วันพ่อปีนี้หากใครที่ยังไม่มีของขวัญให้พ่อ หรือยังไม่รู้ว่าจะพาพ่อไปเที่ยวไหนดี เรามีไอเดียดีๆ มาแนะนำถ้าคุณไม่อยากไปไหนให้วุ่นวาย วิธีง่ายๆ ที่คุณจะสามารถแสดงความรักต่อคุณพ่อพร้อมอยู่กับครอบครัวได้ไม่ยาก วันพ่อชวนพ่อมาดูหนัง “พ่อ” กันดีกว่า การได้พักผ่อนอยู่บ้านพร้อมหน้าพร้อมตา นั่งดูหนังดีๆ สักเรื่อง ก็ถือเป็นของขวัญที่มีค่าที่สุดสำหรับคุณพ่อของคุณได้แล้ว ดังนั้นมาร่วมสร้างบรรยากาศด้วย 13 ภาพยนตร์ที่ดีที่สุดสำหรับวันพ่อปีนี้ สร้างบรรยากาศให้วันดีๆ อบอวลไปด้วยความรักและความผูกพัน
1. World War Z (2013)
ในความเป็นจริง แบรด พิตต์ รับบทเป็นคุณพ่อลูกดก ที่คอยดูแลลูกๆ ของเขากับแองเจลินา โจลี ถึง 6 คน จึงไม่น่าแปลกใจที่ในภาพยนตร์ “World War Z” แบรด พิตต์ ถึงได้ถ่ายทอดความรู้สึกของความเป็นพ่อได้อย่างลึกซึืงกินใจ
ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับ เจอร์รี่ เลน (แบรด พิตต์) พนักงานในสหประชาชาติ เลน และครอบครัว เขาต้องเผชิญกับเหตุโกลาหลเมื่อผู้คนในเมืองต่างได้รับเชื้อไวรัสกลายเป็นซอมบี้ และระบาดไปทั่วโลก เลน ถูกสถานการณ์บีบบังคับให้ต้องหวนกลับไปใช้ชีวิตแบบเก่าที่เต็มไปด้วยอันตราย เพื่อรับประกันความปลอดภัยของครอบครัวของเขา และเป็นผู้นำการค้นหาที่มาของโรคระบาดทั่วโลก อันจะเป็นหนทางที่จะหยุดการแพร่ระบาดที่ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดได้
2. The Descendants (2011)
The Descendants เป็นเรื่องราวความสัมพันธ์ของคนในครอบครัวที่ถูกหลงลืมไป หนังจะมีเนื้อหาที่ค่อนข้างหนัก แต่ก็ยังมีการสอดแทรกมุdตลกเข้ามาได้อย่างลงตัวทำให้คนที่เป็นหัวหน้าครอบครัว ที่ใส่ใจกับงานจนลืมเอาใจใส่คนในครอบครัว หันกลับมาทบทวนตัวเองอีกครั้งว่าเราได้หลงลืมอะไรที่สำคัญต่อชีวิตของเราจริงๆ ไปบ้าง
The Descendants เล่าเรื่องของ แมตต์ คิง (George Clooney) นักธุรกิจที่หมกมุ่นอยู่กับงาน กำลังอยู่ในระหว่างการตัดสินใจครั้งสำคัญ ขณะเดียวกันที่ภรรยาของเขาได้ประสบอุบัติเหตุทางเรือ ทำให้แมตต์ต้องหันกลับมาทำหน้าที่พ่อเพื่อดูแลลูกสาวทั้งสองของเขา พร้อมปรับปรุงตัวเองใหม่อีกครั้ง แต่กลับต้องมาพบความจริงที่น่าเจ็บปวดเมื่อรู้ว่าภรรยาของตนได้แอบมีความสัมพันธ์กับชายอื่น
3. Beginners (2010)
มีชื่อไทยว่า “พ่อผม…แอ๊บแมน” เป็นภาพยนตร์เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของพ่อ-ลูกชาย ที่ค่อนข้างจะทันสมัยและเป็นกระแสของสัมคมยุคนี้ Oliver คือหนุ่มวัยกลางคนที่ปัจจุบันประกอบอาชีพเป็นคนออกแบบวาดภาพการ์ตูน ที่ต้องมาพบจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ เริ่มจากการจากไปของผู้เป็นแม่ ตามด้วยการที่พ่อวัย 75 ปีของเขา สารภาพกับลูกชายคนเดียวคนนี้ว่าเป็นเกย์ Oliver พบการสูญสียครั้งใหญ่มาและมีความทรงจำเกี่ยวกับผู้เป็นพ่อที่ยากจะเข้าใจ เขาสูญเสียทัศนคติที่ดีเรื่องความรักระหว่างพ่อกับแม่หลังพ่อของเขาประกาศตัวเป็นเกย์ ซึ่งนั่นส่งผลกระทบตามมาอีกคือ Oliver เริ่มสูญเสียความมั่นใจที่จะก่อความสัมพันธ์กับใครแบบลึกซึ้ง และจะสามารถเปิดใจให้กับความสัมพันธ์ครั้งใหม่นี้ได้อย่างไร?
4. The Pursuit of Happyness (2006)
“ยิ้มไว้ก่อนพ่อสอนไว้” ในชื่อภาษาอังกฤษว่า The Pursuit of Happyness เป็นภาพยนตร์ที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์สาขาเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ออกฉายเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม ค.ศ. 2006 นำแสดงโดย วิลล์ สมิธ เป็นภาพยนตร์ที่เกี่ยวกับชีวประวัติของ “คริส การ์ดเนอร์” มหาเศรษฐีชาวอเมริกันผิวสี ในช่วงที่เขากำลังอยู่ในช่วงลำบากของชีวิต เป็นพ่อม่ายที่มีภาระต้องเลี้ยงดูลูกชาย คริสโตเฟอร์ จูเนียร์ อีกคนทั้งๆ ที่เป็นคนพเนจรไม่มีบ้าน แต่ก็สามารถสร้างตัวเองขึ้นมาได้จากการเป็นนายหน้าค้าหุ้น จนกลายเป็นเจ้าของธุรกิจพันล้านในปัจจุบัน
5. Big Fish (2003)
ผลงานจากผู้กำกับชื่อดัง ทิม เบอร์ตัน หนังเรื่องนี้ประกอบด้วยรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เรื่องราวเหนือจริง ที่ถูกร้อยเรียงเข้าด้วยกัน ทั้งหมดนั้นคือเรื่องเล่าของ “เอ็ด บลูม” ที่มักจะเล่าประสบการณ์ของตนออกมาในรูปแบบของเทพนิยาย มุมมองการใช้ชีวิตที่แตกต่างจากคนทั่วไป และนั่นทำให้ลูกชายของเขาไม่ชอบใจ เพราะสองพ่อ-ลูกมองชีวิตในมุมที่ต่างกัน ลูกชายจึงออกค้นหาสิ่งที่พ่อพูด และทำให้รู้สึกประหลาดใจ เมื่อสิ่งที่พ่อเล่ามาทั้งหมดเป็นความจริง เขาไปพบเห็นสิ่งต่างๆ ที่ดูน่าจะเป็นไปไม่ได้ มันไม่ใช่สิ่งเพ้อฝัน
เรื่องราวในตอนจบเป็นไปอย่างน่าประทับใจ และซาบซึ้ง เต็มไปด้วยความอบอุ่นของความเป็นครอบครัว หากใครที่ชื่นชอบผลงานของผู้กำกับฝีมือดี ทิม เบอร์ตัน แล้วหละก็ ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่คุณไม่ควรพลาด
6. Finding Nemo (2003)
ปลาเล็กหัวใจโต๊…โต เป็นภาพยนตร์ที่ได้รางวัลชนะเลิศออสการ์ สาขาภาพยนตร์แอนิเมชันยอดเยี่ยม ในงานประกาศผลรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 76 มีการวางเรื่องและสอดแทรกประเด็นการเลี้ยงดูลูกได้อย่างน่ารัก การผจญภัยของปลาการ์ตูนพ่อม่าย “มาร์ลิน” จะต้องทุ่มเทแรงกายแรงใจเต็มที่ในการปกป้อง นีโม ลูกชายตัวเดียวของเขาให้ได้ แต่เขาเลี้ยงดูลูกแบบกลัวทุกสิ่งทุกอย่าง หรือพูดง่ายๆ กลัวเกินเหตุ จน “นีโม” ลูกชายสุดที่รักโดนมนุษย์จับตัวไป มาร์ลินจึงต้องออกผจญภัยโลกกว้าง เพื่อตามหาลูกน้อย “นีโม”
7. John Q (2002)
John Q เป็นเรื่องราวของความรักอันยิ่งใหญ่ระหว่างจอห์น ควินซี่ อาร์ชิบอลด์ (เดนเซน วอชิงตัน) และลูกชายของเขา ไมเคิล (แดเนียล อี สมิธ) เรื่องเกิดขึ้นเมื่อลูกชายของเขาเป็นโรคหัวใจโต แต่เขาไม่สามารถที่จะจ่ายค่าผ่าตัดได้ อีกทั้งการผ่าตัดครั้งนี้ยังจะต้องรอผู้บริจาคหัวใจอีกด้วย ด้วยความกดดันที่ต้องการจะให้ลูกชายรอดตาย บวกกับการที่ไม่มีเงิน ทำให้ จอห์น เลือกวิธีการที่ไม่ถูกต้อง เพื่อปกป้องครอบครัว ด้วยการบุกยึดห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาล พร้อมจับหมอ พยาบาล และผู้ป่วยในนั้นเป็นตัวประกัน โดยมีตำรวจปิดล้อมอยู่ทั่วโรงพยาบาล แต่หัวใจที่จะต้องได้มานั้นต้องมาจากผู้บริจาคที่มีลักษณะพันธุกรรมคล้ายกัน และเพิ่งจะเสียชีวิต ดังนั้น จึงมีเพียงปาฏิหาริย์เท่านั้นที่จะช่วยลูกชายของเขาได้
8. I am Sam (2001)
หนังเรื่องนี้คือตัวอย่างของ “พ่อ” ที่แม้ว่าเขาจะไม่สมบูรณ์ทางสมอง แต่หัวใจของเขาเต็มเปี่ยมไปด้วยความเป็นพ่อ คนที่เราคิดว่าเขาไม่มีความคิด แต่กลับมีจิตวิญญาณของความเป็นพ่ออย่างเปี่ยมล้น และพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะไม่ให้ใครพรากลูกไปได้ ยิ่งได้นักแสดงคุณภาพอย่าง ฌอน เพนน์ และมิเชล ไฟเฟอร์ ด้วยแล้ว ยิ่งเป็นการการันตีได้เลยว่าหนังเรื่องนี้ต้องเป็นหนังดีอย่างแน่นอน
เรื่องราวอันน่าประทับใจของ แซม ดอว์สัน (ฌอน เพนน์) พ่อผู้ซึ่งมีปัญหาทางสมอง ของเด็กหญิงที่ชื่อ ลูซี่ (ดาโคตา แฟนนิ่ง) เขาเลี้ยงดูเธอจากความช่วยเหลือของกลุ่มเพื่อนที่ไม่ธรรมดาของเขา และเมื่อลูซี่มีอายุได้ 7 ขวบ ซึ่งพัฒนาการทางปัญญาของเธอกำลังก้าวล้ำหน้าผู้เป็นบิดา ความสัมพันธ์ของทั้งสองก็ถูกคุกคาม จากการเข้ามาแทรกของนักสังคมสงเคราะห์ ที่ต้องการดูแลลูซี่แทนแซม
9. Big Daddy (1999)
Big Daddy เป็นภาพยนต์แนวครอบครัวที่มีความน่ารักของการดำเนินเรื่องที่สนุก แฝงเรื่องการใช้ชีวิต ความรัก และความใสซนของเด็ก ภาพยนตร์เรื่องนี้แสดงโดย อดัม แซนเลอร์ ผู้ชายคนหนึ่งซึ่งเป็นคนไม่เอาไหน ใครๆ ที่รู้จักเขามักจะส่ายหน้าไม่ตอบรับในความสามารถของผู้ชายคนนี้ แต่แล้ววันหนึ่งเหมือนสวรรค์แกล้งส่งหนูน้อยแสนซนมาสอนความป่วนและความเป็นพ่อที่น่ารักให้กับเขา ใครที่ชอบภาพยนต์แนวครอบครัว สนุกๆ ใสๆ แนวเด็ก รับรองว่าเรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่อยากแนะนำให้ดู
10. Life is beautiful (1997)
เป็นภาพยนตร์ที่นำเสนอ “พลังของความรัก” ของพ่อที่พยายามปกป้องลูกชายจากความเจ็บปวดและโหดร้ายของค่ายกักกัน โดยบอกลูกชายว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นแค่การเล่นเกมเท่านั้น ภาพยนตร์ที่ให้แง่คิด มีมุมมองในการชีวิต ที่สะท้อนให้เห็นถึงความรักความอบอุ่นของพ่อที่มีต่อลูกและครอบครัว
เรื่องราวของ “กุยโด” ชายหนุ่มอารมณ์ดี และลูกชายชื่อ “โจซัว” เมื่อกองทัพนาซีของเยอรมันได้ทำการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว และต้อนครอบครัวเขาไปยังค่ายกักกันซึ่งที่นั่นเขาถูกใช้แรงงานอย่างหนัก แต่อย่างไรก็ดี กุยโดต้องใช้จินตนาการ ความรัก และความหวัง เพื่อปกป้องครอบครัวจากความโหดร้าย ที่สำคัญคือ กุยโดจะบอกลูกของเขาไว้เสมอว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในค่ายกักกันนั้นเป็นเพียงแค่เกมเกม หนึ่งเท่านั้น และถึงแม้ว่าอนาคตข้างหน้าจะเป็นอย่างไร ก็ขอให้คิดและเชื่ออยู่เสมอว่า “ชีวิตเป็นสิ่งสวยงาม”
11. The Lion King (1994)
The Lion King เป็นการ์ตูนคลาสสิกเรื่องหนึ่งของ Walt Disney นำเสนอความรักความผูกพันระหว่างพ่อกับลูกชายได้อย่างลึกซึ้งกินใจ ถูกถ่ายทอดผ่านตัวละครที่เป็นสิงโตเจ้าป่า “มูฟาซา” ที่ต้องการจะให้ลูกชายของเขา “ซิมบ้า” ที่ภายภาคหน้าจะต้องสืบทอดการเป็นผู้นำฝูงและปกครองเหล่าสัตว์ต่างต่อจาก มูฟาซา ได้เรียนรู้ชีวิตและการผจญภัยในดินแดนอันกว้างใหญ่ เมื่อเวลาของมูฟาซาหมดลง น้ำเสียงของมูฟาซาสอนให้ซิมบ้าตระหนักว่า “แม้ว่าคนเราจะยิ่งใหญ่เพียงใด แต่วันหนึ่งก็ต้องจากโลกนี้ไป แต่ในช่วงเวลาที่มีตำแหน่ง อำนาจ และบารมี ก็ต้องทำหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบยิ่ง ทำหน้าที่ด้วยความเที่ยงธรรมยิ่ง” คุณจะได้พบกับความซาบซึ้งกับคำสอนของพ่อและลูกชายคู่นี้อีกมากมายจากภาพยนตร์การ์ตูนเรื่องนี้อย่างแน่นอน
12. Mrs. Doubtfire (1993)
Mrs.Doubtfire จึงเป็นภาพยนตร์ที่เหมาะกับทุกครอบครัว ให้ข้อคิด ให้บทเรียน และเตือนสติได้ โดยไม่ซีเรียสเคร่งเครียดแต่อย่างใด “โรบิน วิลเลียม” ยอดนักแสดงตลกของฮอลลีวูด รับบทเป็นแดเนียล และ Mrs.Doubtfire ที่เรียกเสียงหัวเราะได้ในทุกฉากที่ปรากฎตัว พ่อแม่อาจหมดรักกันได้ แต่พ่อแม่ไม่เคยหมดรักในตัวลูก เมื่อชีวิตคู่ล่มสลายกลายเป็นต่างคนต่างอยู่ กลับทำให้ทั้งคู่มีการปรับปรุงตัวเอง “แดเนียล ฮิลลาร์ด” ต้องหย่าขาดจากภรรยา เขาแทบจะทนไม่ได้ที่ต้องอยู่ห่างจากลูกๆ เขาจึงตัดสินใจปลอมตัวเป็นแม่บ้านหญิงใช้ชื่อว่า “มิสซิส เดาต์ไฟร์” เข้าไปดูแลลูกๆ ของเขา ความยุ่งเหยิง วุ่นวาย น่ารัก อบอุ่น ซาบซึ้ง จึงเริ่มต้นขึ้น
13. Bicycle thief (1948)
ภาพยนตร์เรื่องนี้กล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างพ่อและลูกชาย “Bicycle Thieves” เป็นหนังขาวดำของอิตาลีเมื่อปี 1948 ที่ดำเนินเรื่องแบบสารคดี โดดเด่นในการกำกับภาพและดนตรีประกอบ จนถึงปัจจุบันได้รับยกย่องว่าเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่ดีที่สุดตลอดกาลของโลกเรื่องหนึ่ง และเป็นแรงบันดาลใจให้กับฉากหลายฉากในภาพยนตร์ชั้นหลัง
จอมโจรจักรยาน (Bicycle Thief) เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง เป็นเรื่องของคุณพ่อตกงาน ที่ต้องขอเงินภรรยาไปซื้อจักรยานเพื่อใช้สมัครงานใหม่ แต่เจ้ากรรมทำงานไปวันแรก จักรยานก็ถูกขโมยไป ทำให้พ่อกับลูกชายต้องออกไปตามหาจักรยานด้วยกัน แต่สุดท้ายเขาทำอย่างไรเพื่อให้ได้จักรยานคืนมา มันเป็นปมขัดแย้งทางจริยธรรมที่ตัวแสดงต้องเลือก หนังสะเทือนใจที่ถ่ายทอดความสัมพันธ์ของสองพ่อลูก และสอนจริยธรรมแก่คนในสังคมได้ดีมาก