Marsmag.net

สาวประเภทสอง สมองประเภทหนึ่ง 'ใบหม่อน โสภิดา' Miss Tiffany’s Universe 2015


เมื่อครั้งที่ ‘ปอย-ตรีชฎา เพชรรัตน์’ คว้ามงกุฎจากเวทีการประกวด Miss Tiffany’s Universe 2005 มาครองได้สำเร็จนั้น เธอได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการสาวประเภทสองของเมืองไทย ที่ ladyboy ไม่ใช่แค่กะเทยในความหมายและท่าทีเช่นเดิมอีกต่อไป แต่คือผู้หญิงแท้ๆ ที่อาศัยสรีระผู้ชายในการถือกำเนิดขึ้นเท่านั้น และปอยก็ทำให้ความสวยของสาวประเภทสองเป็นที่ยอมรับในระดับเอเชีย

10 ปีต่อมาในรอบตัดสินของ Miss Tiffany’s Universe 2015 ใบหม่อน-โสภิดา ศิริวัฒนานุกูล ก็ทำให้วงการสาวประเภทสองต้องเซอร์ไพรส์เมื่อเธอเฉือนชนะความสวยของคู่แข่งตัวเก็งด้วยไหวพริบในการตอบคำถาม รอยยิ้มอันมีเสน่ห์ และผิวแทนอย่างสาวบ้านนา กำหนดนิยามความงามใหม่ของสาวประเภทสองขึ้นอีกครั้ง และก่อนที่เธอจะเข้าประกวดระดับนานาชาติในรายการ Miss International Queen 2015 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพในช่วงปลายปีนี้ เรามาฟังทัศนคติของสาวประเภทสองรุ่นใหม่ที่จะทำให้หัวใจคุณ…กว้างได้อีก

ช่วยเล่าเรื่องชีวิตวัยเด็กให้เราฟังหน่อย
ด้วยความที่บ้านมีผู้หญิงเยอะ เราจึงโตมากับการเลียนแบบผู้หญิง ช่วงที่คนไม่อยู่บ้านเราก็เอากางเกงมาใส่เป็นกระโปรง เอาไมโครโฟนมาร้องเพลง พอเข้าอนุบาลเราก็เล่นหม้อข้าวหม้อแกง เล่นตุ๊กตากับผู้หญิง พ่อเลยบอกว่าให้ไปเล่นกับผู้ชาย ซึ่งพอไปเล่นดูมันไม่ใช่เรา เลยเล่นกับผู้หญิงตั้งแต่นั้นมา เราเป็นเด็กกิจกรรมมาตั้งแต่เด็ก
พ่อจะไม่ค่อยแสดงออกว่าไม่ชอบที่เราเป็นแบบนี้ แต่มีแอบเห็นว่าทะเลาะกับแม่เรื่องของเราว่าอยากให้เป็นผู้ชาย อยากให้ขับรถเที่ยวตามประสาผู้ชาย แต่ที่บ้านไม่ชอบให้เป็นเด็กแว้น ชอบเด็กเรียบร้อยมากกว่า แม่เลยบอกว่าถ้าให้ลูกไปเป็นเด็กแว้น ขี่รถชนคนตาย เอาปัญหามาให้ที่บ้าน กับการที่ลูกเป็นคนแบบนี้ เรียบร้อยเป็นคนดีสร้างชื่อเสียงให้กับเราไม่ดีกว่าเหรอ หลังๆ พ่อยอมรับได้ในความที่เราเป็นเด็กเรียนดี

พ่อไม่เคยดุไม่เคยว่า?
ไม่เคยนะ แต่ลงกับแม่แทน ว่าสอนลูกแต่งผู้หญิงทำไม แม่จะสอนให้เราเต็มที่เลย จะเป็นอะไรก็ได้ขอให้เป็นคนดี
สาวประเภทสองแถวบ้านมันจะมีหลากสไตล์ สไตล์เราเป็นเด็กกิจกรรม ทำให้คนอื่นมีความสุข การเป็นคนให้มากกว่าเป็นผู้รับโอเคกว่า แต่สาวประเภทสองที่สังคมไม่ยอมรับคือพวกที่ชอบทำตัวแรงๆ เสียงดัง โวยวาย ชาวบ้านก็ไม่ชอบ คนที่อยู่ในสังคมที่หรูนิดนึงก็จะไม่โอเคกับสาวประเภทสองแบบนั้น

แล้วเราเปิดตัวว่าเป็นหญิงตั้งแต่เมื่อไหร่
แต่งหญิงเลยคือช่วงเรียนมหาวิทยาลัยปี 2 แต่ถ้าเรียนวิชาหนักๆ ของสาขา (สาขาสาธารณสุขชุมชน คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา) เช่น อนาโตมี ก็ต้องแต่งชายไปเรียน เพราะว่าจะเข้มงวดในการแต่งตัว เพราะเราต้องทำงานกับชุมชน เราต้องแต่งตัวให้เหมาะสม ให้สังคมยอมรับ แต่ว่าได้สิทธิพิเศษ เพราะเราได้อธิบายให้อาจารย์เขาฟัง อาจารย์เลยบอกว่าถ้าอยากเป็นผู้หญิงจริงๆ ก็ต้องแต่งให้เป็นผู้หญิงจริงๆ อย่าให้เป็นสาวประเภทสองที่ไม่มีระดับ เข้าห้องน้ำก็ห้องน้ำหญิง เราต้องทำเหมือนปกติผู้หญิงทั่วไป นอกเสียจากว่าเวลาแนะนำตัวกับชุมชนเวลาไปทำงานคนจะสงสัยว่าข้างนอกเป็นผู้หญิงทำไมแนะนำตัวใช้คำว่านาย แต่เราใช้ความสามารถของสาวประเภทสองเข้าไปเอนเตอร์เทนความรู้สึกเขาเพื่อให้เปิดใจกับเรา

เคยเจอกระแสต่อต้านแรงๆ ไหม ข้างนอกเป็นนางสาวแต่แนะนำตัวเป็นนาย
ไม่นะ ถ้าคนอายุเยอะๆ เขาจะมองเราเป็นลูกหลาน แต่วัยรุ่นจะมีมาหยอกล้อแซวบ้าง มีดูถูกไหม? อาจจะมีบ้างแต่เราไม่เอามาเป็นจุดสำคัญ ภารกิจชุมชนเราต้องอยู่กับเขาเหมือนเป็นญาติพี่น้อง เมื่อเราทำตรงนี้เราต้องถามตัวเองว่ารักแค่ไหน ถ้าคำตอบคือทำเพื่อชุมชนให้มีสุขภาพดีนั่นคือเราต้องทำให้เต็มที่

มีคนบางกลุ่มมองว่าสาวประเภทสองเป็นคนวิปริตผิดเพศ จิตใจไม่ปกติ เรามองตรงนี้ยังไง
เราจะเจอคนนิสัยแบบนี้ในวัยรุ่น พวกเขาจะคิดว่าสาวประเภทสองเป็นตัวตลก ไปเล่นอะไรก็ได้ แต่ถ้าทำให้เขาคิดว่าเป็นผู้หญิงเขาจะถนอมเรานะ ส่วนตัวเวลาเจอกับคนแบบนี้ก็แค่ยิ้มออกไป หรือถ้าไม่ไหวจริงๆ จะไปถามว่าเธอเหนื่อยไหม เหนื่อยก็หยุดค่ะ คือถ้าเราเก็บมาคิดเราก็เครียด เอาเวลาไปทำอย่างอื่นดีกว่า ส่วนมากเราจะเป็นคนคิดบวกไง เอาเรื่องพวกนี้มาเป็นพลัง อย่างเมื่อก่อนนี้เราโดนแกล้งเป็นประจำ เราก็พัฒนาตัวเองขึ้นมาเรื่อยๆ เพื่อให้คนอื่นยอมรับ อย่างตอนประกวดก็โดนดูถูกว่าไม่ติดรอบ 30 คนหรอก มันเป็นแรงผลักดันนะว่าถึงเราไม่สวยเหมือนคนอื่น แต่เราต้องทำให้ตัวเองโดดเด่น

ว่ากันว่าสาวประเภทสองไม่ค่อยสมหวังเรื่องความรัก
ห้าสิบห้าสิบนะ สาวประเภทสองจะมีความเป็นผู้หญิง ซึ่งความเป็นผู้หญิงที่ว่าจะมีความจู้จี้จุกจิกรวมอยู่ด้วย ผู้ชายที่เลือกคบกับสาวประเภทสองนี่เขาหนีผู้หญิงมาหรือเปล่า? หนีความง้องแง้งงอแงแต่มาเจอสาวประเภทสองที่ง้องแง้งงอแงอีกก็เลยไปกันไม่ได้ ผู้ชายบางคนเปิดใจคบกับสาวประเภทสองได้ มันเป็นเรื่องความรู้สึกของคนสองคนมากกว่า ไม่เกี่ยวกับเรื่องเพศเลย เพราะสังคมสมัยนี้เปิดกว้าง ชายรักชาย ชายรักสาวประเภทสอง หรือสาวประเภทสองรักกับทอมยังได้เลย

บางคนบอกว่าคนที่ไม่ได้เป็นชายจริงหญิงแท้จะเป็นคนที่มีอารมณ์รุนแรง มีความรักรุนแรง
สมัยก่อนหนูก็เคยโดนที่บ้านบอกว่า ถ้าโตไปจะโอเคเหรอ เพราะคนพวกนี้จะหัวรุนแรง ตอนนั้นเราก็กลัวเพราะได้อยู่ในสังคมกว้าง แต่เมื่อได้มาเจอก็รู้ว่าทุกคนมีหัวใจ ทุกคนมีความคิด เราสามารถเลือกได้ว่าจะอยู่ในกลุ่มคนแบบไหน ถ้าเราไม่โอเคเราก็ปฏิเสธได้ ไม่จำเป็นที่ต้องทนอยู่ต่อไป อยู่ที่เราเลือกว่าอยากได้คนแบบไหน ถ้าชอบรุนแรงก็ไปหาคนที่รุนแรง อยากได้อ่อนโยนนุ่มนวลก็มุ่งตรงไปหาคนกลุ่มนั้น

แล้วเรื่องเซ็กซ์ล่ะ ตรงไปตรงมาเหมือนชายจริงหญิงแท้ไหม
เหมือนกันนะ ผู้หญิงผู้ชายที่มีเซ็กซ์กันเพื่อต่อยอดครอบครัวต่อยอดวงศ์ตระกูล แต่ว่าสาวประเภทสองหรือผู้ชายกับผู้ชายไม่สามารถมีลูกได้ แต่มันคือความสุข พอเป็นความสุขก็จะกลายเป็นความรัก จากความรักก็กลายมาเป็นความผูกพัน กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตซึ่งกันและกัน คำว่าเซ็กซ์มันจะหายไปทันที ความจริงสาวประเภทสองก็มีวงจรชีวิตเหมือนคนทั่วไป เกิดมาต้องแก่ต้องเจ็บต้องตายเหมือนกัน ไม่มีใครเกิดมาแล้วแก่เลย

เราหน้าตาดีอย่างนี้มีผู้หญิงอิจฉาบ้างไหม
มีกลุ่มเพื่อนผู้หญิงด้วยกันนี่แหละ (หัวเราะ) แต่ถึงขั้นเกลียดกันเลยนี่ไม่มี เพราะเราเป็นคนขี้เล่น สนุกสนาน ป้อนความสุขให้คนอื่น ทุกคนจะชอบพูดเล่นกับเรามากกว่าว่า สวยจัง เมื่อไหร่จะหยุดสวยซะที แต่เราไม่ได้เพิ่มเลเวลความสวยของตัวเองนะ แค่พยายามดูแลตัวเองคูณ 2 กว่าผู้หญิง คือจากชายมาเป็นหญิงมันยากมากในการปรับฮอร์โมนในร่างกายเรา เราต้องทานฮอร์โมนเพศหญิงไปเท่าไหร่ที่จะกลับไปเป็นผู้หญิง แล้วผิวพรรณก็ต้องบำรุงทาครีม ดูแลกันไปเรื่อยๆ

เหนื่อยบ้างไหมในการดูแลความงามของตัวเอง
ก็เคย ตอนเด็กไม่เข้าใจคำว่าสาวประเภทสอง คิดว่าแปลงเพศปุ๊บจะสวยทันที จมูกโด่งหน้าเรียว แต่โตมามันไม่ใช่ ต้องดูแลตัวเองทั้งเรื่องผิวพรรณและฮอร์โมน แต่เราไม่ทานฮอร์โมนมากๆ นะ เพราะร่างกายมันต้าน เน้นกินผักกินผลไม้มากกว่า

อยากบอกอะไรถึงคนที่กำลังเลือกเพศตัวเองอยู่ในตอนนี้บ้าง
คนที่ลังเลว่าจะแต่งหญิงหรือชายดี สิ่งที่ต้องทำคือถามความรู้สึกในใจเราว่าอยากเป็นอะไร เราลองพิสูจน์ตัวเองเรื่อยๆ ว่าการเป็นผู้ชายในสังคมทุกวันนี้มันใช่ตัวเราไหม อย่างช่วงที่เราแต่งชายสลับหญิงตรงนั้นมันสอนได้เยอะ การแต่งชายออกสู่สังคมเป็นยังไง แต่งหญิงออกมาถามตัวเองว่าใช่ไหม
การจะอยู่ในสังคมนี้ได้เราต้องมีเลยคือ หนึ่ง-ต้องอดทน สอง-ต้องเข้มแข็ง สาม-ต้องพยายามปรับพฤติกรรมของตัวเองให้สังคมยอมรับได้ สิ่งหนึ่งที่ทำให้สังคมยอมรับเราได้ก็คือการทำตัวดี การวางตัวที่ดี ถ้าอยากเป็นผู้หญิงก็ต้องทำตัวให้เป็นผู้หญิง

สังคมสาวประเภทสองสมัยนี้เป็นยังไง
มีหลายรูปแบบ แล้วแต่นิสัยคน แล้วแต่สายงาน ถ้าอย่างเราอยากเป็นนางงาม การวางตัวเป็นนางงามก็จะอีกลักษณะหนึ่ง แต่ถ้าทำงานสายบันเทิงก็ต้องเอนเตอร์เทนคนเยอะๆ มีพลัง สร้างตัวเองให้เด่นขึ้นมา ซึ่งสาวประเภทสองจะมีพลังด้านนี้ทุกคน มันมีเส้นบางๆ กั้นอยู่ระหว่างผู้หญิงกับสาวประเภทสอง

ในอีก 5 ปีข้างหน้า มองตัวเองว่าเป็นใครและทำอะไรอยู่
อนาคตเราไม่สามารถจะรู้ได้ อย่างเราไม่คิดว่าจะเป็น Miss Tiffany เราก็ได้เป็น มันคือความฝัน เมื่อมายืนตรงนี้แล้วมันจะมีบันไดก้าวต่อไป ความฝันต่อจากนี้ก็คือการได้อยู่ในวงการบันเทิง ได้ทำอะไรที่ดาราผู้หญิงทุกคนเคยทำ เราอยากได้ลองสัมผัสตรงนั้น
อีกอย่างเราอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง ด้วยแบรนด์ Miss Tiffany 2015 อยากให้ทุกคนเห็นถึงความฝันที่จะพัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ เราล้มได้แต่ต้องลุกขึ้นมาสู้ต่อ ถ้าสู้ไม่หยุดมันจะทำให้เราก้าวขึ้นบันไดไปเรื่อยๆ และจะไม่หยุดอยู่แค่ขั้นนี้
การเป็น Miss Tiffany ไม่ใช่แค่สวยไปวันๆ ถ้าไม่มีความสามารถอะไรเลยเรามายืนตรงนี้ไม่ได้หรอก ต้องพัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ แม้จะยากแค่ไหน แต่ถ้าเราฝึกฝนตั้งใจเต็มที่มันจะสำเร็จได้
ต้นแบบของเรามีพี่ปอย ตรีชฎา ซึ่งนอกจากจะสวยแล้วยังไม่เคยหยุดนิ่ง เขาไม่ได้ทำเพื่อตัวเองอย่างเดียว แต่เพื่อสาวประเภทสองทุกคน ให้สังคมยอมรับว่าสาวประเภทสองก็คือคนคนหนึ่งซึ่งมีความสามารถเหมือนกัน อยู่ที่ว่ารุ่นน้องจะเดินตามแบบอย่างเขาไหม
อีกคนก็คือยายเรา ยายเป็นต้นแบบในเรื่องของการสู้ชีวิต อดทนจนสามารถเลี้ยงลูก 5 คนจนเรียนจบมีงานทำ เราเอาความอดทนของยายมาใช้ เพราะชีวิตไม่รู้ว่าจะพบเจออะไรบ้าง ถ้าเราอดทนเราก็สามารถจะก้าวไปสู่สิ่งนั้นได้
เรื่อง : PAN
ภาพ : พาณุวัฒน์ เงินพจน์