คมความคิด มิสมอเตอร์โชว์ แพ็ตตี้ รอธาส “ไม่เอาระบอบทักษิณ”!!

มิสมอเตอร์โชว์ 2010 แพ็ตตี้ รอธาส ประกาศจุดยืน “ไม่เอาระบอบทักษิณ”!!

ถ้าจะมีเพจเฟซบุ๊กของสาวสวยคนไหนที่เราสารภาพแบบเปิดใจว่าเป็นแฟนคลับฟอลโลว์เธอทุกสเตตัสที่เธอแชร์ ก็คงหนีไม่พ้นเพจของสาวสวยคนนี้ “แพ็ตตี้ รอธาส” ซึ่งประกาศตัวอย่างไม่เกรงกลัวสิ่งใดว่าไม่เอาระบอบการเมืองที่ไร้คุณธรรม การเมืองแบบที่หลายคนให้คำนิยามว่า “ระบอบทักษิณ”

แน่นอนว่าเมื่อก่อนการที่ใครสักคน โดยเฉพาะผู้ที่ต้องทำงานเกี่ยวข้องกับคนหมู่มาก จะออกมาแสดงความเห็นทางการเมืองหรือจุดยืนทางความคิด ย่อมหาได้ยาก แต่ถึงทุกวันนี้ การเป็น “คุณ(อี)แอบทางความคิด” กลับกำลังจะกลายเป็นสิ่งชำรุดทางประวัติศาสตร์ไปแล้ว และเราเชื่อว่า มันไม่ถึงกับทำให้ประเทศล่มจมหรือโลกแตกสลาย หากใครจะประกาศความคิดความเชื่อในแบบของตัวเอง

แพ็ต-แพ็ตตี้ รอธาส ก็เป็นหนึ่งในบุคคลจำนวนนั้น…โดยหน้าที่ชีวิตและชื่อชั้น สาวลูกครึ่งไทย-อเมริกัน คนนี้ พ่วงดีกรีรองอันดับสามจากการประกวดมิสมอเตอร์โชว์เมื่อปี 2010 และมีผลงานการถ่ายแบบ ถ่าย MV มาแล้วมากมาย

ข้อมูลบางอย่างที่น่าสนใจซึ่งเธอเล่าให้เราฟังก็คือ นับตั้งแต่การก้าวออกมาเปิดหน้าแอนตี้ระบอบทักษิณไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรกับตัวเธอเลย มีแต่ผลลัพธ์ที่เรียกว่ามิตรภาพซึ่งได้รับกลับมาจากยอดติดตามในเฟซบุ๊กที่มีเพิ่มขึ้นทวีคูณ จนเราแอบสงสัย…หรือว่าคนไทยทั้งประเทศ จะชิงชังระบอบดังกล่าวนี้เหมือนกับแพ็ตตี้ไปหมดแล้ว ทุกคนจึงพร้อมจะเป็นเพื่อนกับเธอ ไม่ว่าในโลกโซเชียลอย่างเฟซบุ๊ก หรือแม้แต่ในโลกแห่งชีวิตจริง…

“ไม่ว่าจะไทยเฉย ไทยม็อบ ไทยโลกสวย
ต่างก็รักในหลวงเหมือนกัน มีพ่อคนเดียวกัน
แต่อาจจะแสดงความจงรักภักดีที่ไม่เหมือนกัน”
ปกติแล้วสนใจเรื่องการเมืองไหม

“โดยปกติจะไม่สนใจการเมืองเลย เพราะรู้ว่าเบื้องหลังไม่ค่อยจะสะอาดสักเท่าไหร่และอีกอย่างก็เกินกว่าอำนาจของเราที่จะไปแก้ไขอะไรได้ จึงปล่อยไปตามยถากรรมมาโดยตลอด จนมากระทั่งนายกฯ รุ่นปัจจุบันประกาศว่าจะใช้กฎหมายนิรโทษกรรม จึงทำให้แพ็ตหันมาสนใจและออกมาต่อต้านเพราะไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งและไม่คาดคิดเลยว่ามันจะเกิดขึ้นมาได้ในประเทศไทย เพราะเรื่องนี้เลยสะท้อนให้เห็นถึงระบบการเมืองไทยว่าเราควรต้องหันมาใส่ใจกันบ้างแล้ว”

จุดยืนทางการเมือง เท่าที่เห็นคือคุณประกาศชัดว่า “ไม่เอาระบอบทักษิณ”

“ใช่ค่ะ จุดยืนทางการเมืองของแพ็ตคือไม่เอาระบอบทักษิณ และยึดหลักระบอบประชาธิปไตยที่มีคุณธรรมควบคู่ เคารพในกฎหมาย เพราะถ้าคนไทยไม่เคารพในกฎหมาย บ้านเมืองจะไม่เป็นระเบียบเลย แต่ส่วนตัวแพ็ตคิดว่าระบอบประชาธิปไตยและกฎหมายของไทยปัจจุบันมีการแทรกแซงโดยคุณทักษิณเพื่อเอื้อประโยชน์ให้แก่พรรคพวกของเขาเอง ซึ่งไม่มีคุณธรรม เป็นการทำสิ่งผิดให้กลายเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ทำให้ประชาชนออกมาประท้วงกันอยู่ตอนนี้เพราะไม่เป็นธรรมกับประชาชน

พูดตรงๆ เลยที่แพ็ตกล้าประกาศว่าไม่ต้องการคุณทักษิณ เพราะเกลียดการที่เขาและพรรคพวกออกมาดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ของเรา แสดงให้เห็นความอกตัญญูต่อแผ่นดินอย่างชัดเจน เขาไม่ได้รักประเทศไทย แต่รักตัวเอง และพยายามทำสิ่งที่ผิดให้กลายเป็นสิ่งที่ถูกโดยการตั้งกฎหมายนิรโทษกรรมขึ้นมา หากบริสุทธิ์จริง ทำไมไม่กลับมาสู้คดีเอง แค่นี้ก็แสดงให้เห็นความไม่บริสุทธิ์ของคุณทักษิณแล้ว”

วิกฤตทางการเมืองปัจจุบันส่งผลให้ต้องเลือกข้าง

“ถ้าถามว่าแพ็ตอยู่ข้างไหน ขอแจงก่อนว่าตอนนี้มีข้างไหนบ้าง มีหนึ่งเสื้อแดง (รักชินวัตร) ต่อต้านระบบกษัตริย์ และสอง คนไทยรักในหลวง ซึ่งจริงๆ มีอีกแต่ขอแบ่งเท่านี้ก่อนแล้วกัน จากที่เห็นมาวิกฤตการเมืองปัจจุบันไม่ใช่ต่อต้านแค่เรื่องนักการเมืองแต่ถลำลึกไปถึงระบบการปกครอง พูดตรงๆ ว่ากลุ่มคนเสื้อแดงไม่มีแบ่งย่อยว่ารักในหลวงเพราะเห็นจากหลักฐานคลิปต่างๆ ตามยูทูปหลายคลิปเขาออกมาดูหมิ่นพระมหากษัตริย์จึงออกมาพูดตรงนี้ได้ว่า กลุ่มคนเสื้อแดงทุกคนจะต่อต้านระบบกษัตริย์และเทิดทูนตระกูลชินวัตร ส่วนกลุ่มคนไทยรักในหลวงก็จะแบ่งได้อีกมีไทยเฉย, ไทยม็อบ และไทยโลกสวย ซึ่งแพ็ตเองอยู่ในกลุ่มไทยโลกสวย ไทยเฉยคือไทยที่ไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นทางการเมืองและดำเนินชีวิตไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไทยม็อบคือคนที่ออกไปประท้วงไปชุมนุมและคิดว่าตนเองทำเพื่อชาติและเพื่อประเทศ และไทยโลกสวยคือคนที่ไม่ได้ออกไปม็อบแต่ออกมาแสดงความคิดเห็นทางการเมือง

การที่แพ็ตเลือกข้างไทยโลกสวยเพราะคิดว่ามันมีทางออกอื่นอีกนอกจากไปม็อบ แพ็ตว่าการไปชุมนุมอาจไม่ใช่คำตอบที่ดีที่สุดในการแก้ปัญหาทางการเมืองเท่าไหร่ และแพ็ตขอพูดแทนว่าไม่ว่าจะไทยเฉย ไทยม็อบ ไทยโลกสวย ต่างก็รักในหลวงเหมือนกัน มีพ่อคนเดียวกัน แต่อาจจะแสดงความจงรักภักดีที่ไม่เหมือนกัน อย่าตอบแทนในหลวงเลยว่าอะไรคือสิ่งที่ถูกต้องที่สุด บางคนบอกว่าการไปชุมนุมคือการแสดงหน้าที่ของตนเอง เป็นการทำสิ่งที่ถูกต้อง บางคนบอกว่าการทำมาหากินอยู่ในส่วนของเราคือการแสดงหน้าที่และทำสิ่งที่ถูกต้อง แพ็ตเชื่อว่าต่างคนต่างความคิด จะให้เห็นด้วยเหมือนกันคงไม่ได้ แต่ไม่ว่าจะยังไงทุกคนต่างก็รักในหลวงเหมือนกัน แพ็ตเชื่อว่าอย่างนั้น

“ต้องมีคนต่อต้านบ้างอยู่แล้ว
จะให้ร้อยพ่อพันแม่มีความคิดตรงกันคงจะเป็นไปไม่ได้”
ผลกระทบต่อตัวเอง

“เชื่อว่าการแสดงตัวของแพ็ตไม่ส่งผลกระทบอะไรเลย ความคิดเห็นของเราตรงไปตรงมาและชัดเจนตลอดอยู่แล้ว บางทีแพ็ตจะทำเหมือนไม่รู้อะไรแต่จริงๆแล้วไม่ใช่เราไม่รู้อะไรเลย แต่พยายามเปิดกว้างเพื่อนำความเห็นของหลายฝ่ายมาพิจารณา รับฟัง วิเคราะห์ ศึกษา ทุกความคิดเห็นได้เปิดวิสัยทัศน์ให้เรามองหลายแง่มุม ทำให้ได้ความรู้เพิ่มเติม เพราะเราเชื่อว่าเราไม่ได้รู้หมดทุกอย่าง แต่ความคิดเห็นจะต้องมีหลักฐานมีอ้างอิงถึงจะน่าสนใจ ที่สำคัญต้องปราศจากอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยนะ เพราะจากที่แพ็ตเห็นหลายคนชอบคุยโดยใช้อารมณ์เลยทำให้เกิดการขัดแย้ง บางคนก็พูดจาเสียดสีดูถูกว่าคนอื่นโง่ ซึ่งเราเชื่อว่าคนฉลาดจะไม่พูดแบบนั้นแน่นอน”

คนชอบมีคนเกลียดมี 

“ต้องมีคนต่อต้านบ้างอยู่แล้ว จะให้ร้อยพ่อพันแม่มีความคิดตรงกันคงจะเป็นไปไม่ได้ แต่เท่าที่ดูหลายคนก็มาติดตามเราเพิ่มขึ้นจากการแสดงความคิดเห็นตรงไปตรงมา และเปิดรับความคิดเห็นทุกๆฝ่ายด้วยเหตุผล มีการปรึกษาหารือแนวทางแก้ปัญหาปัจจุบัน มีหลายคนมากที่เห็นว่าการชุมนุมไม่ใช่คำตอบสุดท้ายในการแก้ปัญหา แพ็ตก็เจอคนเสื้อแดงบางคนมาแสดงความคิดเห็นแต่ใช้อารมณ์รุนแรง พูดจาดูถูกคนอื่นๆโดยไม่มีเหตุผล ก็ทำการบล็อกไปเรียบร้อยเพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้งที่รุนแรงในเฟซบุ๊ก แต่ก็มีหลายคนที่มาติดตามแสดงความคิดเห็นที่มีประโยชน์ มาแลกเปลี่ยนความคิดกัน เป็นผู้ติดตามที่น่ารักมากๆ”

ในทางกลับกันคนที่สนับสนุนมีเยอะไหม

“คนสนับสนุนเยอะพอสมควรเลย มีหลายคนอยากให้เราไปสมัครเป็นนายกฯด้วย (หัวเราะ) หลายคนเห็นด้วยกับความคิดเราและมองเห็นปัญหาที่แท้จริงของการเมืองปัจจุบัน หลายๆคนก็ไม่อยู่ฝ่ายไหน ไม่ได้อยู่ฝ่ายสนับสนุนคุณสุเทพ คุณอภิสิทธิ์ คุณทักษิณ คุณยิ่งลักษณ์ แต่พวกเขามีเสียงเดียวกันคือไม่ชอบคุณทักษิณและคุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ทุกคนเห็นด้วยว่าทำความเสียหายให้กับประเทศชาติมาก ไม่มีประสิทธิภาพและคุณสมบัติที่จะดำรงตำแหน่งนายกฯ นอกจากนี้ยังไม่มีคุณธรรมหรือศีลธรรมอีกด้วย”

“ถ้าไม่มีการออกกฎหมายนิรโทษกรรมมาตั้งแต่แรก
ประเทศอาจจะไม่วุ่นวายขนาดนี้
รู้ตัวอยู่ว่ารัฐบาลไทยโกงกินมาช้านาน
แต่มันหนักหนาสาหัส เมื่อมีกฎหมายแย่ๆ ออกมาให้คนผิดกลายเป็นถูก”

เป็นกลางดีที่สุดจริงหรือ

“คนที่บอกว่าเป็นกลางส่วนใหญ่เขากลัวว่าภัยจะมาคุกคาม แต่ถ้าหากว่าบอกให้คนที่เป็นกลางตอบว่าจะเลือกระหว่างระบอบทักษิณ หรือระบอบกษัตริย์ แพ็ตคิดว่าเหมือนเลือก ความชั่ว กับ ความดี จะเลือกสิ่งใด พวกเขาคงเลือกเป็นกลางไม่ได้หรอก ส่วนตัวแพ็ตเลือกพระมหากษัตริย์แน่นอน เพราะทุกวันนี้เรามีแผ่นดินอยู่ได้ก็เพราะท่าน คนที่เป็นกลางทุกคนไม่ใช่คนไม่รักในหลวงแต่การแสดงออกในความจงรักภักดีอาจจะไม่เหมือนกัน บางคนอาจคิดว่าการชุมนุมไม่ใช่คำตอบที่ดีที่สุดซึ่งแพ็ตก็เข้าใจ ณ จุดจุดนั้น เพราะในหลวงท่านไม่ได้บอกว่าให้เรามาชุมนุมเพื่อช่วยท่าน ดังนั้นก็อย่าทะเลาะกันเรื่องการแสดงออกที่แตกต่างกันจะดีกว่า

คิดเห็นอย่างไรกับวิกฤตการเมือง ณ ปัจจุบัน

“ถ้าไม่มีการออกกฎหมายนิรโทษกรรมมาตั้งแต่แรก ประเทศอาจจะไม่วุ่นวายขนาดนี้ รู้ตัวอยู่ว่ารัฐบาลไทยโกงกินมาช้านาน แต่มันหนักหนาสาหัสเมื่อมีกฎหมายแย่ๆ ออกมาให้คนผิดกลายเป็นถูก มีการข้ามขั้นตอนของกฎหมายในการเจรจาพื้นที่บริเวณเขาพระวิหารกับประเทศกัมพูชา ทำให้เกิดการถกเถียงกันอยู่หลายฝ่าย และไหนจะหนี้สินที่เพิ่มขึ้นมหาศาลจากที่เดิมก็มีเยอะอยู่แล้ว ปัญหาน้ำท่วมที่แก้แบบไม่มีระบบระเบียบ(Big Bag=ถุงใหญ่) แถมคิดได้ว่าจะสร้างเขื่อนที่ไร้ประโยชน์ด้วยมูลค่ามหาศาล แล้วการทำลายการศึกษาของคนไร้โอกาสหรือยากจนโดยสั่งปิดโรงเรียนที่คนน้อย การให้ทำบัตรประชาชนตั้งแต่เด็กของนายกฯคนก่อนยังไม่พอ จะให้ใส่น้ำหนักส่วนสูงกับผลการเรียนในบัตรประชาชนอีก ไหนจะนโยบายรถคันแรกแต่ไม่มีถนนให้ขับทำให้คนขายรถมือสองรับเคราะห์รถติดหนักกว่าเดิมอีก”

แพ็ตคิดว่าการเมืองของไทยควรแก้ไขตั้งแต่จุดเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ เพราะทุกอย่างมันเละเทะไปหมดแล้ว การเมืองไม่ขาวสะอาดก็จะมีแต่ปัญหาแบบเดิมอยู่เรื่อยๆ ควรมีกฏหมายที่เข้มงวดขึ้นและเคร่งครัด มีการจัดระบบต่างๆใหม่ เริ่มจากการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์อย่างแท้จริง แสดงให้ประชาชนเห็นชัดเจนว่าบริสุทธิ์จริงๆ นอกจากนี้อยากให้เข้มงวดในกฏหมาย ถ้าจะแก้กฏหมายก็แก้ครั้งเดียวจบไปเลย ไม่ใช้แก้ทุกครั้งที่เปลี่ยนนายกฯ แก้ให้ครบๆไม่ใช่แก้ทีละนิดละหน่อย แก้บ่อยเกินไปจนไม่มีความน่าเชื่อถือ ปัญหาไทยที่มีมาช้านานทุกคนต่างก็มองเห็นแต่ก็ไม่เคยได้รับการแก้ไขสักที ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการศึกษาไทย เรื่องการค้าบริการ การค้ามนุษย์ ปัญหาคนจน คนไทยไปต่างประเทศเข้ายาก เพราะมีปัญหาคนจนอพยพไปดินแดนเขา ทำให้เกิดความเดือดร้อน จากที่ไปญี่ปุ่นไทยไม่ต้องมีวีซ่า ไม่ทันไรก็ถูกยกเลิก ไทยเป็นอิสระหลายๆด้านก็ดี แต่การที่ไม่เข้มงวดด้านกฏหมายทำให้ประเทศเราไม่มีระบบระเบียบ ใครจะทำอะไรก็ตามแต่ใจตัวเองและอีกอย่างแพ็ตคิดว่าทุกอย่างควรจะเริ่มจากตัวคนไทยเองด้วย”

“ตอนเลือกตั้งครั้งแรกแพ็ตไม่ได้เลือกใครเลยเพราะไม่อยากให้คะแนนผิด
ไม่เห็นว่าจะมีใครน่าเลือก ไม่เคยเลือกใครเลย บอกตรงๆ ว่าเห็นแต่คนสร้างภาพ”
อยากได้การเมืองและนักการเมืองเช่นไร

“จริงๆ แล้วตอนเลือกตั้งครั้งแรกแพ็ตไม่ได้เลือกใครเลยเพราะไม่อยากให้คะแนนผิด ไม่เห็นจะมีใครน่าเลือก ไม่เคยเลือกใครเลย บอกตรงๆ ว่าเห็นแต่คนสร้างภาพทั้งนั้น แต่ถ้าขอได้จริงๆ แพ็ตอยากได้รัฐบาลที่ทำเพื่อประชาชนและประเทศชาติ ไม่ได้หวังผลประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าส่วนรวม เพราะเราต้องการเห็นประเทศพัฒนาสักที แพ็ตรักประเทศไทยและรักในหลวง อยากได้นักการเมืองที่ไม่ใช่ดีแต่พูด ในแต่ละปีควรมีปัญหาที่ได้รับการแก้ไข ไม่ใช่อะไรที่สร้างขึ้นมาใหม่ พวกเสาที่ตั้งเป็นอนุสาวรีย์ควรจะทำให้เสร็จสักที แล้วเคลียร์ปัญหาให้จบก่อนแล้วค่อยคิดจะสร้างอะไรดีกว่า และอีกอย่างนักการเมืองควรนำพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไปใช้ ย้อนกลับไปดูตั้งแต่ปีก่อนๆ ท่านตรัสว่าอย่างไรบ้างนำกลับมาแก้ไขบ้านเมือง วางแผนนโยบายให้เห็นเป็นรูปเป็นร่าง เป็นระบบ ไม่ใช่มาพูดสั้นๆลอยๆ หรือจะเป็นหัวข้อใหญ่แต่ลอยๆ ไม่มีที่มาที่ไปว่าจะทำอย่างไร ขอแบบมีขั้นมีตอน ทำอย่างไร แบบไหน จะเห็นผลไหม เมื่อไหร่ อะไรแบบนี้ดีกว่า”


เรื่อง : วรัญญา งามขำ

ภาพ : facebook patty rothhaas

user's Blog!

49/1 ชั้น 4 อาคารบ้านเจ้าพระยา ถนนพระอาทิตย์ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200

49/1 4th floor, Phra-A-Thit Road, Chanasongkhram,Phanakorn Bangkok 10200

Tel. 02 629 2211 #2256 #2226

Email : mars.magazine@gmail.com

FOLLOW US ON

SUBSCRIBE