ลัดสันเขาไปนอนนับดาว 'แม่เมย'


ลัดสันเขาไปนอนนับดาว “แม่เมย”
เรื่อง/ภาพ ก้าวยาว
Neopan_oofside@hotmail.com

    หากใครสักคนกำลังฝันหวานถึงทางเรียบ การเดินทางใกล้ ความหรูหรา ผมอยากบอกตรงนี้ว่าอาจเป็นฝันร้ายของคุณ!! เพราะนี่เป็นทริปเดินทางไกล ผ่านความคดเคี้ยวบนสันเขา ไม่มีเงาของรีสอร์ตหรูหรา มีแต่ความสวยงามจนเกินความจำเป็นของขุนเขา เส้นทางที่รายล้อมไปด้วยไอหมอก เตียงนอนแค่เพียงแหงนหน้าก็เจอหมู่ดาว แล้วอีกหลากเหตุผลที่คอลัมน์ Destination ไม่อาจบอกหมดในบรรทัดเดียว กับการเดินทางรอนแรมใช้ชีวิตกลางแจ้งรับลมหนาว…

      ถ้าคุณเป็นผู้โดยสารของทริปที่กำลังจะหันหลังให้เมืองหลวงแล้วมุ่งหน้าสู่แม่เมย ขอแนะนำให้คุณนอนพักผ่อนยาวๆ ไปก่อนเลย เพราะหนทางข้างหน้ายังอีกยาวไกล ส่วนใครที่แพ้ทางโค้งก็เตรียมเอนหลังกินยาแก้เมาหรือแกล้งนอนหลับได้เลยครับสำหรับทางช่วงขึ้นเขาไปยังอุทยานฯแม่เมย
   เวลาคร่าวๆ ที่ล้อจะหมุนจนถึงปลายทาง คือประมาณ 11-12 ชั่วโมง ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับประสบการณ์การขับขี่บนภูเขา แต่รับรองว่าคุ้มค่ากับเวลาที่เสียไประหว่างทาง เพราะแม่เมย ซ่อนทะเลหมอกงดงามที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทยไว้ในอ้อมอก ประกอบกับหุบเขาแถวนี้ได้รับอิทธิพลลมจากพม่าจึงทำให้มีความชื้นสูง ฝนตกบ่อย เป็นป่าต้นกำเนิดของลำน้ำแม่เมยและอากาศเย็นสบายตลอดปี

    บางครั้งเส้นทางวกวนก็ทำร้ายคนเมืองจนเหงื่อตกเหมือนกันครับ…กว่าจะถึงปลายทาง ที่นี่มีทั้งบ้านพักในอุทยานให้เลือกหลากหลายขนาด ทั้งแบบมาเป็นหมู่คณะหรือครอบครัว แต่ถ้าอยากสัมผัสม่านหมอกอย่างใกล้ชิดก็สามารถเลือกกางเต็นท์ได้ในบริเวณลานกางเต็นท์ที่ทางอุทยานฯจัดสรรไว้ให้
  เพราะถ้าคุณเลือกนอนเต็นท์นั้นหมายความว่าจะมีดวงดาวและความหนาวเหน็บ เป็นเพื่อนตลอดคืนจนผ่านพ้นราตรีที่สายหมอกจะออกมาเริงร่ารับอรุณต้อนรับคุณยามเช้า เป็นความสุขที่ไม่มีทางตามหาเจอในเมืองกรุงที่ถูกปรุงแต่งด้วยความศิวิไลซ์ นี่คือไฮไลต์ของการมาอุทยานฯแม่เมย เอ่อ…เกือบลืมครับ สำหรับคอกาแฟ การได้ตื่นเช้าๆ มานั่งจิบกาแฟท่ามกลางสายลมสายหมอก ในอ้อมกอดจากหุบเขา ย่อมดีกว่านั่งจิบกาแฟซึมซับความเย็นจากแอร์ในร้านคอฟฟี่ชอปเป็นแน่ครับ
อรุณสวัสดิ์แม่เมย...
    ด้วยเสียงส่วนมากกับเวลาที่เรามาถึง จึงมีข้อตกลงว่าขอเลือกนอนบ้านในอุทยานฯเพื่อพักให้หายเหนื่อยจากการเดินทางก่อนที่ความอ่อนล้าจะทำให้หมดสนุกดีกว่า เช้าตรู่วันใหม่กับการรอคอยก็สิ้นสุดลง นักเดินทางขับรถฝ่าสายหมอกในความมืดเพื่อขึ้นไปชมพระอาทิตย์ขึ้นยัง “ม่อนกิ่วลม” เพียง14 กม.จากอุทยานฯ ก็จะได้สัมผัสทะเลหมอกหยอกล้อกับเนินเขาในฉับพลันที่สายลมพัดผ่านเรือนกาย โมงยามแบบนี้ต้องรีบหาคนกอด (ถ้ามี)… วิวเบื้องหน้าจะสะกดสายตาทุกคนที่มาเยือนให้ยืนนิ่งดังต้องมนต์


   ถ้ามีเวลาในแม่เมยอีกหนึ่งวัน “ม่อนครูบาใส” คืออีกหนึ่งจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่งดงามไม่แพ้ที่ไหนในแม่เมยเช่นกัน กับภาพพาโนรามาเบื้องหน้าที่ไม่มีอะไรสิ่งใดกีดขวางสายตาคุณ แถมยังมีระยะห่างจากที่ทำการอทุยานฯเพียง 7 กม. เท่านั้น ในขากลับจากการชมพระอาทิตย์ขึ้น ระหว่างทางมักมีรางวัลให้แก่นักเดินทางเสมอ กับน้ำตกแม่ระเมิง ที่แม้จะไม่ยิ่งใหญ่อะไร เป็นเพียงสายน้ำเล็กๆ ที่แทรกผ่านหินสีน้ำตาลมายังเบื้องล่าง แต่ก็งามมากพอที่จะทำให้ผู้มาเยือนหยุดถ่ายภาพ

  สุดยอดแห่งความโรแมนติกของแม่เมย ผมขอยกให้ “ม่อนพูนสุดา” ในบรรยากาศก่อนไอหนาวราตรีจะมาเยือน ยามเย็นในม่อนพูนสุดา มองไปทางไหนจะอบอวลไปด้วยความโรแมนติกที่เกิดจากความบังเอิญหรือใครตั้งใจก็ไม่อาจทราบ เพียงแว้บ!!แรกที่เรามาถึง เจ้าเก้าอี้ไม้ตัวยาวก็วางท่าเชื้อเชิญคนต่างถิ่นให้ลองนั่งมันภายใต้เงาต้นไม้ใหญ่ รับสายลมเย็นๆ จากหุบเขาเพื่อเติมเต็มให้สองเราใต้แสงสุดท้ายจากท้องฟ้า ซึ่งเพียงทอดสายตาไปตรงหน้า เวลาก็แทบจะหยุดนิ่ง…..

Tips by destination

อุทยานแห่งชาติแม่เมย อ.ท่าสองยาง จ.ตาก สนใจติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและจองบ้านพักได้ที่
โทร.0-5551-9644-5 หรือโทร.0-2562-0760 www.dnp.go.th
อ.แม่เมยสามารถเที่ยวได้ตลอดปี เพราะอากาศเย็นสบายตลอดปี ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือประมาณเดือน ธ.ค.-ก.พ.
การเดินทางจาก กทม.-ตาก-แม่สอด ระยะทางประมาณ 500 กม. จาก อ.แม่สอด ใช้ทางหลวงหมายเลข 105 (แม่สอด-แม่สะเรียง) ถึงทางแยกแม่สลิดหลวง เลี้ยวขวาตามทางหลวงหมายเลข 1267 (แม่สลิด-อมก๋อย) ถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติแม่เมย ระยะทางรวมจาก กทม.ถึงอุทยานแห่งชาติแม่เมย 625 กม.

No Comments Yet

Comments are closed

user's Blog!

49/1 ชั้น 4 อาคารบ้านเจ้าพระยา ถนนพระอาทิตย์ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200

49/1 4th floor, Phra-A-Thit Road, Chanasongkhram,Phanakorn Bangkok 10200

Tel. 02 629 2211 #2256 #2226

Email : mars.magazine@gmail.com

FOLLOW US ON

SUBSCRIBE