'เด็กสาว' ของฟ้า พูลวรลักษณ์


ฟ้าอาจกว้างใหญ่ไพศาลไม่รู้จบ หลากสีสันแปรเปลี่ยน บางครั้งทาบทาด้วยหยาดสายรุ้งกินน้ำ บ้างหม่นหมองเศร้าสร้อยมิรู้คลาย บ้างหลั่งน้ำตาชโลมดินให้ชุ่มฉ่ำ แต่ฟ้าก็ยังคงเป็นฟ้ามิเปลี่ยนแปลง และไม่อาจพังทลายย่อยยับด้วยเจตนาของตัวเอง ดังเช่น “เด็กสาว” (Bloom) ผลงานกำกับภาพยนตร์เรื่องแรกของ ฟ้า พูลวรลักษณ์ นักเขียนผู้มีอารมณ์ทั้งลุ่มลึกและกว้างใหญ่ดังชื่อ “รอยยิ้มแห่งมิตรภาพ หยาดน้ำตาจากการแข่งขัน ความผูกพันระหว่างเด็กสาว การผลิบานของวัยแรกแย้ม…..ทุกเรื่องราว ทุกความรู้สึก เกิดขึ้นท่ามกลางสายน้ำที่ไหลรินอย่างไม่มีวันหวนคืน” จัดเป็นหนังไทยทางเลือกอิสระ ที่ฟ้าในวัยหกทศวรรษประพันธ์ขึ้นเมื่อครั้งยังเป็นเรื่องสั้นเรื่องแรกเช่นเดียวกับภาพยนตร์

“สู้เขาสิ อ้อ” คือชื่อเรื่องสั้นเรื่องนั้นในรวมเล่ม “7 เรื่องสั้นของฟ้า” เนื้อความแสดงความงดงามของการแข่งขัน ความสดใสของเด็กสาวในวัยแรกแย้ม และสายน้ำ เรื่องราวของเด็กสาว 5 คน ที่เป็นเพื่อนรักกันมาตั้งแต่อนุบาล ชีวิตพวกเธอเติบโตขึ้นท่ามกลางสายน้ำที่จังหวัดอยุธยา เติบโตมาพร้อมกัน เรียนรู้ในสิ่งเดียวกัน หากแต่มีบางสิ่งบางอย่างที่ไม่เหมือนกัน บางคนมีปมในใจ เพราะบางคนไม่มีพ่อแม่ แต่ที่มีแน่ๆ คือความฝัน ช่วงเวลาสุดท้ายแห่งการเป็น เด็กสาว พวกเธอตั้งใจทำสิ่งหนึ่งร่วมกัน นั่นก็คือ การแข่งเรือ ชัยชนะอาจเป็นจุดมุ่งหมายของเด็กสาวทั้ง 5 แต่ชัยชนะไม่ใช่คำตอบทั้งหมด นี่คือช่วงเวลาสุดท้ายของดอกไม้ดอกตูม ที่จะได้ใช้ชีวิตในวัย “เด็กสาว” ก่อนจะผลิบานเป็น “สาวน้อย” 
ฟ้า พูลวรลักษณ์-เป็นชื่อที่คุ้นหูคุ้นคอวรรณกรรมมายาวนาน นับเป็นหนึ่งในศิลปินรุ่นใหญ่ในเมืองไทย ที่มีผลงานสู่ผู้อ่านมากมาย และที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด ก็คือ “โรงเรียนที่เงียบที่สุดในโลก” ที่ได้เข้าชิงรางวัลซีไรต์ สาขานวนิยาย ในปี 2552 และสามารถผ่านเข้ารอบสุดท้ายได้ ในเด็กสาว ฟ้า เป็นผู้กำกับภาพยนตร์ และเขียนบท ถ่ายทอดจากประสบการณ์จริง

“ครั้งหนึ่งผมมีโอกาสได้รู้จักน้องผู้หญิงคนหนึ่ง เขามีบ้านเกิดอยู่ที่จังหวัดอยุธยา ชื่ออ้อ เราได้คุยกันในช่วงเวลาหนึ่ง เธอเล่าเรื่องราวที่เคยไปแข่งเรือ ทั้งที่เล่าไม่เยอะ ผมก็ยังจินตนาการ ต่อเติมไปเรื่อย เรื่องเล็กๆ นี้ยังประทับอยู่ในจิตใจของผม และต่อมาก็กลายเป็นเรื่องสั้นเรื่องแรก ผมรู้สึกถึงการเคลื่อนไหว และชีวิตชีวา คิดว่าวันใดที่ผมสร้างหนัง ผมก็จะสร้างเรื่องนี้เป็นเรื่องแรก ผมอยากลองถ่ายทอด บอกเล่าผ่านสิ่งที่เรียกว่าภาพยนตร์บ้าง ผมภูมิใจมากกับหนังเรื่องแรกนี้ ผมทุ่มเวลากับมันไปมาก เพราะอายุอานามก็มากแล้ว ก็เลยทำให้ใช้เวลาถ่ายทำนานไปหน่อย คิดว่าไปเรื่อยๆ ไม่เร่งรีบ”

ไม่ใช่เรื่องของความแตกต่างทางเพศระหว่างเด็กชายและเด็กสาว ฟ้าบอกว่า เด็กสาวอาจจะซนน้อยกว่า แต่ประเด็นไม่ได้อยู่ตรงนี้ มันอยู่ที่ความสดใสในวัยเด็ก พลัง มิตรภาพ เพื่อนสำคัญที่สุด เพราะกิจกรรมหลักของเด็กวันนี้คือการเล่น การแข่งขันที่มีเรื่องของสายน้ำ ชีวิตเป็นเสมือนธารที่คดเคี้ยวและการแข่งขัน ในหนังบอกถึงเหตุการณ์วัยเด็กที่หลายคนอาจเคยมีความรู้สึกร่วม และจบอยู่ที่ตรงนั้น มันเหมือนกับว่า นี่คือฉากสุดท้ายในวัยเด็กที่ทุกคนต่างรู้ว่า มันจะไม่มีอะไรแบบนี้อีกแล้ว ความสุขมันจบลงแล้วหรือ

“ความสุขมันไม่ได้จำกัดอยู่ที่วัย เพราะในแต่ละวัย ความสุขนั้นมีแตกต่างกัน วัยชราก็ยังมีความสุขได้ในความสงบ เยือกเย็น แต่วัยเด็กนี่มันแตกต่าง เพราะมันมีเอ็นเนอยี มีพลัง ความร่าเริง เพราะอนาคตเราไม่รู้จะต้องเจออะไร เราเพิ่งตื่นขึ้นมาดูโลกเพียงไม่กี่ปี คุณคงไม่ได้คิดนักหรอกว่า โตแล้วฉันจะทำอะไร หรืออาจจะวาดฝันไว้สวยงาม และเล่นให้มาก วัยชราฉันจะเป็นอย่างไร สิ่งเหล่านี้เป็นเหมือนพลัง”

หนังเรื่องนี้ถ่ายทำนานกว่า 3 ปี ซึ่งอาจมากเกินไปสำหรับภาพยนตร์เรื่องหนึ่ง ด้วยวัยขนาดนี้ ฟ้า ยังมีแรงที่จะทำมันอย่างตั้งใจ ด้วยความรักสายน้ำ และรักในความสดใสร่าเริงของเด็ก การทำงานในสิ่งที่รักนี้จึงเป็นพลังอย่างหนึ่งของฟ้า บวกกับพลังของศิลปินที่มักจะสื่อนัยซ้อนอยู่ในถ้อยความ

“ผมมักจะบอกผู้คนว่าอยากให้มาดู ดีไม่ดี ชอบไม่ชอบก็บอกกันได้ครับ เด็กสาวเป็นเพียงเรื่องเล่า มีความสวยงามอยู่ในตัว การตีความเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตามแต่ปัจเจกบุคคลอยู่แล้ว มันเป็นเรื่องของรสนิยม ความชอบส่วนบุคคลอยู่แล้วครับ ผมชอบที่จะรับฟังความคิดเห็นของผู้คน ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร แม่ค้า ครู พนักงานออฟฟิศ ผมเชื่อว่าทุกคนล้วนมีความเป็นศิลปินอยู่ในตัว สิ่งเหล่านี้มีอยู่ในตัวทุกคนอยู่แล้ว ความงดงามอยู่ในหัวใจ ทุกคนย่อมเคยเป็นเด็กมาก่อน บางทีดูแล้วคุณอาจจะนึกย้อนไปถึงความอบอุ่น ความสดใสร่าเริงในอดีตของคุณก็ได้”

เด็กสาวของฟ้า เข้าฉายในวันที่ 8 พฤศจิกายนนี้ ในเครือเมเจอร์ 14 โรง : รัชโยธิน, ปิ่นเกล้า, รังสิต , แฟชั่น ไอส์แลนด์ รามอินทรา, พระราม 2, พระราม 3, บางกะปิ, Mega บางนา, EGV ซีคอนสแควร์, Siam Paragon, Esplanade รัชดา, Esplanade งามวงศ์วาน และ Major เชียงใหม่ พบกับความสุขที่คุณอาจหลงลืมไปแล้ว สัมผัสความงดงามในหัวใจของคุณ และเด็กสาวบางคนที่คุณอาจเคยรัก ก่อนจะสายเกินไป




No Comments Yet

Comments are closed

user's Blog!

49/1 ชั้น 4 อาคารบ้านเจ้าพระยา ถนนพระอาทิตย์ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200

49/1 4th floor, Phra-A-Thit Road, Chanasongkhram,Phanakorn Bangkok 10200

Tel. 02 629 2211 #2256 #2226

Email : mars.magazine@gmail.com

FOLLOW US ON

SUBSCRIBE