นักร้อง หรือ นักดนตรี ก็คือศิลปินจำพวกหนึ่งที่แสดงความคิด ความสามารถออกมาในรูปแบบของการใช้เสียง ด้วยความที่ขึ้นชื่อว่าต้องใช้เสียงแสดงความสามารถแล้วนั้นหลายคนคงนึกถึง การร้องเพลง แต่วันนี้จะให้ตรงตามสไตล์และแบบฉบับของชาว Taste เราเลยไม่ได้หยิบยกประเด็นในเรื่องของเสียงร้องหรือทำนองของเพลงมาให้ดูแต่อย่างใด แต่เราขอมุ่งประเด็นไปที่ท่าเต้นที่เรียกได้ว่าเป็นที่รู้จักและโด่งดังไปทั่วโลก เพราะท่าเต้นเหล่านี้เองที่ทำให้พวกเขาถูกจดจำมาจนถึงปัจจุบัน วันนี้จึงได้โอกาสรวบรวมเพลงที่มีท่าเต้นสุดยอดที่ดังแบบทะลุปรอท เก่าบ้างใหม่บ้างมาให้ได้รับฟังและรับชมกัน อยากรู้ว่ามีเพลงไหนที่คุณรู้จักกันบ้างตามเรามาเลย จะได้รู้กันไปว่าคุณน่ะเกิดทันไหม!!
เริ่มที่คนแรกเลย
Elvis Presley :ราชาร็อกแอนด์โรล
Elvis กับท่าเต้นเขย่าโลกของเขา ในเพลง “Jailhouse Rock” ที่มาของท่าโยกแล้วคลึง ซึ่งโดนต่อต้านอย่างรุนแรงมากในช่วงแรก โดยถูกต่อว่าต่อขานว่าท่าเต้นนั้นแสดงถึงการยั่วยุกามารมณ์ บ้างก็ว่า Elvis เป็นคนผิวขาวที่พยายามจะเต้นเลียนแบบคนดำ
เอลวิส เพรสลีย์ เริ่มอาชีพนักดนตรีตอนอายุ 19 ปี โดยการผสมผสานดนตรีแนวริทึม แอนด์ บลูส์ ของคนดำ เข้ากับเพลงคันทรีของคนผิวขาวอย่างลงตัว จนกลายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยเพลงฮิตเพลงแรกชื่อ Heartbreak Hotel ออกวางจำหน่ายและขึ้นอันดับหนึ่งในชาร์ตเพลงสหรัฐฯ เกือบจะในทันที และกลายเป็นเพลงฮิตทั่วโลกนับแต่นั้นมา
เพลงของเอลวิส มีลักษณะพิเศษ ทำให้ผู้คนสมัยนั้นต่างพากันคลั่งไคล้การร้องและการเต้นที่เรียกว่า Rock & Roll ซึ่งนับว่าลีลาการเต้น รวมไปจนถึงเรื่องการแต่งกายซึ่งเห็นได้ชัดเจนมากว่ามีเอกลักษณ์โดดเด่นเฉพาะตัวจริงๆ ซึ่งจะว่าไปแล้วในปัจจุบันนี้ก็ยังคงมีการประกวดร้องเพลง เต้น และแต่งกายในสไตล์เอลวิสให้เห็นกันอยู่
วาย.เอ็ม.ซี.เอ.(Y.M.C.A.) ชื่อเพลงแนวดิสโก้ของวงวิลเลจพีเพิล (Village People)
นักดนตรีชาวอเมริกัน ซึ่งเนื้อเพลงกล่าวถึงวายเอ็มซีเอที่บริการสังคมโดยการจัดที่พักราคาถูกเพื่อเยาวชนตามเมืองใหญ่ เพลงเป็นที่นิยมโดยผู้เต้นจะทำมือเป็นรูปตัวอักษร 4 ตัว วาย เอ็ม ซี และเอ ตามจังหวะเนื้อร้อง
Y – ยืดมือออกสองข้างสุดเอียงออกไป จะได้รูปตัว Y
M – นำมือซ้ายจับไหล่ซ้าย นำมือขวาจับไหล่ขวา จะได้รูปตัว M
C – ยื่นแขนทำเป็นวงไปทางขวามือ จะได้รูปตัว C
A – ยืดแขนขึ้นเหนือหัวและประจบกัน จะได้รูปตัว A
ในวัฒนธรรมเกย์ เพลงนี้เป็นที่นิยมเนื่องจากสมาคมวายเอ็มซีเอบางแห่งได้เป็นสถานที่นัดเจอสำหรับผู้ชายที่เป็นเกย์ และเพลงนี้กลายมาเป็นที่รู้จักในเพลงของเกย์ และเนื้อเพลงจะมีเนื้อหาไปในทางรักร่วมเพศซ่อนอยู่
The twist : chubby checker
การเต้นทวิสต์มีตั้งแต่ในยุคศตวรรษที่ 19 มาจากกลุ่มทาสชาวคองโกที่เคลื่อนย้ายส่ายสะโพกตามจังหวะเพลงแจ๊ส เป็นคนนำเข้าสู่ประเทศสหรัฐอเมริกา การเต้นทวิสต์ที่เราเห็นกันในปัจจุบันมาจากเพลง The Twist ของ Chubby Checker ที่แสดงในโรงละครแห่งชาติ เพลงที่สองในจังหวะทวิสต์ “The Twist” โดย Chubby Checker เป็นเพลงที่ติดอันดับ 1 บิลบอร์ดในปี 1960 และอันดับ 1 ในปี 1962 อีกด้วย
kung fu fithting : Carl Douglas
คาร์ล ดักลาส (Carl Douglas) นักร้องชาวจาเมกา มีชื่อเสียงจากเพลง “Kung Fu Fighting” ที่ขึ้นถึงอันดับหนึ่งทั้งฝั่งสหรัฐอเมริกา จากการจัดอันดับของนิตยสารบิลบอร์ดและฝั่งสหราชอาณาจักร เป็นนักร้องชาวจาเมกาคนแรกที่มีซิงเกิลฮิตติดอันดับหนึ่งในสหรัฐอเมริกา
เริ่มแต่งเพลง Kung Fu Fighting หลังจากมีความสนใจ และหัดเรียนยูโดและกังฟูในปี 1973 ประกอบกับกระแสความนิยมในศิลปะการต่อสู้แบบตะวันออก ซึ่งมีท่าเต้นที่แสดงออกถึงการต่อสู้ผสมผสานลงไปเล็กน้อย ทำให้ซิงเกิลเพลงนี้ได้รับความสนใจ ขายได้มากกว่า 4 ล้านแผ่นทั่วโลก และได้รับใบรับรองแผ่นเสียงทองจาก RIAA และรางวัลแกรมมี่ในฐานะซิงเกิลที่มียอดขายสูงสุดแห่งปี 1974
Asereje อาเซเรเฮ : Las Ketchup
ขับร้องโดยลัสเกชัป เกิร์ลกรุ๊ปชาวสเปน ศิลปินสังกัดโซนี่ มิวสิค เป็นซิงเกิลที่ได้รับความนิยมอย่างมากในยุโรปในปี พ.ศ. 2545 ซึ่งท่าเต้นและเพลงนี้จะเป็นที่ฮิตฮอตมากพอสมควรในช่วงนั้น
Michael Jackson ราชาเพลงป็อป
ยุคที่ไมเคิลออกอัลบัมเดี่ยวเป็นยุคที่กำเนิดท่าเต้นที่สุดยอดที่สุดในโลก ยากที่จะเลียนแบบ นั่นก็คือ “Moonwalk” เป็นท่าที่จำลองการเดินบนดวงจันทร์ ซึ่งทำได้เหมือนมากๆ และท่าที่คลอดออกมาที่แทบจะติดๆกับ Moonwalk นั่นก็คือท่า “Point foot” มูนวอล์ก (moonwalk) เป็นท่าเต้นรำท่าหนึ่งที่ผู้เต้นแสดงอากัปกิริยาเหมือนกำลังเดินไปข้างหน้า แต่ความจริงแล้วกำลังเดินถอยไปข้างหลัง ท่าเต้นนี้ได้รับความนิยมหลังจากถูกนำมาใช้โดยไมเคิล แจ็กสัน ระหว่างการแสดงเพลง “บิลลี จีน” เมื่อ ค.ศ. 1983 ถือเป็นท่าเต้นประจำตัวของไมเคิล แจ็กสัน และเป็นท่าเต้นหนึ่งที่มีชื่อเสียงที่สุด
ต่อมายุคที่ไมเคิลแยกตัวออกมาจาก Jackson 5 เป็นยุคที่ไมเคิลเป็นนักเต้น กับนักร้องผสมกันอย่างลงตัว มีการต่อยอดจาก Moonwalk ไปข้างหลัง พัฒนาขึ้นไปเป็น Sidewalk หรือ Moonwalk ไปด้านข้างๆ และในปี 1988 ไมเคิลได้คิดค้นท่าเต้นที่ไม่มีใครสามารถเลียนแบบได้ ก็คือท่าเอนตัว 45 องศา ซึ่งเป็นรองเท้าที่ออกแบบพิเศษโดยได้จดลิขสิทธิ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“ ”
No Coke : Dr. Alban
ดร. อัลบัน หรือ อัลบัน อุโซมา นาวาปา (Alban Uzoma Nwapa) อดีตทันตแพทย์ที่มาร่ำเรียนในสวีเดน ยึดอาชีพหมอฟันและดีเจไปพร้อมๆ กัน ก่อนที่จะเริ่มเป็นที่รู้จักเมื่อได้เปิดตัวอัลบั้มเป็นของตัวเองโดยปล่อยซิงเกิ้ล Hello Africa ซึ่งมีเพลงฮิตได้แก่ “เฮลโลแอฟริกา” (Hello Africa) และ “โนโค้ก” (No Coke) โดยเฉพาะท่าเต้นบิดข้อเท้าเข้าออกจากเพลง “โนโค้ก” (No Coke) เป็นที่ฮอตฮิตมากในช่วงนั้น
เพลง No coke ทำให้ ดร. อัลบันเป็นที่รู้จักมากขึ้น ซึ่งเพลงนี้มีจุดประสงค์เพื่อรณรงค์ต่อต้านยาเสพติดในสวีเดน ด้วยความที่โด่งดังมากเขาจึงสามารถทำยอดขายได้เป็นล้านอัลบั้มและประสบความสำเร็จจนได้รับการรับรองจากรางวัลทองคำในตลาดเป็นจำนวนมาก
Gangnam Style : Psy
โด่งดังมากในซิงเกิล Gangnam Style ทั้งจังหวะดนตรี, เนื้อหาเพลง รวมถึงท่าเต้นที่แปลก ๆ คล้าย ๆ การควบม้า ซึ่งได้รับความนิยมอย่างล้นหลามทั้งในสหรัฐอเมริกา และอีกหลาย ๆ ประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะในเว็บไซต์ยูทูบมีการคลิกดูเพลงนี้เป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังมีผู้คนหลากหลายประเทศ ซึ่งประเทศไทยก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วยเช่นกันสนใจและโคฟเวอร์ตามอีกด้วย จนถูกบันทึกเป็นสถิติในหนังสือกินเนสส นอกจากนี้Gangnam Styleยังคว้ารางวัลจากรายการ Music Bang และ M Countdown ติดต่อกันหลายสัปดาห์อีกด้วย