หลายคนรู้จักสาวสวยคนนี้จากเวทีประกวดมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส และผลงานการแสดงในวงการบันเทิง แต่เมื่อเร็วๆ นี้ แก้ม-กวินตรา โพธิจักร ก็สร้างเซอร์ไพรส์อีกครั้ง หลังจากตกลงเซ็นสัญญากับทีมวอลเลย์บอลอาชีพ ‘ไอเดียขอนแก่น’ ซึ่งนั่นทำให้เราได้รู้ว่า ภายใต้ใบหน้าสวยหวานชวนหวั่นไหว เธอได้แอบซ่อนทักษะ ‘การตบ’ ไว้อย่างแนบเนียน และตอนนี้ก็ถึงเวลาที่เธอจะโชว์ทักษะนั้นให้หนุ่มๆ ได้เห็นเป็นขวัญตา (ถ้าไม่กลัวจนขวัญกระเจิงไปเสียก่อน) เมื่อ mars มีโอกาสได้เจอ ‘นางงามนักวอลเลย์บอล’ ทั้งที มีหรือจะไม่รีบชักชวนเธอมาถามไถ่ถึงบทบาทใหม่ รวมถึงเรื่องราวความรักกับหนุ่มนักฟุตบอลสุดหล่อ บอกได้เลยว่า ‘สวย เผ็ด ดุ’ มันยังน้อยไป
Q: เป็นมายังไงถึงได้เซ็นสัญญากับทีมไอเดียขอนแก่น
A: เริ่มจากโค้ชเก่าสมัยที่แก้มเคยเล่นด้วยตอนเด็กๆ มีโอกาสไปทำทีมให้ไอเดียขอนแก่น แล้วเขาก็มีความคิดว่าอยากจะหาคนมาช่วยโปรโมตทีม มาช่วยสร้างสีสัน โค้ชเลยนึกถึงแก้มขึ้นมา พอเขาถามว่าเรายังเล่นได้อยู่ไหม ด้วยความที่อยากเล่นเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ก็เลยตอบไปว่าเล่นได้ ทั้งที่จริงๆ แก้มไม่ได้เล่นมานานมาก กำลังร่างกายมันไม่มีอยู่แล้ว
Q: คือห่างหายจากวงการวอลเลย์บอลไปนาน
A: ประมาณ 7-8 ปี คือก่อนหน้าที่จะเลิกเล่นแก้มหนักประมาณ 64 กิโลกรัม แต่ตอนนี้เหลือ 52 ลดลงไปประมาณ 10 กว่ากิโล อย่างตอนเป็นนักกีฬาเราจะกินอะไรก็ได้ แต่พอมาเป็นนักแสดง เราต้องควบคุมเรื่องหุ่น พอน้ำหนักมันลดทำให้ร่างกายไม่มีกำลังเหมือนเมื่อก่อน ก็ถือเป็นอุปสรรคใหญ่เลย ตอนนี้เลยต้องกลับไปซ้อม ไปวอร์มกับเพื่อนๆ ในทีม หรือวันไหนไม่ได้ไปซ้อมก็จะพยายามเล่นฟิตเนส ซื้อเครื่องเล่นฟิตเนสไว้ที่บ้านเลย
Q: ตอนนี้คิดว่าพร้อมแค่ไหนกับการเป็นนักกีฬา
A: น่าจะประมาณ 50% แล้วนะ ทุกอย่างมันลงตัวหมดแล้ว เหลือแค่กำลังอย่างเดียว
Q: แก้มเล่นตำแหน่งไหนในทีม
A: หัวเสาค่ะ จริงๆ แก้มไม่ได้ชอบตบเลยนะ ตอนเด็กๆ เคยอยากเล่นตำแหน่งมือเซ็ตกับลิเบอโร่ (libero-ตัวรับอิสระ) ด้วยซ้ำ แต่ด้วยส่วนสูงโค้ชคงเห็นแววว่าเราเหมาะกับตำแหน่งหัวเสามากกว่า เลยให้มาเป็นมือตบ
Q: อัพเดตความรักกันนิดหนึ่ง เห็นมีภาพสวีตกับหนุ่มนักฟุตบอล (หนุ่ม-รชต ชัยจันทร์) กันน่าดู
A: โอ๊ย ไม่ได้สวีตอะไรขนาดนั้น ตอนนี้เรื่อยๆ มากกว่าค่ะ ด้วยความที่เราเป็นนักกีฬากันทั้งคู่ เวลาว่างเลยไม่ค่อยตรงกัน ซึ่งพอหมดจากการแข่งฟุตบอลจะปิดลีกประมาณ 1-2 เดือน เราก็พยายามเจอกันให้บ่อยขึ้นแค่นั้น ไม่ได้สวีตหวานอะไรเลยค่ะ
Q: คู่รักที่นานๆ เจอกันทีชอบทำกิจกรรมอะไรร่วมกัน
A: ส่วนใหญ่คู่เราชอบหมกมุ่นอยู่กับหมา (หัวเราะ) ด้วยความที่เราชอบเลี้ยงหมาด้วยกันทั้งคู่ แก้มเลี้ยงชิวาวากับปอม ส่วนเขาเลี้ยงอลาสกันกับปอม พอว่างเขาจะชอบชวนให้เราพาหมาไปวิ่ง เหมือนเป็นแผนหลอกล่อของเขาให้เราได้ออกกำลังกาย เพราะแก้มเป็นคนติดการนอนมาก ว่างไม่ได้จะชอบนอนตลอด เขาก็จะเป็นคนชวนเราให้พาหมาไปวิ่ง ไปเล่นน้ำ
Q: แสดงว่าสัตว์เลี้ยงเป็นตัวช่วยให้ความรักของเราหวานขึ้น
A: อาจจะช่วยนะ เวลาเราสองคนทะเลาะกันแล้วตอนนั้นไม่มีอะไรจะพูด แก้มก็จะใช้หมานี่แหละเป็นหัวข้อในการคุย พูดลอยๆ ว่าหมาเหม็นแล้ว ยังไม่ได้อาบน้ำ เขาก็จะพาไปอาบน้ำให้ หรือพอเราบอกว่าหมายังไม่ได้กินข้าว เขาก็จะเอาข้าวไปให้ คือข้อดีของหมานอกจากจะทำให้เราได้มีกิจกรรมทำร่วมกัน พอเวลามีปากเสียง หมาก็เหมือนเป็นตัวกลางให้เราสองคนด้วย
Q: ว่ากันว่าพฤติกรรมสัตว์เลี้ยงบ่งบอกนิสัยเจ้าของ พี่หนุ่มเลี้ยงหมาแสดงว่าเป็นคนซื่อสัตย์
A: แก้มว่าเรื่องรักเดียวใจเดียวหรือความเจ้าชู้มันเป็นไปตามที่เราบอกไม่ได้ เพราะเราไม่รู้ว่าอนาคตจะเกิดอะไรขึ้น อย่างคุณหนุ่มบอกตรงๆ ก็เคยเจ้าชู้มาก่อน ไม่รู้เป็นเพราะเหตุผลที่เรายังเด็กหรือไม่มีเวลาให้ แต่ก็ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่าเขาก็เป็นคนหน้าตาโอเค เป็นนักกีฬา แล้วเล่นดนตรีอีก ไม่แปลกที่ผู้หญิงจะชอบ เพราะอย่างเราก็ยังชอบผู้ชายมีเสน่ห์เลย แล้วที่เห็นส่วนหนึ่งสาวๆ ก็เข้ามาหาเขาเองด้วย แต่เราก็ไม่ได้ว่าอะไรที่เขาเจ้าชู้ เพียงแต่พอถึงเวลาหนึ่งที่มันต้องหยุดก็คือต้องหยุด
Q: แล้วตอนนี้หยุดได้หรือยัง
A: ก็ต้องได้แหละ ต้องได้แล้วนะ (หัวเราะ)
Q: ทุกวันนี้ก็เชื่อว่าเขารักเราจริง ไม่ได้เจ้าชู้แล้ว
A: รักก็คงรักแหละ แต่ถามว่าเขาเจ้าชู้ไหม? แก้มการันตีไม่ได้ เพราะขนาดตัวเราเองเวลาเห็นใครหน้าตาดีก็ยังแบบ โอ๊ย! หล่อ
Q: เรื่องอะไรที่ถ้าเขาทำแล้วเราต้องขอเลิก
A: อาจเป็นเรื่องผู้หญิง คงเป็นเรื่องเดียวที่ทำให้เลิกกัน
Q: แต่ถ้าวันหนึ่งเขาเดินมาบอกว่าผมพลาดไปแล้ว อภัยให้ผมเถอะ
A: อภัยไม่ได้ แต่ปล่อยให้เขาไปและคงจะกลับมาเริ่มต้นกันใหม่ คือแก้มเป็นคนที่ค่อนข้างเด็ดขาดนะ อะไรที่แก้มบอกว่าไม่ได้ก็คือไม่ได้ ไม่ต้องมาขอเลย ยังไงก็ไม่ได้ ถ้ามาบอกว่าเป็นเรื่องพลาด ลองคิดกลับกันบ้างว่าถ้าแก้มดื่มจนขาดสติแล้วไปพลาดนอนกับใครสักคนหนึ่งจนเกิดท้องขึ้นมา ไม่รู้ว่าใครเป็นพ่อของเด็ก เขาจะรับได้ไหม คือไม่มีใครรับได้อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเวลาคบกันต้องระมัดระวัง ต้องอย่าพลาด ส่วนเขารู้ตลอด เวลาทำอะไรนิดๆ หน่อยๆ ที่เหมือนจะพลาด เขาเลยจะรีบชิงบอกเราก่อน เพราะแก้มมีคติอย่างหนึ่งว่า อย่าให้รู้เรื่องไม่ดีจากคนอื่น ถ้าคุณทำอะไรไม่ดีต้องมาบอกฉันเอง
Q: แสดงว่าห้ามมีความลับอะไรต่อกัน
A: เราสองคนไม่มีความลับกันนะ โทรศัพท์เขาแก้มก็เล่นได้ หรือมีครั้งหนึ่งที่เขาจะเซอร์ไพรส์วันเกิดแล้วมาบอกว่าจะไปทำธุระ แก้มบอกเขาเลยว่าอย่าใช้คำว่า ‘ธุระ’ คำว่าธุระของคุณคืออะไร ห้ามใช้คำที่มันดูเหมือนมีช่องว่าง คำว่าแฟนมันไม่ควรจะมีช่องว่างระหว่างกัน เขาก็เปรยๆ ว่าอย่างนี้ถ้าจะเซอร์ไพรส์อะไรก็คงทำไม่ได้สักอย่างเพราะไม่มีช่องให้ทำเลย แก้มบอกเลยว่าไม่ได้ต้องการให้มาทำเซอร์ไพรส์อะไร วันเกิดพาเราไปกินข้าวแค่นี้โอเคแล้ว
Q: มีวิธีปราบผู้ชายเจ้าชู้ยังไงให้อยู่หมัด
A: ส่วนมากคนจะเห็นแก้มชอบพูด เวลาไม่พอใจอะไรจะพูดเลยแล้วเดี๋ยวก็หาย แต่ถ้าเมื่อไรเห็นแก้มนิ่ง เงียบ จะกลัวทันที เขาเคยบอกว่าเธออย่าเงียบสิ จะว่า ด่า หรือตีอะไรเขาก็ได้ แต่อย่าเงียบ เราก็เลยรู้ว่ากลัวแบบนี้ (หัวเราะ)
Q: เป็นนักกีฬางานเยอะด้วยกันทั้งคู่ มีวิธีถนอมความรักให้อยู่ไปนานๆ กันยังไง
A: ด้วยความที่เป็นเพื่อนกันมาก่อน ส่วนใหญ่คู่เราจะอยู่กันแบบเพื่อนจริงๆ คือไม่อยากให้มีโมเมนต์ที่มีความลับต่อกัน บางเรื่องแฟนไม่รู้แต่ทำไมเพื่อนรู้ เราก็เลยตัดปัญหา ถ้าเป็นเพื่อนมีอะไรก็บอกเล่ากันได้หมด
Q: เป็นเพื่อนแบบตบหัวได้
A: ได้
Q: กอดคอได้
A: ได้
Q: บีบก้นได้
A: ได้ (หัวเราะ) เล่นกันได้ทุกอย่างเหมือนเพื่อนกันจริงๆ แต่เวลาเป็นคนรักมันจะอีกฟีลหนึ่ง อาจจะมีมุมสวีตหวานบ้าง แต่ไม่ได้บ่อยขนาดนั้น
Q: สำหรับสาวสวยอย่างแก้ม คิดว่าความรักกับเซ็กซ์มันต้องเดินไปคู่กันไหม
A: ต้องคู่กัน แก้มมองว่าความรักไม่ได้เป็นสิ่งเดียวที่จะทำให้คนเราอยู่ด้วยกันได้ ขณะเดียวกันเซ็กซ์ก็ไม่ใช่สิ่งเดียวที่จะทำให้ชีวิตคู่ไปกันรอด มันต้องใช้เหตุผลหลายอย่างประกอบกัน แล้วเซ็กซ์อาจจะเป็นหนึ่งในเหตุผลหลายๆ อย่างเหล่านั้น แก้มว่าถ้าคนเราอยู่ด้วยกันเพียงเพื่อมีอะไรกัน มันคงไม่เรียกว่าความรัก แต่ถ้าอยู่ด้วยกันเฉยๆ แล้วไม่มีอะไรกัน มันก็ไม่ใช่วิถีปกติของคนรักนะ
Q: รักและเซ็กซ์ อะไรควรนำหน้า
A: มันไม่มีทั้งความรักนำหน้าหรือเซ็กซ์นำหน้า แก้มเชื่อว่าคนเราจะอยู่ไปกันได้มันต้องใช้เหตุผล คือเหตุผลของคุณจะผิดหรือถูกไม่ต้องตัดสินหรอก แต่ขอให้มีเหตุผลเพื่อมานั่งคุยกันว่าคุณคิดแบบนี้ ฉันคิดแบบนี้ก็พอแล้วค่ะ
เรื่อง : J
ภาพ : พาณุวัฒน์ เงินพจน์