Hunger games เรียลิตี้แห่งความบ้า


ไม่ว่ายุคสมัยไหน พล็อตประเภทการเอาตัวรอด การต่อสู้กับด้านมืดและจิตใจอันคับแคบของมนุษย์ก็ยังขายได้ มีให้เห็นผ่านจินตนาการของผู้แต่งฝันเล่าเรื่องอยู่ตลอดเวลาทั้งเพลง หนังสือ ภาพยนตร์ หรือแม้แต่รายการทีวี เรียลลิตี้ โชว์เป็นส่วนหนึ่งของการเอาตัวรอดนั้น ไม่ว่าจะหนักไปในทางสร้างความหวังให้กับผู้ชม ไม่ว่าผู้เล่นคนนั้นจะมาค้นฟ้า หาสวรรค์ที่ไหน สุดท้ายการเฉือนคู่แข่งด้วยวิธีเล่ห์กลไหนเพื่อให้ได้ชัยชนะต่างออกมาจากสัญชาตญาณของมนุษย์ทั้งสิ้น

ชัยชนะที่สวยหรู หรือการพ่ายแพ้อันเจ็บปวด ผู้เหนือกว่าหรือต่อยต่ำไม่ได้อยู่ในกฏเกณฑ์ตลอดไป การนอกกฎเป็นปัจจัยเหนือการควบคุมทั้งหมด การโกงอาจเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ถ้าคุณต้องการ ผู้ชมเพลิดเพลินกับความบ้ามากกว่าความเก่ง

Hunger Games เป็นเรื่องราวของโลกอนาคตที่อารยธรรมล่มสลาย โลกได้มีการจัดระเบียบใหม่โดยในประเทศ “พาเน็ม” ได้แบ่งเขตการปกครองออกเป็น 12 เขต ขึ้นตรงต่อ “แคปิตอล” ซึ่งเป็นเมืองหลวง แต่ละเขตมีความถนัดในการผลิตที่แตกต่างกัน อย่างเช่น เขต 12 ซึ่งเป็นเขตที่ตัวเอกของเรื่องทั้งสามคนอาศัยอยู่ นั่นคือ สาวน้อยสู้ชีวิต หนุ่มลูกเจ้าของร้านขายขนมปัง และหนุ่มนักล่าสัตว์ อันเป็นแหล่งผลิตถ่านหิน ซึ่งนับว่าเป็นเขตที่ยากจนแร้นแค้นที่สุดใน 12 เขต

พาเน็มสร้างกลไกเพื่อควบคุมพลเมืองในรัฐของตน ด้วยวิธีที่หลากหลาย อาทิ การห้ามผู้คนทั้ง 12 เขตติดต่อกัน แต่ที่สำคัญก็คือการออกแบบเกมเรียลิตี้โชว์ที่มีชื่อว่า Hunger Games เพื่อให้แต่รัฐเห็นความสำคัญในชีวิตของตน โดยในแต่ละปี แต่ละเขตจะส่งตัวแทนชายหญิงอายุระหว่าง 12-18 ปี มาเล่นเกมนี้เขตละ 2 คน รวม12 เขตมีผู้เข้าร่วม Hunger Games 24 คน โดยเกมนี้มีกติกาง่ายๆ คือ ผู้ที่เหลือรอดจากเกมคนสุดท้ายคือผู้ชนะ ซึ่งนั่นก็หมายถึงผู้ร่วมแข่งขันที่เหลืออีก 23 คนต้องจบชีวิตลงในเกมนี้

นิยายไตรภาคของซูซาน คอลลินส์สร้างกระแสที่น่าสนใจ ปี 2008 ที่หนังสือเล่มนี้ได้ถือกำเนิดขึ้นมา ยอดขาย16 ล้านเล่มทั่วโลก ติดอันดับหนังสือขายดีนิวยอร์กไทมส์ 130 สัปดาห์ติดต่อกัน ถูกซื้อลิขสิทธิ์ไปแล้ว 44 ประเทศ แปลไปกว่า 30 ภาษา เวอร์ชั่นไทยแปลโดยนาธาน สำนักพิมพ์โพสต์บุ๊คส์ ใช้ชื่อหนังสือภาษาไทยว่า “เกมล่าชีวิต”

ภาพยนตร์ในชื่อเรื่องเดียวกันได้เปิดตัวไปอย่างสวยงามด้วยยอดคนดูทะลุเป้าในยอดสถิติที่สูงที่สุดของจำนวนจอฉายนับตั้งแต่เคยมีการสร้างภาพยนตร์ ว่ากันว่าด้วยพล็อตรักสามเศร้าฉบับตามล่าฆ่ากันให้เหลือรอดเป็นคนสุดท้ายทำให้หนังเรื่องนี้น่าติดตามยิ่งนัก

ที่สำคัญ จากเสียงลือเล่าต่อๆ กันมา ภาพในหนังสือมีพลังและตรึงได้มากกว่าดูภาพบนจอโรงมากกว่า
จะบ้ากว่าแค่ไหน อยากให้ไปอ่านกัน

No Comments Yet

Comments are closed

user's Blog!

49/1 ชั้น 4 อาคารบ้านเจ้าพระยา ถนนพระอาทิตย์ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200

49/1 4th floor, Phra-A-Thit Road, Chanasongkhram,Phanakorn Bangkok 10200

Tel. 02 629 2211 #2256 #2226

Email : mars.magazine@gmail.com

FOLLOW US ON

SUBSCRIBE