บุกสนามยูโร : รักฉัน อย่าลืมเที่ยวฉัน..โปแลนด์-ยูเครน

เดือนนี้ คงได้เห็นใครหลายคนตาโหลเป็นแพนด้า เพราะรอดูศึกฟาดแข้งของชาวยุโรปที่ชาวโลกตั้งตาดูในบอลยูโร 2012 รอบนี้ประเทศเจ้าภาพร่วม เปิดบ้านรับการมาเยื่อนของแฟนบอลและนักท่องเที่ยวทั่วโลก ในโอกาสนี้ใครอยากเที่ยวตามติดที่ขอบสนามก็จองตั๋วได้เลย

โปแลนด์

วอร์ซอร์ (Warsaw)

วอร์ซอร์เมืองเก่าของเขาแต่ก่อน อยากบอกว่าชาวเมืองนี้เขาผ่านร้อนผ่านระเบิดมาไม่น้อยกว่าอยุธยาบ้านเรา แต่เขารักษาบ้านเกิดเมืองของเขาได้เป็นอย่างดีจนขึ้นทะเบียนมรดกโลกปี 1980 ไม่ว่าจะเป็นปราสาทอดีตที่ประทับของดยุกและซาร์ผู้ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาปกครองโปแลนด์ ที่พำนักของประธานาธิบดีปี 1918-1939 ย่านจตุรัสเมืองเก่า Rynek Starego Miasta หรือจะเป็นย่านสวน Lazienki ที่ตั้งของพระราชวังกลางน้ำ
สำหรับใครที่เข้าไปจองตั๋วดูบอลในสนามไม่ทัน เขาได้ติดตั้งจอยักษ์ไว้ที่จตุรัส Plac Defilad ข้างสถานีรถไฟ ถ่ายทอดสด 31 นัดสำคัญและมีกิจกรรมเอนเตอร์เทนตลอดงาน

National Stadium Warsaw
สนามกีฬาแห่งชาติวอร์ซอ เพิ่งเปิดตัวเมื่อปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา เป็นสนามแรกที่แฟนบอลได้เห็นในการแข่งขัดนักแรกรอบ 16 ทีมสุดท้าย ในนัดเปิดสนามระหว่างโปแลนด์-กรีซ จุแฟนบอลได้มากกว่าห้าหมื่นชีวิต

วรอตสวาฟ (Wroclaw)

เรียกเร็วๆ ว่า วรอต-ซอฟ ว่าที่เมืองหลวงแห่งวัฒนธรรมยุโรปปี 2016 ได้รับการขนานนามว่าเป็นเวนิสแห่งโปแลนด์ เมืองสวยที่เริ่มก่อสร้างตัวบนเกาะ Ostrow Tumski เหนือแม่น้ำโอตรา ขยายออกสู่บริเวณรอบข้างและเชื่อมด้วยสะพานกว่า 112 แห่ง จากประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน วรอตสวาฟจึงมีทั้งกลิ่นอายแบบชาวโปล โบฮีเมียน ออสเตรีย และเยอรมัน ผสมผสานอยู่ เห็นได้จากทั้งสถาปัตยกรรมแบบเก่าและใหม่ ศิลปวัฒนธรรม ความเป็นอยู่ของผู้คน จุดเด่นอยู่ที่มหาวิหาร Cathedral of St John the Baptist และย่านมาร์เก็ตสแควร์ หรือที่เรียกกันว่า Rynex ซึ่งเป็นจตุรัสหลักของเมือง ศึกยูโร 2012 ทางเมืองยังจัดให้มาร์เก็ตสแควร์แปรสภาพเป็นโซน มีจอยักษ์ 3 จอมาถ่ายทอดสดทุกแมตซ์ แถมไลฟ์คอนเสิร์ตและกิจกรรมให้ร่วมสนุกมากมาย

Municipal Stadium Wroclaw

เห็นแล้วให้นึกถึงโคมไฟจีน เพิ่งเปิดใช้เมื่อกันยายนปีที่แล้ว จุแฟนบอลได้มากกว่าสี่หมื่นคน

พอซนัน (Pozan)

ตั้งอยู่บน 2 ฝั่งของแม่น้ำวาร์ตาหนึ่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุดของโปแลนด์ และ มีความเจริญรุ่งเรืองสูงสุดในฐานะเป็นศูนย์กลางของการค้าที่สำคัญของทวีปยุโรป ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 15-17 ได้ เสื่อมโทรมลงเนื่องจากการเกิดสงคราม เกรตนอร์เทิร์น ปี 1700 ได้ตกเป็นของ ปรัสเซียร์ แต่ใน ปี 1793 ก็ได้เป็นส่วนหนึ่งของรัฐแกรนด์ดัชชีออฟวอร์ซอ และเปลี่ยนมาเป็นของปรัสเซียและกลับมาเป็นของโปแลนด์ใน ปี 1918ปัจจุบันพอซนานเป็นเมืองที่ใหญ่ติดอันดับ 5 ของโปแลนด์ เป็นศูนย์กลางการค้า อุตสาหกรรม และการศึกษา เป็นสถานที่จัดงานด้านการค้านานาชาติ เขตเมืองเก่าบนเกาะที่เรียกว่า Ostrow Tumski เป็นที่ตั้งของมหาวิหารหลายแห่ง อาทิ Cathedral of St Paul Church of St.Mary the Virgin in Summo และบริเวณศาลาเมืองเก่า นาฬิกาโบราณ และอาคารในยุคกลางมากมาย

Municipal Stadium Pozan

สนามพอซนันแห่งนี้นั้นใกล้กับสนามบิน มีชื่อเสียงโด่งดังมากเรื่องบรรยากาศที่สวยงาม ซึ่งได้มีการสร้าง และปรับปรุงสนามครั้งใหญ่และก็ทำให้เป็นสนามระดับสโมสรที่ใหญ่ที่สุดในโปแลนด์

กดังส์ค (Gdansk)

เมืองกดังส์ ถือว่าเมืองศูนย์กลางด้านเศรษฐกิจ วัฒนธรรม และแหล่งท่องเที่ยว เมืองนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลโปแลนด์ โดยมีการร่างต้นฉบับแบบเมืองไว้ตั้งแต่ปีค.ศ. 1343 (พ.ศ.1886) ชาวโปลจึงได้สร้างเมืองขึ้นใหม่ตามแบบสถาปัตยกรรมในร่างต้นฉบับเมืองเดิม และเป็นผลสำเร็จหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สถานที่มีคุณค่าควรแก่การไปเยี่ยมชมคือ โบสถ์ใหญ่ศิลปะแบบโกธิคมีชื่อว่า โบสถ์เซนต์ แมรี่ สร้างขึ้นในปี 1502 นับว่าเป็นสถานที่กำเนิดของยุโรปกลางใหม่ เนื่องจากสายลมแห่งการเปลี่ยนแปลงได้พัดผ่านที่นี่ ด้วยการก่อหวอดสไตรค์ของคนงานจากอู่ต่อเรือเลนิน และต่อมาได้มีการจัดตั้งกลุ่มโซลิดาริตี้ นำโดยนายเลคาเวนซา เหตุการณ์นี้ถือว่าเป็นแห่งแรกที่การดำเนินการเรียกร้องใดๆของกลุ่มคนงานสามารถทำได้อย่างเสรี ด้วยเหตุนี้เมืองกดังส์จึงถูกขนานนามว่าเป็นมืองแห่งเสรีภาพ วงแหวนของเมืองเต็มไปด้วยเสียงเซ็งแซ่หลากหลายภาษาของนักท่องเที่ยวที่มาจากทุกมุมโลก

Arena Gdansk

พีจีอี อารีน่า เมือง กดังส์ค และเป็นสนามเหย้าของสโมสร ลีเชีย กดังส์ค โดยสนามนี้มีชื่อเดิมคือ “บัลติค อารีน่า” ใช้งบประมาณในการเนรมิตสนามกีฬาที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศ ทั้งหมดราว 187 ล้านยูโร

ยูเครน

เคียฟ (Kiev)

เรียกได้ว่าเป็นอู่อารยธรรมของยุโรปตะวันออกอีกแห่งหนึ่ง ทันสมัยไม่แพ้ใคร สอดแทรกวิถีที่สืบทอดมาจากสหภาพโซเวียต ทำให้กลายเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ เคียฟเป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศยูเครน ตั้งอยู่ภาคกลางตอนเหนือของประเทศ ริมฝั่งแม่น้ำนีเปอร์ (Dnieper) เคียฟเป็นศูนย์กลางที่สำคัญของอุตสาหกรรม วิทยาศาสตร์ การศึกษา และวัฒนธรรมของยุโรปตะวันออก ชื่อของเคียฟมาจากชื่อ คยี (Kyi) ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่ผู้ก่อตั้งเมืองตามตำนานซึ่งได้แก่ คยี (Kyi) เชค (Shchek) โคริฟ (Khoryv) และลีบิด (Lybid) ซึ่งเป็นพี่น้องกัน นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ชอบไปเดินทอดน่องที่ Khreshchatyk ถนนกลางเมือง และย่านถนน Andriyivski Uzviz ที่ทิวทัศน์บรรยากาศน่าเดินเล่นไม่แพ้กัน

Olympic Stadium Kiev
โอลิมปิก สเตเดี้ยม กรุงเคี๊ยฟ เคยถูกเลือกให้เป็นหนึ่งเมืองที่ใช้ในการแข่งขัน โอลิมปิก 1980 แต่ตัวสนามสร้างตั้งแต่ปี 1923 ส่วนชื่อโดนเปลี่ยนถึง 10 หน ความจุล่าสุดคือ 70,050 คน

คาร์คีฟ (Kharkiv)

เมืองใหญ่อันดับสองของยูเครน เป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรม การศึกษา คมนาคม วิทยาศาสตร์ และอุตสาหกรรมจักรกล มีจุดท่องเที่ยวน่าสนใจหลายแห่ง เช่น ย่านจตุรัสเสรีภาพ Ploshacha Svobody จตุรัสใหญ่อันดับ 9 ของโลก ย่านสวน Shevchenko Park ที่ตั้งสวนสัตว์ที่ดังที่สุดในยูเครน มหาวิหารศิลปะแบบตุรกี Blahovishchenskiy Cathedral

Metalist Stadium
โอบลาสต์ สปอร์ตส์ คอมเพล็กซ์ เมทัลลิสต์ คือสังเวียนของรอบแรก กลุ่ม บี ระหว่าง ฮอลแลนด์ – เดนมาร์กอัฒจันทร์ด้านใต้ ที่มีการปรับปรุงใหม่เพื่องานนี้ ยังถูกสร้างให้เป็นห้างสรรพสินค้า 3 ชั้น

ลูวีฟ ( Lviv)

ลูวีฟ เมืองประวัติศาสตร์ซึ่งเต็มไปด้วยมนเสน่ห์ เป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรมและภาษา อยู่ห่างจากชายแดนโปแลนด์ เพียง 70 กิโลเมตร และเป็นเมืองที่มีจำนวนประชากรประมาณ 800,000 คน ตั้งอยู่ท่ามกลางขุนเขาทางตะวันตกสุดของประเทศยูเครน ใกล้กับพรมแดนประเทศโปแลนด์ และนับได้ว่าเป็นเมืองที่มีชาวโปแลนด์อาศัยอยู่มากที่สุดในยูเครน นอกจากนี้ยังมีชาวยิวอาศัยอยู่ร่วมกันกับชาวยูเครนที่เป็นชนส่วนใหญ่ของเมืองอีกด้วย สาเหตุก็เนื่องมากจากเมืองนี้เป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งมีการอพยพของผู้ลี้ภัยสงครามข้ามผ่านไปมาในแถบนี้อยู่เสมอๆ จึงทำให้ลวีฟเป็นเมืองที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมสูงมากเมืองหนึ่งในยุโรป

Arena Lviv
ลูวีฟ คือบ้านของสโมสร คาร์ปาตี้ ทีมฟุตบอลซึ่งเป็นที่คุ้นเคยกันดี พวกเขาเคยปั้นนักเตะอย่าง โอเล็ก ลุซนี่ย์ อันเดร ฮูซิน และ ดีมีโทร ชีกรีนสกี้ เดิมที คาร์ปาตี้ มี ยูเครน่า ความจุ 28,000 คน

โดเน็ตสค์ (Donetsk)
โดเน็ตสค์ คือเมืองสำคัญที่สุดในภูมิภาคดอนบาส ซึ่งป็นชื่อย่อของ โดเนสกี้บาซิน ที่มีความหมายว่า “ที่ราบลุ่มโดเนตสค์” ปัจจุบันโดเน็ตสค์มีประชากรเกือบ 1 ล้านคน ตัวเมืองเติบโตมาจากการเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมเหมืองแร่ แม้กระทั่งปัจจุบันนี้ โดเน็ตสค์ก็ยังคงเป็นเมืองอุตสาหกรรมเหมืองแร่ที่สำคัญที่สุดของยูเครน มีชื่อเสียงเรื่องถ่านหิน โดย ชัคตาร์ โดเน็ตสค์ ก็หมายถึง คนขุดแร่ถ่านหินจาก โดเน็ตส์ค

Donbass Arena
ความจุ 52,000 คน เป็นบ้านของ ชัคตาร์ โดเน็ตสค์ หนึ่งในสโมสรเก่าแก่ และประสบความสำเร็จมากสุดของยูเครน หลังคามีลักษณะคล้ายจานบิน ลาดจากทิศเหนือไปทิศใต้ เพื่อเอื้อต่อการรับแสง และลมธรรมชาติ

ขอบคุณข้อมูลจาก