ฉากสยิว บทโป๊เปลือย และหนังนอกรีต “หญิง-รฐา โพธิ์งาม”

นักแสดงหญิงคนแรกของเมืองไทยที่ได้เล่นหนังต่างประเทศ ในบทบาทที่ไม่ใช่เพียงตัวประกอบ หากแต่เป็น “ตัวชูโรง” หรือแสดงนำจริงๆ กับผลงานที่ถูกกล่าวขานถึงมากในเทศกาลหนังเมืองคานส์ครั้งล่าสุด Only God Forgives ซึ่งกำกับโดยนิโคลัส เวนดิ้ง เรเฟิน และมีนักแสดงหนุ่มสุดฮอต “ไรอัน กอสลิ่ง” เป็นดารานำฝ่ายชาย

ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ชื่อของ “หญิง-รฐา โพธิ์งาม” กลับมาครองความฮอตฮิตอีกครั้ง ทั้งบนพื้นที่สื่อและงานการแสดง หลายคนพยายามให้เหตุผลว่า ที่เธอกลับมาฮิต หลังจากห่างหายไปจากวงการนานพอควร เป็นเพราะบทของเธอค่อนข้างหวือหวา และมีการโชว์เนื้อหนังมังสาเป็นเสาหลัก

ในโอกาสที่หนังเมืองนอกซึ่งถ่ายทำในเมืองไทยอย่าง Only God Forgives กำลังจะเข้าฉาย หญิง รฐา ให้เวลากับเรา ในคำถามอันหลากหลาย ทั้งที่เกี่ยวกับหนัง และที่เกี่ยวกับ “เนื้อหนัง(มังสา)” โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บรรทัดที่เธอตอบเกี่ยวกับความวาบหวิวในหนังที่เธอแสดงนั้น อ่านแล้วต้องพูดเลยว่า คำตอบของเธอ “สุดยอดมั่กๆ”…

รู้สึกว่าช่วงนี้หญิงจะฮอตมากเลยนะ ทั้งในพื้นที่ข่าวและบนจอภาพยนตร์
จริงๆ หญิงต้องขอบคุณหลายๆ คน ขอบคุณทั้งคนที่ติดตามผลงาน ขอบคุณพี่ๆ ผู้จัดละคร ผู้กำกับ ที่ให้งานหญิง เหมือนอยากร่วมงานกับหญิง เพราะว่าในส่วนของนักแสดง หญิงคงทำได้ดีที่สุดก็คือ “ผลงาน” พยายามทำมันออกมาให้ดี เมื่อผลงานมันออกมาสู่สายตาประชาชนแล้ว ผลที่ตอบกลับมาอาจจะดีบ้างไม่ดีบ้าง แต่สุดท้ายแล้ว เรามีงานต่อเนื่อง นั่นก็เหมือนกับบทสรุปว่า งานที่เราทำอยู่ มันมีแรงขับให้มีงานชิ้นใหม่เข้ามา หญิงก็ถือว่าขอบคุณพี่ๆ ที่ไว้ใจให้หญิงไปรับบทต่างๆ ทั้งในละครหรือภาพยนตร์

รวมถึงหนังเรื่อง Only God Forgives ที่กำลังจะเข้าฉายด้วย
เป็นภาพยนตร์ที่หญิงภูมิใจกับตัวเองมากเลยนะคะ ที่ได้เป็นนักแสดงไทย 2 คนในเรื่อง คือ มีหญิง กับ พี่ปู (วิทยา ปานศรีงาม) เรียกได้ว่าเรา 2 คนก็ทำเต็มที่ในส่วนที่เราได้รับผิดชอบมา ก็คงถูกใจคนไทยหลายคน ประสบการณ์ก็มีทั้งยากและง่าย เพราะเราต้องทำงานกับคนต่างชาติ ทำงานกับคนที่เขาไม่ค่อยเข้าใจธรรมชาติของคนไทย เรื่องราวที่ถูกเล่าในภาพยนตร์เป็นเรื่องราวที่ลึกมากๆ สำหรับความเชื่อในเรื่องของบาปบุญ ซึ่งเขาเองก็ต้องพยายามทำความเข้าใจเรื่องความเชื่อของคนไทยบ้างเหมือนกัน ระหว่างทางมันก็ยาก แต่ว่าก็ประสบความสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี เท่าที่หญิงได้ดูภาพยนตร์ หญิงชอบนะ

ในภาพยนตร์เรื่องนี้ หญิงรับบทอะไรครับ
รับบทเป็น “ใหม่” ค่ะ ใหม่เป็นหญิงไทยที่มีความสัมพันธ์กับพระเอกในเรื่อง ซึ่งพระเอกนี่ทำค่ายมวยบังหน้า มีการทำธุรกิจใต้ดินลับหลัง เรื่องราวเกิดขึ้นเพราะพี่ชายพระเอกไปฆ่าโสเภณีเมืองไทยแล้วก็มีตำรวจนอกเครื่องแบบที่คิดว่าตัวเองเป็นพระเจ้าที่เขาเชื่อว่าเขาสามารถกำหนดชะตาชีวิตคน สามารถตัดสินถูกผิดได้ ก็ไปฆ่าพี่ชายพระเอก ทำให้พระเอกต้องตามหาว่าใครเป็นคนฆ่าพี่ชาย ระหว่างทางก็มีเรื่องของความโกรธ ความอาฆาตพยาบาท

ในฐานะที่เป็นนักแสดงไทยและเป็นหญิงไทย มีส่วนร่วมแสดงภาพยนตร์ต่างประเทศ อยากจะทราบมุมมองเกี่ยวกับผู้หญิงไทยในหนังว่า ผู้กำกับได้ใส่อะไรลงไปในหนังบ้าง
ต้องบอกว่าตัวหญิงเองในหนังเรื่องนี้เป็นการนำเอาชีวิตของผู้หญิงที่ทำงานกลางคืนมาเล่าในอีกรูปแบบหนึ่ง ก่อนหน้านี้ เราอาจจะเคยเห็นจากภาพยนตร์ต่างประเทศที่เข้ามาถ่ายทำในเมืองไทย ถูกตีความผู้หญิงว่าเป็นแค่ปาร์ตี้เกิร์ลที่เต้นหรือร้อง สนุกสนานอยู่ในผับ แต่สำหรับตัวละครใหม่จะเป็นคาแรกเตอร์ผู้หญิงคนหนึ่งที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูง รักในศักดิ์ศรีของตัวเอง เงินซื้อไม่ได้ เป็นผู้หญิงที่มีความเข้มแข็ง เพราะฉะนั้น จึงเป็นภาพใหม่ของผู้หญิงไทยที่ทำงานกลางคืนแล้วมีความรักกับชาวต่างชาติจริงๆ มันค่อนข้างลึกกว่าภาพยตร์เรื่องอื่นๆ ที่เคยถ่ายทำในเมืองไทย เรียกได้ว่าเป็นการตีความอีกรูปแบบหนึ่งซึ่งหญิงว่ามันน่าจะเป็นการตีความใหม่ๆ ของชาวตะวันตกเลยสำหรับภาพลักษณ์ของผู้หญิงกลางคืนในประเทศไทยที่เขาให้ความลึกของตัวละครนี้มากขึ้นกว่าเรื่องอื่นๆ ซึ่งส่วนใหญ่นำเสนอแค่ภาพผู้หญิงกลางคืนที่มีหน้าที่แค่เป็นเพื่อนดื่มกิน นอกจากนั้น มันยังมีเรื่องของความรัก เรื่องของศักดิ์ศรีลูกผู้หญิงเข้ามาอยู่ด้วย

ภาพยนตร์เรื่องนี้มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่ารุนแรง และโหดมาก
หญิงว่า จริงๆ แล้ว ถ้าย้อนไปภาพยนตร์บ้านเราที่มีฉากฆ่ากัน หญิงว่าเรื่องนี้เราดูกันได้อย่างสบายมาก ต่างชาติอาจจะดูว่ารุนแรงจังเลย เขียนข่าวหรือรีวิวให้มันรุนแรงรับไม่ได้ หญิงว่าในมุมของคนไทยดูได้สบาย เพราะว่าเราเจอหนักกว่านั้นมาเยอะมากแล้ว

ในมุมของหญิง คิดว่าหนังเรื่องนี้เป็นยังไงบ้าง
หญิงว่ามันเป็นหนังที่ต้องคิด ความสนุกมันอยู่ที่คนดูมากกว่า เพราะว่าแต่ละคนคิดต่างกัน ภาพยนตร์เรื่องนี้หญิงว่าอาจจะเป็นภาพยนตร์ที่ไม่เคยมีใครเคยดูมาก่อน ไม่เคยเกิดขึ้นในโลกใบนี้มาก่อน เป็น “ภาพยนตร์นอกรีต” หญิงเรียกอย่างนี้นะ มีความเป็นนามธรรม ดูแล้วต้องคิดตาม ถ้าเราเคยชินกับการดูหนังที่เล่าเรื่องโดยตัวละครที่พูดจาไปมา คุยกันเล่าเรื่องแบบนั้นมาตลอด ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นหนังแนวใหม่ อาจจะต้องปรับตัวนิดนึงในการชม สำหรับตัวหญิงเอง หญิงเชื่อว่าถ้าได้ดูแล้วเข้าใจลึกๆ จริงๆ หญิงว่าทุกคนชอบ เพราะว่าแค่เฉพาะการแสดงของตัวแสดงนำอย่าง “ไรอัน” หรือว่า “คริสเต็น” เองก็แสดงกันดีมาก ภาพสวย แล้วก็เป็นเรื่องราวที่มันเข้าใกล้คนไทยมากๆ เกี่ยวกับความเชื่อในเรื่องบาปบุญอะไรอย่างนี้ค่ะ

ในหนังตัวอย่าง เราแอบเห็นหญิงในชุดบิกินีแว้บๆ
มีค่ะๆ (ยิ้ม) แต่ไม่โป๊ค่ะ หญิงไม่ได้ถอดเสื้อผ้าไม่ได้อะไรเลย แต่ว่ามันจะมีฉากเลิฟซีนที่ลึกซึ้งกับพระเอกมากโดยที่ใส่เสื้อผ้าอยู่ อันนี้ต้องไปติดตามเอง

ช่วงหลังๆ รู้สึกว่าหญิงจะ “ได้รับ” หรือ “ดัง” มาจากบทหวิวๆ ตรงนี้คิดยังไงครับ
ในความเซ็กซี่หรือบทต่างๆ ที่หญิงได้รับ บางทีถ้ามองกันลึกๆ มันเป็นความเซ็กซี่บวกกับอะไร หญิงพยายามเลือกงานที่ไม่ใช่แค่ถอดอย่างเดียว หญิงให้ความหมายของทุกงานว่าถอดกับอะไร…ถอดเพื่ออะไร…ดังนั้น หญิงอาจจะไม่ใช่เซ็กซี่สตาร์ที่สักแต่ว่าถอดอย่างเดียว เพราะว่าถ้าถอดอย่างเดียว ความหมายมันจะเปลี่ยน แล้วตัวหญิงเองไม่ได้อยากเป็นเซ็กซี่สตาร์ หญิงอยากเป็นนักแสดงที่ดี นักแสดงที่ดีของหญิงคืออาจจะเป็นบทที่ไม่ต้องถอดอะไรเลยก็ได้ หรือวันหนึ่งมันอาจจะถอดทั้งหมดเลยก็ได้ ดังนั้น ในเรื่องของการถอดหรือเซ็กซี่มันไม่ได้มีผลต่อความรู้สึกหรือการตัดสินใจของหญิงเลย เพราะว่าทั้งหมดมันอยู่ที่ตัวงานล้วนๆ เลยว่ามันทำเพื่ออะไร หญิงบอกได้เลยว่า วันหนึ่ง หญิงอาจจะเจองานที่ต้องถอดทั้งหมดเลยก็ได้

เขินไหมครับเวลาที่ต้องเข้าฉากเสื้อผ้าน้อยชิ้นหรือเลิฟซีนอะไรพวกนั้น
ถ้ามองในมุมของหญิง ในฐานะนักแสดง ยกตัวอย่างง่ายๆ อย่างเรื่อง จัน ดารา ความโชคดีของหญิงคือหญิงได้โปรดักชันที่ให้เกียรติหญิงมากๆ หม่อมน้อย (ม.ล.พันธุ์เทวนพ เทวกุล) หรือโอ้ (มาริโอ้ เมาเร่อ) ก็เป็นคนที่ทำงานด้วยแล้วเรารู้สึกว่าเราไม่โป๊เลย อย่างน้องโอ้ก็ให้เกียรติหญิงมากๆ ในการทำงาน ดังนั้น เวลาที่เราเล่นกับใครที่เขาไม่ได้หวังว่าจะต้องเห็น ต้องดู หรือว่าจะต้องฉวยโอกาสกับเรา มันมีความสบายใจบางอย่างที่มันสามารถแสดงได้โดยที่เราไม่เคอะเขิน

แต่แน่นอนล่ะ มันมีอยู่แล้วที่จะต้องมีความรู้สึกเป็นตัวละครนั้นแล้วต้องรู้สึกกับนักแสดงอีกท่านหนึ่ง แต่หญิงมองว่าความรู้สึกที่มีต่อกันระหว่างนักแสดงร่วม หญิงว่ามันเป็นเรื่องของงานในระหว่างที่เราทำงาน มันอาจจะต้องมี แต่เมื่อเรื่องงานจบ หญิงจบทันที หญิงมองว่านั่นมันคือมืออาชีพ หญิงมองว่าการที่เราสามารถ “ตัด” ได้ แล้วเราสามารถกลับมาอยู่ในโลกของความเป็นจริงได้ว่าเราคือใครแล้วเราเล่นตัวละครนี้จบไปแล้วมันก็คือจบไปแล้ว หญิงทำได้ หญิงถือว่ามันคือความเป็นมืออาชีพ แล้วนักแสดงต่างประเทศหลายๆ คนเขาทำได้ มันต้องแยกแยะให้ออกว่าอันไหนคืองาน อันไหนคือตัวตนของเรา ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ทำมา หญิงก็ค่อนข้างเข้าใจในมุมตรงนี้ได้ดี ไม่ค่อยมีปัญหา

เมื่อเข้าใจได้แบบนี้ เราก็ไม่กังวลกับกระแสวิพากษ์วิจารณ์ที่ตามมา
ใช่คะ หญิงรู้สึกว่าหญิงค่อนข้างเคลียร์ แล้วก็ยอมรับว่ามันต้องมีกระแสทั้งที่ชอบแล้วก็ไม่ชอบ มีชมและไม่ชม ซึ่งมันเป็นพื้นฐานของการทำงานในวงการอยู่แล้วค่ะ ต่อให้เป็นเรื่องอื่นมันก็ต้องมีทั้งชอบและไม่ชอบ มันอยู่ที่ว่าเราจะคิดได้ว่ายังไง ตรงนี้หญิงถือว่าหญิงทำได้ดีที่สุดแล้ว

พูดถึงการได้ร่วมงานกับนักแสดงหนุ่มฮอต “ไรอัน กอสลิ่ง” กับ “นิโคลัส เวนดิ้ง เรเฟิน” ผู้กำกับ หน่อยครับว่าเป็นยังไง
นิโคลัสกับไรอัน เป็นพี่ชายที่เก่งมาก หญิงยอมรับว่าสิ่งหนึ่งที่โชคดีที่สุดในชีวิตหญิง คือหญิงได้เจอผู้ชายสองคนนี้ในช่วงเวลาที่เราได้เริ่มต้นการทำงานในสาขาที่เป็นอินเตอร์เนชันแนล นอกเหนือจากความเก่ง ความโด่งดัง ความอะไรก็ตาม มันเป็นภาษีหรืออานิสงส์บางอย่างที่หญิงได้รับมา แต่สิ่งที่หญิงได้จากเขาสองคน ก็คือ ไม่ว่าปลายทางหญิงจะไปเจออะไร ให้รู้ไว้ว่านั่นเป็นการเริ่มต้นที่ดีที่สุด เพราะว่าหญิงถือว่า “ก้าวแรก” เป็นสิ่งที่สำคัญ

หญิงได้เริ่มต้นกับหม่อมน้อยซึ่งหม่อมน้อยคือเดอะท็อปแล้วในเมืองไทย หญิงรู้สึกว่าก้าวแรกของหญิงเป็นก้าวที่โชคดีไม่ว่าจะเป็นในเมืองไทยหรือในต่างประเทศ ซึ่งหญิงค่อนข้างให้เกียรติกับทุกคนที่หญิงทำงานด้วย หญิงเคยพูดกับหม่อมว่า ก้าวแรกของหญิงคือหม่อมจริงๆ หม่อมทำให้เรารู้จักรักอาชีพนี้ เคารพอาชีพนี้ มีครูดีๆ ในมุมของอินเตอร์เนชันแนล ไรอันเป็นทั้งเพื่อนร่วมงาน เป็นทั้งพี่ เป็นทั้งคนรักในมุมของงานในการแสดงภาพยนตร์ หญิงเชื่อว่ามันเป็นก้าวที่สำคัญ แล้วก็เป็นการเริ่มต้นที่เชื่อว่ามันกำลังจะมีสิ่งดีๆ ที่จะตามมาในอนาคต ต้องขอบคุณเขาทั้งสองคน ที่วันนี้ให้หญิงเข้าไปอยู่ใน Only god forgives

ถ้าให้เลือกระหว่าง ไรอัน กับ นิโคลัส ชอบผู้ชายสไตล์ไหนมากกว่ากัน
(ยิ้ม) จริงๆ ไรอันเป็นผู้ชายที่มีเสน่ห์มากนะคะ หญิงเชื่อว่าถ้าผู้หญิงทั่วโลกได้อยู่ใกล้ ถ้าได้เจอ ต้องหลงรักเป็นธรรมดา ส่วนนิคเป็นผู้ชายที่นิ่งๆ หน่อย มีความเป็นตัวของตัวเองสูง ติสท์ๆ เนิร์ดๆ หน่อย แต่ว่ามีความเป็นจีเนียสอยู่ในตัว มีความเป็นคนเก่งมากๆ อยู่ ในขณะที่ไรอันเป็นคนน่ารัก มีชีวิตชีวา ถ้าเรามองผ่านๆ สองคนนี้จะมีความคล้ายคลึงกันมาก แต่ถ้าถามว่าชอบใครคงต้องเป็นไรอันอยู่แล้ว เพราะโดยชีวิตคนเรา เราต้องการอยู่กับคนที่เราอยู่ได้จริงๆ มีความสุข ยิ้มหัวเราะไปกับเราได้จริงๆ ในขณะที่นิกอาจจะเหมาะกับการเป็นพี่ชายที่คอยสอนเราในเรื่องของการใช้ชีวิตหรือเรื่องของการทำงาน

สุดท้าย สำหรับคนที่ยังลังเลใจว่าจะไปดู Only God Forgives ดีหรือไม่ จะบอกเขายังไงดีครับ
ก็อยากให้ไปชมกันค่ะ สำหรับใครที่รู้สึกว่ามันดูยาก จากที่อ่านบทสัมภาษณ์จากหลายๆ ที่แล้ว หญิงขอบอกว่า จริงๆ แล้วมันไม่ยากหรอกค่ะสำหรับคนไทย เราสามารถเข้าถึงได้มากกว่าต่างชาติ อย่าเอารีวิวของต่างชาติมาเป็นข้อกำหนดว่าภาพยนตร์เรื่องนี้มันจะรุนแรง มันจะดูยาก หรืออาจไม่ถูกใจเรา หญิงอยากให้เข้าไปชมกันเองก่อน อีกเรื่องหนึ่งคือถ้ามองในแนวหนังที่เราไม่เคยชอบ หรือไม่เคยดู ลองคิดว่าเป็นหนังที่เราได้เห็นคนไทยได้เข้าไปอยู่ในจอภาพยนตร์ของโลกฮอลีวูด ไปดูความสำเร็จของนักแสดงไทยสองคนที่เพิ่งเริ่มก้าวขึ้นไป มันเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกที่คนไทยเป็นนักแสดงนำจริงๆ อยากให้เป็นกำลังใจให้กับพวกเราด้วยค่ะ

                                 ตัวอย่างหนัง Only God Forgives

                          ตัวอย่างหนัง Only God Forgives (ซับไทย)

No Comments Yet

Comments are closed

user's Blog!

49/1 ชั้น 4 อาคารบ้านเจ้าพระยา ถนนพระอาทิตย์ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200

49/1 4th floor, Phra-A-Thit Road, Chanasongkhram,Phanakorn Bangkok 10200

Tel. 02 629 2211 #2256 #2226

Email : mars.magazine@gmail.com

FOLLOW US ON

SUBSCRIBE