ซัมเมอร์นี้รู้สึกได้เลยว่าไอร้อนระอุมาแต่ไกล มองไปทางไหนผู้คนก็ดูเร่งรีบไปหมด เส้นทางจราจรหลายเส้นทางคลาคล่ำไปด้วยผู้คน หวังว่าคุณผู้อ่าน Taste จะไม่อิงตามกระแสความวุ่นวายจากโลกภายนอกที่เกิดขึ้น วันนี้อยากขอให้คุณดำเนินชีวิตไปอย่างช้าๆ ดื่มด่ำกับบรรยากาศรอบข้าง เพราะเราจะพาคุณไปปั่นจักรยานรักษ์โลกด้วยกัน
ใจกลางเมืองใหญ่อากาศร้อนอบอ้าว เราปรากฏกายขึ้นที่งาน Bangkok Bicycle Show 2012 & Bangkok Vintage Bicycle Show ครั้งที่ 3 ณ หอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพฯ สถานที่ซึ่งรวบรวมบรรดาสิงห์นักปั่นพร้อมจักรยานคู่ใจมาโชว์ตัวในงานกันอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง
งานครั้งนี้เป็นการรวมตัวของ Bangkok Bicycle Show 2012 และ Bangkok Vintage Bicycle Show ครั้งที่ 3 ที่ทางสมาคมจักรยานเพื่อสุขภาพไทยจัดขึ้น แน่นอนว่า ทั้งสไตล์และการดีไซน์ตกแต่งของแต่ละคัน ย่อมแตกต่างกันออกไปตามรสนิยมของผู้ขี่
สำหรับนักปั่นที่ต้องการผลลัพธ์ในด้านสมรรถนะ มักเลือกจักรยานสมัยใหม่ที่มี High Performance เรื่องโครงสร้าง และวัสดุที่ใช้ผลิต ไม่ว่าจะเป็นไททาเนียม หรือ คาร์บอนเคฟล่า เพื่อความทน เบา และแข็งแรงเป็นหลัก
ในทางกลับกัน ยังมีนักปั่นอีกกลุ่ม ที่เป็นทั้งนักปั่นและนักสะสม สองล้อขับเคลื่อนไม่ใช่เพียงแต่เป็นจักรยานข้างกาย แต่มันเปรียบเหมือนกับสมบัติล้ำค่าของจิตใจ บางคันใช้เวลาประกอบเป็นปี เพราะต้องรออะไหล่จากต่างประเทศ อะไหล่บางชิ้นแทบจะต้องแย่งกันซื้อในราคาที่แม้แต่เจ้าของเองยังไม่อยากพูดถึง เพื่อแลกกับความสุขทางใจ ที่พวกเขาเล่าให้ฟังว่า “คุ้มค่า”
ภายในงานเราได้พบกับ พี่หน่อง จตุรงค์ หิรัญกาญจน์ ที่คนในวงการจักรยานทราบกันดีว่าเขาคือหนึ่งในคนเบื้องหลังที่จัดงาน Bangkok Vintage Bicycle Show สองครั้งที่ผ่านมาจนทำให้กลุ่มจักรยานวินเทจของไทย
พี่หน่องเล่าให้เราฟังว่า “งาน Bangkok Vintage Bicycle show เคยจัดมาแล้ว 2 ครั้งที่ศิลปากร ครั้งแรกที่จัด ก็มีแต่กลุ่มคนเล่นจักรยานในไทยมาร่วมงาน ต่อมาก็มีคนนิยมมากขึ้น รวมไปถึงชาวต่างชาติก็เริ่มให้ความสนใจ ผมว่าจักรยานก็เหมือนเสื้อผ้า มันมีไซส์ มีขนาด ต้องเลือกให้ถูกต้องกับสรีระของผู้ขี่ ต้องรู้ก่อนว่าเราชอบแบบไหน สไตล์ไหน และที่สำคัญผลพลอยได้จากการขี่จักรยานมันไม่ใช่แค่การออกกำลังกาย หรือช่วยลดโลกร้อน แต่มันให้ความรื่นเริงบันเทิงใจ” ชายในเครื่องแบบจักรยาน ทิ้งท้าย
ไม่เพียงแต่ความงดงามของจักรยานวินเทจหลายต่อหลายคันที่ให้ผู้พบเห็นได้ชื่นชม แต่ความภูมิใจของผู้ที่ได้ครอบครอง และได้ชุบชีวิตที่ถูกปลดระวางขึ้นมาใหม่ ด้วยมูลค่าบางคันที่สูงเกือบหลักแสน แต่คุณค่าทางจิตใจในการได้ทำในสิ่งที่รักต่างหากที่อยู่เหนือเงินทอง เราจึงขอเรียกความสุขนี้ว่า “ความสุขบนหลังอาน”
ตะวันตกดิน ผู้คนเริ่มแยกย้าย พร้อมพกพามิตรภาพ ความทรงจำ ของงานในวันนี้ซ้อนจักรยานกลับบ้าน ระหว่างโบกมือลาจากนั่กปั่นท่านหนึ่ง เขาทิ้งท้ายกับเราว่า “เสียตังค์ซื้อจักรยานคันละเป็นหมื่น ดีกว่าเสียค่าหมอเป็นแสนในอนาคต” Taste หวังว่าคุณจะเป็นอีกหนึ่งสมาชิกใหม่ ที่หันมาปั่นจักรยาน เพื่อสุขภาพที่แข็งแรง ควบคู่กับลดโลกร้อนเพื่อลูกหลาน และสิ่งมีชีวิตในอนาคต
ขอบคุณข้อมูลจาก : ทีมนักปั่นบ้าน Craft