จาก “พงษ์พัฒน์” ถึง “วสิษฐ” ผู้ชายหัวใจน่ากราบ!

แม้จะต้องพบกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตามมา จะไม่ค่อยน่าอภิรมย์นักสำหรับชีวิต เพราะอยู่เฉยๆ ก็สบายดีมีความสุขแล้ว แต่ทว่าคนหลายคน ก็วางตนเป็นเดิมพัน และลุกขึ้นมา “กระทำ” ในสิ่งที่สร้างแรงสั่นสะเทือน เหมือนเกิดแผ่นดินไหวทางความคิดต่อผู้คนในสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บุคคลที่กล่าวได้ว่าเป็น “บุคคลสาธารณะ” ที่ทำอะไรก็มักจะต้องให้ถูกใจสาธารณะ

แต่ทว่าบุคคลเหล่านี้ กลับก้าวข้ามจุดนั้นไป และลงมือทำตามจิตสำนึกและเสียงหัวใจของตัวเอง แน่นอนว่า กับผลลัพธ์ที่ตามมา ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับชีวิตบุคคลเหล่านั้น แต่อย่างน้อยที่สุด พวกเขาคือไอดอลของคนจำนวนมาก

จากวันเวลาที่ผ่านมา เราลองไล่เรียงรายชื่อผู้ชายจำนวนหนึ่งซึ่งอยู่ในขอบข่ายที่ว่านี้ พร้อมบทบันทึกวีรกรรมของพวกเขาว่าได้กระทำการสิ่งใดอันสั่นสะเทือนพื้นที่ความคิดของผู้คนในสังคม ก็จริงที่ว่า พวกเขาอาจไม่ใช่ชายหนุ่มที่หน้าตาป็อปๆ เสน่ห์แรง แต่เชื่อสิว่า หัวใจของพวกเขา “หล่อมาก” และนั่นก็เพียงพอแล้วสำหรับความรักที่จะหลั่งไหลไปสู่พวกเขา จากสังคม…

พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง

นักร้อง,นักแสดง,ผู้กำกับละครโทรทัศน์และผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดังของวงการบันเทิงไทย

วีรกรรมทางการเมือง : ในวิกฤตการณ์การเมืองในประเทศไทย พ.ศ. 2548-2550 พงษ์พัฒน์เป็นบุคคลหนึ่งที่เข้าร่วมในการขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ให้ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีโดยได้ขึ้นเวทีปราศรัยของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย

ประโยคเด็ดทางการเมือง : “ถ้าเกลียดพ่อ ไม่รักพ่อแล้ว จงออกไปจากที่นี่ซะ เพราะที่นี่คือบ้านของพ่อ เพราะที่นี่คือแผ่นดินของพ่อ ผมรักในหลวงครับ และเชื่อว่าทุกคนที่อยู่ในที่นี้รักในหลวงเหมือนกัน พวกเราสีเดียวกันครับ ศีรษะนี้มอบให้พระเจ้าแผ่นดิน” ประโยคดังกล่าว พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง ได้กล่าวบนเวทีในงานประกาศผลและมอบรางวัลนาฏราช ครั้งที่ 1 (หยิบยกมาเพียงส่วนหนึ่ง) ทำให้ถูกเผยแพร่อออกไปในสื่อโซเชียลเน็ตเวิร์กอย่างแพร่หลาย ณ เวลานั้น

ศรัณยู วงษ์กระจ่าง

นักแสดง พิธีกร ผู้กำกับการแสดงละครและภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งในวงการบันเทิงไทย

วีรกรรมทางการเมือง : เคยร่วมชุมนุมในเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ พ.ศ. 2535 อีกทั้งยังเป็นหนึ่งใน 100 บุคคลที่ร่วมก่อตั้งพรรคไทยรักไทยขึ้น รวมถึงเป็นกรรมการบริหารพรรคในระยะแรกด้วย ซึ่งต่อมาได้เข้าร่วมในการขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ให้ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งต่อมาก็ได้ร่วมขับไล่ นายสมัคร สุนทรเวช รวมทั้งคณะรัฐมนตรีทั้งชุดให้ลาออกจากตำแหน่งอีกด้วย เหตุนี้จึงทำให้ได้ร่วมชุมนุมและขึ้นเวทีปราศรัยอยู่บ่อยครั้ง จนถูกแต่งตั้งให้เป็นแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย รุ่นที่ 2 ไปในที่สุด

ประโยคเด็ดทางการเมือง : “มันอยู่กันไม่ได้แล้ว ไม่รู้จะทำยังไง บ้านเมืองมันเละเทะไปหมดแล้ว ไม่รู้จะแก้รัฐธรรมนูญเพื่อฟอกความผิดให้กับคนที่ถูกขับไล่ไปเรื่องการละเมิดเบื้องสูง มันสุดที่จะพูดแล้วแหละ”

สุรชัย จันทิมาธร หรือ “หงา คาราวาน”

นักร้องนำและผู้ก่อตั้งวงคาราวาน อีกทั้งยังเป็นนักแต่งเพลงชั้นแนวหน้าคนหนึ่งของวงการเพลงไทย ซึ่งยังได้รับการยกย่องว่าเป็นอาจารย์ใหญ่แห่งวงการเพลงเพื่อชีวิตอีกด้วย

วีรกรรมทางการเมือง : เป็นบุคคลหนึ่งที่หนีเข้าป่าไปอยู่กับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย โดยทำหน้าที่ให้ความบันเทิง (ร้องเพลง)

ประโยคเด็ดทางการเมือง : เนื้อหา “บทกวี” ที่ “หงา คาราวาน” หรือ “สุรชัย จันทิมาธร” เขียนไว้ มีเนื้อหาดังนี้
 
เป็นนายก อย่างไร ไร้สมอง
เหลือบตามอง เรียงความ ตามเขาเขียน
เรียนก็จบ ปริญญา ว่าได้เรียน
ซิงค์ไม่เนียน เลยน้อง ต้องปรับปรุง
น้าหวังดี ก็มีบ้าง ที่หวังร้าย
เห็นแล้วอาย จริงหว่า พาให้ยุ่ง
ลูกน้องต้อง แก้ต่าง จนนังนุง
สื่อบางสื่อ ก็มุ่ง แต่ตามเชียร์
เก่งไม่จริง สวยไม่จริง เป็นสิ่งแน่
เพราะไม่ใช่ ของแท้ มีแต่เสีย
คนรอบข้าง ติดสอย คอยแต่เลีย
พี่ชายคง เหนื่อยเพลีย เพราะคอนโทรล

บทกวีดังกล่าวนั้น หงา คาราวาน ได้แต่งตั้งขึ้น วิพากษ์วิจารณ์การปาฐกถาพิเศษของนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย ที่มองโกเลีย เมื่อ 29 เมษายน 2556 ที่ผ่านมา

สมชัย กตัญญุตานันท์ หรือ “ชัย ราชวัตร”

การ์ตูนนิสต์การเมืองรุ่นใหญ่ของเมืองไทย

วีรกรรมทางการเมือง : เข้าสู่แวดวงข่าวการเมืองหลังจากเหตุการณ์ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2519 กับหนังสือพิมพ์การเมือง ชื่อ ธงไชย และหนังสือพิมพ์มหาราษฎร์ และเริ่มต้นการเขียนการ์ตูนการเมืองชิ้นแรก ชื่อ “ใครจะเอากระพรวนไปแขวนคอแมว” หลังเหตุการณ์ต้องลี้ภัยการเมืองไปอาศัยอยู่ที่ลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา เป็นเวลา 2 ปี หลังจากที่การเมืองสงบลงจึงเดินทางกลับประเทศไทยดังเดิม

ประโยคเด็ดทางการเมือง : ชัย ราชวัตร ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวใจความว่า “โปรดเข้าใจ กะหรี่ไม่ใช่หญิงคนชั่ว กะหรี่แค่เร่ขายตัว แต่หญิงคนชั่วเที่ยวเร่ขายชาติ”

ยุทธนา มุกดาสนิท

ผู้กำกับภาพยนตร์ และนักเขียนบทละครเวทีและภาพยนตร์ ปัจจุบันเปิดโรงเรียนสอนการแสดง ชื่อ “บางกอกแอคเตอร์ส สตูดิโอ” และสร้างละครเวทีอีกด้วย

วีรกรรมทางการเมือง : แกนนำกลุ่มวารสารฯ ต้านนิติราษฎร์ และเป็นศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ประโยคเด็ดทางการเมือง : โดยผู้กำกับภาพยนตร์และละครชื่อดังได้ออกมาแสดงความเห็นผ่านเฟซบุ๊กของตัวเองเป็นนัยๆ กรณีที่ละครเหนือเมฆถูกแบนว่า “ประชาธิปไตยแบบปูแดงกรรเชียง!!!!! จำเอาไว้แล้วกัน ปิดกั้นสื่อ ปิดกั้นภาพสะท้อนที่แตกต่าง ขอร่วมประณามรัฐเผด็จการครับ!!!”

สุเทพ ถวัลย์วิวัฒนกุล หรือ “สุเทพ วงโฮป”

นักดนตรีเพื่อชีวิตที่มีชื่อเสียงในประเทศไทย

วีรกรรมทางการเมือง : เป็นหนึ่งในศิลปินที่เข้าร่วมการขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ให้ลาออกจากตำแน่งนายกรัฐมนตรี

ประโยคเด็ดทางการเมือง : “เหี้ย”… เป็นชื่อของสัตว์ไม่น่ารังเกียจ แต่คนที่มีนิสัยเหี้ยๆ อย่างสัตว์ประสพนี่สิน่ารังเกียจ ซึ่งข้อความดังกล่าวถูกโพสต์ในหน้าเพจเฟซบุ๊กของนายสุเทพเองภายหลังที่เกิดกระแสที่นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) ออกมาให้สัมภาษณ์เปรียบเทียบประชาชนที่อาจมาชุมนุมโดยแสดงความเห็นระหว่างการประชุมว่าเป็นเหมือนขยะมาเกะกะ

ศตวรรษ เศรษฐกร หรือ “เต๊ะ”

นักร้องและนักแสดง ซึ่งมีผลงานเป็นที่รู้จักทั้งในประเทศไทยและไต้หวัน

วีรกรรมทางการเมือง : เป็นบุคคลหนึ่งที่สนใจข่าวสารเรื่องราวทางการเมืองและยังได้เข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยอีกด้วย

ประโยคเด็ดทางการเมือง : “คุณจะสีอะไรผมไม่ว่า แต่คุณแน่ใจหรือเปล่าว่าทำเพื่อผลประโยชน์ของประเทศ ไม่ได้ทำเพื่อผลประโยชน์ของใครคนเดียว” ซึ่งเป็นประโยคที่เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อหนังสือพิมพ์เล่มหนึ่งเมื่อหลายปีก่อน

สุเทพ วงศ์กำแหง

ทหารอากาศ, นักร้อง, นักแสดง, ผู้กำกับภาพยนตร์ นักการเมือง และศิลปินแห่งชาติ

วีรกรรมทางการเมือง : เป็นศิลปินที่สนใจการเมือง มีส่วนสนับสนุนนักศึกษาให้เรียกร้องประชาธิปไตยสมัยเหตุการณ์ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2516 และยังเป็นสมาชิกพรรคแนวร่วมสังคมนิยมแห่งประเทศไทยอีกด้วย ต่อมาได้สมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้แทนราษฎร สังกัดพรรคพลังใหม่ และยังเป็นบุคคลหนึ่งที่ขึ้นเวทีในการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งขึ้นไปร้องเพลง “คน” และ “อำนาจเงิน”

ประโยคเด็ดทางการเมือง : “คณะรัฐมนตรีของรัฐบาลนี้ (แกล้งตีหน้าตาย) ทำทองไม่รู้ร้อน อนุมัติเงินจำนวน 2 พันล้านให้แก่คนเลวๆ อย่างหน้าตาเฉย ท่ามกลางความขัดแย้งอย่างหนักจากประชาชนผู้บริสุทธิ์และข้าราชการดีๆ ที่ต่างก็มองเห็นว่า การกระทำอย่างนี้มันแสนจะทุเรศในสายตาของคนดีที่ไม่ยอมรับการกระทำห่ามๆ ของคนไทยชั่วๆ ไม่กี่หมื่นกี่แสนคน” ซึ่งข้อความส่วนหนึ่งเป็นการเขียนจดหมายลงตีพิมพ์ในคอลัมน์ “ถูกทุกข้อ” โดยแสดงความไม่เห็นด้วยกรณีที่รัฐบาลนายกฯ ยิ่งลักษณ์อนุมัติการจ่ายเงินเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ทางการเมืองตั้งแต่ปลายปี 2548 ถึงเดือนพฤษภาคม 2553 วงเงิน 2 พันล้านบาท

พลตำรวจเอกวสิษฐ เดชกุญชร

อดีตรองอธิบดีกรมตำรวจ

วีรกรรมทางการเมือง : มีบทบาททางการเมืองในเหตุการณ์ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2516 โดยขณะนั้นดำรงตำแหน่งเป็นนายตำรวจราชสำนักประจำ มีบทบาทในการดูแลความสงบบริเวณพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน รวมถึงบริเวณพระราชวังดุสิตด้วย อีกทั้งยังเป็นผู้ติดต่อและเจรจากับทางฝ่ายผู้ชุมนุม โดยเป็นผู้อัญเชิญพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาอ่านให้แก่ผู้ชุมนุมฟัง

ประโยคเด็ดทางการเมือง : ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “Vasit Dejkunjorn” ถึงเหตุการณ์การกดดันศาลรัฐธรรมนูญของกลุ่มเสื้อแดง และปาฐกถาของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่มองโกเลีย โดยมีใจความที่หยิบยกมาส่วนหนึ่งว่า “ผมเห็นว่า การขู่บังคับตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และปาฐกถาของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ได้เป็นเรื่องบังเอิญหรือพ้องกัน แต่เป็นไปตามแผนของทักษิณกับพวก ที่จะยึดประเทศไทยทั้งประเทศให้ได้เท่านั้นเอง”

No Comments Yet

Comments are closed

user's Blog!

49/1 ชั้น 4 อาคารบ้านเจ้าพระยา ถนนพระอาทิตย์ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200

49/1 4th floor, Phra-A-Thit Road, Chanasongkhram,Phanakorn Bangkok 10200

Tel. 02 629 2211 #2256 #2226

Email : mars.magazine@gmail.com

FOLLOW US ON

SUBSCRIBE