เมื่อเดือนที่แล้ว คนดูหนังไทยต่างพากันตื่นเต้นกันใหญ่กับหนังอีโรติกของหม่อมน้อย-ม.ล.พันธุ์เทวนพ เทวกุล อย่างเรื่อง “จันดารา ปฐมบท” ซึ่งจะมีปัจฉิมบทตามออกมาอีกในเร็ววัน ที่ตื่นเต้นนั้นก็เพราะว่า ในหนังเรื่องดังกล่าว นอกจากจะมีการเปิดเปลือยเนื้อหนังมังสาของดารานักแสดงอย่างโจ๋งครึ่มแล้ว ฉากการร่วมรักหลายฉากในหนัง ก็ดู “เยอะ” เกินไป ในความคิดของคนส่วนหนึ่งด้วย
นิตยสาร Starpics ซึ่งเป็นนิตยสารเกี่ยวกับภาพยนตร์ ได้มีการจัดอันดับหนังอีโรติกที่นำเสนอฉากรักอย่างเร่าร้อนโจ่งแจ้งถึงขั้นที่เรียกได้ว่า “ฮาร์ดคอร์” จำนวน 30 เรื่อง บางเรื่องเป็นหนังเก่าคลาสสิกอีโรติกรุ่นลายคราม เช่น The Story of O หรือแม้แต่ In the Realm of Senses อย่างไรก็ตาม ก็มีหนังใหม่ๆ พ่วงเข้ามาด้วย และสำหรับเซกชัน Taste ขอหยิบเอาผลงานเหล่านั้นมาสัก 5 เรื่องที่ฮาร์ดคอร์มากที่สุดในรอบทศวรรษที่ผ่านมา แต่บอกก่อนนะครับว่า หนังเหล่านี้ติดเรตสูงๆ ทั้งนั้น และมันไม่เหมาะสมแน่ๆ หากน้องๆ หนูๆ เยาวชน จะแอบเปิดดูคนเดียว
Baise Moi (2000)
หนังฝรั่งเศสเรื่องนี้ได้ชื่อเวอร์ชันภาษาอังกฤษว่า Rape Me ซึ่งแค่นี้ก็การันตีเพียงพอแล้วว่าหนังจะเดินทางไปสู่หนใด อันที่จริง ตัวละครยัยตัวแสบทั้งคู่ของเรื่องได้ประสบพบเห็นเรื่องร้ายๆ ทางเพศมามากมาย ก่อนจะตัดสินใจสร้างโรดมูฟวี่ของตนเอง ตระเวนมีเซ็กซ์โหดๆ และจัดการพวกชายโฉดอย่างมันสะใจ
หนังถูกแบนอย่างหนักตอนเข้าฉาย เพราะเต็มไปด้วยฉากเปลือย ร่วมรัก และความรุนแรง ซึ่งนับเป็นการทดสอบอีกอย่างหนึ่งของคอหนังอีโรติก ว่าจะทานทนกับอีโรติกได้ทุกประเภทจริงหรือ? และหนังเรื่องนี้ก็น่าจะทำให้หลายคนบ่นว่า เพลาๆ มือบ้างก็ดีนะ ผู้กำกับภาพยนตร์เอ๋ย
Sex and Lucia (2001)
สาวสวยเซ็กซี่คนหนึ่งผละจากกรุงมาดริด เพราะทำใจไม่ได้เรื่องการเสียชีวิตของแฟนหนุ่ม เธอเดินทางมายังเกาะห่างไกลแห่งหนึ่งในเมดิเตอร์เรเนียน และเข้าไปอยู่ในวังวนของผู้คนหลากรูปแบบ ใช้ชีวิตอย่างผ่อนคลายท่ามกลางแสงแดดเหนือกฎเกณฑ์ ทั้งหมดนี้อยู่ในสายตาของนักเขียนคนหนึ่งที่นำเอาชีวิตจริงมาผสมผสานไปกับจินตนาการของเขา กลายเป็นงานประพันธ์ชิ้นสำคัญ
โปสเตอร์หนังทำให้ชายหนุ่มที่ได้เห็น เกิดอาการ “ลุ้น” จนหายใจไม่ทั่วท้อง ฉากเซ็กซ์ของหนังทำออกมาได้ดีตามมาตรฐานหนังยุโรป แต่ส่วนที่น่าสนใจจริงๆ ก็คือศิลปะในการเล่าเรื่องของคนสร้างที่ร้อยเรียงเรื่องราวเหตุการณ์แบบไม่ลำดับเวลา และผสมผสานเรื่องจริงกับเหนือจริงเข้าไป ถ้าดูแบบซีเรียสมันอาจใกล้เคียงกับหนังของเดวิด ลินช์ แต่ถ้าดูแบบเน้นความวาบหวาม เราจะได้หนังอีโรติกเพลินๆ มาอีกเรื่อง
The Dreamers (2003)
ไม่ว่าจะทำหนังอะไร เบอร์นาโด เบอร์โตลุคชี่ ยอดผู้กำกับชาวอิตาลีก็สามารถทำให้สิ่งที่อยู่บนจอภาพออกมางดงามและกินความรู้สึกได้มากมาย เรื่องราวของนักเรียนวัยรุ่นอเมริกันที่ได้รู้จักกับสองพี่น้องนักศึกษาในฝรั่งเศส ทั้งสามคนติดอยู่ในบ่วงของการลุกฮือต่อต้านรัฐบาลของเหล่านักศึกษาในปารีสช่วงทศวรรษ 1960 แน่นอนว่า ไม่เพียงเรียนรู้ที่จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีความคิดความอ่านมากขึ้น หากยังเรียนรู้เรื่องเพศที่พวกเขายังไร้เดียงสาอีกด้วย
เรือนร่างทุกขุมขนของ เอวา กรีน นักแสดงหญิงสาวแสนสวยของเรื่อง และฉากรักทั้งหลายอันนิ่งงันของหนังเรื่องนี้ จะติดตาผู้ชมตลอดไป
Anatomy of Hell (2004)
ไม่ใช่เรื่องแปลก หากจะมีใครสักคนเรียกคนทำหนังอย่าง “แคทเธอรีน เบรญาต์” ว่าเป็น “อีโรคจิต” เพราะฉากรักอันมากมายและเห็นจะแจ้งคาตาในหนังของเธอ ล้วนไม่ได้มาอย่างปกติเช่นมนุษย์มนาเขาทำกัน ในหนังเรื่องนี้ คนดูที่ชอบอะไรวับๆ แวมๆ อาจจะต้องตั้งสติสักเล็กน้อยในการเป็นประจักษ์พยานการจ้างวานครั้งสำคัญ เมื่อไอ้หนุ่มเกย์จากไนต์คลับ (รับบทโดยนักแสดงหนังโป๊นาม “ร็อกโค่ เซฟฟริดี้” เจ้าของฉายา “ไอ้ม้าป่าอิตาเลียน ด้วยขนาดของอวัยวะที่เหลือกินเหลือใช้!”) ต้องมานั่งดูผู้หญิงโดดเดี่ยวสิ้นหวังคนหนึ่งแก้ผ้าเดินไปเดินมาในห้องเป็นเวลาหลายวัน
เรื่องแก้ผ้าอวดเรือนร่างแบบหนังอีโรติกนั้น หนังมีให้ดูอย่างแน่นอน แถมยังเยอะเสียด้วย ทว่ามันดันมาในห้วงอารมณ์และรูปแบบที่ค่อนข้าง “วิปริตพิสดาร” อยู่พอสมควร
9 Songs (2004)
คอนเซ็ปต์ของหนังเรื่องนี้มีอยู่ว่า หนุ่มอังกฤษกับสาวอเมริกันพบรักกัน ทั้งคู่ไปงานคอนเสิร์ตและมีเพศสัมพันธ์อย่างลุ่มหลงเร่าร้อน ในหนังนั้น เราจะได้เห็นเพลงหนึ่งเพลงถูกตัดสลับกับฉากเซ็กซ์ 1 ครั้ง และดีกรีความโจ๋งครึ่มและชวนปากอ้าตาค้างก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ผู้กำกับยอดฝีมือแห่งอังกฤษอย่าง ไมเคิล วินเทอร์บอททอม แทบไม่เคยพลาดรางวัลในหนังแต่ละเรื่องที่เขากำกับ และเรื่องนี้ก็ยังอุตส่าห์ได้รางวัลถ่ายภาพยอดเยี่ยมจากซานเซบาสเตียนมาครอง
ตัวเนื้อเรื่องอาจจะยากแก่การเข้าใจให้ลึกซึ้ง ทว่าภาพระดับรางวัลที่เห็นในหนังนั้น นอกจากจะเล่นกับแสงเงาได้อย่างมีรสนิยมแล้ว ยังเผยให้เห็นถึง “สัดส่วน” ของอวัยวะทั้งหลายทั้งปวงทั้งของหญิงและชาย จนพี่ไทยบางคนอาจจะตื่นตระหนกและเกิดความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ!
Lust, Caution (2007)
ไม่ใช่เอเลี่ยนปะทะพรีเดเตอร์ แต่เป็นเหลียงเฉาเหว่ยพบกับถังเหว่ย ซึ่งการแสดงในหนังเรื่องนี้ของทั้งสองคน ทำให้เขาและเธอกลายเป็นคู่นักแสดงที่เล่นฉากรักแห่งทศวรรษไปเลย ไม่มีใครรู้ว่าผู้กำกับออสการ์อย่าง “อั้งลี่” ไกด์ให้ทั้งคู่เล่นจริงเสียวจริงหรือเปล่า แต่การร่วมรักกันในหนังด้วยร่างกายอันเปลือยเปล่า และเปลี่ยนลีลาให้พิสดารเร่าร้อนขึ้นเรื่อยๆ นั้น มีประสิทธิภาพมากพอที่จะปลุกเร้าอารมณ์อีโรติกจากคนดูได้ ที่สำคัญ ไม่เพียงหนังจะพรรณนาเรือนร่างและฉากเซ็กซ์อย่างพิถีพิถันเท่านั้น ฉากเหล่านั้นยังมีส่วนอย่างสำคัญต่อจุดเปลี่ยนของเรื่องราวด้วย
ถังเหว่ย นักแสดงสาวผู้กล้าได้กล้าเสียกับบทในหนังเรื่องนี้ กลายเป็นที่สนใจไปทั่วโลกในบัดดล ส่วนเฮียเหลียงนั้น นอกจากจะเปิดนิทรรศการ “เหลียงน้อย” แบบผลุบๆ โผล่ๆ แล้ว เขายังได้รางวัลดารานำชายยอดเยี่ยมจากเวทีประกวดหนังเอเชียอีกด้วย!!