่อนฝูง สถานะทางสังคม ให้ความสำคัญอยู่ที่ปัจจุบัน ความเป็นเด็กในตัวเราก็คล้ายกับแบตเตอรี่สำรอง เมื่อเราเอาไปใช้ก็อย่าลืมชาร์จ”

โรงงานช็อคโกแล็ตมหัศจรรย์ / โรอัลด์ ดาห์ล-เขียน, สาลินี คำฉันท์-แปล / สำนักพิมพ์ผีเสื้อ
“เป็นอีกเรื่องที่อ่านมาตั้งแต่เด็ก และกลายมาเป็นต้นแบบการเล่าเรื่องในงานเขียนของเรา มันมีทั้งความลึกลับ ผจญภัย คนเขียนใช้ภาษาง่ายๆ แต่ก็ทำให้เราลุ้นได้ตลอด แล้วมันมีเรื่องของความวิเศษที่ไม่ใช่อภินิหาร เป็นความวิเศษที่เกิดขึ้นง่ายๆ มันทำให้เราคิดถึงชีวิตประจำวันที่ความพิเศษอาจเกิดขึ้นจากสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ถ้าเราตั้งใจมองมัน”

จึงไม่น่าแปลกใจหากเส้นทางที่แม็กซ์กำลังไปนั้นจะมีหนังสือเล่มโปรดเคียงข้างกายเสมอ พร้อมกับสมุดโน้ตเล่มเล็กๆ เพื่อบันทึกความนึกคิด… ไม่เว้นแม้กระทั่งในป่า! และหลอมรวมเรื่องราวต่างๆ ตามบรรทัดอักษรเหล่านั้นให้กลายมาเป็นวิธีคิด วิถีการดำเนินชีวิต ที่หาหนทางพักพิงให้เขาในโลกอันวุ่นวายนี้ได้

“วันหนึ่งฉันเดินเข้าป่า
ฉันเจอเสือตัวใหญ่
มันถามฉันว่ากลัวบ้างไหม
ฉันจึงตอบว่าไม่เท่าไร
ยังดีกว่าคนไร้หัวใจ”
เรื่อง : mars
ภาพ : อิศเรศน์ ช่อไสว

user's Blog!

49/1 ชั้น 4 อาคารบ้านเจ้าพระยา ถนนพระอาทิตย์ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200

49/1 4th floor, Phra-A-Thit Road, Chanasongkhram,Phanakorn Bangkok 10200

Tel. 02 629 2211 #2256 #2226

Email : mars.magazine@gmail.com

FOLLOW US ON

SUBSCRIBE