THE DARK KNIGHT OF POLITICS ‘ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์’


ย้อนอ่านบทสัมภาษณ์แบบถึงลูกถึงคนของ “ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์” เมื่อครั้งเคยให้สัมภาษณ์กับ Mars Magazine เอาไว้เมื่อปี 2013 จะย้อนไปกี่ปีความคิดของเขาไม่เคยล้าสมัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการวิพากษ์อย่างตรงไปตรงมาถึงความบิดเบี้ยวของสังคมไทย

หากวงการฟุตบอลระดับโลกมียอดกุนซืออย่าง Jose Mourinho เป็น ‘The Special One’ ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ก็คงเป็น ‘The Special One’ หรือพูดให้เว่อร์ไปกว่านั้นก็คงต้องบอกว่าเขาเป็น ‘The Only One’ ของวงการการเมืองไทยได้อย่างไร้ข้อกังขา

ไม่ใช่เพราะท่าทีดุดัน กราดเกรี้ยว ถึงลูกถึงคน ตรวจสอบทุกการทุจริตของนักการเมืองอย่างจริงจัง จนทำให้เขาได้รับสมญานาม ‘จอมแฉ’ และก็ไม่ใช่เพราะภาพในอดีตของ ‘เจ้าพ่อ’ แห่งวงการธุรกิจอาบอบนวด–ธุรกิจอันหมิ่นเหม่ศีลธรรมของสังคมที่ชูวิทย์บอกว่าเป็น ‘สังคมดัดจริต’ เพียงเท่านั้น

“ผมอยากออก ผมไม่อยากอยู่หรอก คุณคิดว่าเงินเดือนแสนนึงนี่ ทำให้ผมตื่นเต้นมากใช่ไหม”
นั่นล่ะคือสิ่งที่ทำให้เขาแตกต่าง
‘แตกต่าง’ จากนักการเมืองคนอื่นทั้งบุคลิกและแนวคิดในการลงเล่นการเมือง
‘แตกต่าง’ ที่เขาไม่ได้โหยหา กระเหี้ยนกระหือรือ อยากนั่งบนบัลลังก์แห่งอำนาจ และพร้อมจะก้าวลงตลอดเวลา
สร้างภาพหรือเปล่า?–ใครหลายคนอาจสงสัย ด้วยทำใจให้เชื่อได้ยากว่า นักการเมืองของดินแดนแห่งนี้จะมีคนเช่นนี้อยู่จริงๆ
“ทุกคนก็ต้องแสดงทั้งนั้นแหละ สามีก็แสดงให้ภรรยาเห็น ลับหลังสามีไปแสดงอีกอย่างหนึ่งก็ได้ ถูกไหม อยู่ที่ว่าคุณแสดงถูกที่ถูกเวลาหรือเปล่า”
‘แตกต่าง’ ที่ออกมายอมรับอย่างสัตย์ซื่อว่า การเล่นการเมืองก็เหมือนกับละครฉากหนึ่ง
แล้วความจริงคืออะไร?


ตลอดชีวิตของผู้ชายชื่อชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เคยกลัวอะไรบ้างไหม

คือเมืองไทยเนี่ยมันมีกรอบมาตั้งแต่โบราณแล้ว มันมีระบบขุนนาง ศักดินา ระบบกระฎุมพีครอบเราอยู่ คุณกลัวคุณก็อย่าทำ คือประเทศไทยต้องไม่กลัว ถ้ากลัวคุณก็จะไปไม่ถึงไหน ถ้าคุณกลัวคุณก็จะอยู่ในระบบ คุณถูกครอบตลอด คุณต้องคิดอะไรที่ out of the box บ้าง

คุณเคยทำธุรกิจอาบอบนวดที่ใช้ผู้หญิงเป็นสินค้า ซึ่งมันก็ห่างไกลจากคำว่าคนดีตามบรรทัดฐานของสังคมนี้พอสมควร

คุณเชื่อไหม ฝรั่งเรียกผมว่า pimp ผมบอก เฮ้ย! คุณเรียกผิดแล้ว ผมมันเป็น super pimp เข้าใจให้ถูกด้วย เพราะอะไร คุณอาจจะบอกว่าเรื่องผู้หญิงนี่เป็นโปรดักต์ ไม่เป็นไร แต่ผมบอกคุณอย่างหนึ่งนะ ผู้ชายทุกคนเคยไปเที่ยว เวลาไปเที่ยวเสร็จ ออกมา คุณเคยเห็นใครกลุ้มใจไหม ออกมายิ้มทุกคน แม้ว่ามันเสียตังค์ คุณลองเข้าบ่อนไปเสียตังค์สิ ออกมารู้เลยไอ้นี่ได้หรือเสีย คุณว่าธุรกิจที่ผมทำมันแปลกไหม ทุกคนเข้าไปเสียตังค์ แต่ออกมายิ้มกระเซ้าเย้าแหย่กัน แต่เวลาเข้าบ่อน เสียตังค์ รู้เลยคนนี้เสียตังค์ หน้าตาราศีออกเลย นี่มันเป็นสิ่งที่ประหลาดอย่างหนึ่ง มันเป็นกิเลสที่ถ้าผมพูดลึกลงไป มันเป็นกิเลสที่ดีที่สุดในจำนวนกิเลสทั้งหมด


คุณกำลังบอกว่า ธุรกิจที่คุณเคยทำคือการขายความสุข?

ก็คุณออกมาสุขหรือเปล่าล่ะ ผมก็ไม่เคยเห็นใครออกมาร้องไห้ ไม่เคยเห็นใครออกมากลุ้มใจเลย ไม่มีเลยนะ

แต่หลายคนก็มองว่ามันขัดต่อศีลธรรมอันดีงามของสังคมนี้

ขอโทษทีนะ ผมอยู่บนโลกมนุษย์ ผมก็พูดกับคุณแบบคนบนโลกมนุษย์ว่า นี่มันเป็นของธรรมดา มันเป็นเทา มันไม่ได้ดำ ถ้าคุณถามผมว่า ในสังคมเนี่ยมีเทาสักกี่เปอร์เซ็นต์ ผมบอกคุณว่าเป็นเทาซะแปดสิบเปอร์เซ็นต์ เป็น majority ของสังคมนี้ คุณเชื่อไม่เชื่อผมไม่รู้ แต่ผมเชื่อว่าถ้าคุณออกไป ใครเคยซื้อหวยไหม ใครเคยกินเหล้าไหม ใครเคยโกหกไหม ใครเคยไปเที่ยวไหม ผมว่ามีเยอะกว่าคนแบบไม่เที่ยว ไม่ไปไหน กลับบ้านเลี้ยงหมา ดูข่าว สวดมนต์ แล้วนอน ผมคิดว่ามีคนที่เป็นเทามากกว่าขาว


แล้วทุกวันนี้ความคิดต่อธุรกิจที่ใช้ผู้หญิงเป็นสินค้าเปลี่ยนแปลงไปบ้างไหม

สมมุติว่าคุณติดคุกมาเมื่อสิบปีที่แล้ว ผมบอกคุณว่าคุณยังขี้คุกอยู่เลยเนี่ย สมัยคุณติดคุกสิบปีที่แล้วคุณรู้สึกอย่างไร คุณเป็นปุถุชน ผมก็เป็นปุถุชนนะ คุณคิดว่าผมพึงพอใจไหม

ผมเลิก คุณถามผมว่าผมเสียดายไหม โคตรเสียดายเลย เพราะมันเป็นเครื่องผลิตเงิน วันที่ทำ ผมอายุสามสิบสอง พี่น้องพ่อแม่ผมไม่เคยทำ คุณอายุสามสิบสองเนี่ย มีผู้หญิงล้อมรอบ แล้วมีเงินทุกวันทุกคืน คืนละล้าน คุณไม่ได้ไปขายยา คุณขายความสุข ถามว่าคุณเอาไหม คุณก็ต้องบอก แหม่ น่าสน แต่ถ้าคุณอายุห้าสิบสอง คุณอาจจะคิด วันนั้นผมอายุสามสิบสอง ผมก็อยากจะทำเพราะว่าผมเป็นหนุ่ม ผมอยากจะมีเงิน เพราะว่าผมอยากก้าวกระโดด ผมมองเห็นเบียร์ช้าง เบียร์สิงห์ แล้วผมก็อยากเป็นแบบเขาบ้าง ผมอยากจะรวยอย่างเขาบ้าง ผมผิดหรือเปล่า


ภาพของนักการเมืองในอดีตกับปัจจุบันในวันที่คุณได้มาเป็น ส.ส.ต่างกันมากหรือเปล่า

ต่างกันมากครับ เมื่อก่อนเขาปิดหน้าเล่น เขาตีสองหน้า ตอนนี้ไม่ต้องตีหรอกครับ มันรู้เลยใครพวกใคร ไม่อยู่วงในมันไม่รู้หรอก อยู่หน้าคีย์บอร์ดมันก็พิมพ์ไปได้เรื่อย แต่ในสภามันไม่ได้ทำงานได้ง่ายอย่างนั้นน่ะสิครับ มันอยู่ที่ว่าคุณต้องมีพรรค ต้องมีพวก คุณต้องมีโควตา คุณต้องนับคะแนน ยกมือ นับบัตรที่เสียบ เสร็จแล้วมันจะทำอะไรได้อย่างใจปรารถนาไหม ก็ไม่ได้ แล้วคุณจะให้ผมทำอย่างไร ให้กลายเป็นคนดีเหรอ เดินกินข้าวคนเดียว ไม่ยุ่งกับใคร นักการเมืองเป็นแบบนั้นหรือเปล่า ผมก็ไม่เคยคิด

สมัยก่อนผมเห็นคนสองคน เป็นผู้ยิ่งใหญ่ทั้งคู่ ด่ากันลับหลัง โอ้โห ไอ้นี่ถ้ากูมีปืนนะ กูยิงไปแล้ววันนั้น แต่พอเจอหน้ากัน กอดกันเลย โอ๊ยพี่ ผมคิดถึงพี่จังเลย แล้วคุณดูสมัยนี้มีไหม มันไม่มีหรอก ขว้างเก้าอี้เลย ผมกำลังจะบอกว่า ยุคสมัยนี้มันไม่ใช่ยุคสมัยตีสองหน้า มันเปิดหน้าเล่น เปิดหน้าด่ากันเลย เหตุผลก็เพราะว่า ทางการเมืองเขาเรียกว่า bi-party system ซึ่งเราเลียนแบบมาจากอเมริกา มาจากอังกฤษ ยกตัวอย่างเช่น‘เดโมแครต’กับ‘ริพับลิกัน’ตอนนี้มันก็มีพรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาธิปัตย์ แบ่งสองข้างกันชัดเจน

จริงๆ แล้วนักการเมืองที่ดีควรเป็นอย่างไร

ผมเคยฟังนักการเมืองคนหนึ่งเขาบอกว่า ทุกวันนี้มันล่มสลายไปแล้วละครับไอ้การเมืองไทย ที่ทำอยู่ทุกวันนี้ก็ประคองตัวไป อุดมการณ์มันต้องเก็บไว้ในลิ้นชักก่อน เพราะอุดมการณ์ทำงานไม่ได้ มันเป็นเรื่องจริง ร้องให้คนอื่นเสียสละไปหมด ถามว่าแล้วตัวเองเคยเสียสละไหม

บางครั้งผมสงสัยนะว่าชาวบ้านเลือก ส.ส.ไปทำไม เพราะบางคนมันก็ไม่ได้พิจารณากฎหมาย บางคนพรรคให้โหวตมันก็โหวต กินกาแฟ สูบบุหรี่กัน ถึงเวลาเขาให้กดมันก็ไปกด แล้วเลือก ส.ส.เยอะแยะไปทำไม แถมยังไปจัดการเรื่องงบประมาณ สรรหางบประมาณเอาเข้าตัวเองอีก


คือเราจะพูดว่า นักการเมืองแทบทุกคนก็จะมีเบื้องลึกเบื้องหลังเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองแบบนั้นได้หรือเปล่า

คือผมจะพูดแบบนั้นมันก็คงไม่ได้ แต่ทางการเมืองเขาก็เขียนอยู่แล้วว่า การเล่นการเมืองคือการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ ถ้าผมไปพูดว่าไม่เห็นด้วย ก็แสดงว่าชูวิทย์ไม่เข้าใจการเมือง ถามว่าผิดไม่ผิด มันก็เป็นอย่างนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้วละครับ เพียงแต่เมื่อก่อนชาวบ้านอาจจะไม่มีความรู้เรื่องการเมือง การสื่อสารไม่ได้รวดเร็วเท่าทุกวันนี้ แต่เดี๋ยวนี้ชาวบ้านเขาเริ่มรู้เรื่อง เริ่มทันขึ้นแล้ว

คือทุกวันนี้การเมืองมันเหมือนเล่นหมากรุก แล้วเรานี่เล่นไม่เป็น เราไปดูคนเล่น มันจะเล่นจริง มันจะเล่นหลอก หรือมันจะลวงฝ่ายตรงข้ามเนี่ย เราไม่รู้เลย ทีนี้ถ้าถามว่า เราจะช่วยสังคมอย่างไร ถ้าผมตอบแบบคนธรรมดา ก็ต้องตอบว่า เราก็ต้องเป็นคนดีสิ เราต้องทำตัวอยู่ในกฎหมาย

แต่มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลยนี่

ใช่ ไม่ได้ช่วย!ถ้าคุณอยากจะช่วย ก็คือคุณต้องเข้าใจเกมนี่ซะก่อน คุณเล่นฟุตบอล คุณไม่เข้าใจฟุตบอล แล้วคุณเชียร์ได้เหรอ เหมือนทุกวันนี้น่ะ คุณเห็นเขาเล่นการเมือง แล้วคุณจะช่วยอย่างไร ผมก็ต้องถามว่า คุณเข้าใจการเมืองหรือยัง คุณเข้าใจกฎ กติกาแล้วเหรอ ถ้าไม่เข้าใจ แล้วคุณจะเล่นถูกเหรอ คุณจะเชียร์ถูกคนได้อย่างไร เพราะการเมืองมันคือการหลอกลวง

ดังนั้นคนรุ่นใหม่ควรเรียนรู้การเมืองอย่างไร

ด้วยตัวเองนี่แน่นอนอยู่แล้ว อาจเป็นไปได้ที่จะเรียนรู้ผิดๆ แต่การเมืองไม่มีผิดนะ การเมืองเป็นรัฐศาสตร์ รัฐศาสตร์มันไม่ใช่นิติศาสตร์ นิติศาสตร์มีมาตรา มีกฎหมาย มีกรอบ แต่รัฐศาสตร์เนี่ย คุณไม่มีผิด ขอให้คุณมีความคิดของคุณ คุณเชื่อมั่นในอุดมการณ์ของคุณ คุณมีสิบห้าคน คุณก็มาตั้งพรรคการเมืองได้แล้ว ไม่ยากด้วย คนสิบห้าคนมีอุดมการณ์ตรงกัน มีความเชื่อตรงกันทางการเมือง สามารถตั้งพรรคการเมืองได้ ง่ายมากครับ ผมตั้งมาแล้วหลายพรรค ใช้เงินไม่เกินสองหมื่น


แต่ทุกคนก็คาดหวังว่า สักวันหนึ่งคอร์รัปชั่นมันจะหมดไปจากประเทศนี้

ไม่มีทาง ผมยืนยัน ตราบใดที่เรายังมีระบบนี้อยู่ ถ้าคุณตัดสินภายในสามเดือน มันก็เหมือนคุณตัดสินแล้วเห็นผล แล้วคนกลัว แต่นี่คุณไม่ คุณรอเวลาให้มันเปลี่ยนแปลง เปลี่ยนยุคเปลี่ยนสมัย พอสอบไปสอบมา ใช้ระยะเวลาสิบปี ทุกอย่างมันจืดจางหมดแล้ว ผมสมมุติแล้วกันนะ ผมไปที่อ่าวพร้าว เสม็ด(เหตุการณ์น้ำมันดิบรั่ว)ถ้าผมไปอีกสักสิบปีมันจะเปลี่ยนไปไหม…มันเปลี่ยนไปแล้ว แต่ถ้าวันนี้ผมไปเลย มันก็ยังดำอยู่ ก็ถามว่าทำไมล่ะ กระแสสื่อ หรือสังคมเนี่ย มันต้องการฟีดแบ็กทันที ถ้าคุณรอไปเนิ่นนาน ทุกอย่างมันเกี้ยเซียะกันได้ และโดยเฉพาะเมืองไทย คุณก็รู้อยู่แล้วว่ามันยิ่งกว่าเกี้ยเซียะอีก ผมไม่ได้หมายถึงว่าใครจะรับเงินของใครนะ แต่ผมบอกว่าถ้าเวลามันเนิ่นนานไป กระแสสื่อสังคมทุกอย่างมันจะเบาบางลงหมด

แต่บางคนเขามองว่า การคอร์รัปชั่นบางทีมันอาจจะไม่ได้เกี่ยวที่ระบบ จริงๆ แล้วมันอาจจะเกี่ยวที่ตัวคน

คุณเชื่อไหม คุณคิดว่าฝรั่งมันโกงกินไม่เป็นเหรอ คุณคิดว่าสิงคโปร์แต่ก่อนมันไม่โกงกันเหรอ คุณคิดว่าอเมริกาไม่มีโกงกันเหรอ คุณคิดว่าสมัยก่อนไม่มีมาเฟียเหรอ…มันมีหมดล่ะ สันดานคนมันเหมือนกันหมด ถ้าให้เงินคนสักหนึ่งล้านฟรีๆ แล้วคุณเอาเข้าไปในบ่อน บอกให้มันไปเล่น ร้อยทั้งร้อยล่ะ มันก็ต้องเล่น คุณคิดว่าฝรั่งเสพยาแล้วไม่เมา คนไทยเล่นยาแล้วไม่เมาเหรอ มันเมาเหมือนกันหมด แต่มันเป็นที่ระบบต่างหากล่ะ มันไม่ใช่คน ผมยืนยันว่าไม่ใช่คน ไม่ใช่คุณไปบอกคนไทยชอบเล่น คนจีนไม่เล่น ฝรั่งไม่เล่น โธ่ น้อยไปละสิ มันโลภเหมือนกันหมดแหละ ดังนั้นเราต้องแก้ไขระบบ


ภาพ
Mars Magazine
IG: chuvitkamol

user's Blog!

49/1 ชั้น 4 อาคารบ้านเจ้าพระยา ถนนพระอาทิตย์ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200

49/1 4th floor, Phra-A-Thit Road, Chanasongkhram,Phanakorn Bangkok 10200

Tel. 02 629 2211 #2256 #2226

Email : mars.magazine@gmail.com

FOLLOW US ON

SUBSCRIBE