การใช้ชีวิตท่ามกลางสังคมคนหมู่มาก จำเป็นอย่างยิ่งในการวางตัวเพื่อให้เป็นที่ยอมรับ แต่บ่อยครั้งด้วยความ ‘เคยชิน’ ทำให้เราหลงลืมไปว่าตนเองไม่ใช่ศูนย์กลางของโลกใบนี้ จนทำตัวให้เพื่อนร่วมงาน หรือคนรอบข้างเกิดอาการ ‘ยี้’ กับนิสัยบางประการ
ก่อนเริ่มต้นศักราชใหม่ ลองสำรวจดูว่ามีข้อใดใน 10 ประการที่อาจแอบแฝงอยู่ และไม่ใช่เรื่องยากหากจะโยนมันทิ้งไป ไม่ใช่เพื่อใคร เพื่อตัวคุณเอง
1.เพียงตนเท่านั้น สำคัญเสมอ
ไม่แปลกหรอก หากจะให้ความสำคัญกับเรื่องของตัวเองเป็นอันดับแรก เพราะ ‘มนุษย์ต้องรู้จักรักตัวเองเสียก่อน’ แต่จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีกรอบของการกระทำ บางเรื่องอาจรู้สึกว่าถูกต้องสำหรับตนเอง แต่กับคนรอบข้างนั้นไม่ใช่ จึงต้องรู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา อย่าคิดว่าตนคือศูนย์กลางของทุกสิ่ง
2.รู้จักการแข่งขันให้ถูกสนาม
การทำงานให้เต็มที่คือเรื่องดีขององค์กร แต่หากขาดคำว่า ‘ทีมเวิร์ค’ เพียงเพราะคุณต้องการเอาชนะเพื่อนร่วมงาน เสมือนฟันเฟืองที่หมุนอยู่เพียงตัวเดียวผิดแถมผิดด้านเสียด้วยซ้ำ สุดท้ายก็ขัดกันจนไม่สามารถขับเคลื่อนองค์กรไปข้างหน้าได้ มิหนำซ้ำยังอาจสึกกร่อนเพราะคุณไม่ได้รับการยอมรับจากบุคคลอื่น
3.มองคนอื่นเป็นศัตรู
ต่อยอดจากข้อ 2 เมื่อคุณมองตัวเองเหนือชั้น หรือเก่งกว่าใครส่งให้เกิดพฤติกรรมตัดสินบุคคลอื่นเป็นศัตรูไปเสียหมด เพียงความอยากเอาชนะที่เนิ่นนานเข้า กระทั่งสั่งสมกลายเป็นความชัง คุณอาจพร้อมที่จะแทงข้างหลัง หรือเลื่อยขาเก้าอี้เพื่อนร่วมงานได้ทุกเมื่อ
4.สนใจเพียงภาพลักษณ์ภายนอก
เป็นข้อสำคัญสำหรับคำว่า ‘ไมตรีจิต’ เมื่อคุณไม่มีสิ่งนี้แถมยังตัดสินคนอื่นจากสิ่งที่ตาเห็น นั่นหมายความว่าคุณกำลังพลาดสิ่งดีๆ ไปแล้ว จริงอยู่การมีเพื่อนร่วมงานข้างๆ หน้าตาดี แต่งกายภูมิฐานด้วยเฟอร์นิเจอร์แบรนด์เนมช่วยส่งให้เราดูดีไปด้วย แต่คุณจะไว้ใจพวกเขาได้หรือไม่ว่าจะเต็มที่กับงาน หรือจริงใจกับคุณ ดังนั้นจงทำดีกับทุกคนอย่าแบ่งเขาแยกเราเพียงเพราะบุคลิกภายนอกเท่านั้น
5.หยาบคายไม่ได้หมายความว่าจริงใจ
การให้เกียรติเป็นเรื่องสำคัญ บางคนยังเข้าใจผิดว่าการพูดจาด้วยถ้อยคำหยาบคายคือการแสดงออกถึงความจริงใจ ความจริงหาเป็นเช่นนั้นไม่ พึงระลึกเสมอว่าพื้นฐานแต่ละบ้านไม่เหมือนกัน การใช้ระดับภาษาในองค์กรจึงเป็นเรื่องจำเป็น ส่วนนี้รวมไปถึงการนำเรื่องของคนอื่นมาเล่าเป็นโจ๊ก จิกกัดเขาให้ดูเหมือนเป็นตัวตลก ต่อหน้าคนอื่นอาจสนุกไปกับคุณแต่ลับหลังเขาจะคิดว่าตนก็คงไม่รอดที่จะถูกคุณเมาท์เช่นกัน
6.โลกนี้มันมีแต่เรื่องแย่ๆ
การมองโลกในแง่ร้ายตลอดเวลามีข้อดีเพียงช่วยสร้างเกราะให้คุณระวังภัย แต่กับเพื่อนร่วมงานคงต้องพิจารณาเป็นเรื่องๆ ไป อย่าตั้งแง่กับเขาไปเสียหมด นอกจากจะดูไม่ดีในสายตาคนอื่น ตัวตัวคุณเองนั่นแหละที่กำลังเข้าใกล้อาการ ‘วิตกจริต’ ไปทุกวัน
7.แล้งน้ำใจ แต่ให้คนอื่นช่วยตลอด
คนเราไม่ได้เก่ง หรือชำนาญไปเสียทุกเรื่อง จึงต้องมีการร้องขอความช่วยเหลือจากคนอื่น แต่ไม่ใช่รบกวนอยู่ตลอดเวลาจนกลายเป็นนิสัย ต้องรู้จักแก้ปัญหาด้วยตัวเอง รวมไปถึงตอบแทนคนที่หยิบยื่นน้ำใจมาสู่คุณด้วย
8.เรียกร้องความสนใจเสมอ
หากใครมีข้อนี้อยู่กับตัว จงสำนึกไว้เถิดว่าคนรอบข้างกำลังเอือม การมองหาพื้นที่ให้ตัวเองยืนอยู่ในสังคมมีหลากวิธี เช่นมีน้ำใจกับคนรอบข้าง ทำงานของตนให้เต็มที่ และมอบรอยยิ้มที่จริงใจกับเขา อย่าใช้วิธีทำตัวน่าสงสาร แกล้งป่วยให้คนดูแล หรือประณามการทำงานของเพื่อนหวังดึงตนเองให้ดูเหนือกว่าในสายตาเจ้านาย
9.ทำตัวเจ้ากี้เจ้าการ
ขณะต้องร่วมแสดงความคิดเห็น จงรับฟัง และช่วยกันระดมสมอง อย่ายกตนข่มท่านด้วยวิธีเจ้ากี้เจ้าการ เอาความคิดของตนเป็นใหญ่ การกระทำเช่นนี้ความน่ากลัวอยู่ที่วันหนึ่งคุณจะถูกโดดเดี่ยวจากเพื่อนๆ เพราะไม่มีใครอยากถูกมองว่าไร้ความสามารถหรอก
10.ไม่จริงใจ
ส่งท้ายด้วยข้อสำคัญที่สุดสำหรับการอยู่ร่วมกันในสังคม หากคุณปราศจากข้อนี้คงไม่มีใครหยิบยื่นความจริงใจให้เช่นกัน ดังนั้นจงสร้างมันขึ้นมา แต่ไม่ใช่ทำตัวจริงใจแต่ส่วนลึกนั้นกลับหวังสิ่งตอบแทน เพราะการให้ใจไม่ใช่หว่านพืชหวังผล
ทั้ง 10 ข้อเป็นเพียงตัวอย่างส่วนหนึ่งของการอยู่ร่วมกันในสังคม ลองสำรวจตัวคุณเองว่ามีข้อใดอยู่บ้าง แล้วใช้ฤกษ์ของวาระปี 2558 ที่กำลังจะมาถึงโยนมันทิ้งไป ทำตัวเองเสียใหม่ก่อนจะกลายเป็นบุคคลไม่พึงประสงค์ของเพื่อนร่วมงาน
ข้อมูล : lifehack.org
ภาพประกอบ : อินเทอร์เน็ต