หลังจากชื่อของ “ตูน บอดี้สแลม” หลุดออกไปจากบัญชีรายชื่อนักแสดงตัวหลักของภาพยนตร์อันว่าด้วยวงดนตรีเพื่อชีวิตที่มีหัวควายเป็นสัญลักษณ์อย่าง “ยังบาว เดอะมูฟวี่” ชื่อของ “บอม-ธนา เอี่ยมนิยม” ก็เด้งขึ้นมาเป็นดาราตัวนำของเรื่อง กับบทบาท “แอ๊ด คาราบาว” ซึ่งถือว่าเป็นบุคลากรชั้นเอกของวงคาราบาว
บอม-ธนา เป็นใครมาจากไหน? เพราะอะไร เขาจึงได้รับการสอดตัวเข้ามาเสริมทัพในวันที่ไม่มีตูน บอดี้สแลม
ถ้าให้เล่าแบบย่อๆ ก็คงต้องบอก เขาไม่ใช่คนหน้าใหม่ในวงการ หากแต่มีผลงานด้านการแสดงมาแล้วจำนวนหนึ่ง และสำหรับผู้ชมนิยมเอ็มวี ก็คงจะเคยผ่านตาชายหนุ่มคนนี้มาบ้างในมิวสิกวิดีโอประกอบเพลง และจะว่าไป เขาก็คือพระเอกเอ็มวีที่มีงานมากที่สุดคนหนึ่ง ณ ชั่วโมงนี้
อาจเพราะลุคที่ดูเซอร์ๆ หรือจะเพราะอะไรก็ตาม แต่เขาก็มาแล้วในบทบาทของศิลปินที่ถูกกล่าวขานมากที่สุดคนหนึ่ง คุณพร้อมจะทำความรู้จักเขาอย่างแท้จริงแล้วหรือยัง?
“น้าแอ๊ดเป็นคนขยันและมีเป้าหมายชัดเจนว่าทำอะไรอย่างหนึ่งก็จะต้องทำจริงจัง
รักในงานนั้นจริงๆ เป็นคนไม่เขว ไม่วอกแวก”
ถ้าพูดถึง “คาราบาว” คุณนึกถึงอะไร?
นึกถึงวงดนตรีที่มีเป้าหมาย มีจุดยืนเป็นของตัวเองอย่างมั่นคง เป็นวงดนตรีที่ทำขึ้นเพื่อสะท้อนสังคม อะไรทำนองนี้ครับ
โดยส่วนตัว คุณเคยได้ยินคำว่าคาราบาวมาตั้งแต่ตอนไหน?
ตั้งแต่เริ่มจำความได้ ก็ได้ยินเพลงคาราบาวแล้ว เพราะคุณพ่อชอบฟังเพลงคาราบาว คุณพ่อก็จะเปิดเพลงคาราบาวตลอด
ตอนนั้น รู้สึกอย่างไรบ้างไหมว่าเพราะอะไร คุณพ่อถึงเปิดเพลงพวกนี้ประจำเลย?
แสดงว่าวงนี้เขาเก่งครับ พ่อผมเป็นนักดนตรี และวงคาราบาวก็เป็นไอดอลของพ่อ ผมก็ชอบไปด้วย
คิดว่า สาระในเพลงของคาราบาว เขาพูดเรื่องอะไร?
เรื่องรอบตัวเรา สังคมรอบตัวเรา เรื่องง่ายๆ พื้นฐาน อย่างเช่นเรื่องเงินทอง หนี้สิน เจ้าหนี้ เจ้านาย ทำนองนี้ เป็นเรื่องรอบตัวเราทั้งนั้นเลย
คาราบาว ยิ่งใหญ่ไหมในความรู้สึกของเรา?
ยิ่งใหญ่ครับ ก็เก่งนะครับ แบบว่าคนกลุ่มหนึ่งสามารถทำเพลงให้คนหลายล้านคนประทับใจและชอบได้นี่ถือว่าสุดยอดแล้วครับ
พอมาเล่นหนังซึ่งเป็นเรื่องราวของคาราบาว เราได้ค้นพบอะไรบ้างเกี่ยวกับวงดนตรีวงนี้?
ผมเพิ่งรู้เรื่องอุปนิสัยของน้าแอ๊ด ซึ่งเป็นคนขยันและมีเป้าหมายชัดเจนว่าทำอะไรอย่างหนึ่งก็จะต้องทำจริงจัง รักในงานนั้นจริงๆ เป็นคนไม่เขว ไม่วอกแวก
การที่เราได้มารับบทแทน “ตูน บอดี้สแลม” รู้สึกกดดันบ้างไหม?
ก็ไม่ค่อยนะครับ อาจจะมีแรกๆ ที่คนให้ความสนใจเป็นพิเศษ เพราะเราอยู่ดีๆ เป็นใครก็ไม่รู้ แต่ก็ได้มารับบทนี้เลย แต่จริงๆ แล้ว ผมมาจากแคสติ้งนะ เพราะทางทีมงาน เขาก็ชอบในตัวผมที่จะมารับบทนี้
ไม่ใช่เด็กดันอย่างที่ใครเขาว่า ใช่ไหม?
ผมว่ามันก็หลายคนหลายความคิดนะ ห้ามใครไม่ให้คิดไม่ได้อยู่แล้ว ต้องปล่อยเขาไป
“ผมว่าถ้าคนอื่นมาเจอเหตุการณ์คล้ายกับน้าแอ๊ด
ก็น่าจะมีฟิวส์ขาดเหมือนกันนะครับ”
การแสดงเป็น แอ๊ด คาราบาว ยากไหม?
มีทั้งยากทั้งง่ายครับ ช่วงแรกๆ ค่อนข้างยากครับ เพราะเรายังไม่ค่อยชิน ยังไม่ได้ปรับบุคลิกภาพตัวเองหรือทำความเข้าใจ พอหลายฉากเข้า เจอพวกพี่คนอื่นๆ ก็เหมือนเข้าไปเป็นทองแผ่นเดียวกัน พอเริ่มเข้าที่ เข้าล็อกกันแล้ว ก็จะกลมกลืนกันไปเรื่อยๆ อีกอย่างโชคดีด้วยที่ได้พี่ๆ คอยช่วยเหลือครับ
ส่วนยากๆ จะเป็นเรื่องซีนอารมณ์ การทำความเข้าใจถึงตัวน้าแอ๊ดในช่วงเวลานั้นๆ ว่าน้าแอ๊ดกำลังคิดอะไรอยู่ ทำอะไรอยู่ อย่างเช่น ช่วงที่เขาไปเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการเมือง ช่วงนั้น ทำไมเขาต้องเข้าป่า เข้าไปทำอะไรบ้าง แล้วอีกเรื่องหนึ่งคือทำไมถึงมาเป็นวงคาราบาว คือจะเล่าว่าน้าแอ๊ดมีความฝัน เหมือนกับเด็กวัยรุ่นสมัยนี้ที่จะมีความฝันเป็นของตัวเองเหมือนกันทุกคน ซึ่งเขาอยากทำความฝันของตัวเองให้สำเร็จและเห็นเป็นรูปเป็นร่าง คือต้องตั้งใจและขยันมากๆ ซึ่งน้าแอ๊ดเขียนเพลงเพลงหนึ่งต้องตื่นตอนตี 4 ทุกวัน แต่เกรงใจเพื่อน เลยต้องจุดเทียนนั่งเขียนเพลงอยู่คนเดียว จนเพื่อนๆ รอบข้างมองเห็นสิ่งที่น้าแอ๊ดตั้งใจทำ เลยอยากเป็นเหมือนน้าแอ๊ด อยากตั้งใจทำเหมือนเขาบ้าง ทุกคนเลยร่วมมือกันจนออกมาเป็นวงคาราบาวจนถึงทุกวันนี้
ภาพหนึ่งซึ่งคนทั่วไปมองเห็น เหมือนว่า แอ๊ด คาราบาว จะเป็นคนอารมณ์รุนแรง?
ผมว่าถ้าคนอื่นมาเจอเหตุการณ์คล้ายกับน้าแอ๊ดก็น่าจะมีฟิวส์ขาดเหมือนกันนะครับ หรือถ้าคนทำงานเยอะๆ ทำงานหนักๆ แล้วเกิดพักผ่อนน้อย ก็จะมีอารมณ์ฉุนเฉียวบ้างเป็นบางเวลา ผมว่ามันเป็นเรื่องปกติ และเท่าที่สัมผัส ผมคิดว่าน้าแอ๊ดไม่น่าจะอารมณ์ร้อน ผมว่าน้าแอ๊ดเป็นคนใจเย็นด้วยซ้ำ เพราะว่าการที่จะทำงานเพลงได้มันต้องใจเย็น ถ้าเรารีบ มันก็จะไม่สวยงาม เหมือนเราไม่ตั้งใจทำ ทุกอย่างแหละครับ ไม่ได้หมายถึงการเขียนเพลงเพียงอย่างเดียว หมายถึงการใช้ชีวิตด้วย ถ้าเราเร่งรีบไปวันๆ ก็เหมือนเราไม่ตั้งใจทำ ไม่สมบูรณ์ 100% อาจจะลืมบ้าง ขาดบ้าง ถ้าเรารีบทำหรือใจร้อนเกินไป
แต่แอ๊ด คาราบาว จากประวัติก็เห็นว่าเป็นคนเขียนเพลงได้เร็วนะ?
น้าแอ๊ดเขียนเพลงส่วนหนึ่งจากสิ่งที่เขาเคยเห็น เคยเจอ เพราะว่าส่วนใหญ่จะเขียนเพลงเกี่ยวกับคนรากหญ้า ชาวบ้านทั่วไป เรื่องพื้นฐานง่ายๆ ที่ใกล้ตัว มันก็เลยดูเหมือนง่าย แต่ว่าก็แฝงไปด้วยแง่มุมของสังคมบางแง่มุมที่เรามองข้ามไปอะไรทำนองนั้นครับ ปัญหาง่ายๆ เช่น เรื่องหนี้สิน เรื่องเงินผ่อน บางคนไม่ได้เจอปัญหาโดยตรงเลยอาจจะมองข้ามสิ่งเหล่านั้นไป
“เราเป็นคนโดนว่าไม่มีความสุขหรอกครับ
ถ้าเรามัวแต่มานั่งจดจ่ออยู่กับมัน”
ได้ยินเสียงวิจารณ์ตามอินเทอร์เน็ตพูดหรือเปล่าว่าเราไม่เหมือน แอ๊ด คาราบาว เลย?
ก็มีครับ คืออยากให้คนที่วิจารณ์ลองดู ลองสัมผัสก่อน ถ้าไม่ชอบตัวผมก็ลองดูพี่คนอื่นๆ เขาก็ได้ อาจจะไปชอบหรือประทับใจคนอื่นๆ ก็ได้ครับ เพราะว่าหนังเรามีตัวละครหลายแง่มุมให้เลือกชมไม่ใช่ให้เลือกชมเป็นบางตัวละครไป และไม่ได้จำกัดว่าคนที่ต้องเป็นแฟนคาราบาวหรือว่าเป็นคนที่ชื่นชอบคาราบาวเท่านั้น ซึ่งหนังสามารถดูได้ทุกวัย คนรุ่นใหม่จะได้รับรู้ว่าเมื่อประมาณ 30 ปีที่แล้วเกิดอะไรขึ้นบ้างในประเทศไทย ทำไมวงคาราบาวถึงเติบโตและยืนอยู่ได้จนถึงทุกวันนี้
มีวิธีเอาชนะเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างไร?
ปล่อยวางครับ ไม่จับมันไว้ ไม่เอามาคิดก็จะไม่ทุกข์ใจ ถ้ามัวเก็บมาคิดเราก็เป็นทุกข์อยู่คนเดียว เขาไม่ได้มารับรู้ เขาแค่พูดเดี๋ยวเขาก็ไปแล้ว (หัวเราะ) เขาไม่สนใจหรอกว่าเราจะตอบโต้อะไร เขาแค่ได้พูดเขาก็สนุกแล้ว ซึ่งเราเป็นคนโดนว่าไม่มีความสุขหรอกครับ ถ้าเรามัวแต่มานั่งจดจ่ออยู่กับมัน
นักแสดงฮอลลีวูดหรือแม้แต่นักแสดงชาวไทยหลายคน ใช้วิธีการแบบ Method Acting คือพาตัวเองเข้าไปศึกษาคลุกคลีตลอดจนใช้ชีวิตแบบคนที่ตนเองกำลังสวมบทบาทเพื่อให้เข้าถึงแก่นแท้ของตัวละคร สำหรับเราได้ทำแบบนั้นไหม?
นิดหน่อยครับ จะมีไปเจอน้าแอ๊ดและได้ไปดูคอนเสิร์ตที่แสดงสดครับ ซึ่งผมจะยืนดูอยู่ทางด้านหน้าเวทีเลยและจะสังเกตลักษณะท่าทาง การพูด การเดิน หรือการเล่นกีตาร์อะไรแบบนี้บนเวที ซึ่งจะเป็นช่วงยุคหลังๆ ซึ่งยุคแรกๆ ผมก็จะไปดูพวกวิดีโอการแสดงสดคอนเสิร์ตเก่าๆ สมัยก่อน 25 ปีคาราบาว จะมีการพูดคุยถามไถ่ถึงอะไรที่เราอยากรู้ถึงความเป็นตัวตนที่แท้จริงของน้าแอ๊ด นอกจากบทหนังที่เราหาอ่านไม่ได้ เกี่ยวกับความรู้สึกว่า ณ ตอนนั้นจริงๆ เขาคิดอย่างไรบ้าง
การได้รับบทบาทเป็นแอ๊ด คาราบาว ส่งผลต่อตัวเราอย่างไรบ้าง?
อย่างแรกเลยก็คือตื่นเต้นครับ เพราะว่าเราได้รับบทเป็นน้าแอ๊ดตัวจริง ซึ่งเขาเป็นตำนานที่ยังมีชีวิตอยู่เลยทำให้ค่อนข้างตื่นเต้นและประหม่าด้วย และอีกสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปคือต้องทำการบ้านเพิ่มขึ้น ต้องเก็บข้อมูล พยายามทำตัวให้ใกล้เคียงน้าแอ๊ด พยายามตื่นแต่เช้าซึ่งเป็นเรื่องที่ยากมากสำหรับผมนะ (หัวเราะ) ตื่นแต่เช้ามาหาอะไรทำ ไม่จำเป็นต้องเป็นการเขียนเพลง ลองดูว่าตื่นเช้ามันมีประโยชน์อย่างไร เพราะว่าในหนังจะมีคำพูดอย่างหนึ่งว่าตื่นเช้ามันได้เปรียบกว่าตรงไหน ผมเลยอยากรู้ เลยต้องลองตื่นเช้าดู เราจะได้มีเวลาทำอะไรในช่วงกลางวันเพิ่มขึ้นและพักผ่อนให้เร็วขึ้นจะได้ชดเชยสิ่งที่เราตื่นเช้าไป
“น้าแอ๊ดเลยเหมือนกับเป็นการคืนกำไร
และมีโครงการช่วยเหลือสังคมในตัวด้วย
ผมว่าเป็นเรื่องดี”
หนังประวัติคนดังบ้านเราส่วนมาก มักจะทำเพื่อเชิดชูและพูดถึงแต่ด้านดีๆ หนังเรื่องนี้เป็นแบบนั้นไหม?
ก็จะพูดถึงแต่ด้านดีซะส่วนใหญ่ ส่วนข้อเสียก็จะคละๆ ไป แต่ละคนมีข้อเสียครับ อย่างน้าแอ๊ดเพื่อนๆ ไม่เข้าใจในตัวน้าแอ๊ดว่าทำไมต้องจริงจังขนาดนั้น ทำไมต้องทำเพื่อวงขนาดนี้ แต่ละคนจะมีจุดบอดของตัวเองอยู่ แต่ว่าเป็นแค่จุดเล็กๆ ไม่ใช่จุดใหญ่ที่ไปสร้างความเดือดร้อนให้ใคร
มีด้านที่ดำด่างตามวิถีปุถุชน?
ใช่ครับ เหมือนน้าแอ๊ดติสท์จัดอะไรทำนองนี้ เพื่อนๆ เข้าไม่ถึง ก็มีวิธีการพูดคุยเพื่อจะจูนกันให้ติด
ช่วงหลังๆ แอ๊ด คาราบาว ถูกวิพากษ์วิจารณ์จากสังคมค่อนข้างเยอะในแง่จุดยืน คุณมีความคิดเห็นอย่างไรบ้าง?
ผมเคยอ่านมาบ้าง ก็แล้วแต่ครับ เพราะความคิดคนเราไม่เหมือนกัน บางครั้งถ้าขายเพลง สมัยนี้ผมว่าเพลงและแผ่นซีดีผีออกมา นักดนตรี ผู้ผลิต เลยต้องหาช่องทางอื่นๆ มาเสริม ไม่งั้นคงจะแย่ เพราะว่าเดี๋ยวนี้พวกแผ่นซีดีเถื่อนมันเยอะมาก น้าแอ๊ดก็คงเหมือนกันที่ต้องหาช่องทางรายได้มาจุนเจือวงดนตรี เพราะว่าลูกน้องค่อนข้างเยอะ ต้องใช้ทุน ต้องช่วยเหลือค้ำจุนวง มันมีเหตุผลนะผมว่า
เรื่องของจุดยืนคิดยังไง?
เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย อาจจะไม่เหมือนเดิม 100 % แต่ก็ไม่ได้เปลี่ยนไปทั้งหมด
แสดงว่าเปลี่ยน?
คือผมคิดว่าเป็นการปรับให้เข้ากับยุคสมัยทุกวันนี้มากกว่าครับ เพราะว่าคนรวยก็มีแต่รวยขึ้น คนจนก็มีแต่จนเท่าเดิม น้าแอ๊ดเลยเหมือนกับเป็นการคืนกำไร และมีโครงการช่วยเหลือสังคมในตัวด้วย ผมว่าเป็นเรื่องดี
เอาล่ะ ถามถึงจุดยืนของคุณกับงานในวงการบ้างว่าเป็นอย่างไร?
ก็จะทำงานไปเรื่อยๆ ครับ จนกว่าตัวผมเองจะเบื่อ ถ้ามีโอกาสหรือว่ามีความสามารถพอ ก็อยากจะลองทำงานเบื้องหลังดูบ้าง
เส้นทางที่ผ่านมาจากจุดเริ่มต้นจนถึงตอนนี้ คิดว่าตัวเองมาถึงจุดไหนแล้ว?
เหมือนโตขึ้นเรื่อยๆ ช้าๆ แต่ไม่ช้ามาก ก็ยังไม่ถือว่าเร็วมาก ไม่ได้ดังเท่าณเดชน์ หรือหมาก-ปริญญ์ ไม่เท่าซุปตาร์พวกนั้น (หัวเราะ)