'ไลลา-วาเนสซ่า สตูวิค' สาวน้อยนักขับ ฮ. วัยเพียง 17 ปี


ย้อนไปเมื่อวัย 17 ปี ช่วงอายุแห่งวัยช่างฝัน หลายคนวาดหวังว่าอยากทำนั่นทำนี่ อยากเป็นโน่นเป็นนี่ในอนาคต บ้างก็เริ่มหาแนวทางที่จะไปสู่จุดนั้น บ้างก็แค่วาดหวังว่าสักวันจะต้องทำ แต่ในขณะเดียวกันสาวน้อยคนหนึ่ง ใช้เวลาว่างของเธอแปรเปลี่ยนเป็นเส้นทางสู่ฝัน จนสัมฤทธิ์ผลตามความฝันของเธอได้สำเร็จ ด้วยอายุที่ยังไม่เต็ม 17 ฝนดี

‘ไลลา วาเนสซ่า สตูวิค’ สาวน้อยลูกครึ่งไทย-นอร์เวย์ เกิดที่จังหวัดระยอง เธอใช้เวลาในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา เข้าเรียนที่ Elite Helicopter School ในเมือง West Sussex ตอนใต้ของประเทศอังกฤษ สอบผ่านเป็น ‘นักบินเฮลิคอปเตอร์’ พร้อมรับ ประกาศนียบัตร EASA (CAA) PPLH หลังจากฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่องในช่วงวันหยุดตลอดปี 2557 ที่ผ่านมา นับเป็นผู้จบหลักสูตรที่อายุน้อยที่สุด

เธอได้รับการอบรมและฝึกฝนกับเฮลิคอปเตอร์หลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น Guimbal G2 หรือ เครื่องแบบเก่าอย่าง Robinson R-22 และ R-44 รวมไปถึง The Bell 26 Jet Ranger ที่มีสองเครื่องยนต์และมีกำลังแรงกว่ารุ่นอื่นๆ

ไปย้อนรอยเส้นทาง ‘ล่าฝัน’ ของเด็กสาวคนเก่งคนนี้พร้อมๆ กัน แล้วคุณจะรู้ว่าทุกอย่างสำเร็จได้ด้วยคำว่า ‘เชื่อมั่นในตัวเอง’

ในวัยเด็กใช้ชีวิตอย่างไร อะไรเป็นแรงบันดาลใจให้ชอบเฮลิคอปเตอร์
ตอนเป็นเด็กเล็กๆ ก็เล่นเหมือนเด็กๆ คนอื่นทั่วไป ไม่ได้มีอะไรมาก แต่ว่าด้วยคุณพ่อเคยเป็นทหารในกองทัพมาก่อน มักจะชอบคุยถึงเฮลิคอปเตอร์ให้ฟังบ่อยๆ หนูก็ได้ฟังมาตั้งแต่เล็กๆ ก็เริ่มสนใจมาตลอดจากแค่คุยเล่น และก็เริ่มสนใจจริงจัง จำความได้ว่าพูดถึงเรื่องที่จะได้ขึ้นไปอยู่บนท้องฟ้า ตั้งแต่ตอน 5 ขวบได้ค่ะ”

เด็กผู้หญิงกับเฮลิคอปเตอร์ดูไม่ค่อยจะตรงเคมีกันสักเท่าไรนะ?
(หัวเราะ) ก็ไม่รู้เพราะอะไรเหมือนกันค่ะ เพราะคุณพ่อก็ไม่ได้พาไปเจอเครื่องจริงๆ สักที มีแค่เล่าให้ฟังและเห็นจากในภาพยนตร์และคอมพิวเตอร์นิดหน่อยเท่านั้นเอง แต่คงเป็นได้ฟังบ่อยๆ เลยชอบเป็นการส่วนตัว จากนั้นก็เริ่มบอกคุณพ่อว่าเราสนใจจริงๆ คุณพ่อก็ไม่ได้สนใจอะไรมาก คิดว่าเราพูดเล่น ยังแซวๆ เลยว่า “ไลลานี่นะ เป็นนักบินได้ด้วยหรือ” ก็ไม่ได้มีใครเชื่อหนูเท่าไร (หัวเราะ)

เริ่มต้นอย่างไร
แรกๆ ก็เล่นกับคอมพิวเตอร์ก่อน ส่วนที่เริ่มจับเครื่องครั้งแรกก็ตอนอายุ 15 ปี เป็นคอร์สสำหรับฝึกบินที่ประเทศอังกฤษ จะเป็นแนวแบบว่าไฟต์บินเที่ยวเล่นชมเมือง มีนักบินขับให้ พร้อมแนะนำขั้นตอนต่างๆ ให้เราเรียนรู้และทำความเข้าใจเบื้องต้น ซึ่งคอร์สดังกล่าวก็เปิดโอเพ่นสำหรับทุกๆ คนที่สนใจ เหมือนเที่ยวชมรับประสบการณ์ใหม่บนเฮลิคอปเตอร์อะไรแบบนั้น
จากนั้นก็มาเรียนคอร์สที่ขับเองเมื่อปี 2557 ใจจริงๆ หนูอยากเรียนตั้งแต่ตอนอายุ 15 ปีแล้ว แต่เพราะว่าเขามีเกณฑ์ขั้นต่ำว่าต้องอายุ 16 ปี ถึงจะเรียนคอร์สบินได้ และต้อง 17 ปี ถึงจะสอบใบอนุญาตได้ ก็เลยต้องรอค่ะ

มีคนที่อายุน้อยกว่าไลลาไหมตอนที่ไปเรียน
ไม่มีเลย หนูเด็กสุดแล้ว ทุกคนในคลาส 40 อัพทั้งนั้น (หัวเราะ) ตั้งแต่เปิดสอนมาหนูคือคนที่อายุน้อยที่สุด

เขาสอนไหมว่าต้องมองอะไร ตรงไหน อย่างไร
ต้องบินได้ระนาบระหว่างท้องฟ้า ตัวเครื่อง และผืนดิน และต้องดูว่ามีควันตรงไหน ลมมาจากทางไหน ถ้ามีตึกใหญ่ๆ ก็จะรู้ว่าเราอยู่ที่ไหน

นอกจากภาคปฏิบัติแล้ว เรื่องของทฤษฎีล่ะ?
มีค่ะ คือจะมีสอบทั้งหมด 9 ครั้ง 9 เรื่อง เช่น เรื่องเกี่ยวกับเครื่องยนต์ ความรู้เกี่ยวกับเฮลิคอปเตอร์ ภาษาที่ใช้สื่อสาร ศัพท์เฉพาะต่างๆ การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า และอื่นๆ อีกเยอะมากๆ

เรื่องของสภาพร่างกายสำคัญไหม?
ใช่ค่ะ มีเหมือนกัน เพราะถ้าอ้วนเกินไป หรือน้ำหนักเกินก็ขึ้นไม่ได้ แต่ละประเภทเกณฑ์ไม่เท่ากันตามขนาดของเครื่องยนต์เป็นหลัก

ความรู้สึกแรกที่ได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปบนท้องฟ้า
ตื่นเต้นสุดๆ ไม่เคยได้มีโอกาสได้อยู่ในเฮลิคอปเตอร์มาก่อน อยากจะขับเองเลย มันอิสระมากๆ รู้สึกมีความสุขสุดๆ ไม่มีอะไรมาขัดขวางเรา ไม่ต้องคิดมากเรื่องการจราจร โล่งโปร่ง สะดวกสบายตาสบายใจไปหมด

แล้วครั้งแรกที่ขับเอง รู้สึกอย่างไร
ตื่นเต้นกว่าเดิมอีกค่ะ สักพักก็สนุกมากๆ แต่ก็น่ากลัวนิดหน่อย เพราะว่าต้องขับไปและคุยกับหอบังคับการบินไปด้วย สมาธิต้องดีมากๆ

ความแตกต่างระหว่างเราเป็นคนนั่งกับผู้ขับเอง
ตอนเป็นคนนั่งเฉยๆ ก็นั่งได้สบายๆ ไม่ต้องคิดเรื่องอะไร แต่ตอนขับเองต้องเช็คทุกอย่าง ดูไฟที่คอนโทรลเลอร์ตลอดว่ามีแจ้งเตือนอะไรไหม โฟกัสกับอุปกรณ์เครื่องมือทุกๆ 2 วินาที ไม่มีเวลาชมวิวเท่าไร เพราะต้องดูทุกอย่างที่อยู่ตรงนั้น และต้องดูนกหรือเครื่องบินที่อยู่บนฟ้าด้วย มันต่างจากที่คิดไว้ เพราะตอนแรกคิดว่าจะได้ขับเล่นชมวิวสวยงามมากมายอย่างสบายใจ แต่เอาจริงๆ แล้วไม่ใช่เลย ได้ดูแค่นิดหน่อยเอง แต่มันจะมีความสนุกและภูมิใจตรงที่เราบินได้ด้วยตัวเอง บังคับให้บินสูงขึ้นเรื่อยๆ ในอากาศ ซึ่งทุกอย่างอยู่ภายใต้การควบคุมของเราเอง

ครอบครัวเป็นห่วงไหมกับกิจกรรมที่ดูเสี่ยงและผาดโผนเกินอายุแบบนี้
คุณแม่จะค่อนข้างห่วงกว่าคุณพ่อค่ะ แต่น่าจะชินแล้วเพราะก่อนหน้านี้พี่ชายหนู (แซนดี้ เคราแก้ว สตูวิค นักขับรถฟอร์มูล่า) ก็ชอบอะไรผาดโผนแบบนี้ตั้งแต่เล็กๆ

พี่ชายชอบขับรถ ไลลาไม่คิดชอบแบบพี่บ้างหรือ?
ไม่ค่ะ ไม่อยากชอบเหมือนพี่ อยากจะแตกต่าง ก็มีลองขับโกคาร์ทบ้าง แต่ก็ไม่ได้ชอบมาก มันไม่ผาดโผนเร้าใจเท่าเฮลิคอปเตอร์ (หัวเราะ)

เสน่ห์ของเฮลิคอปเตอร์อยู่ตรงไหน ในความคิดของไลลา
เราสามารถบินไปที่ไหนก็ได้ และไม่ต้องมีรันเวย์เหมือนเครื่องบิน ไม่ต้องมีเลนเหมือนถนน มันคืออิสระ อยากขึ้นไปตอนไหน ที่ไหน ลงเมื่อไร ได้ตามใจ อันนี้หมายถึงในที่ห่างไกลนะคะที่ไม่ใช่ในเมืองที่มีกฎเข้มงวด

แล้วแบ่งเวลาอย่างไร เรื่องเฮลิคอปเตอร์กับเรื่องเรียน
ก็ยากอยู่ค่ะ เพราะหนูเรียนไฮสคูลอยู่ที่โรงเรียนรีเจนท์อินเตอร์เนชั่นแนล จังหวัดชลบุรี ก็มีงานต้องทำเยอะมากๆ กลับจากโรงเรียนมาถึงบ้านก็ต้องเรียนเรื่องของเฮลิคอปเตอร์ รวมทั้งทำการบ้านของโรงเรียนด้วย ต้องจัดสรรเวลาให้ดี
แต่ที่ไปเรียนและทดสอบคอร์สเฮลิคอปเตอร์ จะไปที่อังกฤษตอนช่วงปิดเทอม เพราะว่าที่เมืองไทยไม่มี ไปมาทั้งหมด 3 ครั้ง ครั้งแรกหนูไป 2 เดือน ครั้งต่อมา 2 สัปดาห์ และครั้งที่สาม 2 สัปดาห์เช่นกัน ตรงนี้หนูก็เลือกเวลาที่ตัวเองว่างเป็นหลัก นอกจากนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับสภาพอากาศด้วย ต้องมองเห็นในระยะ 5 กิโลเมตร เพราะถ้าฝนตกหรือมีลมแรงเกินไปทัศนวิสัยไม่ดีก็จะบินไม่ได้ คือ ที่อังกฤษเขาก็ไม่ได้กำหนดว่าต้องไปกี่ครั้ง อยู่ที่ว่าแต่ละคนไปแล้วได้กลับมาแค่ไหน จะไปเรียนกี่ครั้งก็ได้ บางคนอาจจะน้อยกว่าสามครั้ง หรือบางคนไปแล้วไม่เข้าใจก็อาจจะต้องเรียนมากกว่า แต่การที่ไปเรียนมากเท่าไรก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายมากขึ้นตามไปด้วย

คิดไหมว่าต่อไปในอนาคตอยากจะขับเฮลิคอปเตอร์แบบไหน ท่องเที่ยว กู้ภัย หรือลุยในสนามรบ
ระหว่างที่ฝึกชอบการฝึกซ้อมบินฉุกเฉินมาก ชอบการฝึกหมุน ซึ่งนักบินทุกคนต้องเรียนรู้ และการนำเครื่องเฮลิคอร์ปเตอร์ลงจอดพื้นดินอย่างปลอดภัยภายใต้สภาวะเครื่องยนต์ขัดข้อง มันน่าตื่นเต้นมากๆ แต่ถามว่าอยากขับเฉพาะทางแบบไหน ก็อยากขับให้กองทัพเหมือนกันนะคะ และก็อาจจะเรียนขับเฮลิคอปเตอร์สำหรับกู้ภัยเพิ่มเติมจะได้ช่วยเหลือคนได้ อีกทั้งจะได้เข้ากับธุรกิจของคุณพ่อที่ทำเกี่ยวกับอุตสาหกรรมปิโตรเคมี คือในอุตสาหกรรมนี้จะมีเจ้าหน้าที่วิศวกรไปตรวจสอบตามแท่นขุดเจาะต่างๆ ซึ่งงานลักษณะนี้จะมีการขนคนขึ้นเฮลิคอปเตอร์แล้วไปตามแท่นต่างๆ แต่ละแท่นก็จะอยู่ห่างกัน หนูก็เลยเกิดความคิดว่า อีกหน่อยก็อาจจะรวมกันได้ระหว่างการบินกับธุรกิจตรงส่วนนี้

ตอนนี้ขับเครื่องใบพัดหมุน อยากข้ามไปเป็นเครื่องเจ็ทอย่างเครื่องบินบ้างไหม
ก็คิดว่าน่าจะลองนะคะ แต่ต้องรออายุ 18 ปี ถึงจะสอบใบอนุญาตได้ มีโอกาสก็ว่าจะลองค่ะ แต่ก็ยังชอบเฮลิคอปเตอร์มากกว่าค่ะ มันไม่ต้องมีข้อแม้ในการบินมาก ขึ้นง่าย จอดสะดวก ง่ายกว่า สบายกว่า

การขับเฮลิคอปเตอร์ให้อะไรกับเราบ้าง
มีความรู้แง่คิดที่อ้างอิงจากงานกองทัพมากมายเข้ามาตอนเรียนเฮลิคอปเตอร์ เขาสอนให้เรารู้จักคิด รู้จักวางแผน ให้เรารู้จักการเตรียมตัวให้พร้อมในการจะทำอะไรแต่ละอย่างและดำเนินการอย่างรอบคอบ เพื่อป้องกันเหตุต่างๆ ที่อาจเกิดอย่างไม่ทันตั้งตัว เราจึงต้องรู้จักเตรียมพร้อมและวางแผนเสมอ

นอกจากเรื่องเฮลิคอปเตอร์ วันสบายๆ ของไลลาจะทำอะไร
ไลล่าชอบออกกำลังกาย จะออกกำลังกายเยอะมากๆ ชอบเข้ายิม ว่ายน้ำ นอกจากนี้ก็เน้นเรื่องเรียนเป็นหลักค่ะ

คิดว่าจะเรียนด้านไหนต่อ
อยากพัฒนาความสามารถในการบินให้สูงยิ่งขึ้นไปอีก แต่ก็คงต้องใส่ใจและทุ่มเทกับการเรียนซึ่งก็วางไว้ว่าจะเรียนบริหารธุรกิจก่อนเป็นอันดับแรก วางไว้ว่าจะไปเรียนที่อังกฤษ จะได้มีโอกาสเรียนเฮลิคอปเตอร์ด้วย และหวังว่าวันหนึ่งจะสามารถรวมความสนใจในเรื่องของการบินกับการเรียนบริหารธุรกิจ เข้ามาไว้ด้วยกัน

โตขึ้นความรับผิดชอบมากขึ้น จะมีเวลาสนใจเรื่องเฮลิคอปเตอร์เหมือนเดิมไหม
แน่นอนค่ะ ก็ยังคงอยู่ในความสนใจเสมอ และหวังว่าจะมีโอกาสได้บินมากขึ้นกว่าเดิมอีกค่ะ ก็มีคุยๆ กับคุณพ่อไว้ด้วยว่าอยากจะเปิดโรงเรียนสอนขับเฮลิคอปเตอร์ที่เมืองไทย เพราะว่าที่นี่ไม่มีเป็นกิจจะลักษณะนัก แล้วไลลาจะเป็นคนสอนเอง (หัวเราะ) แต่รอให้หนูสอบผ่านขั้นที่จะเป็นคนสอนได้ก่อน เพราะส่วนตัวหนูก็อยากสอนเองด้วย

คิดว่าระหว่างนักเรียนกับคนสอน แบบไหนยากกว่ากัน
หนูว่าเป็นนักเรียนยากกว่า ยากที่สุดเลย เพราะว่าต้องเรียนเยอะมากๆ รายละเอียดเยอะมากๆ

เป็นไปได้อยากมีเฮลิคอปเตอร์ที่บ้านสักกี่ลำดี
ตอนนี้ขอสักลำหนึ่งก่อนค่ะ หนูเบื่อรถติดมากๆ (หัวเราะ) อนาคตก็ขอสัก 3 ลำ ขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ ใช้ตามความเหมาะสมของการใช้งาน อยากเที่ยวเล่นคนเดียวก็เอาลำเล็กไปอะไรแบบนี้ แต่ตอนนี้หนูยังไม่ได้ศึกษากฎการบินในประเทศไทยมากนัก แค่เรียนวิธีขับวิธีสื่อสารมาจากที่อังกฤษเท่านั้น ต้องรอศึกษาก่อนค่ะ

ฝากถึงคนที่มองว่าไลลาเป็นไอดอลหน่อย
ถ้ามีคนมาบอกว่า ‘ทำอะไรไม่ได้’ ก็อย่าไปฟังเขา (หัวเราะ) เพราะว่าตอนที่ไลลาพูดครั้งแรกว่าจะเป็นนักบินเฮลิคอปเตอร์ ก็มีแต่คนหัวเราะ ไม่มีใครเชื่อว่าไลลาจะทำได้ ก็อยากจะให้ทุกคนตั้งใจทำในสิ่งที่เราอยากจะทำอยากจะเป็นให้ประสบผลสำเร็จ มั่นใจในตัวเอง เชื่อมั่นในตัวเอง สู้ๆ ค่ะ
















เรื่อง : อิทธิพล เนียมสวัสดิ์
ภาพ : พานุวัฒน์ เงินพจน์

No Comments Yet

Comments are closed

user's Blog!

49/1 ชั้น 4 อาคารบ้านเจ้าพระยา ถนนพระอาทิตย์ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200

49/1 4th floor, Phra-A-Thit Road, Chanasongkhram,Phanakorn Bangkok 10200

Tel. 02 629 2211 #2256 #2226

Email : mars.magazine@gmail.com

FOLLOW US ON

SUBSCRIBE