เปิดตัวตนคนลูกหนัง “อุ้ม-ธีราธร” นักฟุตบอลดาวเด่นแห่งปี บนสนามไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก…
เชื่อว่าหลายคนคงรู้จักและเคยดูการดวลฝีเท้ากับคู่แข่งขันของเขามากันแล้ว หนุ่มหน้าตาคมเข้ม นักฟุตบอลสังกัดสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อีกทั้งยังเป็นเจ้าของตำแหน่งแบ็กซ้ายให้กับทีมและขึ้นแท่นเป็นกัปตันทีมในการแข่งขันซีเกมส์ที่ผ่านมาอีกด้วย
“อุ้ม-ธีราทร บุญมาทัน” นักเตะวัย 23 ปี เขาคนนี้เป็นนักฟุตบอลที่ก้าวขึ้นมาเป็นดาวรุ่งด้วยผลงานที่โดดเด่นแห่งไทยพรีเมียร์ลีกในรอบปีที่ผ่านมา ถึงแม้หนุ่มนักเตะจะออกตัวว่าเขาไม่ได้เป็นซูเปอร์สตาร์หรืออะไรอย่างนั้นหรอก แต่โปรไฟล์ผลงานของเขาก็บอกกล่าวแล้วด้วยตัวของมันเอง
แน่นอนว่า วงการลูกหนังบ้านเรา เคยมีดาวเด่นอย่าง ธีรเทพ วิโนทัย ไปจนถึง ธีรศิลป์ แดงดา และนาทีนี้ คงปฏิเสธไม่ได้ว่า “อุ้ม-ธีราทร” คือนักฟุตบอลคนปัจจุบันที่น่าจับตามองมากที่สุด!
ฟุตบอลคือความฝัน
“ผมรู้สึกดีใจและภูมิใจครับที่มาได้ถึงทุกวันนี้ ได้การยอมรับจากนักฟุตบอลเพื่อนร่วมอาชีพด้วยกัน ตอนเด็ก ผมเห็นคุณพ่อชอบดูกีฬาฟุตบอล ผมก็จะดูด้วย ทำให้ผมชอบไปด้วย ผมฝึกฝนกีฬาฟุตบอลตั้งแต่อายุ 8 ขวบและก็เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน เรียกได้ว่าฟุตบอลเป็นความฝันของผมตั้งแต่เด็กเลยก็ว่าได้ การที่คนให้การยอมรับ มีคนรู้จัก มีคนติดตามผลงาน แค่นี้ก็รู้สึกดีแล้วครับ”
Enemy is the power.
“ผมฝึกฟุตบอลมาตั้งแต่เด็ก ได้รับการแนะนำรูปแบบการเล่นมาหลากหลาย และการที่ได้ไปเล่นในทีมชาติ หรือว่าในแชมเปียนส์ลีก นอกจากเรื่องของประสบการณ์ มันยังทำให้ผมได้เจอคู่ต่อสู้ที่เก่งและแกร่งกว่า สิ่งนี้กลายเป็นพลังที่ทำให้ผมต้องกลับมาพัฒนาตัวเองให้เก่งยิ่งขึ้น ตอนนี้มีโค้ชสเปนมาใหม่ ผมก็ได้เจอรูปแบบการซ้อมแบบใหม่ๆ เทคนิคที่โค้ชแนะนำและสอนทำให้เราสามารถนำไปใช้และพัฒนาทักษะการเล่นได้”
อุปสรรคของนักเตะ
“แต่กว่าที่ผมจะถึงวันนี้ก็มีอุปสรรคพอสมควร ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ ผมยอมรับนะครับว่าก็มีท้อบ้างแต่ผมรับมือและผ่านมาได้เพราะมีคนให้กำลังใจ เป็นแรงผลักดันให้ผมก้าวผ่านช่วงเวลาที่แย่ๆ มาได้ ก็อยากจะขอบคุณทั้งทางสโมสรและทางครอบครัวไม่ว่าจะเป็นคุณพ่อ คุณแม่ แฟน แฟนคลับ ที่คอยให้กำลังใจกันมาตลอด”
ซุปตาร์หน้านิ่ง
“การใช้ชีวิตประจำวันของผม ถ้าอยู่ที่บุรีรัมย์ก็จะไม่ได้ทำอะไร ส่วนใหญ่ผมจะทุ่มเทให้กับการซ้อมและคลุกคลีอยู่กับลูกฟุตบอลเสียมากกว่า แต่หลังจากการซ้อมฟุตบอลแล้วเราจะไปทำอะไรต่อก็ได้ตามที่เราชอบ แต่ถ้าถามว่ามีดื่ม เที่ยว เฮฮาแบบคนทั่วๆ ไปบ้างไหม มันก็ไม่เชิงว่าจะใช้ชีวิตแบบคนปกติ เพราะเรามีเวลาและตารางการซ้อมของทางสโมสรที่กำหนดไว้อยู่แล้ว ทำให้เราต้องจัดสรรและแบ่งเวลาของตัวเองให้ดีๆ แต่วันไหนมีเวลาว่าง ก็จะออกไปทานข้าวบ้าง เล่นฟิตเนสบ้าง เล่นเกมบ้าง เพื่อผ่อนคลายตัวเราเอง ตัวตนในชีวิตจริงๆ แล้ว ผมเป็นคนที่สนุกสนาน ร่าเริง เป็นคนตลก แต่ถ้ากับคนไม่สนิทหรือไม่รู้จัก เขาจะมองว่าผมหยิ่งหรือเปล่าไม่รู้ เพราะผมจะหน้านิ่ง หน้าเครียดตลอดเวลา” (หัวเราะ)
ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่
ดื่มพอเป็นพิธี ก็มีบ้าง
“ปกติผมเป็นคนไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่เลย แต่ก็จะมีบ้างนานๆ ครั้งที่เพื่อนมาชวน ผมก็จะดื่มพอเป็นพิธีแก้วสองแก้ว ส่วนเรื่องอาหารการกิน ทางสโมสรเขาจะจัดมาให้อยู่แล้ว ส่วนใหญ่จะเป็นอาหารที่เลือกสรรมาให้ดีต่อสุขภาพและได้คุณประโยชน์สูงสุด อาหารประเภทเนื้ออกไก่ ไข่ สปาเกตตีอะไรทำนองนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นอาหารที่ไม่มีกะทิ ไม่มีไขมันเลย ทานไปแล้วไม่ทำให้อ้วน แต่ก็มีบ้างนะครับที่ไปแอบกิน (หัวเราะ) เคยไปกินพวกขนมจีนแกงไก่ที่เป็นกะทิมา หรืออาหารอย่างอื่นที่ผสมกะทิบ้างแต่ไม่ตลอดครับ เป็นบางวันที่อยากกินจริงๆ (ยิ้ม) อีกอย่างผมไม่ค่อยกินผัก ก็จะเสริมด้วยวิตามินแทน แต่เรื่องโปรตีนต้องให้ครบ ถ้าถามว่าหุ่นต้องฟิตแค่ไหน ทางสโมสรไม่มีจำกัดว่าอก เอว สะโพก กล้าม หรืออะไรก็ตามต้องอยู่ในสัดส่วนเท่าไหร่ แต่ถ้าประธานสโมสรเห็นว่าเริ่มอ้วนแล้วนะ เขาก็จะให้ไปเข้าฟิตเนส ไปออกกำลังกาย”
เคล็ดลับดาวเด่นแห่งวงการลูกหนัง
“อันที่จริง ผมไม่คิดว่าตัวเองเป็นนักฟุตบอลดาวเด่นหรือซูเปอร์สตาร์อะไร ผมมีหน้าที่เล่นผมก็เล่นของผมไป แต่ถ้าจะให้แนะนำคนอื่นหรือน้องๆ เยาวชน ก่อนอื่นเลยต้องเริ่มจากการเอาจริงเอาจัง ต้องถามตัวเองก่อนว่าความฝันของเรามาทางนี้หรือเปล่า เรารักทางนี้หรือไม่ ถ้าถามตัวเองและค้นพบคำตอบแล้วเราก็จะเริ่มเอาจริงจังและตั้งใจฝึก และบางที ในระยะเวลาการฝึก อาจจะเจออุปสรรค เช่น เจอโค้ชดุหรือให้ทำอะไรซ้ำไปซ้ำมา การทำซ้ำๆ นั่นแหละดี เป็นการทำให้เราชินกับสิ่งที่ทำอยู่ ทำให้เราเกิดความชำนาญ เวลาที่เราได้ลงสนามจริง เราก็จะจำและนำมาทำได้ อยากให้น้องๆ ตั้งใจฝึก เรื่องการดูแลตัวเองก็สำคัญเช่นกัน พยายามดื่มและสูบบุหรี่ให้น้อยลง เพราะบางครั้งผมเห็นนักบอลรุ่นน้องก็เริ่มสูบบุหรี่กันแล้ว การสูบบุหรี่จัดทำให้ระบบหายใจของคุณไม่ดี เหนื่อยง่าย ประสิทธิภาพในการเล่นก็จะลดลงตามไปด้วย ส่วนในเรื่องของการลงสนาม ไม่มีอะไรมาก ให้ท่องไว้ในใจเสมอว่า ระเบียบวินัยสำคัญที่สุด”
เป้าหมายความฝัน
“ผมว่าใครๆ ก็อยากไปบอลโลกนะครับ (หัวเราะ) แต่ความฝันสูงสุดของผมจริงๆ นั้น ผมอยากประสบความสำเร็จในอาชีพที่ทำอยู่ คือตอนนี้ผมเป็นนักฟุตบอล ในอนาคตข้างหน้า ผมก็อยากลุกขึ้นมาเป็นโค้ชดูบ้าง ผมเคยไปสอนเด็กเล็กๆ ให้เตะฟุตบอลมาบ้างตอนที่ทางสโมสรเปิดทำกิจกรรม แต่ช่วงนี้ไม่ค่อยได้ทำแล้ว แต่ก็อยากสอนเหมือนกันครับ ถ้ามีโอกาสและชำนาญมากพอแล้ว”
เรื่อง : วรัญญา งามขำ
ภาพ : facebook pages : ธีราทร-บุญมาทัน และ www.instavillage.com/THEERATHON