สำหรับผู้ที่คิดจะมีรถคันแรก หรืออยากหารถเล็กๆเอามาใช้ยามน้ำมันแพงๆแบบนี้ Eco car คือทางเลือกที่กำลังมาแรง แล้วค่ายรถยนต์ต่างๆก็เร่งผลิตมาตอบสนองจำนวนผู้ต้องการใช้ ถ้าคุณยังไม่รู้จะเลือกคันไหน ที่ใช่ ที่เหมาะ ที่โดน กับตัวคุณ Taste มี 5 ตัวเลือก 5 ยี่ห้อ
Suzuki Swift
เริ่มคันแรกกับ Suzuki swift รูปทรงไม่ต่างจากรุ่นพี่ที่ออกมาก่อนเท่าไรนัก แต่มันถูกเปลี่ยนหัวใจใหม่ด้วยเครื่องยนต์ 1.25 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว กับม้าน้อยๆ 91 ตัว พร้อมระบบวาล์วแปรผันไอดีและไอเสีย ที่ผ่านมาตรฐานมลพิษระดับยูโร 4 และเข้าร่วมเป็น Eco car
ที่แม้จะเครื่องเล็กแต่อัตราเร่งไม่ได้ด้อยสักเท่าไร กับตัวเลขคร่าวๆ 0-100 ที่ ประมาณ 14.00 วินาที ท็อปสปีดของมันป้วนเปี้ยนแถว 170-180 โอ้ว!! (คำเตือน อันตราย อย่าทดลองถ้าใจคุณไม่พร้อม) ส่วนเรื่องความประหยัดแน่นอน ตามมาตรฐาน Eco car 20 กม./ลิตร (ขับไม่เกิน 60 กม./ชม.) และที่ความเร็วประมาณ 100-120 อยู่ที่ราวๆ 17-18 กม./ลิตร
เรื่องช่วงล่าง เจ้าจิ๋วคันนี้ไม่ได้มีดีแค่ขับนุ่มๆในเมือง แต่มันยังพร้อมออกซิ่งในทางหลวงด้วยอารมณ์สปอรต์ด้วย โดยรวม Suzuki swift มีพร้อมสรรพทั้งความประหยัด ความสวยงาม สมรรถนะ แต่อาจจะคาใจคนไทยหลายคนที่ติดแบรนด์ ห่วงราคาขายต่อ ปัญหาศูนย์ซ่อมและบริการ ถ้าคุณละทิ้งความคิดทั้งหมดนี้ไปได้….นี่คือ Eco car ที่เยี่ยม ลงตัว น่าคบหา กับค่าตัว 559,000 บาท
Mitsubishi Mirage
Mirage คือ Eco car ที่ทางมิตซูบิชิส่งขึ้นชกด้วยน้ำหนักตัว 830-870 กก.(เจ้าอื่นๆน้ำหนักอยู่ที่ 900-975 กก.)นี่คือน้ำหนักตัวที่เบาที่สุดในตลาด Eco car บ้านเราตอนนี้ ด้วยเหตุผลว่าเพื่อความประหยัดและอัตราเร่งสูงสุด กับขุมพลัง 3 สูบ ขนาด 1.2 ลิตร 78 แรงม้า ถือว่าเป็น Eco car ที่ม้าน้อยตัวสุดในตลาด แต่อย่าเชื่อในสิ่งที่คุณเห็น
เพราะแม้มันจะมีม้าแค่ 78ตัว แต่มันกลับมีแรงบิดสูงสุด ถึง 100 นิวตันเมตร หรือ 10.2 กก.-ม. ที่ 4,000 รอบ/นาที เมื่อน้ำหนักตัวที่น้อยกว่าเป็นร้อยกิโลแต่แรงบิดพอๆกัน ทำให้มันมีอัตราเร่ง 0-100 อยู่ที่ประมาณ 13.90 วินาที ส่วนความเร็วสูงสุดก็ราวๆ 180 กม./ชม. เท่านั้นเองครับ!! Mirage กลายเป็น Eco car ม้าน้อยตัว แต่กลับแรงปรู๊ดปร๊าด สวนทางกับแรงม้าเลยครับ
ยังไงซะ….อย่าลืมว่า มันถูกออกแบบให้เป็น Eco car ครับๆๆ ไม่ต้องขับกันเร็วขนาดนั้นนะ…ปลอดภัยไว้ก่อนๆ เรื่องอัตราการบริโภคน้ำมันอยู่ที่ประมาณ 20.85 กิโลเมตร/ลิตร ในย่านความเร็ว 100-110 มันนับเป็น Eco
car ที่ขับได้จริง ประหยัดจริง นอกห้องทดลอง และจากตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองตามมาตรฐานของ สหประชาชาติ UNECE ที่กำหนด 22 กิโลเมตร/ลิตร Mirage ทำได้จริงๆ!!!
ราคาค่าตัวของมันอยู่ที่ 546,000 บาท ถ้าคุณไม่รีบร้อนอะไร มีเวลารอในการส่งมอบรถ และรับได้กับราคาขายต่อและอะไหล่ นี่คือหนึ่งในสุดยอด Eco car ที่คุณควรครอบครอง
Nissan March
Nissan March คือ Eco car คันแรกที่ออกสู่ตลาดเมืองไทย พร้อมกับพรีเซนเตอร์พระเอกลูกหนึ่ง ขวัญใจสาวๆ (ส่วนหลังไม่น่าเกี่ยว 5555) จนปัจจุบัน March ถือได้ว่า ติดตลาด ติดปาก คนไทยไปแล้วกับรถEco car ตามนโยบายรถคันแรก อุ๊บ!!!
เจ้าเหล็กก้อนกลมๆน่ารักนี้ ถูกยัดด้วยเครื่อง 3 สูบ 1.2 ลิตร กับม้าอีก 79 ตัว นับว่าเหลือๆสำหรับการใช้งาน
เพราะหากใครจะมองว่ามันอืด จากทรงกลมๆของมัน คิดผิดแล้วครับ เพราะ 0-100 March ทำได้ที่ 12 วิปลายๆเท่านั้น ส่วนเรื่องช่วงล่างนุ่ม…..แต่อาจมีอาการหวือๆๆเหวอๆบ้าง
แนะนำให้เปลี่ยนงานให้กว้างขึ้นอีกนิด เพราะยางที่ติดรถมา…มันคือยางที่ทำหน้ากลิ้งๆวนๆพารถไปข้างหน้าแค่นั้นเอง ส่วนเรื่องอัตราสิ้นเปลืองในชีวิตจริง ในย่านความเร็ว 110 กม./ชม. ตัวเลขกลมๆออกมาที่ 18 กม/ล. เรื่องท็อปสปีดของมันก็อยู่ราวๆ 160-170 กม./ชม.
นอกจากนี้มันยังถูกติดตั้งระบบ จอดแล้วดับ Idle Stop ที่เหมาะกับบ้านเราที่รถติดมากๆๆ เพราะมันคือ ระบบเครื่องยนต์ดับให้เอง เมื่อรถติด และเมื่อจะออกมันก็จะติดเครื่องให้ใหม่ เป็นระบบที่ออกแบบมาเพื่อลดการสิ้นเปลืองน้ำมันโดยเปล่าประโยชน์
ซึ่งนับว่าเป็นครั้งแรกในเมืองไทยกับระบบนี้ ในรถเครื่องยนต์เบนซินล้วนๆ(ไม่นับรถ HYBRID) กับเราคาขนาดนี้ ส่วนเรื่องออปชันเสริมต่างๆในรถ นิสสันก็ให้มาใช้ได้ ไม่ได้ขี้เหร่อะไร ถ้าเทียบกับราเปิดตัวที่ 375,000 บาท (รุ่นธรรมดา ต่ำสุด) March ยังคงเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับรถยนต์คันแรกแบบ อีโคๆๆ ที่ไม่ควรมองข้าม
Honda Brio
Brio คือ Eco Car ที่กว่าจะส่งมอบให้ถึงมือลูกค้า ต้องผ่านอุปสรรคมหันตภัยนานาชนิด…ตั้งแต่สึนามิที่บ้านเกิด จนมาถึงน้ำท่วมใหญ่ประเทศไทย เห็นแต่ในจอแต่ไม่เห็นตัวจริงกันสักที…. แม้มันจะมาช้าแต่มันก็มา แล้วก็เล็กพริกขี้หนูเสียด้วย Brio!!
กับขุมพลังเคริ่องยนต์ 4 สูบ SOHC 16 วาล์ว 1198 ซีซี 90 แรงม้า ที่มาพร้อมกับระบบคันเร่งไฟฟ้า เช่นเดียวกับ รุ่นพี่อย่าง Jazz ซึ่งทุกครั้งที่เตะคันเร่งความเร็วจะค่อยๆไต่ขึ้นๆๆอย่างช้าๆจนคุณไม่อาจสัมผัสได้ว่ามันพุ่งขึ้นไปมากแล้ว จะเพราะความเงียบของเครื่อง หรือด้วยเหตุผลใดก็ตาม
พาหนะที่คุณกำลังเร่งเครื่องอยู่นี้ไม่ว่าจะพยายาม เค้น เหยียบมันเท่าไร ก็ ได้แค่ 140-145 กม./ชม. เพราะทางวิศวกรเค้าล็อกความเร็วให้มันวิ่งเท่านี้ครับ ซึ่งเขามันพอแล้ว กับการใช้ในเมืองและเพื่อความปลอดภัยของผู้ขับ ที่ทางฮอนด้า ห่วงเป็นพิเศษ (ไม่ห่วงตอนคนขับคิดจะเร่งเครื่องแซงคันข้างหน้าหรือสถานการณ์ฉุกเฉินบ้างเลยหรอ??)
แต่.. เรื่องความคล่องตัวในเมือง มุดซ้าย มุดขวา หาที่จอด โน่นนี่นั่น กับพวงมาลัยที่ตอบสนองดีมากๆ ช่วงล่างที่เข้าโค้งแล้วยังนิ่งๆเนียน ในความเร็วสูงๆและที่สำคัญรูปทรงที่ดูจะล้ำยุคสไตล์ฮอนด้า เข้าถึงวัยรุ่น หรือผู้ที่ชื่นชอบนำไปปรับแต่งเปลี่ยน สเกิร์ต เปลี่ยนแมกซ์ เชื่อเถอะว่า Brio เป็น Eco car ที่คุณจะรักมัน กับค่าตัว 508,500 บาท
TOYOTA Aygo
แม้ตอนนี้เจ้า Aygo ตัวเป็นๆจะยังไม่มีให้เห็นในไทย เพราะดูจะเป็นค่ายเดียวจากแดนปลาดิบ ที่ยังไม่ส่ง Eco car ขึ้นชก จะด้วยเหตุผลใดก็ตาม….ถ้าเมื่อไหร่ TOYOTA ส่งลงมา เชื่อว่าบ้านเรามีสาวกโตโย รออยู่เพียบ!! Aygo เป็นอีโคคาร์คันจิ๋ว ที่รูปทรงดูโฉบเฉี่ยวทันสมัย ที่ภายใต้ฝากระโปรงน้อยๆ มีเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1 ลิตร(1000 ซีซ๊) กับม้าแบบน่ารักๆ อีก 67 ตัว
อย่าดูถูกกำลังของมันนะครับ เพราะมันสามารถทำท็อปสปิดได้ถึง 157 กม./ชม. แบบสบายๆ แล้วเร่งจาก0-100 ได้ภายใน 14.00 วินาที เท่านั้น โอ้ว!! นี้มันจิ๋วตัวแรงชัดๆ (ถ้าคุณไม่เอามันไปเทียบกับรถเครื่องใหญ่ๆนะ) ที่เด็ดกว่านั้น Aygo ถูกยัดระบบเกียร์ธรรมดาแบบ Multi-mode Manual Transmission (MMT)
คือมันเป็นระบบที่ผู้ขับสามารถเปลี่ยนเกียร์โดยที่ไม่ต้องเหยียบคลัตช์ หรือถ้าขี้เกียจเปลี่ยนเกียร์ก็สามารถเลือกโหมดอัตโนมัติได้ อืม..อันนี้น่าสนใจๆ แม้มันจะเป็นรถขนาดเล็ก (มากๆ) ก็ตาม แต่เรื่องระบบความปลอดภัยสามารถไว้ใจได้ เพราะมันมีโครงสร้างตัวถังแบบ MICS (Minimal Intrusion Cabin System)
ที่สามารถยุบตัวและซับแรงกระแทกจากการชนทุกทิศทาง เพื่อไม่ให้ห้องโดยสารเป็นอะไร และมีการันตีผ่านการทดสอบการชนของ Euro NCAP ในระดับ 4 ดาว เออ..เกือบลืม Aygo มีเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 1.4 ลิตร 53 แรงม้า ไว้เป็นทางเลือกด้วยครับ ส่วนเรื่องราคายังไม่แน่ชัด……น่าจะอยู่ที่ 3 แสนกว่าๆๆ
ภาพ : อินเทอร์เน็ต