เสียแรงบ่น เสียแรงแดกดันกันไปยกใหญ่ สำหรับ Marvel What If…? ซีรีส์ Animation จากทาง Marvel Studio ที่เผยแพร่ผ่านทางบริการ Streaming Disney+ ตัวซีรีส์ที่สร้างขึ้นมาด้วยแนวความคิดที่ว่า “ถ้าเป็นแบบนี้….แล้วจะกลายเป็นแบบไหน”
โดยหลังจาก EP แรกปล่อยออกมาให้แฟนๆ MCU ได้ดู ได้ชมกันเรียบร้อยแล้ว เรียกว่าไม่ต้องรอครบวันครบ 24 ชั่วโมงละครับ สารพัดเสียงสะท้อนที่มีต่อ “What if…?” ของ Marvel ก็ล้นหลามเต็ม Social Media ไทย และที่สำคัญคือมันเต็มไปด้วยเสียงสะท้อนในแง่ลบ เปลี่ยนน้อย,ไม่รู้สึก,แค่นี้เองเหรอ,น่าเบื่อ ฯลฯ และอีกสารพัดคำตำหนิในเชิงลบที่มีต่อ เรื่องราวของ “What If… Captain Carter Were the First Avenger?” ซึ่งเป็นตอนแรกของซีรีส์ Marvel What if?
แต่พอ What if? เดินทางมาถึงตอนที่ 2 ต้องบอกว่าใครเคยสบประมาทซีรีส์ชุดนี้เอาไว้ โดยเฉพาะประเด็นเรื่อง “ไม่เห็นเปลี่ยนเลย” ผมว่าอาจจะต้องเก็บคำบ่นลบเหล่านั้นเอาไว้ก่อนนะครับ เพราะยก2 ของซีรีส์การ์ตูนจาก Marvel ชุดนี้ เขาเปลี่ยนฟอร์ม เปลี่ยนทาง ชนิดหน้ามือเป็นหลังมือเลยละครับ
ตามที่ชื่อตอนบอกเลยครับ “What If… T'Challa Became a Star-Lord?” “จะเกิดอะไรขึ้นถ้า…ทีชาล่ากลายเป็น สตาร์ลอร์ด” แค่โจทย์ต้นทางผมว่าเราก็พอจับสัญญาณถึงความเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นมันยังไงซะก็น่าจะมากมายกว่าเรื่องของ Captain Carter ในตอนแรกที่เป็นการสลับตัวละครที่อยู่ในหนังเรื่องเดียวกัน ทำนองว่าเปลี่ยนนางเอกมาเป็นตัวนำแทนพระเอกอะไรแบบนั้น แต่กับตอนที่ 2 ครั้งไม่ใช่ครับ มันคือการ “สลับตัวละครหลัก” ของหนัง 2 เรื่องกันเลยทีเดียวครับ
“What If… T'Challa Became a Star-Lord?” เล่าเรื่องย้อนกลับไปตั้งแต่ปี 1988 ตั้งแต่สมัยทีทีชาล่ายังเป็นเด็กอยู่ โดยให้ตัวละครพูดชัดๆ เลยครับว่าด้วยวัยนั้น ทีชาล่ารู้สึกว่า การต้องอยู่ใน Bubble and Seal ในวากานด้า
นั้นมันช่างไม่สนุกเอาซะเลย นั่นก็เลยเป็นเหตุให้เด็กน้อยฝ่าฝืนคำสั่งพ่อแล้วออกมานอกม่านพลังของวากานด้า แล้วแกก็ยังไปไหนไม่ได้ไกลละครับออกมาได้แป๊บๆ ก็โดนพวกของยอนดู ออนดูต้า และพวกราเวนเจอร์มาจับตัวไป โดยให้เหตุผลแบบทื่อๆ เลยครับ ลูกน้องมันจับเด็กมาผิดคน (คือจริงๆ ก็ตั้งใจมาจับปีเตอร์ ควิลล์ ตามเนื้อเรื่องเดิมนั่นแหละ แต่ลูกน้องยอนดูมันบอกว่ามนุษย์โลกก็หน้าตาคล้ายๆ กันไปหมด) แต่อย่างไรก็ตาม นั่นแหละครับที่กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของ What…If? ครั้งนี้
ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นเพราะยอนดูลักพาตัวทีชาล่าไป แทนที่จะลักพากตัวปีเตอร์ ควิลล์) มันกลายเป็นการเปลี่ยนที่นำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงอย่างมหาศาลละครับ และในคำว่า “มหาศาล” ที่ว่า มันทำให้ What…If? ตอนนี้ แตกต่างจากตอนของกัปตันคาเตอร์ อย่างสิ้นเชิงครับ เพราะในขณะที่เรื่องราวการกลับตัวคนฉีด Super Soldier Serum เรื่องราว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันเป็นการเล่าโดยอาศัยโครงสร้างเรื่องของ Captain America The First Avengers เอามาย่นย่อลงในซีรีส์ความยาว 30 นาทีกว่าๆ แต่กับเรื่องของทีชาล่า คราวนี้เขาเล่าเรื่องที่แทบจะเขียนขึ้นมาใหม่ทั้งหมดครับ
การเล่าเรื่องที่เขียนขึ้นมาใหม่เพื่อตอนนี้โดยเฉพาะ นั่นเป็นเหตุผลสำคัญครับที่ทำให้ What…if? ในตอนนี้มีเรื่องราวที่เหมาะสมกับความยาวที่มันควรจะเป็น ปัญหาที่เกิดขึ้นใน EP แรก อย่างการเล่าเรื่องที่รวบรัดเกิดไป ราวกับการดู Clip Recap หายไปหมด 100% จากการดูตอนที่ 2 นี้ ด้วยการเลือกเล่าเรื่องของภาระกิจสั้นที่พวกของทีชาล่าต้องไปทำ ประกอบกับชั้นเชิงในการหักมุม หลอกกันไปมาได้อย่างน่าติดตาม และนั่นทำให้เราในฐานะคนดู เริ่มรู้สึกมีความหวังกับ What…if ? ขึ้นมาอีกครั้งครับ
แต่ยิ่งกว่าเรื่องของความสั้นยาวที่เหมาะสม เรื่องที่ชวนติตาม ประเด็นที่ Marvel Studio ทำได้ดีมากๆ คราวนี้ก็คือเรื่องความเปลี่ยนแปลงครับ เพราะการเปลี่ยนสตาร์ลอร์ด เป็นทีชาล่า มันส่งผลกระทบ และสร้างความเปลี่ยนแปลงได้ระดับที่เปลี่ยนไปทั้งจักรวาลละครับ
ไอเดียการความเปลี่ยนแปลงในEPเรียกว่าเกรดAเลยละครับ โดย Marvel เล่าในทำนองที่ว่า “ถ้าคนคิดดีอย่างทีชาล่า เจอกับใครหลายๆ คนตั้งแต่ต้น หลายอย่างจะไม่ลงเอยอย่างที่เราเคยเห็น” นั่นละครับมันนำมาซึ่งจุดเปลี่ยนที่โดนที่สุดจุดหนึ่งของตอนละครับ ที่เราได้เห็นว่าไอ้คนที่เคยคิดจะล้างจักรวาล แต่พอได้เจอทีชาล่า เขากลับทำให้มันเปลี่ยนความคิดได้ และเลือกจะเกษียณ อายุตัวเองไปเป็นเกษตรกร ซะก่อนที่จะลงมือทำอะไรทั้งสิ้น
สุดท้ายมันก็ลงเอยอย่างที่หลายคนเขาว่าไว้จริงๆ ครับว่า “อย่างเพิ่งตัดสินอะไรจากแค่ EP แรก” เพราะสุดท้าย Marvel What if ? มันก็ทำหน้าที่สร้างสรรค์จักรวาลคู่ขนานที่น่าสนใจ และชวนติดตามขึ้นมาได้จริงๆ ครับ ดังนั้น ต้องบอกว่า “What If… T'Challa Became a Star-Lord?” ตอนนี้คือตอนเรียกศรัทธาของจริง และมันคือ What if ? ที่กระตุ้นให้เรารู้สึกอยากดูอีก 7 ตอนที่เหลือขึ้นมาอย่างมหาศาลละครับ
และที่สำคัญ What…if ? ตอนนี้ ถึงตลอด 30 นาทีมันจะสนุกสนาน ตื่นเต้น แปลกใจ ขนาดไหนก็ตาม ลงท้ายแล้วผมว่า 100 ทั้ง 100 ละครับ มันทำให้ทุกคนที่ไม่ว่าจะเป็นแฟน MCU หรือไม่ก็ตามมันแอบทำให้เรารู้สึกราวกับว่าแชดวิก โบสแมน ทีชาล่า ของพวกเรานั้น…ยังไม่ได้จากไปไหน
Text By จีนViewfinder
Source : Disney+Hotstar
