เปลือย..ตำนานเพศศึกษา ฉบับอากังฟู (2)

หลังจากภาคที่แล้ว เราพาท่านผู้อ่านย้อนรอยประวัติศาสตร์ความสยิวกับตำนานไทยเพลย์บอย กับเฮียกังฟู ผู้ที่เราเรียกเป็นกูรูคนหนึ่งแห่งวงการ กับกระบวนการของสื่อสยิวในยุคที่ไทยเพลย์บอยครองอาณาเขตความเสียว จนกระทั่งลาหายไปตามกลไกของเวลา และราคาทางกฏหมาย

หลังจากหน้ากระดาษไทยเพลย์บอย ลอยหายไปในอากาศจากกรณีอื้อฉาวที่เราสนทนากันในภาคแรก มาถึงตอนนี้เรายังคงอยู่กับอาเฮียกังฟู ที่พร้อมจะตอบทุกเรื่องลับ เรื่องเร้นที่ใครหลายคนไม่ได้พูด และอาจปิดบังไว้ เราขอให้ใช้วิจารณญาณของท่านในการอ่าน เพราะเฮียกังฟูไม่มีเกรงใจในคำตอบอยู่แล้ว

เรื่องเซ็กซ์ในหลืบซอกใจมนุษย์

ธุรกิจเก่าของเขาคือขายความเสียวคาวใต้เตียงจนถูกดำเนินข้อหาทางกฎหมาย

วิถีทางที่เขาเดินมาเต็มไปด้วยอีกด้านของ ‘คน’ อาจไม่มีใครที่รับรู้เรื่องเร้นลับข้างเตียงมากเท่ากับเขา

กาลเวลาที่ผ่านมาสร้างทางเดินอีกทางที่ไม่ทำให้แฟนๆ ต้องออกตามหาว่าเฮียกังฟูอยู่ไหน เพราะปัจจุบัน เฮียกังฟู อดีตเจ้าของไทยเพลย์บอย จัดรายการเกี่ยวกับเพศศึกษาอยู่ที่ Mv Tv ทางช่อง I-News channel ทุกวันในช่วงเวลา 5 ทุ่มครึ่งถึงเที่ยงคืนครึ่ง กับรายการ เพศศึกษา 25 น. ที่พูดถึงเรื่องเพศกับคนที่รู้จริงอย่างเฮียกังฟู

“ก็จัดรายการเกี่ยวกับเรื่องเพศศึกษาโดยตรง” เฮียกังฟูเริ่มอธิบายงานปัจจุบันที่เขาทำ “เพราะว่าในสังคมปัจจุบันนี้ เรายังยึดถือความโบราณอยู่ อีกกลุ่มนึงยังยึดถืออยู่ แต่อีกกลุ่มนึงมันทันสมัยแล้ว

“มันเป็นการต่อสู้ระหว่างคนสองยุค ยุคโบราณกับยุคสมัยใหม่ แต่ในรายการจะพูดถึงเรื่องเพศปัจจุบัน มันเท่ากับว่าต้องต่อสู้กับคนทั้งสองยุค เพราะเราต้องดึงเอาระบบเก่ามาสอน ว่าระบบเก่ามันยึดถือมาแบบนี้ แต่ในยุคใหม่ เขาเตลิดเปิดเปิงไปแล้วไง ทีนี้ในยุคเก่า เราก็ไปตำหนิเขาไม่ได้อีกว่าไม่ดี เพราะมันเป็นขนบประเพณีที่ยึดถือกันมายาวนาน ขาเก่าหัวสูง ขาต่ำหัวสูง ก็คือเรายังยึดถือไอ้พวกความสูงความต่ำ ก็เท้ามันต่ำไง แต่หัวนี่มันสูง”

 

“ไม่มีเป้าหมาย มีแต่เป้าอย่างเดียวคือตัวเงิน

 คำว่าศีลธรรมคำว่าอะไรต่างๆ แทบไม่ได้มองเลย”

 

ในสมัยนึงเมืองไทยไม่ใช่เมืองเซ็กซ์เสรี ตอนนี้ก็ไม่ใช่ ประเทศที่เราบอกว่าเซ็กซ์เสรี เพราะเราเห็นพวกเขาใช้เรื่องการมีเพศสัมพันธ์กันอย่างธรรมดาสามัญ ไม่ใช่เรื่องที่ต้องฝืนต้องปกปิด ต้องแอบซ่อนเก็บไว้ เป็นเรื่องธรรมชาติ ที่คนควรแสดงออกอย่างตรงไปตรงมา ไม่งั้นท่านอาจจะเสียสุขภาพจากการอดกลั้นได้

บ้านเราไม่ถูกเรียกว่าเมืองเซ็กซ์เสรี แต่ถูกฝรั่งนักเที่ยวจำนวนมากเรียกว่า เมืองไอ้จ้อนระเบิด เมืองเจี๊ยวระเบิด จากชื่อ ‘แบงค็อก’

ศีลธรรมที่ดีถูกอ้างใช้ตลอด เราแสร้งทำดีนำ บังหน้าตาที่แอบเก็บไว้ เพราะตัวเราเองก็โดนสังคมแห่งศีลที่ปาก กดดันให้เห็นเป็นเรื่องไม่สมควรเหมือนกัน เราคิดแสร้งเป็นไม่รู้ คิดทุกทางให้เห็นเป็นเรื่องไม่สมควรเอ่ยถึง ทั้งๆ ที่มันเป็นเรื่องธรรมดา อย่างที่ตำรามีชีวิตชื่อปกเฮียกังฟู พยายามบอกในช่วงเวลาที่ผ่านมาของเขา

แต่ในการจะพูดเรื่องเพศเพื่อคนรุ่นใหม่ ในเมืองพุทธะ ในกาละเวลาที่ขนบเริ่มเป็นแค่กฎตายตัวที่ไม่ได้ช่วยแก้ไขความกำหนัดภายในร่างกายชายหรือสตรีได้ ความดีงามที่เห็นเกลื่อนกลาด กับข่าวอาชญากรรมที่เห็นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ต่อไปก็แค่ถามว่า จะสอนเด็กไทยแบบตรงๆ หรือจะหลอกพวกเขาต่อไป เพราะพวกเขาก็แกล้งไม่รู้รอท่าเราอยู่แล้ว เด็กมันรู้เรื่องกันหมดแล้วในยุคอินเทอร์เน็ตแบบนี้ แต่ที่เขาทำเป็นไม่รู้ เป็นแค่เพราะเขายังกลัวว่ามันเป็นเรื่องผิด ที่เขาจะพูดออกมาตรงๆ พูดออกมาเป็นเรื่องธรรมดา

“เรื่องเพศเป็นเรื่องธรรมชาติ คนเริ่มยอมรับแล้วไง” เขากล่าวอีกว่า “ยอมรับว่าเรื่องเพศมันไม่ใช่ต้องปกปิด ไม่ต้องเหนียมอาย ต้องหลบหมกเม็ดอะไรอีกต่อไปแล้ว แต่ไอ้คนรุ่นเก่ามันยังมีอยู่ไง เขาก็ยังยึดอยู่ เขาก็ด่าพวกเด็กวัยรุ่น ทำไมทำตัวกันอย่างนั้น เดินกอดจูบกัน เพราะสมัยก่อนเขาถูกตัวกันไม่ได้

“เราต้องเป็นตัวกลางในการที่จะเชื่อมว่า โอเคนะโบราณมันเป็นอย่างนี้ ไอ้ยุคใหม่มันเป็นอย่างนี้ ไอ้การโบราณ มันก็ดีถ้าใครถือได้ แต่มันจะถือได้อย่างไรล่ะ ในเมื่อถ้าสมัยก่อน โบราณ ผู้ชายแตะผ้าถุงผู้หญิงยังไม่ได้เลย ลอดราวตากผ้าก็ไม่ได้ ลอดใต้ถุนบ้านก็ไม่ได้ เสื่อม แล้วกับเด็กรุ่นใหม่ เขายกซดกันพรึบพรับแล้ว เขาไม่ซวยกันเหรอ ใช่ไหม เด็กผู้หญิงก็สามารถที่จะใช้ปากกับของผู้ชายได้ ผู้ชายก็สามารถยกซดกับผู้หญิงได้ อย่างนี้ไม่ซวยเหรอ ถ้าเป็นคนโบราณเขาบอก อู้หู!ซวยตายห่า ทีนี้เรากำลังเชื่อมรอยต่ออยู่”

ถึงตำนานของเฮียกังฟูจะปิดตัวลงไปนานแล้ว และในตอนนี้เขามีบทบาทใหม่กับการเป็นนักจัดรายการ เขาก็ยังคงอยู่ในเรื่องราวคาวเพศ ที่อาจจะเปลี่ยนรูปแบบจากหนังสือเสียว สู่รายการที่พูดเรื่องเพศอย่างถึงไส้ เป็นอีกด้านที่ไม่เหมือนยุคที่เขาใช้เรื่องเพศเป็นแค่เครื่องมือในเชิงธุรกิจ ธุรกิจที่ใช้เครื่องเพศอย่างครบเครื่อง

“ศีลธรรมก็คือศีลธรรม ความถูกต้องก็คือความถูกต้อง แต่คุณก็ต้องมองในยุคปัจจุบันด้วย คุณไม่จำเป็นต้องยึดว่าศีลธรรมถูกต้อง ความดีงามถูกต้อง แล้วกับปัจจุบันนี้ล่ะ คุณรับได้มั้ย ถ้าคุณรับไม่ได้ คุณก็อยู่ไม่ได้เหมือนกัน เรื่องเพศ ตรงนี้เรามอง เพราะเมื่อก่อนผมทำนิตยสาร ก็ยอมรับว่าในชุดที่ทำนิตยสารอันนี้ สติ ปัญญา แล้วก็สมอง มันยังไม่ถึงจุดนี้ มันแค่มองเป็นตัวธุรกิจ ตัวเงิน ตัวที่จะทำกำไร ตัวที่จะทำการค้าเท่านั้นเอง

เขากล่าวกับเราอีกว่า “ยอมรับว่าเมื่อคราวที่ทำไทยเพลย์บอย ไม่มีเป้าหมาย มีแต่เป้าอย่างเดียวคือตัวเงิน คำว่าศีลธรรมคำว่าอะไรต่างๆ แทบไม่ได้มองถึงเลย เพราะในสมัยก่อนมันไม่ใช่นิตยสารฉบับเดียว นู้ดนี่บนแผงหนังสือมี 50-60 ฉบับ ห้าหกสิบหัวนะที่จะต้องเลียบเข้าไป แล้วก็ต้องไปต่อสู้กัน แต่เผอิญผมมันเป็นคนที่คิดค้นและก็นำทางคอลัมน์ใหม่ๆ จนกระทั่งหนังสือไทยเพลย์บอยติดปาก ติดหู คุ้นหู จนหนังสือไทยเพลย์บอยอยู่อันดับหนึ่ง”

เสือป่าลายพาดกลอน

ส่องสะท้อนเสือป่าร่วมสมัย

 
ดูเหมือนจะมาถึงยุคใหม่ ที่ใครๆ ต่างลืมไปแล้วว่าหน้าตาหนังสือไทยเพลย์บอยเป็นยังไง แต่ได้จดจำหน้าตาเจ้าของแทน เป็นเรื่องยากที่จะให้เรานึกถึงเขาในฐานะอื่นที่ไม่ใช่เฮียกังฟูไทยเพลย์บอย เพราะขนาดในความนึกคิดของเรา เราก็ยังมีความคิดอยากจะขอเล่มเก่าๆ จากเฮียแกสักเล่มเลย

ทำไมไทยเพลย์บอยถึงยังเป็นที่รู้จัก แม้มันไม่มีแล้ว

ทำไมยังมีผู้ตามหา และยอมซื้อมาในราคาที่เกินจากหน้าปกไปเยอะ

เถียงไม่ได้ว่า ในสมัยที่เมืองเต็มไปด้วยศีลธรรมอันเคร่งครัดของยุค สื่อหนังสือปลุกใจชายเล่มนึงได้เป็นที่เลื่องลือทั่วประเทศ และยืนระยะยาวอยู่บนหลังแผงได้ร่วม 40 ปี

แล้วบนแผงหนังสือสมัยนี้ มีหนังสือพวกนี้ที่เหมือนจะแปรรูปไปตามศีลธรรม ตามยุค เป็นหนังสือนิตยสารธรรมดา ที่มีตามแผงทั่วไป บางร้านเสียบอยู่ชั้นบนของหนังสือพระ ข้างในมีรูปถึงกึ๋นกว่าที่อยู่บนหน้าปก บทความที่คุยเรื่องเพศอย่างเปิดเผย และไม่เคยเห็นว่ามีใครไปบังคับพวกเธอมาให้เกือบล่อนจ้อนถ่ายรูปอยู่บนปกอย่างนี้

ทุกสิ่งดูคล้ายกับธุรกิจขายความเสียวอย่างที่เฮียกังฟูเคยทำ แต่ไม่เหมือนกัน เพราะคำว่า ศีลธรรม ที่ควรคำนึงมันมีค่าให้นับถือน้อยลง จนเป็นช่องทางที่ดี ที่จะสนับสนุนสื่อเสียวให้มีเต็มแผงได้

แต่การยืนระยะ อาจสู้หนังสือที่หลบอยู่หลังแผงอย่างไทยเพลย์บอยได้ยาก

สมัยนี้มันเป็นการยั่วยุมากกว่า” เฮียกังฟูเริ่มอธิบาย “แม้แต่ภาพเห็นมั้ย พยายามยั่วยุให้เกิดอารมณ์ แต่ในสมัยก่อน แม้เป็นการยั่วยุแต่ก็ไม่ขนาดนี้ ข้อเขียนก็แฝงไว้ด้วยความเป็นจริง แต่สมัยนี้มันเป็นการพยายามทำข้อเขียนให้มันสยิว ให้มันๆ แบบชนิดว่าเกินเลยจากความเป็นจริง ถ้าเป็นสมัยก่อนมันลูกทุ่ง แบบแกทำยังไง แล้วแกยังไง มีสายมุ้งเป็นฉากอะไรอย่างนี้

“ แต่ตอนนี้ไม่อ่าน ไม่เคยหยิบของใครเลย บางทีไปดูๆ เดินผ่านตามหน้าแผงหนังสือ ดูแล้วก็บอกกับตัวเองว่ามันคนละยุคแล้ว เดี๋ยวนี้การพิมพ์ดี สีดี กระดาษดี สมัยก่อนยังกับกระดาษเช็ดก้นเลย สีออกซีดๆ เหลืองๆ พิมพ์ออกมานี่ 4 สีแท้ๆ เลย ไม่ใช่อย่างสมัยนี้

“แต่ก็มีบางฉบับเขามาติดต่อขอให้เขียนคอลัมน์ แต่ผมก็บอกว่ายัง เราก็คิดเขียนแบบโบราณๆ ไง เขียนแบบที่ใกล้เคียงสมัยก่อน เขามาขออยู่ แต่จริงๆ แล้วถ้าทำนิตยสารนู้ดๆ ตอนนี้นะ เอาสมัยใหม่สักครึ่งสมัยเก่าสักครึ่งผมว่าขายอันดับหนึ่ง วันนี้นั่งมองแล้วเห็น เพราะว่าไอ้หนังสือเซ็กซ์พวกนี้เขาไม่ต้องการอ่านนี่ เขาไม่ต้องการอ่านระบบไฮโซ ต้องการอ่านแบบลูกทุ่งๆ”

ก็คิดอยากนะ ยังอยากทำ ” เขากล่าวหลังจากที่เราถามถึงการหวนวงการ “ผมเห็นนิตยสารทั่วๆ ไปที่วาง เขามองข้ามกับความที่ว่า “เซ็กซ์” มันจะต้องกักขฬะนิดๆ จะต้องแบบลูกทุ่งๆ คืออ่านแล้วเข้าใจง่าย อ่านแล้วแปลความหมายได้เลย ไม่ใช่อย่างปัจจุบัน ไปเขียนกันสูง ศัพท์แสลงสูงๆ แล้วเขียนแบบผู้ดีเกินไป เซ็กซ์ที่ไหนล่ะพูดดีกัน ให้พูดดีแค่ไหนมันก็พูดง่ายๆ ก็แค่คนสาไถย มันวิตถาร พยายามคิดค้นไอ้ท่าวิตถาร ความมันอะไรพวกนั้น เวลาออกหน้าสังคมก็ทำหน้าตาให้มันเหมือนกับเป็นผู้ดีเท่านั้น ก็แล้วทำไมเราไม่เอาความจริงตรงนี้ออกมาเปิดเผยล่ะ

“ทีนี้เสียดายที่อายุมันมากขึ้น จริงๆ ถ้าลดไปอีกสัก 15 ปีนะ ผมทำไทยเพลย์บอยฉบับโบราณ แล้วรับรองว่าขายได้ดีด้วย คนทุกคนอยากจะซื้อไอ้คนเก่ามันเห็นมันก็อยากจะซื้อ ไอ้คนรุ่นใหม่มันก็อยากจะดูว่ามันเป็นยังไง”
 
สกปรก-กักขฬะ
คือสัจจะแห่งเซ็กซ์
ความสุขจุดใต้สุดที่ไม่ว่าใครก็ขุดหลุมเป็นโพรงฝังไว้ มิให้ใครได้เห็น เราเห็นมันเป็นเรื่องที่สกปรกเกินรับได้แทบเบือนหน้าหนี แต่ก็เป็นเรื่องจริงยิ่งกว่าจริง ที่ยามเราเริงรักกันบนห้วงเวลาเราสองร่วมสร้าง เราไม่เคยคิดถึงเรื่องอื่นๆ อย่างประเพณี หรือศีลธรรม เรายังพยายามทำให้มันออกมาสนุกที่สุดด้วยซ้ำ พยายามให้ตอบสนองตัณหาเราได้มากที่สุด เพราะเราต้องการละลายความใคร่ไปกับทุกท่วงท่า และลิ้มรสชาติทุกหยดของการร่วมรัก

เซ็กซ์ ไม่เคยสะอาด เราต่างก็เลอะเทอะเปรอะเปื้อนด้วยกันทั้งนั้น…

“ผู้หญิงบางทีอยากกว่าผู้ชายอีก

 แต่ว่าเพราะสังคมเราไปกดเขาต่างหาก”

พอพูดคำว่าเซ็กซ์มันก็สกปรกแล้ว มันก็ลามกแล้ว” อากังฟูกล่าวต่อ “แล้วทุกวันนี้ที่นั่งคุยกันเฮๆ กันนั่นคุยกันเรื่องอะไร มันจะคุยอะไรได้สนุกเท่านี้ เรื่องตลกโจ๊ก ตลกทะลึ่งก็เท่านั้น มันทำให้มนุษย์มีชีวิตชีวา มีความสดใสขึ้นมา ความเป็นลูกผู้ชายมันเพิ่มขึ้น มันก็เป็นตัวกระตุ้น

“ผู้หญิงบางทีอยากกว่าผู้ชายอีก แต่ว่าเพราะสังคมเราไปกดเขาต่างหาก ใครพูดจาหยาบนิดนึงก็บอกหยาบคาย แต่จริงๆ ไม่ใช่ มันเป็นธรรมชาติของคนเรา คู่ผัวตัวเมียที่นอนอยู่ด้วยกันทุกวันนี้ บางทีออกไปต่อหน้าสังคมแล้วก็เขียนคิ้วทาปากทำเป็นผู้ดีกัน ตกเย็นก็ร่วมกันอยู่นั้นแหละ ทำไมล่ะ ก็มันเป็นธรรมชาติของมัน

“มันเห็นจนไม่รู้จะเห็นยังไงแล้ว ทุกวันนี้ก็พยายามถ่ายทอดไง รายการที่มีก็ถ่ายทอดนู่นนิดนี่หน่อยออกไปเรื่อยๆ เพราะว่าหาทายาทไม่ได้ ไอ้ลูกน่ะมี แต่ไอ้เรื่องราวเหล่านี้มันเหมือนเป็นตำราญ มันสอนใครไม่ได้ บอกใครไม่ได้ มันอยู่ในสมอง คุณตั้งปัญหามาปุ๊บผมรู้เลยคืออะไร ผมตอบได้เปี๊ยะ” เฮียกังฟูตอบ

 
คำถามจากทางบ้าน
วานเฮียกังฟู ตอบ
 
ถาม : เฮียกังฟูครับ ผมชอบให้เมียใช้ปากกับตรงนั้นของผมครับ แล้วผมก็ชอบใช้ปากกับตรงนั้นของเมียผมด้วย แต่ผมยังสงสัยอยู่ครับ ว่าเธอชอบใช้ปากกับของผมจริงรึเปล่า แต่ผมชอบใช้ปากกับเธอมาก ผมปกติใช่ไหมครับ?

ตอบ :  คุณคิดว่าทำไมผู้ชายบางคนชอบใช้ปากกับตรงนั้น ก่อนจะร่วมกันต้องใช้ปากก่อน เพราะมันเป็นการปลุกเร้าอารมณ์ แล้วต่างฝ่ายต่างแสดงให้เห็นว่าฉันไม่รังเกียจเธอนะ และอีกจุดหนึ่งก็คือเป็นการค้นพบของมนุษย์ ธรรมชาติเขาไม่ได้สอนมาแต่สภาพสังคมเฉพาะบ้านเรา ฝรั่งเขารู้กันมานานแล้ว เขาใช้มานานแล้ว แต่สภาพสังคมบ้านเรายังรังเกียจกันอยู่จนกระทั่งมารุ่นหลังนี่แหละ ไอ้การใช้ลิ้นใช้ปากนี่ ก็ประมาณไม่น่าจะเกิน 20 ปี

คุณรู้ไหม ไอ้การใช้ปากมันมีผลนะเพราะผู้ชายต้องการความสะใจ ต้องการเสียงร้องของผู้หญิง ต้องการเสียงดิ้นสะเด่า ทำให้ผู้หญิงติดใจ ทำให้ผู้หญิงร้องโอดอวลครวญคราง ก็เพราะเขาใช้ปากกับตรงนั้นไง ผู้ชายบางคนติดตรงนี้ พอทำให้ก่อนปุ๊บ ผู้หญิงร้อง ยิ่งร้องก็ยิ่งฮึกเหิม มันเหมือนกับเป็นการพิสูจน์ศักยภาพว่าตัวเองเก่ง แล้วสะใจ ทีนี้พอทำได้ มันก็จะไปทำคนอื่นต่อเหมือนกัน ก็อยากจะทำให้ผู้หญิงคนนี้ติดใจเขา เพราะการใช้ปากแสดงว่าฉันไม่รังเกียจเธอนะ

ถาม : แล้วเธอจะรังเกียจไหมครับ ถ้าเราใช้ปากกับตรงนั้นของเธอ?

ตอบ : จริงๆ ผู้หญิงอยากจะบอกกันทุกคนว่าให้ผู้ชายใช้ปาก แต่บางคนไม่กล้าบอก ผู้หญิงทุกคนอยากให้ผู้ชายใช้ปาก เพราะมันเป็นความเสียว ความใหม่ ความแปลก ความอะไรต่างๆ แล้วการใช้ลิ้นนี่ผู้หญิงจะเสียวมากเลย อันนั้นเป็นแค่ส่วนนึง

ถาม : แล้วเธอจะมีอารมณ์ร่วมกับผมไหม ตอนที่เธอใช้ปากกับผม ผมกลัวเธอจะไม่ชอบ?

ตอบ : เขามันนะ เขาเหมือนได้ร่วมจริงๆ กับข้างล่างนะ เขาถึงสนุกไง เพราะมันออกอารมณ์ไง เหมือนกับเขาโดนสวนตรงจุดนั้น เพราะริมฝีปากเขาจะส่งให้ประสาทหลั่งความมันความเสียว เขาเลยสนุก

จะบอกให้ว่า ริมฝีปากผู้หญิงมีความไวเท่ากับช่องเพศ เวลาจูบปากเห็นมั้ย จูบปุ๊บมีอารมณ์ขึ้นมาทันทีเลย เป็นการค้นพบเอง เป็นการรู้เอง ไม่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์หรอก โดยดูจากสภาพทั่วไป เพราะฉะนั้นเวลาผู้หญิงเกิดฟีล เกิดอารมณ์ขึ้นมาแล้ว พอเขาใช้ปาก เขามันนะ

ถาม : แต่ก่อนหน้านี้แฟนเก่าผมเธอไม่เห็นเป็นอย่างนี้เลยครับ เธอเป็นคนที่ไม่ยอมใช้ปากกับไอ้หนูของผมเลยอ้างปัดไม่เอาตลอด ทำไมล่ะครับ?

ตอบ : บ้างบอกไม่ชอบ บางทีอาจจะมีติดขัด บ้างกลัวจะต่อว่าเป็นผู้หญิงไม่ดีบ้าง เป็นอะไรมั่ง แต่ผู้หญิงที่กล้าๆ พอเปิดปุ๊บก็ใช้ปากให้ก่อนล่ะ เพราะมันเป็นธรรมชาติ พอใช้ปากแล้วมันเหมือนเสียวตัวเอง ปลุกเร้าตัวเองให้กระสันมากๆ ขึ้นมา แล้วเดี๋ยวนี้เชื่อนะว่า ผู้หญิงร้อยคนใช้ปากเป็นสัก 85 คน ไอ้ที่ยังติดเล็กๆ น้อยๆ อยู่ ติดความโบราณอยู่สัก 15 คน

เด็กอายุ 14-15 มันยังทำกันเลย เพราะมันดูจากซีดี ดูจากทางเน็ต ใช้ปากทำมันเป็นไง มันสนุกยังไง พอได้ลองเข้าไปก็สนุก เพราะวัยรุ่นกันเองมันก็ถามกันก่อนใช่ไหมล่ะว่า ‘โมคเป็นไหม ’ อันนี้มันเป็นกลไกของมนุษย์ที่สร้างขึ้นเอง ที่ผลิขึ้นเองนะ ธรรมชาติไม่ได้สอนว่าผู้ชายผู้หญิงต้องใช้ปากช่วยกันนะ แต่ว่าเป็นการคิดค้นของมนุษย์เอง ที่ไปเจอสูตรสำเร็จว่า เออวุ้ย! มันอร่อย มันก็เลยถือเอาสิ่งเหล่านี้เป็นบริบทของมันออกมา

นกเขาไม่ขัน ปรึกษาอากังฟู

ในวัย 67 ปี เขาดูโรยไปมากจากกาลเวลา แต่เขายังคงดูดีอย่างที่คนอายุเท่ากันที่บางคนอาจนั่งอยู่บนรถเข็นไปแล้ว เราอดคิดไม่ได้ว่าเรื่องบนเตียงในฐานะกูรูระดับประเทศ เฮียแกยังคงสม่ำเสมอในการประพฤติอย่างชายนกเขาขัน ที่ไม่ต้องพึ่งยาชนิดไหนรึเปล่า

ต้องคอยช็อตมันอยู่เรื่อยๆ กระตุ้นมันอยู่เรื่อยๆ” เขาเผยเคล็ดลับแรกกับเรา “แล้วอีกอย่างถ้าบอกว่าเอาแต่มองอีแก่ ก็จบ ต้องไปมองเด็กสาวๆ บ้าง คือชาร์จตัวเอง เพื่อทำให้ฟีลตัวเองขึ้นมา ไม่ใช่มาพึ่งยากินอะไรที่ไหน ยาเป็นแค่ส่วนประกอบในการช่วยเท่านั้นเอง ต้องพร้อมรบตลอดเวลา อายุ 80 ก็ยังพร้อมรบได้ อย่างผมนี่เช้าได้เย็นได้

“มันอยู่ที่ความใส่ใจนะ เผอิญว่าเราอยู่ในสาขานี้ไง เราก็ก๊อกๆ แก๊กๆ ไปอย่างนี้ ทีนี้ถ้าคนที่บอกต้องพึ่งยา เพราะว่ามันไปโหมกับงาน โหมกับเงิน แล้วก็ไม่ค่อยที่จะนึกถึงตรงนี้ ในรายการผมก็บอกถ้ายิ่งสูงอายุขึ้นไป คุณจะต้องดูหนังเอ็กซ์บ่อยๆ เพื่อกระตุ้นตัวเองไง ไม่ใช่ว่าพอจะมีเซ็กซ์แล้วคิดจะกระดกขึ้นมา ไม่มีทางหรอก

“ผู้ชายหนุ่มๆ นี่บางทีทำงานจนลืม พอลืมตัวเองไปปุ๊บ ย้อนกลับไปใหม่ก็เอาเรื่องเหมือนกัน อย่าว่าแต่คนมีอายุเลย หนุ่มๆ ก็เหมือนกัน ต้องช็อตมันอยู่เรื่อยๆ อันนี้สำคัญนะ ขนาดเงินคุณขาดกระเป๋าคุณยังล้วงเลย คุณมีเงินเท่านี้นะ คุณขาดเท่านี้นะยังต้องล้วงอยู่เลย แล้วในตัวคุณเองล่ะ

“ยิ่งมีอายุเท่าไหร่ หนังเอ็กซ์ก็ต้องดูซื้อมา ช็อตมันเข้าไป ถ้าบอกไอ้นั่นก็ไม่ดูไอ้นี่ก็ไม่ดู แล้วมาบอกว่าเจี๊ยวไม่แข็งเลย เจี๊ยวไม่สู้เลย แล้วอยู่ดีๆ ไปกินยาอะไรให้มันเป๊กขึ้นมา ใหลตายก็เพราะไปกินยาไวอากร้านี่แหละ พวกหัวใจวายตายเคยผ่าท้องมาดูไหม ว่ามีไวอากร้าอยู่ ไอ้คนกินก็ไม่เคยบอกใครให้รู้

“ไวอากร้าของต่างประเทศมันชัวร์ แต่เขาไม่ได้ทำให้คนไทยกิน ไม่ได้ทำให้คนเอเชียกิน เพราะเวลาทำ สูตรผสมเขาทดสอบกับฝรั่งรูปร่างใหญ่ๆ หัวใจใหญ่ๆ พอเขากินแล้ว OK เขาถึงเอาออกมาขาย แล้วคนเอเชียไม่รู้ ตัวเล็กนิดนึง หัวใจนิดเดียว ไปซื้อมากิน ‘ใหลตาย หัวใจวายตายนะ’ เพราะหัวใจล้มเหลวตายไปเท่าไหร่แล้ว ทุกวันนี้ผมจึงพยายามบอกว่าอย่า ตายไม่รู้ตัว คุณต้องดูแลตัวเองก่อน อย่าหวังพึ่งยา พึ่งยาอย่างเดียวไม่มีทาง ยาเม็ดละล้านก็ไม่สามารถกระดกคุณได้”

 
ตำรานักรัก ที่ต้องรู้!!

เขายิ้มบนใบหน้าตลอดเวลาการสัมภาษณ์อย่างชายอารมณ์ดี แต่ภายใต้รอยยิ้มนั้น เราสัมผัสได้ถึงความเจ้าสำราญของอาเฮียกังฟู ดูแล้วอาเฮียยังมีเคล็ดหลักวิชาให้เราแอบได้ลักจำอยู่ตลอด และดูว่าเขายังคงมีแรงนั่งคุยอยู่กับเราซะด้วยสิ

เราเลยลองยิงคำถามถึงเรื่อง ‘ความรัก’ กับเขา ว่าเขามีความเชื่อต่อความรักอย่างไร ผ่านสายตาที่ผ่านการบ่มจากกาลเวลาของอาเฮียกังฟู…

ทุกวันนี้ ทุกคนรักไม่เป็น ” นายชูชาติกล่าว “เข้าใจความรักเข้าใจ แต่รักกันไม่เป็น รักแท้คือการเสียสละจริงๆ เลยนะ คนที่เรารักเราอยากให้เขาได้ดีไหม อยากให้เขาสบาย อยากให้เขามีความสุขไหม ทีนี้ถ้าเรารักเขา โอเคล็อกเขามาอยู่กับเราเอามากินเกลือ ถามว่าคุณรักเขาได้ยังไง ในเมื่อเขายังต้องกินข้าว พิซซ่า เคเอฟซี แล้วคุณให้เขากินแต่เกลืออย่างเดียว ถ้าคุณรักเขาคุณต้องปล่อยให้เขาไปกินเคเอฟซี พิซซ่า เขาจะมีวิธีกินยังไงก็ให้เขากิน แต่คุณหึงไม่ยอมให้กิน ต้องมากินเกลือกับคุณ นี่ไงคือความรักของคนเราทุกวันนี้ที่เข้าใจกันอยู่

“สมมติว่าเขาจะแต่งงานกับเศรษฐี เราต้องให้เขาสิ ให้เขาไป เขาถึงจะได้ดีไง เราเห็นคนที่เรารักได้ดีมีความสุขเราสุขใจไหม แต่รักวันนี้คือการเห็นแก่ตัว รักแล้วเราต้องล็อกมาอยู่กับตัว มึงไปไหนไม่ได้ ถ้าเมื่อก่อนเขานั่งมอเตอร์ไซค์กับเรา แต่เดี๋ยวนี้เขาได้นั่งรถเก๋ง เราไม่ยินดีเหรอ รู้จักรักแต่รักไม่เป็นกันทุกคน ถ้ารู้จักรักกันไม่มีข่าวหน้าหนึ่งหรอก ยิง ฆ่า หึงหวง ก็เพราะมันรักไม่เป็น

“จับได้ว่าเมียมีชู้! เอาไงดี เลิกมันเลยมั้ย ผมบอก โง่สิ”

“รักผู้หญิงสักคนนึงเราต้องตั้งสติ อย่างเขาไปดูหนังกับผู้ชาย ก็ต้องคิดว่าเขาหยามกู แต่ถ้าเราคิดว่า เออขอบใจเว้ย ทำหน้าที่แทนเราพาไปดูหนังเราไม่ต้องเสียตังค์ เออดีเว้ย ถูกมั้ย เราพยายามเปลี่ยนสภาพจิตใจ แล้วสมมติว่าแฟนไปมีอะไรกับคนอื่น แล้วเขายังกลับมาหาเรา คิดให้ดี เขาก็ยังรักเราอยู่ แต่การมีเพศสัมพันธ์กันมันเป็นการชดใช้ธรรมชาติเท่านั้นเอง ถ้าเขาไม่ติดใจเขาไม่กลับมาหาเราหรอก เมียมีชู้ดันไปเอากับไอ้โน่นแล้วยังมานอนกับเราอีก คิดอย่างนั้นไป

“หลายคนถามผมนะว่า จับได้ว่าเมียมีชู้ เอาไงดี เลิกมันเลยมั้ย ผมบอก โง่สิ คุณเลิกไปแล้วคุณต้องไปเริ่มใหม่ แล้วคุณมีที่ลงมั้ย!? ก็ทำไม่รู้เรื่องซะก็ยังลงได้อยู่ ก็เอาให้มากหน่อยเป็นไรไป ถ้าคิดได้อย่างนี้นะมันไม่มีการฆ่ากันอะไรทั้งนั้น แต่คนเรามันนึกถึงศักดิ์ศรี เลยยิง ฆ่ากัน เอาน้ำกรดสาดหน้ากัน แล้วเราจะเปลี่ยนแปลงไอ้ความรู้สึกนึกคิดตรงนี้ยังไงให้ออกมาเป็นสากล ถ้าผมพูดอย่างนี้นะ ผมโดนประณามทันทีเลยว่าเป็นการทำลายล้างศีลธรรมขนบประเพณีว่าต้องมีผัวเดียวเมียเดียว ในยุคปัจจุบันนี้คุณยังถืออย่างนั้นได้อยู่อีกเหรอ”

 
บทส่งท้าย ไทยเพลย์บอย

ท่าทางอากังฟูจะรู้แล้วว่าการสนทนาครั้งนี้ควรยุติ เขาทักเตือนเราถึงเรื่องเวลาที่ล่วงเลย และการพูดคุยเรื่องราวที่ไม่มีวันจบอย่าง ‘Sex’

เราขอเฮียกังฟูอีกเรื่องเดียว ก่อนที่จะให้เฮียกังฟูเข้าไปจัดรายการเพศศึกษา งานปัจจุบันอย่างหนึ่งของเขา
เรายังอยากเห็นว่าสำหรับเขาแล้ว ข้างหน้าที่เขาเห็น สื่อเสียวไทยจะก้าวเดินไปควบคู่กับสังคมที่มีเรื่องเพศร้ายกาจมากขึ้นมากขึ้นทุกวัน อย่างไร แล้วเรื่องราวคาวหลังเตียงพวกนี้ ต่อไปมันจะเป็นอย่างไร เราควรคิดใหม่กับเรื่องเพศที่เรานำเสนอ หรือเราควรจะเล่นละครคนดีกันต่อไป

เราเป็นเมืองพุทธ รู้กันดี หลายเสียงไม่เถียง และหลายเสียงไม่พูดอะไร

เฮียกังฟูอาจเป็นแค่เสียงหนึ่งที่ผ่านมาบอกเล่าเรื่องราวให้เราเข้าใจ เซ็กซ์ ในความเป็นจริงของเมืองใหม่กันมากขึ้น ว่าการเปลี่ยนแปลงมันได้เกิดขึ้นแล้ว แล้วนับทีนับวันทุกอย่างยิ่งจะพิสดารขึ้นไปเรื่อยๆ
 

“อีกร้อยชาติก็ไม่จบตราบที่มีมนุษย์อยู่

 เรื่องเซ็กซ์นี่อินฟินิตี้เลย”

 

ก็ต้องรอ รอให้หมากกับพลูขายไม่ได้ก่อน แล้วค่อยมาคุยกัน” เขากล่าวต่อไปอีกว่า “เพราะตอนนี้หมากพลูยังขายได้อยู่ไง ยังพอมีคนกินอยู่ ถ้าหมากพลูขายไม่ได้แล้ว ทีนี้ล่ะคนรุ่นใหม่ออกมาว่ากันละ”

“ทีนี้มันจะออกมาว่าคนรุ่นใหม่ต่อไป ว่ามันมากกว่าอีก เกินกว่าเราอีก มันพัฒนาไปเรื่อยๆ เพราะมันก็วิตถารด้วยกันทั้งนั้น จะมีอะไรกันบนยอดตึก ถ้ามันมีจังหวะทำก็ต้องทำ จะรอให้ลงมาข้างล่างเหรอ มันมีเรื่องอย่างนี้เยอะแยะ

“บางคนบอกผม ‘อาจารย์! ผมพาแฟนไปบนสะพานลอยข้ามถนน แล้วผมไปเอากับแฟนผมบนสะพานลอย ตื่นเต้น เสียวมาก เสียวคนเดินขึ้นมา โก้งโค้งทำไปคอยมองซ้ายมองขวาว่ามีคนเดินขึ้นมายัง รีบๆ เร่งๆ ให้เสร็จก่อนที่จะมีใครขึ้นมา แม่มตื่นเต้นฉิบหายเลย’ แล้วคุณจะไปคิดอะไร มันเป็นความรู้สึกของมนุษย์ไง

“ผู้หญิงบางคนก็ถาม มีอะไรกับหมา น้ำอสุจิมันจะเป็นไรไหม ก็บอกไม่เป็นไร คนละตัว คนละพันธุ์เลย มันไม่มีทางที่จะปฏิสนธิได้ อ้าว! ทำไมเขาคิดร่วมเพศกับหมาได้

“เรื่องเซ็กซ์เป็นเรื่องที่เวลาเกิดแล้วจะลืมตัวไปหมด ผู้หญิงดีๆ วัยรุ่นที่เดินๆ อยู่ เวลาช่วยตัวเองก็เอานิ้วแหย่เข้าไป ทำไมล่ะ เป็นความสุขของเขาไง เพราะทุกวันนี้เราพยายามเอาเสื้อผ้า เอาหน้าตาทุกอย่างออกมา เพื่อเสนอแต่สิ่งดีๆ เท่านั้นเอง แต่บั้นจริงเหล่านั้นมันไม่ใช่ แต่ละคนอาบน้ำแก้ผ้าช่วยตัวเอง มันแล้วแต่ความสุขของตัวเอง พอออกมาในสังคมค่อยวางหน้าวางตาเป็นอีกอย่าง

“มันไม่จบกรอก อีกร้อยชาติก็ไม่จบตราบที่มีมนุษย์อยู่ เรื่องเซ็กซ์นี่อินฟินิตี้เลย ไร้จุดอะไรทั้งนั้น มันไปของมันเรื่อยๆ มันจะมีบทพลิกแพลงบทใหม่ขึ้นมาตลอดเวลา บางทีเราอ่านข่าวเจออะไรพิสดารนะ จริงๆ แล้วมันไม่พิสดาร แต่เป็นความคิดแค่เสี้ยวนึงของวินาทีนั้นๆ ว่าเขาอยากจะทำแบบนั้น เท่านั้นเอง บางทีออกมาไม่มีรูปแบบ ก็เหมือนกับเหนี่ยวไกปืน มีคนจ้างคุณแสนนึงล้านนึงให้ยิงไอ้นี่ คุณกล้าไหม แต่ถ้าเวลาคุณเกิดฟิวส์ขาดขึ้นมา นาทีนั้นไม่มีใครจ้าง คุณก็ยิงได้

“ให้ทุกคนตระหนักไนเรื่องเซ็กซ์ แม้กระทั่งในครอบครัว เมียเราเราก็ต้องใส่ใจ ก็ต้องถามเขานะว่ามีความสุขไหมในเรื่องเซ็กซ์อะไรอย่างนี้ ยังต้องถามเขา ลูกเต้ายังต้องคอยดูแล เพราะบางทีเป็นนักศึกษาจริง แต่ไปมั่วเซ็กซ์ ก็ต้องบอกระวังท้อง ระวังโรคนะ ไม่ใช่บอกว่าอย่านะ มันห้ามไม่ได้หรอก ก็ศาสนาเรามีมาตั้ง 2556 ปี ก็สอนให้คนทำดีอย่าทำชั่ว แล้วทุกวันนี้คุกล้นไหม ทั้งที่เจอพระก็ยกมือไหว้ เจอศาลพระภูมิยังยกมือไหว้เลย แล้วทำไมอยู่ในคุกกัน เพราะวูบเดียวของอารมณ์ที่ขาดสติลืมตัว ทุกคนยึดมั่นคุณงามความดีที่อยู่ในตัว แต่ไอ้วูบเดียวของคน มันไม่มีใครที่จะไปสกัดกั้นมันได้”

‘วูบเดียวของคน มันไม่มีใครที่จะไปสกัดมันได้’ ..ใช่เราเห็นด้วย อย่างที่เขาว่า ถ้าเราสามารถควบคุมอารมณ์วูบเดียวของคนได้ มันคงไม่มีข่าวร้ายมาเข้าหูเราทุกวัน และมีแต่จะยิ่งมากขึ้น

เราขอถ่ายรูปกับเฮียกังฟูเล็กน้อย ก่อนจากลาหน้าประตูสำนักที่เปิดเข้าไปให้เรานั่งเรียน

เสียงที่เขาพูดยังดังตีวนอยู่ในหัว เราคล้ายลูกศิษย์ที่ถูกสอนให้จำวิชา ด้วยการไม่บอกกันก่อนของครูผู้สอน ทำให้เรื่องราวมากมายจากปากของเขาดูหนักหน่วง ถึงกึ๋น และตรงเหลือเชื่ออย่างถึงใจ

ถ้ามีจอก Taste ขอคารวะครานี้สักหนึ่งจอก
ถ้าใครอ่านได้หมดจนจบ Taste ขอคารวะอีกสักจอก กันเปย ปรมาจารย์กังฟู!!
เปลือย..ตำนานเพศศึกษา ฉบับอากังฟู (1)

user's Blog!

49/1 ชั้น 4 อาคารบ้านเจ้าพระยา ถนนพระอาทิตย์ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200

49/1 4th floor, Phra-A-Thit Road, Chanasongkhram,Phanakorn Bangkok 10200

Tel. 02 629 2211 #2256 #2226

Email : mars.magazine@gmail.com

FOLLOW US ON

SUBSCRIBE